ความคิดเห็นที่ 1 คือผมสังเกตเองนะ ว่า หุ้นมีการเคลื่อนไหว  เป็นรอบๆ  เหมือน รอบการผลิต ที่  1  รอบ ตั้งแต่  raw mat.  จนได้ เป็น    Finish goods.     ส่วนหุ้น คือ ตั้งแต่  สะสม  -  วิ่งขึ้น   -  ปลาย  - ลง .... จบรอบ   หากหา จุดผิดพลาดในแต่ละขั้นตอน ออกมาได้ แล้ว  หาสาเหตุ แก้ไข มันซะ ....  ก็จะ  ไม่พลาดแบบเดิมอีก จากคุณ : Stockthai - [ วันออกพรรษา 16:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถูกต้อง เอาไปเลย หมื่นๆเปอร์เซ็นต์ สิ่งที่ว่านี้เป็นที่รู้ๆกันทุกคน จะมีหนึ่งในล้านทำได้มั๊ยนอ จากคุณ : ยังพยายามทำเช่นกัน - [ วันออกพรรษา 17:14:22 A:124.120.135.75 X: TicketID:000564 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น่าสนใจดีนะครับ เพราะ นักลงทุนส่วนใหญ่ จะผิดพลาด ในแบบเดิมๆ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก แต่ไม่จำ แต่ มันจะสามารถ ใช้กันได้หรือ ผมไม่เข้าใจเรื่อง 6 sigma หรือ ที่คุณพูดเลยครับ จากคุณ : ผ่านมา - [ วันออกพรรษา 17:14:31 A:125.24.84.249 X: TicketID:128362 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คือ  6-sigma  มันก็คล้ายๆ กับหลัก  PDCA  ที่ พยายามหา ข้อผิดพลาด แล้ว หาสาเหตุ แล้ว แก้ไขมัน    วนรอบไปเรื่อยๆ แล้ว  ข้อผิดพลาดจะน้อยลงเรื่อยๆ   ถ้าจำไม่ผิด ในหนังสือ  คัมภีร์หุ้น  เขาก็มีเรื่อง  การเล่นหุ้นแบบเป็นระบบ PDCA    มี 4 บท    วางแผน    ซื้อขาย    ตรวจสอบ   ปรับปรุง   ( ประมาณนี้) จากคุณ : lovehoon - [ วันออกพรรษา 17:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ..... แนวทาง การ แก้ไขข้อผิดพลาด  ช่วยได้ 30%  ที่เหลือ อยู่ที่ปัจจัยอื่นคะ เช่น   รู้แล้วทำได้หรือเปล่า    ,   ปัญหาเรื่อง  อารมณ์ กับการเล่นหุ้น ฯลฯ   แต่หนังสือ  คัมภีร์หุ้น   มีเรื่องนี้มา 5 ปี แล้วนะคะ  เรียกว่า  คนที่เริ่มต้น จากเล่ม นี้ จะมีแนวทาง ที่ดีกว่า  มือเก่า ที่เล่นหุ้นมา 10 ปี แต่ ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกคะ จากคุณ : หนิงส่าย - [ วันออกพรรษา 17:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลองไปอ่าน ดูก่อนนะคุณ  Stockthai    แม้จะไม่ตรง กับ 6-sigma หรือ  PDCA จริงๆ  ซะทีเดียว  แต่น่าอ่านนะคะ   ( ไม่ได้ค่าโฆษณานะ แต่ ชอบ เลยบอกต่อ) จากคุณ : หนิงส่าย - [ วันออกพรรษา 17:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อาจจะจริงว่า    แม้เรา รู้ข้อผิดพลาด  แต่ การแก้ไข มันยาก  มันเป็นเรื่อง ที่ไม่นิ่ง เหมือน การผลิต   การเล่นหุ้น มันยากกว่าเยอะครับ จากคุณ : Stockthai - [ วันออกพรรษา 17:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 6ซิกม่า เหมาะกับสิ่งควบคุมได้มากกว่า ดังนั้น เหมาะกับนักลงทุนรายใหญ่ กองทุนอะไรประมาณนั้น เพราะเขามีเงินที่ควบคุมตลาดได้ แต่กับรายย่อย ด้อยวาสนา ต้องพลิ้วไปมาตามกระแสครับ จากคุณ : jenwit - [ วันออกพรรษา 19:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ผมว่า การใช้ แผนภูมิก้าง ปลา เพื่อศึกษา ข้อผิดพลาด ที่ หนังสือคัมภีร์หุ้น เขียนไว้ น่าสนใจนะครับ เพราะ เคย ลองมาแล้ว หลายๆครั้ง ทำให้เรารู้ว่า สาเหตความผิดพลาดคือ ใจร้อน และ การดู market ticker ซึ่งพอแก้ไข เปลี่ยนสไตล์การเล่น โดยไม่ติดตามใกล้ชิด เลยได้กำไร เป็นกอบเป็นกำ ไม่หลงเป็นเหยื่ออีกเลย หลักการ ง่ายๆคือ ผิดต้องเรียนรู้ แล้วหา "ราก" ของ ปัญหาให้เจอ บางครั้งเราไม่เจอ ราก ของมัน อาจคิดว่า สาเหตุคือ ตัดสินใจผิด มันไม่ใช่ มันคือ การดู ticker ต่างหาก ทำให้แก้ได้ถูกจุด ( การตัดสินใจผิด เป็น ผลของ การดู ticker ) จากคุณ : คนเล่นหุ้นคนหนึ่ง - [ วันออกพรรษา 19:52:47 A:10.5.3.3 X:203.99.253.8 TicketID:158648 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กระพ้มว่ามันไม่สำคัญเท่าการต่อยอดความคิดครับ  นี่เรยย์กระทู้นี้ช่ายเรยย์ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I5902022/I5902022.html จากคุณ : จอนฟอน - [ 27 ต.ค. 50 09:19:18 ]