ความคิดเห็นที่ 1
ดีครับ ได้คุยกันต่อ จะได้มองกันหลายๆมุม ^^
EEE ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Emerging Market แน่นอน เพราะฉะนั้นความเสี่ยงหลักที่ต้องเจอก็คือ การเมือง
เนื่องจากกองทุนนี้ลงทุนในรัสเซียประมาณ 45-49% ของพอร์ต เพราะฉะนั้น เราควร Focus ในรัสเซียก่อนเป้นสำคัญ เพราะมีผลต่อเงินลงทุนของเราที่สุด ที่คุณ Kev Lu มองว่าการเมืองที่นี้ยังมีความผันผวนนั้น จริงครับ ไม่เถียงเลย
จะเห็นได้ว่า คอมมิวนิสต์ดั้งเดิมที่ พรรคบอลเชวิก ตั้งใจสร้างขึ้นมา หรือที่เรารู้จักภายใต้ชื่อ คอมินเทิร์น ประชาชนชาวรัสเซียไม่ได้ปลื้มกับสิ่งที่รัฐบาลทำให้ จนเกิดการล่มสลายไปประมาณ 15 ปีที่แล้ว เมื่อนั้นเอง ที่รัฐบาลต้องทำอะไรซักอย่าง ปัจจุบันประธานาธิปดีปูติน ผู้ซึ่งสืบทอดอำนาจจากประธานาธิปดีบอริส เยลต์ซินเมื่อปี 1999 ก็ได้พยายามดำเนินการด้านนโยบายในทางเดียวกัน นั้นคือ สร้างระบบคอมมิวนิสต์แบบทุนนิยมขึ้นมา (เหมือนๆกับจีนนั้นล่ะครับ แต่ช้ากว่าประมาณ 10 ปี) ประกอบกับการที่รัฐบาลรัสเซียมีความพยายามรวมกลุ่มประเทศที่แยกตัวออกไป เพื่อนำมาสู่การจัดตั้งสหภาพ CIS เนื่องจาก ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญๆบางส่วนอยู่ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ เช่น เตอร์เมนิสถาน หรือ อุซเบกิสถาน ซึ่งมีก๊าซธรรมชาติอยู่อีกจำนวนมาก ก็ถือเป็นปัจจัยบวกในระยะยาว
ปลายปี ปูติน จะลงจากตำแหน่ง ตอนนี้ตลาดหุ้นที่ CSFB ROS ก็ Rally คล้ายๆกับบ้านเราล่ะครับ กราฟที่ผมให้ดูจากกระทู้ก่อนนั้นเป็น YTD ของปี 2007 ถึงเดือน ก.ค. แต่หากนับถึงสิ้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ก็วิ่งขึ้นมาประมาณ 10% แล้วครับ (เขาคงหาเงินไปลงเลือกตั้งเหมือนเรา แหะๆ) และจากข้อมูลจาก บลจ.แมนูไลฟ์ และที่ผมพยายามหาเอง สื่อหลายๆทางก็บอกว่า เป็นไปได้ที่ปูตินจะหาตัวตายตัวแทนขึ้นมาแทน และประชาชนชาวรัสเซียตอนนี้ก็สนับสนุนปูตินมากกว่า 70% (เยอะกว่าคุณทักษิน ตอนรุ่งๆซะอีก 555)
หากมองในภาพการเมืองภายในนั้น ผมมองว่าไม่น่ากังวลครับ แต่ที่ผมกังวลก็คือ การขยายกำลังทหารของสหรัฐอเมริกาเข้ามาทีเอเชียตะวันออกกลาง ซึ่งพรมแดนใกล้ๆกับกลุ่ม CIS และรัสเซีย ประเด็นที่เราตั้งข้อสงสัยกันไว้ แต่อเมริกาไม่เคยบอกเราเลย เละราก็รู้กันอยู่แล้วว่า อเมริกา กำลังพยายามแสวงหาผลประโยชน์ อ้างความชอบธรรม เพื่อเข้ามาครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ ดูท่าจะไม่ใช่แค่ตะวันออกกลางเสียด้วย เพราะ CIS ก็เป็นบ่อเงินบ่อทองอีกแหล่ง นี้อาจเป็นการบ่อนทำลายโอกาสของรัสเซียในทางอ้อมๆเหมือนกัน
ปัญหานี้เป็นปัญหาระยะยาวครับ หากนโยบายการเมือง และเศรษฐกิจ ของรัสเซียไม่เอาเปรียบหรือกดดันกลุ่ม CIS และสร้างความแข็งแกร่งจากภายในละก็ น่าจะสามารถคานอำนาจอเมริกาได้อยู่แล้ว
เออ คุยไปคุยมา นี้มันไม่ใช่การลงทุนแล้วนี่หว่า -*-
มาที่ตุรกีนะครับ เพื่อเลือกตั้งเสร็จเมื่อปีที่แล้ว และพรรค AKP นี้ก้สนับสนุนนโยบายทางเศรษฐกิจเต้มที่ พร้อมกับวางแผนเข้าร่วมกลุ่ม EU ภายใน 5 ปีข้างหน้า ถือเป้น Signal ที่ดีต่อตลาดหุ้นของประเทศครับ เพราะกว่าจะเข้า EU ได้ก็ต้องผ่าน Criteria หลายๆอย่างของกลุ่ม และเมื่อเข้าร่วม EU ได้ ก้ยังได้รับสิทธิประโยชน์อีกหลายทางซึ่งเสริมความแข็งแกร่งของประเทศได้อีกด้วย
------------------------
แล้วความเสี่ยงจริงๆของ Eastern Europe คืออะไร?? - การบริโภคภายในประเทศมีกำจัดครับ ถึงวันหนึ่งที่เศรษฐกิจขยายตัวเร็วขึ้น การลงทุนข้ามประเทศอาจจำเป็นต่อการเติบโตในระยะยาว ประชาชนในรัสเซียมีความเลื่อมล้ำทางฐานะพอสมควร และเงินทุนไหลเข้าประเทศรัสเซีย หรือกลุ่มประเทศนี้ น้อยกว่าที่ไหลเข้าเอเชียเกินกว่า 30-40% ทีเดียว การห้ามนักลงทุนภายในประเทศไปลงทุนข้างนอก ก็เป็นข้อดีในแง่ที่ไม่ได้รับความเสี่ยงจาก Subprime แต่เชื่อว่าในระยะยาว รัสเซีย ก็ต้องเปิดเสรีมากขึ้น เหมือนที่จีนโดนอยู่ตอนนี้
หากเปรียบเทียบกับจีนที่มีหัวเมืองใหญ่ขนาด New York เกิน 7 แห่ง ประชากรมหาศาลที่ไหลเข้าเมืองตลอดเวลา ปีล่ะเฉลี่ย 300 ล้านคน จะเห็นว่าจีนมีปัจจัยพื้นฐานทางโครงสร้างที่แข็งแกร่งกว่าเยอะ เพียงแต่ตลาดหุ้นในเสิ้นเจิ้น และเซี้ยงไฮ้ วิ่งแรงมากเกินไป ความเสี่ยงหลักๆของจีนคือ Market Risk มากกว่า
แต่ Emerging Eastern Europe นั้น ตลาดมีการ Correction ตลอด หากมองที่ P/E หรือ Valuation ของราคาหุ้นแล้วล่ะก็ ถูกกว่ากลุ่มเอเชียพอสมควรครับ
ผมก็ยังพยายามหาข้อมูลตลาดนี้อยู่เรื่อยๆครับ อาจยังไม่ชัดเจน และไม่ลึกมากนัก แต่หากมองในแง่ของราคาหุ้นอย่างเดียวล่ะก็ P/E ต่ำอย่างนี้ GDP ที่อยู่ในระดับน่าสนใจ และ ราคาหุ้น Discount กว่า เมื่อเทียบกับเอเชีย ล่ะก็ มันก็ต้องหันมาสนใจบ้างล่ะครับ
------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ
จากคุณ :
Mr.Messenger
- [
14 ต.ค. 50 01:02:04
]
|
|
|