PANTIP.COM : I5932078 security selection vs asset allocation strategies นี่มันต่างกันตรงไหนครับ ช่วยอธิบายเป็นภาษาไทยหน่อยครับ [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 2

มั่วเอานะครับ เพราะดึกแล้วขี้เกียจอ่านละเอียด
asset allocation คือการ allocate ที่กว้างกว่า เช่น port folio จะเอาเงินไปลงทุนในหุ้น หรือ bond หรือเก็บไว้ใน cash แต่ security selection นี่เน้นหุ้นเป็นหล้ก
เหมือน ๆ กับเขาบอกว่า ความสำคัญของ allocate ยังน้อยกว่าการเลือกหุ้นใน port

index matching
เป็นการลงทุนแบบ passive คือต้องหาก่อนว่าจะเอา index อะไร ยกตัวอย่างเช่น กรณีหุ้น คุณอาจจะเอาset50 index set100 index
ทีนี้ก็ทำport ให้เหมือน index วิธีแรกคือ full replication คือลอกมันมาทั้งดุ้น ข้อดีคือง่าย ข้อเสียคือ ต้องใช้เงินเยอะ port ต้องใหญ่ trade ทีก็ยาก
วิธีต่อมาถ้าไม่เอาแบบยกมาทั้งดุ้น ก็ต้องใช้วิธีหาว่า หุ้นตัวไหน effect ต่อดัชนีมาก ก็เอาตัวนั้น ไอ้ตัวที่ไม่ค่อยมีผลก็ไม่เอามัน วิธีจะหาว่าส่วนผสมจะเป็นอย่างไร อาจต้องใช้ software คำนวณ วิธีนี้เรียกว่า optimization รู้สึกว่าจะมีอีกวิธี เป็นพวกเหมือนสุ่มตัวอย่างแล้วเอามา จำชื่อไม่ได้ แต่วิธีนี้จะสู้ optimize ไม่ได้

เขาเชื่อว่า passive ดีกว่า active หรือกล่าวได้ว่า ไม่มีใครชนะตลาดใน long run คือ พวก active ก็คือพวกที่วิคราะห์หาว่าหุ้นไหนดี ก็ซื้อ พอขึ้นจริงก็ขาย แต่สถิติบอกว่า พวกเกาะ index ชนะมากกว่า อีกอย่างก็คือไม่ต้องซื้อ ๆ ขาย ๆ ก็ประหยัดไปเยอะ

พอมาใช้กับ bond ก็ต้องหาก่อนว่า จะเกาะ index อะไร สมมุติในเมืองไทย เขามี goverment bond index ก็ต้องไปหาว่า methodology ในการสร้าง index ตัวนี้ เขาเอาอะไรมาใส่ เลือก bond ตัวไหน เป็นอัตราส่วนเท่าใด
พอรู้แล้วก็ซื้อตามมันเลย และก็ไม่ต้องคิดมาก yield มันจะขึ้นจะลงก็ไม่ต้องสนใจ ขาดทุนก็ขาดทุน ทำไงได้ ก็ indexing นี่ แต่ถ้าport ไม่ใหญ่ ทำ full replication ไม่ไหว ก็ต้องใช้ สุ่มเลือก หรือ optimization ทีนี้ถ้าไม่ได้ทำ full replication มันก็มีโอกาสที่จะไม่ตาม index 100% จึงเป็นที่มาว่า มี tracking error บางครั้งถ้าทำ indexing แล้ว กำไรดีกว่า index ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป แสดงว่า port เรา expose กับ risk ที่จะห่วยกว่า index ได้ port ในฝันคือต้องเกาะ index ไปตลอด

variation ของ indexing ใน bond คือการทำ enhanced indexing อันนี้ตั้งใจจะไม่เหมือน index เป๊ะ คือทำให้เกิด mismatch บ้าง เช่นหาอะไรที่มันเสี่ยงขี้นมาอีกนิดนึง อาจจะยึด duration ลด credit rating หรือเปลี่ยนบางตัวเป็นพวก callable ซึ่งอาจทำให้ผลตอบแทนดีกว่า index เพียว ๆ แต่ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขี้นหน่อย

ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งกว่า index ก็ไปใช้ strategy พวก active แล้วก็มา compare ก้บ index ว่า เราเก่งกว่าindex ขนาดไหน ถ้าเก่งกว่า ก็เอาไปโฆษณา ว่ากองทุนฉันเจ๋งกว่า index แต่ถ้าสู้ไม่ได้ แต่จังหวะตลาดมันดีอยู่แล้ว ก็บอกเฉพาะผลตอบแทนว่าดี แต่อย่าบอกว่าสู้ index ก็ไม่ได้

สรุปว่า ถ้า บริหาร พอร์ทตราสารหนี้แบบ index ก็คือซื้อแล้วถือยาวเลยครับ

จากคุณ : krit587 - [ 19 ต.ค. 50 02:32:59 ]