Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    $$....Update ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นทั่วโลกครับ....$$

    ตารางผลตอบแทนจากดัชนีหุ้นทั่วโลก 20 ตัว (รวมพี่ไทย) ด้านล่างคำนวนตั้งแต่ต้นปี 2007 จนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาครับ 26 ต.ค. 2007

    จะเห็นว่า 10 อันดับแรกที่ให้ผลตอบแทนในรูปของ Local Currency หรือ สกุลของประเทศนั้นๆ เป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียถึง 9 ประเทศด้วยกัน และถ้าดูผลตอบแทนในรูปของ USD ล่ะก็ มีแค่อินโนนีเซียเท่านั้นที่มีผลตอบแทนลดลง นั้นหมายความว่าอะไร...??

    ทุกวันนี้ระบบเศรษฐกิจของโลกถูกขับเคลื่อนด้วย Fund Flow เป็นหลัก ที่ให้ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เงินก็มีแนวโน้มจะวิ่งไปที่นั้น จากตารางข้างล่าง ชัดเจนครับว่า USD นั้นมีแนวโน้มอ่อนค่าลง เมื่อเปรียบเทียบกับทุกสกุลในโลก นั้นเป้นเพราะเม้ดเงินจากฝั่งอเมริกานั้นไหลออกมาสู่ตลาดโลกเป็นจำนวนมาก นักลงทุนสถาบัน และ Hedge Fund พยายามหลีกเลี่ยงการถือสกุล USD และไปถือ Non USD Currency Asset ดังนั้น หุ้นไทยเราจึงได้รับอานิสงส์ ทั้งๆที่ความชัดเจนทางการเมือง หรือทางเศรษฐกิจนั้นยังไม่เกินขึ้นมาอย่างชัดเจนเท่าไหร่ แต่จะเห็นว่า Hedge Fund ไม่มีทางเลือกมากเท่าไหร่ และเม็เงินที่เราได้มาจาก Foreign Investment คราวนี้ก็คิดเป็นไม่ถึง 2% ของเม็ดเงินทั้งหมดที่ไหลเข้าตลาดเอเชียครับ

    ด้วยความที่ตลาดหุ้นไทย (SET Index) มีค่า P/E ที่ต่ำกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆโดยเปรียบเทียบ แต่กลุ่มธุรกิจที่น่าจะ Outperform ตลาดจริงๆกลับมีแค่กลุ่มพลังงานเท่านั้น การไหลซื้อหุ้นแค่ 5 ตัวในตลาด (PTT, PTTCH, PTTEP, BANPU, TOP) ดันดัชนีจาก 820 มาจนถึงปัจจุบัน จึงเกิดขึ้นแบบที่นักลงทุนได้แต่อ้าปากค้าง

    แล้วเงินลงทุนจากฝั่งโน้นยังจะอยู่ในตลาดหุ้นไทยอีกนานไหม? ก่อนตอบคำถามนี้ เราต้องรู้กลยุทธ์ของเขาก่อน เหตุใดจึงไม่ยอมถือ USD
    1. อเมริกา มีแนวโน้มจะเกิด Recession ชัดเจน
    2. อเมริกา เป็นผู้ Import สินค้าจากทั่วโลกสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง (รวมทั้งนำมัน และ Commodities อีกหลายชนิด)
    ด้วยสองปัจจัยนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เงินเฟ้ออยู่ในเกณฑ์อันตราย การถือ USD เพียงสกุลเดียว นั้นก็หมายถึการด้อยค่าลงของมูลค่าเงินในอนาคต ดังนั้นจะมอง Fund Flow ให้ออก ต้องมอง Forex (อัตราแลกเปลี่ยน) ให้ออกเช่นกัน

    กลับมาที่ตารางอีกที สมมติฐานใหม่นะครับ สมมติหุ้นทั่วโลกไม่มีการปรับตัวเลยตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่า ต่างชาติก็ยังกำไรจากค่าเงินในเกือบๆทุกตลาด และนี่คือ Major Profit ของกองทุนต่างชาติครับ
    ส่วน Minor Profit นั้นก็คือ Asset ที่ไปลงทุนนั้นเอง

    ผมเห็นหลายๆคนให้ความเห็นว่า ต่างชาติเข้ามาแต่ละรอบ เขาคาดหวังกำไรกลับไปไม่ต่ำกว่า 20-30%  หากซอยเงินที่ต่างชาติซื้อสุทธิจากต้นปีนี้ ออกเป็น 10 ส่วนเท่าๆกัน (สมมติว่า ต่างชาติขนเงินมาลงทุนในไทยเดือนละเท่าๆกันทุกเดือน) คร่าวๆจะเห็นว่า หาก convert เงินกลับเป็น USD แล้ว ปัจจุบันเขาได้กำไรอยู่ 21.53% ในตลาดหุ้นไทยครับ ก็แปลว่า ปีนี้ได้กำไรพอสมควรแล้วจากตลาดหุ้นของเรา จะออกไปเมื่อไหร่ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ หากรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน หากเศรษฐกิจไม่พื้นตัวให้เห็นจริงๆ หรือหากเขาพบแหล่งลงทุนแหล่งใหม่ที่ให้โอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า

    แสดงว่า ขาขึ้นหมดแล้วงั้นหรือ?
    - บอกเพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ นักลงทุน เตรียมรับมือกับภาวะความผันผวนของตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นครับ ใครเห็นหุ้นดีๆ แล้วเพิ่งเข้าไปลงทุนในช่วงนี้ ทั้งกองทุนหุ้น หรือหุ้นโดยตรง บอกได้เลยว่าเสี่ยง แต่ครั้นจะนั่งดูอยู่เฉยๆผมก็เข้าใจครับ ว่าไม่อยากเสียโอกาส เพราะฉะนั้น ด้วยสตินะครับ มันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้เรารอดจากการขาดทุนหนักๆ หากเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงขึ้นมา

    ----------------------

    และจากตารางข้างล่าง ก็พอจะบอกเราได้ว่า หากเราไปลงทุนใน FIF ที่มีสกุลหลักเป็น USD แล้วนั้น โอกาสที่กองทุนจะมีผลตอบแทนดำเนินงานลดลง เมื่อ convert ค่าเงินกลับมาเป็นเงินบาท ก็มีโอกาสสูงครับ ดังนั้นการ Hedge ค่าเงินสำหรับ FIF นั้น อาจจำเป็นสำหรับ กองทุนที่เป็น USD Currency เหมือนกัน

    ------------------------
    โชคดีในการลงทุนครับ

     
     

    จากคุณ : Mr.Messenger - [ 30 ต.ค. 50 00:47:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom