มันเป็นเช่นนั้นเองก็คือ
ปรากฏการณ์ "เซียนหุ้นขาขึ้น"
กำลังเกิดเกลื่อน สังคมเมืองของประเทศจีนตอนนี้
ประเภทนักลงทุนหลับตาแทงหุ้นตัวไหน ก็ได้เงิน
ก่อนเดินทางไปขึ้นเครื่องกลับไทย
ผมได้หยิบหนังสือที่ตัวเองเขียน
(ตั้งใจนำไปอ่าน ตรวจหาคำผิดจำนวนมากในหนังสือ)
มอบให้คุณชัยพร
ซึ่งเป็นนามสมมติของไกด์ชาวจีน เก็บไว้เป็นที่ระลึก
ตอนให้หนังสือเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ผมพูดออกความเห็นไปว่า
"หุ้นจีนตอนนี้ เหมือนกับหุ้นไทยเมื่อ 15 ปีก่อน"
ที่มาของคำพูดนั้น คงไม่เกิดขึ้น
ถ้าหลังจากเดินชมพระราชวังต้องห้าม(กู่กง)
ระหว่างเดินกลับออกมาขึ้นรถบัส ที่จอดรออยู่ห่างๆ
ผมไม่ได้เอ่ยถาม ด้วยความอยากรู้ว่า
"คนปักกิ่งเล่นหุ้นกันเยอะหรือเปล่า"
คุณชัยพรคงนึกไม่ถึงว่า
จะได้ยินคำถามนี้ หลุดมาจากปากลูกทัวร์จากไทย
แล้วคำบอกเล่าที่ได้ยินจากปากคุณชัยพร
เท่าที่ผมพอจะจดจำ และเรียบเรียงตามคำบอกเล่าได้ก็คือ
คนมีรายได้ ไม่ว่ามากหรือน้อยจะเล่นหวย
คนมีรายได้มากจะเล่นหุ้น
คนปักกิ่งกำลังบ้าหุ้น บ้าหวยไปทั่วบ้านทั่วเมือง
หวยปักกิ่งออกทุกวัน
คนที่เคยได้รางวัลใหญ่สุดคือ 65 ล้านหยวน
ส่วนคนที่มีเงินจะเล่นหุ้น
บางคนขายบ้านมาซื้อหุ้น
บางคนลงเงินสองแสนหยวน
ได้กำไรมาสองล้านหยวน
พอมีเงิน ก็ควบคุมความต้องการในส่วนลึกของตัวเองไม่ได้
หย่าเมียเก่าๆเป็นสนิม ไปหาเมียใหม่หน้าตาจุ๋มจิ๋ม
โอ่งทองใบกลาง
เริ่มจะแตกหรือไม่ก็มีรอยร้าว ไปทั่วตลาดหุ้นจีน
ครอบครัวชนชั้นกลางใหม่จีน เริ่มแตกแยก
พ่อ แม่ให้เวลากับหุ้น มากกว่าให้เวลากับลูก
ทั้งๆที่เวลาให้กับลูก ก็มีเหลือน้อยอยู่แล้ว
วันๆไม่สนใจอะไร เอาแต่จดจ่อ ดู ฟัง อ่าน
วิเคราะห์หุ้น ข่าวลือ ข่าวปล่อย ราคาหุ้น ฯลฯ
ผ่านอินเตอร์เนต ผ่านห้องค้า ผ่านมือถือ ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ฯลฯ
คนจีนที่ไม่มีเงินมากพอจะเล่นหุ้น มีเก้าร้อยล้านคน
ที่เหลืออีกสี่ร้อยล้านคน
เป็นคนในชนชั้นที่มีเงินมากพอจะเล่นหุ้น
พวกคนวัยทำงานปกเสื้อขาว พวกพ่อค้ากฏุมพีใหม่
ที่เริ่มมีเงินมากพอจะเติมเงินหมุนเวียนเข้าตลาดหุ้นจีน
น่าจะมีไม่ต่ำกว่าสองร้อยล้านคน
ตามคำบอกเล่าของคุณชัยพร
ตอนนี้มีบัญชีเล่นหุ้นทั้งหมด หนึ่งร้อยล้านบัญชี !!!!!!!!
คุณชัยพรพูดแบบตลกร้ายว่า
วิธีลดพลเมืองจีนที่ได้ผลแน่นอนคือ
ทำให้หุ้นตกแบบดิ่งนรก
จะต้องมีคนฆ่าตัวตายไม่น้อยกว่า สี่ ห้าล้านคน!!!!!!!!
แต่ปรากฏการณ์ที่ว่า น่าจะยังห่างไกล
เพราะทุกวันนี้
คนเล่นหุ้นในจีนพากันเชื่อว่า
"รัฐบาลจีนจะไม่ยอมให้หุ้นตกหนัก
ก่อนมีกีฬาโอลิมปิก ในเดือนสิงหาคมปีหน้า
เพราะจะเป็นการเสียหน้าอย่างร้ายแรง"
ฟังแล้วนึกภาพออกว่า
ยังมีเงินที่ยังไม่เข้าตลาดหุ้น
เตรียมพร้อมจะเข้าไปหมุนเวียน ในตลาดหุ้นจีนอีกเป็นจำนวนมาก
พวกกูรู้ พากันฟันธงว่า
ดัชนีหุ้นจีนจะไปถึง 10000 จุดก่อนโอลิมปิก
(ตอนนี้ประมาณ 6000 กว่าจุด)
เมื่อความโลภมาเยือน
เหตุผล และสามัญสำนึกก็จะโบยบินจากไป
สำหรับตัวคุณชัยพร
ผมฟังแล้วทึ่งมาก
คุณชัยพรบอกว่า ตอนนี้ได้ถอนตัวออกมายืนดูห่างๆแล้ว
ช่วงที่หุ้นบูมหนัก ไม่มีแนวโน้มจะตกเลย
เซียนหุ้นขาขึ้น เกลื่อนปักกิ่ง
ผมเข้าใจว่า คุณชัยพรก็เป็นหนึ่งในเซียนหุ้นขาขึ้น
แต่เขาได้เลือกทางเดิน
ดาวน์เกรดตัวเองลงมาเป็นมนุษย์หุ้น
ประมาณว่า
เลือกเล่นหุ้นเชิงคุณภาพ
โดยคำนึงถึงโอ่งทองใบอื่นๆ
เขายอมรับว่า ช่วงที่หมกมุ่นกับหุ้นมากๆ
ไม่มีสมาธิในการทำหน้าที่ไกด์
ผมคิดเห็นภาพว่า
ถ้ามีเวลาระหว่างทัวร์ให้แวบได้ เป็นต้องแวบ
ไปยืนกดมือถือถามราคาหุ้น ถามข้อมูลจากเพื่อนๆ
กลับบ้าน แทนที่จะพูดคุยกับลูก และภรรยาซึ่งเป็นพยาบาล
ก็เอาแต่จ้องดูข้อมูลหุ้นผ่านจอคอม
ในที่สุด ด้วยปัจจัยพื้นฐานสะสมส่วนตัวของคุณชัยพร
มันคงบอกกับคุณชัยพรว่า
ความโลภไม่เคยปรานีใคร
ความโลภที่ไม่ต้องการเหตุผล ไม่ต้องใช้สามัญสำนึก
จะต้องมีจุดจบที่ไม่สวยงาม
ไม่น่าเชื่อ คุณชัยพรเลือกทำ
"คลายเครียดเรโช มหภาค"
ราวกับว่า มันเป็นวิธีการสากลของมนุษย์หุ้น 1.0
ที่จะไม่โลภมาก เกินความรู้ ความสามารถของตัวเอง
คุณชัยพรใส่เงินเข้าตลาดหุ้นจีน ห้าแสนหยวน
พอมูลค่าตลาดของหุ้น ขึ้นไปถึงหนึ่งล้านห้าแสนหยวน
เขาจัดการขายหุ้นบางส่วนทิ้ง
เอาเงินของตัวเองห้าแสนหยวนขึ้นมาก่อน
พอร์ตหุ้นที่เหลือ เขาบอกว่า
"ผมเอาเงินของคนอื่น มาเล่นกับคนอื่น"
หุ้นที่ยังคงถืออยู่
คุณชัยพรตั้งเป้าไว้ว่า
ถ้าฟ้าลิขิตมา ลูกสาวเพียงคนเดียว
คงจะมีโอกาสรวยจากหุ้น (คงเป็นหุ้นแบบปูนซีเมนต์ไทย ปตท.)
หรือได้เงินปันผลยังชีพจากหุ้นปัจจัยพื้นฐานแข็ง
ซึ่งในความเห็นของคุณชัยพรคือ
หุ้นที่รัฐบาลจีนถือหุ้นใหญ่
คำตอบอีกข้อ ที่น่าสนใจคือ
ผมถามว่า
นักเล่นหุ้นปักกิ่ง ชอบเล่นหุ้นเซี้ยงไฮ้หรือเซินเจิ้น
คำตอบคือ เซินเจิ้น
ผมเชื่อว่า ตลาดหุ้นเซินเจิ้น
จะเต็มไปด้วยหุ้นต้มตุ๋นตัวเล็กๆ
ที่ปริมาณเงินหมุนเวียนจำนวนไม่มาก
สามารถทำหุ้นขึ้นได้เป็นสิบเท่า ยี่สิบเท่า
อืม ความโลภเป็นภาษาสากลจริงๆ
พวกอีแร้งบักสีดา กับเซียนหุ้นตัวจริงเสียงจริงเขารู้ดี
ในที่สุด พวกเซียนหุ้นขาขึ้น
มักจะถูกเซียนหุ้นตัวจริงเสียงจริง
ถีบตกชั้น ลงไปถึงแมลงเม่าหุ้น 1.0 อัลฟ่า
เพราะไม่ยอมจำกัดปริมาณความโลก
ให้สมดุลกับความรู้ ความสามารถของตัวเอง
ความโลภเป็นภาษาสากลของนักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก
แต่คลายเครียดเรโช เป็นภาษาสากลเฉพาะมนุษย์หุ้นเท่านั้น
เซียนหุ้นไม่จำเป็นต้องควบคุมความโลภ
และแมลงเม่าหุ้น ก็จะไม่ยอมควบคุมความโลภ
น่าเศร้าที่เซียนหุ้นกับแมลงเม่าหุ้นทำในสิ่งเดียวกัน
แต่ผลลัพธ์ออกมา ต่างกันราวฟ้ากับดิน
เพราะว่า ความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานสะสมมันต่างกัน
ก่อนจบกระทู้ ขอตัดแปะภาพจากหนังสือพิมพ์หุ้น
ที่ซื้อมาจากปักกิ่งในราคาฉบับละ สองหยวน
ภาพบน เป็นชื่อหนังสือพิมพ์
คงประมาณว่าชื่อ
หนังสือพิมพ์ "รวมพลคนหุ้น"
ส่วนโฆษณาชวนเชื่อข้างล่าง
ถ้าผมแปลความหมายไม่ผิด
เขาใจถึงกว่าเยอะ
เขาจะบอกหุ้น เฮยหม่า (ม้ามืดหรือหุ้นปั่น)ให้
โดยขอแบ่งกำไร แบบกำไรก่อน จ่ายค่าใบ้หุ้นทีหลัง
พวกหากินกับชาวบ้าน ในเวบบอร์ดไทย
ไม่เห็นใจถึง แบบพวกหากินกับแมลงเม่าหุ้นจีนเลย
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 07:32:09
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 07:23:41