PANTIP.COM : I5890212 ช่วยด้วยครับ บ้านกำลังจะโดนยึดดดด.. []

ความคิดเห็นที่ 4

ก่อนอื่นให้สอบถาม (๑) ราคาที่ธนาคารประเมินก่อนฟ้องศาลราคาเท่าไร (๒) เงินต้นที่กู้จากธนาคารไม่รวมดอกเบี้ยเท่าไร (๓) ตอนนี้เป็นหนี้รวมดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินเท่าไร

คิดว่าขั้นตอนขณะนี้ศาลตัดสินให้ธนาคารชะนะ ลูกหนี้จะต้องชำระเงินค้างพร้อมกับดอกตั้งแต่วันตัดสิน ให้เข้าเจรจาประนอมหนี้ ถ้า ข้อ (๑) ข้างต้นมีมูลค่ามากกว่าข้อ (๒)(๓) ธนาคารอาจไม่ยอมลดเงินต้นให้ อ้างเหตุผลร้อยแปดประการขอให้ธนาคารลดดอกเบี้ยค้างจ่ายทั้งหมด ดอกเบี้ยเหล่านี้เขาเรียกว่าดอกเบี้ย npl ซึ่งธนาคารไม่ได้รับรู้เป็นรายได้มาตั้งแต่หนี้นี้เป็น npl ธนาคารไม่เสียอะไร การเจรจาปรับโครงประนอนมหนี้เพื่อมาผ่อนใหม่ธนาคารคงไม่ยอม แต่จะรับถ้าสามารถนำเงินมาชำระหนี้ที่ตกลงกันได้ ลูกหนี้ไม่สมควรแสดงอวดตัวเองว่ามีเงินที่จะนำมาชำระ ธนาคารจะมีความรู้สึกว่าลูกหนี้มีเงินแต่ไม่ยอมชำระ ฉะนั้นตองแสดงแหล่งเงินจากที่อื่น

ถ้าไม่สามารถประนอมกันได้ ขั้นต่อไปธนาคารจะฟ้องขายทอดตลาด เรื่องถูกย้ายไปยังแผนกขายทอดตลาดของธนาคาร ถึงขั้นตอนนี้ทำอะไรมากไม่ได้เพราะแผนกขายทอดตลาดต้องการผลงาน จะมีคำสั่งศาลมาส่งให้ที่บ้านหรือติดไว้หน้าบ้าน เพื่อไม่ให้เพื่อนบ้านรู้เก็บคำสั่งศาลไม่ติดไว้หน้าบ้านอย่างเด็ดขาด อ่านให้ละเอียดจะมีการขายทอดตลาดเมื่อไร จะทำกี่ครั้ง หาหนังสือรายการขายทอดตลอดของธนาคารมาดูเพื่อจะรู้ว่าราคาประเมินที่บอกในหนังสือเป็นเงินเท่าไร อยากได้บ้านคืนต้องเข้าประมูลในวันที่กำหนดไว้ในหนังสือ

หลักการประมูลและปฏิบัติดังนี้

A. หมายศาลขายทอดตลาด

1. คู่ต่อสู้ในการประมูลก็คือเพื่อนบ้านเขาอาจอยากได้บ้านเราก็ได้ ฉะนั้นสำคัญอย่าติดใบประกาศขายทอดตลาดหน้าบ้าน

2. ระหว่างรอวันขายทอดตลาด จะมีคนมาดูบ้านถามโน้นถามนี้ ไม่ให้รายละเอียดของบ้าน ให้ดูเท่าที่เห็น ไม่ให้เข้าดูภายในบ้าน

B. วันประมูล

3. วันกำหนดประมูลครั้งแรก ลูกนี้(จำเลย)ที่มีชื่อในหมายศาลพร้อมกับ จขกท หรือญาติที่จะไปประมูลเอาบ้านคืนต้องไปที่กองบังคับคดี บางขุนนนท์ ในวันนั้นต้องมีเงิน 50,000 บาทเป็นเงินมัดจำเข้าประมูล จะได้ป้ายมาอันหนึ่ง ในขณะเดียวกันญาติที่เป็นจำเลยต้องขอป้ายเพื่อทำการคัดค้าน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำเสร็จที่เรื่องของ จขกท จะขึ้นประมูล ถ้าไม่รู้ลำดับควรไปก่อนเปิดทำการ สมควรอยู่ศึกษาวิธีการประมูลเอามาใช้ เจ้าหนี้จะเรียกราคาขึ้นให้ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน คิดว่าบ้างกรณีเรียกให้ถึงเงินต้นที่ให้กู้ ถ้าเป็น town-house หรือ อาคารพาณิชย์สวยจะมีการต่อสู้ค่อนข้างสูง

4. ในการประมูล เจ้าหนี้(ธนาคาร) และ จำเลย มีสิทธิคัดค้านเพียงคั้งเดียว

5. หลักการประมูล ครั้งแรกราคาเริ่มต้น 80% ของราคาประเมินที่ให้ไว้ในหนังสือรายการขายทอดตลาด ถ้าไม่มีเรียกเปิด จะนัดไปครั้งที่สอง จะเริ่มต้น 50% ของราคาประเมิน ในกรณีเช่นนี้จะเกิดกับสินทรัพย์ที่นำเข้ามาขายไม่มีใครอยากได้ น้อยรายที่จะเกิดขึ้น ครั้งที่สาม(สุดท้าย)จะเปิด 30% ของราคาประเมินในไม่มีการการประมูลในครั้งที่สอง

6. สมมติว่ากรณีของ ญาติจขกท นำขึ้นมาประมูลมีการสู้ราคาหยุดตรงที่ จขกท หรือ ญาติคนอื่น(ไม่ใช่จำเลย) เรียก 1,000,000 บาท ไม่มีใครประมูลต่อ
6.1. ผู้ดำเนินจะถามธนาคารจะคัดค้านหรือไม่ นั้นหมายถึงว่าพอใจราคานี้หรือไม่ ถ้าธนาคารไม่คัดค้าน ผู้ดำเนินจะถามจำเลยจะคัดค้านหรือไม่ จำเลยต้องไม่(ย้ำ) ต้องไม่คัดค้านเช่นกันให้เรื่องจบวันี้ ผู้ดำเนินจะแจ้งให้ทราบว่าใครให้ราคาสูงกว่า 1,000,000 ไหมถ้ามี จขกท ต้องสู้ต่อไปจนสิ้นสุด ถ้าไม่มี จขกท จะได้ไปราคา 1,000,000
6.2 ในกรณีเจ้าหนี้(ธนาคาร)คัดค้าน ญาติ(จำเลย)ต้อง(ย้ำ)ต้องคัดค้านด้วย ผู้ดำเนินจะประกาศให้จำเลยหาคนมาซื้อในการประมูลครั้งที่สองตามหมายกำหนดการให้ไว้ในหนังสือ ในกรณึถ้าญาติ(จำเลย)ไม่คัดค้านแสดงว่าจำเลยพอใจราคาประมูล ธนาคารสามารถขายก่อนวันครบกำหนดประมูลครั้งที่สองให้บุคคลใดๆก็ได้ในราคาไม่ต่ำกว่าราคาที่ประมูลวันนี้ จขกท จะไม่มีการประมูลครั้งที่สอง

7. ขายทอดตลาดนัดที่สอง ผู้ดำเนินจะแจ้งให้รู้ว่าเจ้าหนี้(ธนาคาร) และ จำเลย ไม่มีสิทธิคัดค้านต่อไป ใครประมูลได้เอาไปเลย

C. สัญญาจ่ายเงิน

8. ถ้า จขกท หรือ ญาติ ประมูลได้ต้องไปทำสัญญาซื้อสินทรัพย์ตามราคาประมูลได้ กำหนดจ่ายเงิน 15 วัน สามารถขอเลื่อนการจ่ายเงินออกไปได้อีก 3 เดือนโดยยื่นค้ำร้องขอก่อนวันครบกำหนด จขกท จะมีเวลาอีก 3 เดือนหาเงินที่ขาด

ขอแนะนำ จขกท สมควรหาเวลาเข้าดูว่าเขาประมูลกันอย่างไรจะได้วางแผนกลยุทธจะสู้ถึงราคาไหน ฯลฯ

ท้ายสุดหวังว่าสิ่งดีๆงามๆทุกสิ่งทุกอย่างจบด้วยดีต่อ จขกท มีข้อสงสัยอะไรขอให้ตั้งกระทู้ เพื่อนๆในที่นี้ยินดีให้ข้อมูลกันทุกๆท่าน
แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 50 19:21:06

จากคุณ : luck me - [ 6 ต.ค. 50 19:14:06 ]