ความคิดเห็นที่ 1 พี่ๆ ท่านใด พอจะแนะนำได้ บ้าง กราฟเทคนิค ผมก็รู้ไม่น้อย แต่เหมือน กับ กราฟมันจะหลอกเรา ในจังหวะสำคัญๆ นะครับ ผมควรเลิกเล่น หรือ ทำไงดีครับ จากคุณ : หุ้นเล่นคน( จขกท) - [ 3 พ.ย. 50 23:38:57 A:203.113.34.12 X: TicketID:158739 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รอฟังคำตอบ ด้วยคนนะ ผมว่า ส่วนหนึ่ง มาจาก จิตใจนะครับ ความกลัว ทำให้ขายหมู ความโลภ ทำให้ติดดอย.... ผมก็โม้ไปนะครับ ตัวเอง ก็เอาตัวไม่ค่อยรอด ดัชนีวิ่งมาตั้งเยอะ ผมยังไม่กำไรเลย PTT วิ่งกระฉูด แต่ผม ขาดทุน PTT คิดดูดิ.. จากคุณ : วัยรุ่นเซ็ง - [ 3 พ.ย. 50 23:48:41 A:125.24.77.26 X: TicketID:128362 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คนเล่นหุ้น ทุกคน มักต้อง จ่ายค่าเล่าเรียนแบบนี้แหละ   แต่โรงเรียนหุ้น  คนสอบตก จนต้อง ลาออก ไปเยอะกว่า จบปริญญานะครับ   ไม่รู้จะแนะอย่างไรเหมือน กัน มันเป็นเรื่อง ของประสบการณ์ที่ต้องสะสมเอง นะผมว่า จากคุณ : lovehoon - [ 3 พ.ย. 50 23:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีวิธีเล่นหุ้นใด ที่ได้ผลสำหรับทุกคน กราฟเทคนิค ก็เป็นเพียง เครื่องมือ "ประกอบการตัดสินใจ" ไม่ได้เป็นตัวตัดสินใจแทนเรา   และกราฟก็ใช้ได้กับหุ้นบางตัวเท่านั้น   หุ้นเก็งกำไรหลายๆ ตัว   คนทำราคามักสร้างราคาให้ กราฟดูดี และจังหวะที่กราฟดูดีที่สุด   รายใหญ่จะขายออกมา เล่นหุ้นไม่มีสูตรสำเร็จอย่างที่บอก ต้องเรียนรู้เองครับ จากคุณ : ยามสินธร - [ 4 พ.ย. 50 00:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นคำว่า "เล่นหุ้นไม่มีสูตรสำเร็จ"   แล้วนึกถึง หนังสือชื่อ ปรัชญาหุ้น  (ข้อ 11  โลกนี้ไม่มีสูตรสำเร็จในการแก้ปัญหาใดๆ)    คือผมว่า  ประสบการณ์  ไม่สามารถสอนต่อกันได้ ต้องเรียนรู้เอง  แต่ น้องลองไปหาซื้อหนังสือชื่อ  "ปรัชญาหุ้น"  มาอ่านดู   มันคล้ายๆ กับสรุป บทเรียน และ ประสบการณ์ ของคนเขียน   มาเป็นข้อๆ  น่าสนใจมาก ผมอ่านแล้ว คิดว่า น่าจะช่วยอะไรได้บ้างครับ     อย่างการขายหมู - ติดดอย นี่เป็น วัฎจักรแมงเม่า ทั่วไป ที่หนังสือปรัชญาหุ้น  มีวิเคราะห์ว่ามันเป็น   สันชาตญาณมนุษย์   เหมือนกันทุกคน ( พรุ่งนี้ ตอนเช้าจะมาพิมพ์ให้อ่านนะ ไปนอนก่อนดีกว่า) จากคุณ : ยามสินธร - [ 4 พ.ย. 50 00:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : peejay - [ 4 พ.ย. 50 00:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คือศึกษาการลงทุนมาก็เยอะ อ่านตำรามาก็แยะ เล่นหุ้นมาก็หลาย รอบหุ้น แต่ยังขายหมู ( ขายตัวไหน เป็นขึ้น) และ ติดดอย ( ซื้อตัวไหน เป้นลง) แบบนี้เสมอเลย จนเงินจม ไม่ได้ คัทลอสอยู่หลายตัว ทำไมจึงเป็นแบบนี้ครับ ผมพยายามปรับปรุงแล้วนะ จากคุณ : คนเล่นหุ้น - --------------------------------------------------------------- ตอบ....จากที่คุณ คนเล่นหุ้นโพส...ก็ถือว่าได้50 เต็ม100แล้ว เหลือแค่เคล็ดลับ  ง่ายๆ นิดหน่อยเท่านั้น... ศึกษากราฟ ดูรอบ....หรือถ้าดูไม่เป็นก็ไม่เป็นไร...ดูวอลลุ่ม ว่ามายัง ส่วนใหญ่ 80% วอลลุ่มมาราคาจะขึ้น!!!....แล้วรอหมดหมดรอบ คือราคาจะหยุดที่ราคานั้นแล้วไปต่อไม่ได้ ขึ้นอีกก็ลงมาอีกหรือวอลลุ่มเริ่มหาย......แสดงถึงสัญญาขาย แค่นี้เอง....ตามนั้น จากคุณ : ตี๋น้อยMBA - [ 4 พ.ย. 50 00:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบ คุณหุ้นเล่นคน( จขกท) เมื่อก่อนผมก้อเป็นแบบคุณ เล่นน้อยๆๆ หัดเล่น ได้ไม่ถึงพัน เสียที หลายพัน เด๋วเดือนๆ ลงทุนเพิ่ม ก้อ จมหายยยยยยย แต่....ตอนนี้ ....ผมซื้อกองทุน (แถมลดภาษีอีก กำไรอีกนะ) กำไร ช้าๆ มั่นคง ได้กำไร ทุกเดือน ได้ปันผล หุ้นตัวไหน ขึ้น กองทุนก้อขึ้นตาม เหตุผลเพราะ...กองทุนมีหุ้น ดังต่อไปนี้ กองทุนที่ 1 PTT BANPU SCC TPC UMS TVO ADVANC TICON BECL ROJANA กองทุนที่ 2 BANPU UMS TRC UEC PTTEP KBANK SCC กองทุนที่ 3 PTT BANPU KBANK SCB BBL ATC ไม่ได้โม้ นะครับ ใครซื้อหุ้นเหล่านี้ เท่ากับ ช่วยให้ NAV กองทุน เพิ่มขึ้น ผมซื้อกองทุนเพิ่มทุกเดือนๆ ละ 2X,XXX บาท ล่าสุด พึ่งได้ปันผลมา ผมก้อ นำเงินที่ได้กลับไปซื้อกองทุน ทุกวันนี้ มีความสุข ลุ้นหุ้นในแต่ละกองทุน ทุกวัน Happy จากคุณ : รักกองทุนหุ้น - [ 4 พ.ย. 50 00:24:17 A:202.91.18.206 X: TicketID:081288 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คนที่เล่นหุ้น   เจอแบบนี้ มาทุกคนแหละคะ การซื้อหุ้น แล้วหุ้นลง  แต่พอขาย แล้วหุ้นขึ้น   เป็นเรื่องปกติ  ดังนั้นหากยังไม่เก่ง  จงลงทุนแต่น้อย จะได้เสียน้อย  และเมื่อเริ่มเก่ง ค่อยเพิ่มเงินลงทุน   จะได้กำไรมาก คืนมาไงคะ จากคุณ : อย่าเพิ่งยอม (หนิงส่าย) - [ 4 พ.ย. 50 00:25:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกๆท่านครับ ผมว่า ทุกครั้งที่ผมเล่น ผมก็ดูกราฟมาอย่างดีนะ และก็มั่นใจว่า เราวิเคราะห์มาดีแล้ว แต่พลาดมากกว่า สำเร็จครับ พี่ยามสินธร หนังสือ ปรัชญาหุ้น ซื้อได้ที่ไหนครับ จากคุณ : คนเล่นหุ้น - [ 4 พ.ย. 50 00:34:02 A:203.113.34.9 X: TicketID:158739 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หนังสือปรัชญาหุ้น http://www.se-ed.com/eshop/Book/BookDetail.aspx?No=9789748485614&TypeMCode=BK&ProdMCode=บธ เล่มนี้ ยังไม่ได้ซื้อมาอ่านเลย ไม่รู้เป็นไง   แต่คนเขียน เขาเคยเขียนเรื่อง "คัมภีร์หุ้น"  ซึ่งเป็นหนังสือที่อ่านเข้าใจง่าย   และให้ความรู้เกี่ยวกับหุ้นได้ดี       คิดว่า เล่มนี้ เป็นหนังสือเกี่ยวกับหุ้นเล่ม ที่ 2 ของเขา คงจะดีคะ จากคุณ : หนิงส่าย - [ 4 พ.ย. 50 00:41:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอาเบื้องต้นไปก่อนครับ ทำ LOWใหม่ทุกวันอย่าพึ่งซื้อ ทำ HIGHใหม่ทุกวันอย่าพึ่งขาย จากคุณ : GETTER - [ 4 พ.ย. 50 00:53:35 A:202.133.139.24 X: TicketID:153247 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เก็บข้อมูล เชื่อมั่นตัวเอง หาวิธีของตัวเอง ใช้ความคิดตัวเองซิครับ คัดกรองข้อมูลอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะที่ webboard pantip นี่มีข้อมูลที่ดีและไม่ดีปนกันอยู่นะ ไม่ใช่ถูกต้องซะหมดนะครับ จากคุณ : รุ่นกลาง - [ 4 พ.ย. 50 01:50:26 A:58.9.45.158 X: TicketID:143632 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ii ii ii ก็ไปๆ กันเสียทีสิครับ รกบอร์ดเหลือเกิน รำคาญ จากคุณ : audy - [ 4 พ.ย. 50 08:44:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พูดยากนะครับ วิเคราะห์พื้นฐานกับเทคนิค พูดกัน 10 ปีก็ไม่รู้จบ เอาแบบที่เราชอบ ระบบไหนที่ทำแล้วเรากำไร หรือขาดทุนน้อยที่สุด ซื้อแล้วจะstop loss ราคาเท่าไร(กฏข้อแรก) run profit เท่าไร  history repeat it felf     ทบ.ดาว เกิดมาร้อยกว่าปี มันซ้ำแล้ว ซ้ำอีก มีคนไทยสามารถเขียนสูตร ตาม ทบ.นี้ได้ ซื้อเมื่อมี new high ขายเมื่อมี new low     ไม่มีใคร บอกความจริงเราหรอกครับ (โดยเฉพาะผู้บริหารในตลาดหุ้น) เขาบอกแต่ญาติ พี่น้อง คนสนิทครับ รายย่อย อย่างเรากว่าจะรู้ก็ไม้ 5 wave 5 บนดอยเลี้ยว เพียงแต่ว่าคุณอ่านกราฟถูกหรือเปล่า โอยมากมายครับ หลังไมค์ได้ครับ sompong_jung@yahoo.com(ขีดล่างครับ) จากคุณ : kui 2501 (kui2501) - [ 4 พ.ย. 50 08:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นธรรมดาของคนเล่นหุ้นครับ รายใหญ่เขายังขายไม่ได้สูงสุดเลย ไอ้ที่ว่าขายแล้วขึ้นนี่นะผมว่าขายแล้วกำไรเป็นใช้ได้ใครจะไปรู้ รู้ก็รวยแล้ว ส่วนเรื่องซื้อแล้วติดดอยนี้ก็เพราะความโลภครับหุ้นขึ้นๆชอบตามกันครับรายใหญ่เขาก็โยนกันไปมาโดยมีพวกเราร่วมแจมไปกับเขาพอรายใหญ่เขาขายเพราะต้นทุนเขาถูกๆทั้งนั้นก็ติดดอยเป็นอย่างนี้ชั่วนาตาปี แก้โดยการมีวินัยครับ อย่าโลภ-อย่ากลัวจนเกินเหตุ ใช้วิจารณของเราครับ...คหสต. จากคุณ : ni-nut - [ 4 พ.ย. 50 08:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ปรัชญาหุ้น   ผมอ่านแล้ว ดีมากครับ....  เห็นด้วยกับคุณยามสินธรนะ เรื่อง การเล่นหุ้นให้กำไร ต้องพยายามหาวิธี ของตัวเอง..ให้เจอ   ค่อยๆ ฝึกไป...เดี๋ยวก็เก่งเอง   ครับ  ที่สำคัญ ต้องรู้จัก  Cut loss ไม่งั้น จะมีแต่ หุ้นแย่ๆ อยู่เต็มพอร์ตเลย จากคุณ : lovehoon - [ 4 พ.ย. 50 09:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องขายหมู เราว่าไม่เป็นไรนะ เพราะว่าไม่มีใครขายได้สูงสุดหรอก เค้าบอกกันว่า... คนที่ซื้อได้ถูกสุด กะขายได้ high สุด คือคนที่ตายไปแล้ว กับคนที่รอเกิดใหม่เท่านั้น ฮา..ฮา... ส่วนเรื่องติดดอย เราว่าต้องดูจังหวะนะ การ follow buy มันก้อมีโอกาสได้เยอะ แต่โอกาสเสียมีมากกว่า หุ้นไหนทะลุแนวต้าน รอย่อๆ ลงมาก้อได้ เด๋วมันเลี้ยวกลับมารับทุกตัวแหละ สังเกตุดีๆ สิ จากคุณ : mczeen - [ 4 พ.ย. 50 09:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เห็นแปลก แค่เกือบปีเอง......... ตามประสบการณ์ส่วนตัว กว่าจะเข้ารูปเข้ารอย ก็เข้าปีที่สาม สองปีแรก จ่ายค่าบทเรียนไปเกือบล้าน จากคุณ : . (ไอติมหนมปัง) - [ 4 พ.ย. 50 10:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ใจตัวเองสำคัญสุดครับ   ก่อนซื้อทุกครั้งทำการบ้านให้ดี   รอ....รอ....ถ้าซื้อแล้วราคาปรับตัวลงมา แล้วราคาที่ลงมา สามารถทำให้เราดีใจว่าได้ของถูกลง แสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว เช่นหุ้น KK รอ....รอ....รอ  เห็น 29 บาทซื้อ  28บาท ซื้อต่อ  27 บาทซื้อมากขึ้น ถ้าติดก็เอาปัญผลปีละประมาณ 2 บาท upside gain ประมาณ 15-30% 31.50 บาทเริ่มขาย  32 บาท ขายมากขึ้น  33 บาทขายโลด แล้วก็ รอ...รอ..รอ BBL 119 ซื้อ  117 ซื้อมากขึ้น 115 ซื้อโลด  ..............รอๆๆๆ 126 เริ่มขาย 127 ขายมากขึ้น 129 ขายโลด  แล้วก็ รอๆๆๆๆ ปีนึงๆ เล่นไม่ต้องมากตัว ไม่ต้องมากรอบ เป็นการลงทุนส่วนตัวแบบของผมนะครับ ในตลาดยังมีหุ้นแบบนี้อีกเพียบครับ  เล่นเป็นรอบอย่าเล่นรายวัน!!!!!!! จากคุณ : โต้คลื่น - [ 4 พ.ย. 50 10:03:10 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมคิดว่าความอดทนคือสิ่งสำคัญครับ ลองอ่าน The intelligence investor อาจจะได้มุมมองใหม่ๆนอกจาก Technical Analysis ก็ได้ ในโลกนี้ไม่ค่อยจะมีของดีราคาถูก ของห่วยราคาแพงพบเห็นได้ทั่วๆไป ปรัชญาการลงทุนของผมคือหาของดีในราคาที่เหมาะสม ดีกว่าซื้อของห่วยในราคาถูกครับ ถ้าของมันดีจริงสักวันก็ต้องมีคนเห็นคุณค่าของมันเอง จากคุณ : Nexus - [ 4 พ.ย. 50 10:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คนเล่นหุ้น ต่อให้เก่งๆ แล้ว เรื่องขายหมู อยู่ดอยก็ยังต้องเจออยู่บ้าง แต่คนเก่งๆ มีประสบการณ์ในระดับหนึ่งจะปรับตัวเร็ว ขายหมูอาจจะคงอยู่ แต่ติดดอยคงไม่มาก จะหนีทันก่อนเป็นนกรู้ แต่ละคนมีสไตล์เล่นหุ้นไม่เหมือนกันครับ ถ้าคุณเจ้าของกระทู้ ขายหมูบ้าง อยู่ดอยบ้าง แต่ภาพรวมๆ แล้วยังเทรดมี กำไรก็ยังถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่งครับ ส่วนเรื่องเทคนิคนั้น ไม่ใช่ว่า อ่านตำรามาแล้วก็จะเอามาใช้ได้เลย ก็ยังต้องมีประสบการณ์รวมด้วย ก็จะเริ่มจำรูปแบบแพ็ทเทิ่นของราคาได้ ว่ารูปแบบไหนน่าจะเป็นยังไง ก็ต้องจดจำและสังเกตุให้มากๆ อีกส่วนคือพวก indicator สำหรับผมว่า มันไม่ง่ายเลย การดู indictor ผมว่ามันมีความซับซ้อนเยอะ ในช่วงต้นๆ แต่เมื่อประสบการณ์มีมากขึ้น ก็จะเริ่มคุ้นชิน แล้วจะรู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ..เรื่องนี้อธิบายยากจังเลย มันมีปลีกย่อยพอสมควร อีกส่วนหนึ่ง ถ้าเจ้าของกระทู้ยังไม่ศึกษา ก็น่าจะหาเวลามาศึกษาบ้าง นั่นคือ elliott wave ซึ่งถ้าเราเริ่มจับทาง และจำรูปแบบเทคนิคนี้ได้มากขึ้น ก็จะมองตลาดได้มากขึ้นด้วย ส่วนใหญ่แล้ว คงต้องอาศัยประสบการณ์ มาช่วยเป็นหลักเลย ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธแบบไหนในการดูหุ้น ประสบการณ์ที่สั่งสมจะเป็นตัวช่วยเสริมที่สำคัญ ถ้าคุณเจ้าของกระทู้ ยังประคองตัวมาได้ในช่วงระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็ขอให้พยายามต่อไป หมั่นฝึกฝน และเรียนรู้อยู่เสมอ โดยเฉพาะข้อผิดพลาดของเราต้องเรียนรู้ให้มาก และพยามามไม่ให้มันเกิดซ้ำเดิม อีกอย่าง อยากฝากไว้ อย่าพยายามเลียนแบบคนอื่นๆ เพราะการดูหุ้น มีร้อยวิธีที่จะเอาชนะตลาด แต่มีพันวิธีที่จะเป็นผู้แพ้ พยายามค้นหาแนวทางของตัวเองให้เจอ แล้วเราจะเป็นฝ่ายชนะตลาดในที่สุด โชคดี จากคุณ : บุญทับ - [ 4 พ.ย. 50 11:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผู้เล่นหุ้นส่วนใหญ่ จะมีปัญหาคือ ไม่รู้ว่าตอนไหนควรซื้อหุ้น ตอนไหนควรขายหุ้น ตอนไหนควรถือหุ้น จังหวะที่ควรซื้อก็ไม่กล้าซื้อ เพราะคิดว่าราคาหุ้นจะลดลงอีก เมื่อจะกล้าซื้อก็ตอนที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแล้ว จังหวะที่ควรขายก็ไม่กล้าขาย เพราะกลัวว่าราคาหุ้นจะยังขึ้นไปได้อีก จะกล้าขายก็เมื่อราคามันปรับลงมาแล้ว จังหวะที่ควรถือก็ไม่กล้าถือ เพราะกลัวว่าราคาหุ้นจะลงไปอีก จึงต้องขายออกไปก่อนแล้วค่อยซื้อคืนในราคาที่ถูกกว่า เมื่อผู้เล่นหุ้นไม่รู้ว่าเวลาไหนควรซื้อ เวลาไหนควรขาย เวลาไหนควรถือ ทำให้การตัดสินใจในการลงทุนผิดพลาด ผิดจังหวะอย่างน่าเสียดาย หนงสือเล่มนนี้จะช่วยป้องกันข้อผิดพลาดดังกล่าวนี้ แนวสามย่านเป็นการตกผลึกทางความคิดในเรื่องของการวิเคราะห์หุ้นโดยปัจจัยพื้นฐาน และทางเทคนิค ผนวกเข้ากับเรื่องจิตวิทยาการลงทุน เพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ที่จะทำให้ผู้อ่านเอาชนะตลาดและได้กำไรจากการลงทุนในหุ้นอย่างง่ายๆ *แอบลอกมาจากปกหลังของหนังสือ สามเกลอรวยหุ้นด้วยคัมภีร์สามย่าน จากคุณ : ดงพระเจ้าแดนดิน - [ 4 พ.ย. 50 11:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ยังงี้ต้อง ซื้อหมู ขายดอยคะ ลองเล่นตรงข้ามดูสิ  ปกติเป็นคนชอบซื้อหุ้นที่ราคาลงเยอะๆๆ 2-3 วัน แล้วดัก จะไม่ชอบไล่ซื้อตอนมันขึ้น แล้วพอมันขึ้น 2-3 วันก็ขาย แต่ทีเป้นอยู่ ขึ้นแค่วันเดียว มือไม้สั่นแล้วคะ  แต่ก็ได้กำไรมากกว่าขาดทุนคะ จากคุณ : ดาว (whysongk) - [ 4 พ.ย. 50 11:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดีครับ  อ่านแล้ว   มือใหม่ ที่ยังเล่นแล้ว ขาดทุน อ่านแล้ว ได้กำลังใจเยอะเลยครับ จากคุณ : ผ่านมา (Stockthai) - [ 4 พ.ย. 50 12:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โหวตให้ด้วย เบื่อ  กระทู้โหวต   JR  มากๆ จากคุณ : หนิงส่าย - [ 4 พ.ย. 50 12:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ใช้เทคนิคเคิลกราฟประกอบการลงทุน ช่วยในการตัดสินใจ แต่ไม่ใช่เชื่อมันเต็มร้อย จากคุณ : mar รุ่นเก๋า - [ 4 พ.ย. 50 12:35:21 A:125.25.3.69 X: TicketID:122020 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดีและเป็นที่นิยมของตลาด เล่นรอบตาม elliot waves บริหารพอร์ตเป็นสามส่วน โดยแบ่งเล่นช่วงยาวสั้นทีละส่วน เข้าซื้อและขายด้วยสัญญานทางเทคนิค และเล่นอย่างมีวินัย จิตใจนิ่งสงบ ไม่หวั่นไหว ถ้าทำได้ตามนี้ครบถ้วน ...รับรองรวยเช็ด คนส่วนใหญ่จะมาตกม้าตายเรื่องสุดท้าย คือเรื่องวินัยและจิตใจ พอเสียวินัยใจเขว ก็จะโกหกตัวเอง ลืมการบริหารพอร์ต เวลาความโลภเข้าสิงก็จะอัดเต็มพอร์ต พออัดเข้าไปเต็มพอร์ต ก็จะขาดกำลังทัพหน้าทัพหลังมาสนับสนุนเวลาตลาดแปรปรวน พอไม่มีกำลังสนับสนุน จิตใจก็จะยิ่งไม่นิ่ง การตัดสินใจทุกอย่างก็จะยิ่งถูกกดดันให้เพี้ยนไปจากหลักวิชา ...จนในที่สุดก็จะเละ โดนหุ้นเล่น ไม่ใช่เล่นหุ้น สุดยอดวิชา ...จึงอยู่ที่ใจครับ จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 4 พ.ย. 50 13:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กร๊าฟมันไม่ได้หลอกครับคุณดูกร๊าฟไม่เป็นเองครับ จากคุณ : poo (poosakulkow) - [ 4 พ.ย. 50 13:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเล่นมา 10 กว่าปีแล้ว ยังขายหมู ติดดอย ขาดทุนอยู่เลย จากคุณ : Mr.X-ray - [ 4 พ.ย. 50 14:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เคยขายหมู s2y ที่ 2 ลิ่งเมื่อตอนต้นปี วันรุ่งขึ้นมันไป 3 ลิ่งโชว์ซะเลย เซ็งสุดๆ เดือนนี้ได้ TRAF มาอีก 2 ลิ่ง วันจันทร์รอลุ้น อยากได้ 3 ลิ่งซะที จากคุณ : winwinwin - [ 4 พ.ย. 50 16:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมอ่านกระทู้แบบคุณเขียนมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว  ผมก็ยังขายหมูติดดอย เลิกเมื่อไรก็คงไม่ขายหมูไม่ติดดอย  เล่นหุ้นก็เหมือนยืมเงินกันใช้ เขาบ้างเราบ้าง ไม่รวยสักที จากคุณ : ปัณณธร - [ 4 พ.ย. 50 17:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นใจนักลงทุนที่เข้ามาอยู่ในตลาดทุนแห่งนี้ ไหนๆก็เข้ามาเรียนรู้แล้ว ก็คงได้รับความรู้หลายๆมุม จนกว่าจะเกิดความเคยชิน ก็ต้องมีถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา ขออย่างเดียว อย่าทุ่มจนกระทบเงินเก็บเงินออม ให้เล่นแต่เงินที่กันไว้ลงทุนเท่านั้น จะได้..ไม่เข้าเนื้อจนเกิดความกังวล ข้อนี้สำคัญที่สุดของการลงทุนใหม่ๆ เพราะหากเราทุ่มมาก พอหมดทุนใจจะไม่นิ่ง จะร้อน จะทุกข์กังวลจนนอนไม่หลับ ใหม่ๆ..ก็เป็นอย่างเจ้าของกระทู้กันทุกๆคน ได้แล้วติดดอย เพราะยามได้ก็เกิดความหลง.. ขายไป..แล้วหุ้นขึ้นก็นั่งไม่ติด ไปคว้ามาถือใหม่ที่แพงกว่าเดิม เลยติดๆขัดๆในหัวใจ ยังดี..ที่คนรุ่นใหม่ โชคดี..ที่ได้เรียนรู้การลงทุนจากหลายๆแหล่ง ที่ให้ข้อมูลดีๆในการศึกษาแนวทางต่างๆ หุ้น..แม้จะ..หวือหวาขึ้นจนจำราคาเดิมไม่ได้ แต่ก็ยังดีกว่ายุคก่อนๆมาก  ที่ขึ้นแล้วโดนเอสพี นาน..จนไม่เหลือราคาให้ซื้อขาย ในที่สุดก็ออกจากตลาดไป ล้มทั้งยืน ตายทั้งเป็น ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดไปเลย เงิน..เงิน...เงิน...มีค่าเมื่อได้หยิบจับใช้สอยกับการจับจ่าย แต่พอ..นำมาลงทุน ในตลาดจมทุน ก็จะเหมือนกระดาษเปล่าๆ เป็นเพียงตัวเลขที่บินไปมาตามลมเพลมพัด หา..ความแน่นอนไม่ได้  ตามมีตามเกิดกับภาวะเศรษฐกิจ ขึ้นๆลงๆไปตามกระแส ภาวะใจ..ของผู้ลงทุนนั้นพลอยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถูกเตะกลิ้งไปกลิ้งมาตามใจชอบ ก็..เพราะ เงิน ที่ได้มานั้นมันเร็ว จึงไปเร็ว..เช่นกัน ไม่ผิดหรอก ที่ความโลภพาไป เพราะคนเก่งๆที่เป็นปลาใหญ่เท่านั้นที่จะพัดพานักลงทุนรายย่อยๆให้คล้อยตาม หากไม่คล้อยตาม ก็จะไม่ได้เงินที่เขาหลอกล่อ และบางครั้ง เราก็ได้..ตามนั้นจริงๆ และเพราะความโลภ...ก็พาให้ติดกับดักนี้ ..รู้..แต่..ห้ามใจไม่ได้ ก็ต้องใช้กลยุทธ  รู้จักแบ่งเงินที่ได้กำไรขึ้นมาบ้าง จะค่อยๆทำให้ปริมาณการลงทุนไม่เสี่ยงมากเกินไป เป็นการชนะใจตัวเองไปในตัว  เงินที่กันออกมา อีกหน่อยจะเป็นทุนสำรอง ต่อยอดการลงทุนใหม่ได้ และได้ผล..ในระดับหนึ่ง ดี..ทางด้านจิตใจด้วย เป็นการจัดระเบียบการลงทุนที่ดีและได้ผล เมื่อก่อน..ลงทุนใหม่ๆ จะทุ่มไปเรื่อยๆ ยิ่งช้อนถัวเฉลี่ยเพื่อให้ต้นทุนต่ำ แต่..ผิดคาด  หุ้นจังหวะขาลง ก็ลงจนไม่รู้ฐาน กลายเป็นมีหุ้นขั้นบันไดไป ซึ่งจากการลงทุน เขาว่าดี จะได้ขายตามขั้นบันได แต่..หากหุ้นที่เขาปั่นนั้น พื้นฐานไม่ดี จะกี่ขั้นกี่บันได มันก็ยังย่ำอยู่กับที่ ไม่ไปไหน ไม่มีบันไดให้ไต่ลง ก็ได้แต่อกแตกตาย ถอยไม่ได้ ได้แต่ติดดอยลูกเดียว กี่ปีก็ยังอยู่บนดอย ในที่สุด ก็เพิ่มทุนแล้วเพิ่มทุนอีก จนเป็นผู้ถือหุ้นรุ่นปู่ย่าไปเลย หนีไม่เป็น ย่อมได้บทเรียนราคาแพงเป็นของแถม กว่าจะเรียนรู้อะไรๆได้ ก็ใช้เวลานานหลายๆปี ปีก..แก่กล้า งอกเงยได้ ล้วนแล้วแต่แลกมาด้วยน้ำตาทั้งนั้น รักจะอยู่ในวงการนี้ ก็ต้องทำใจให้มีสติ ตัดความคิดที่จะมองโลกในแง่ดีกับการลงทุนชนิดนี้ เพราะมีแต่ความเสี่ยง ให้ถือเป็นเกมส์..ล่า ส่วนเกินกับทุนที่ลงไป มีทุนแค่ไหนก็เล่นแค่นั้น... จะ..รู้ได้เลยว่า ชีวิตเราจะเปลี่ยนแปลงทันที  มีงาน..ก็ทำด้วยความตั้งใจ ทำให้ดีที่สุด การลงทุนเป็นเพียงของแถม เป็นเกมส์ลับสมอง อย่าให้เป็นการลงทุนที่เดิมพันด้วยอนาคต ได้..ก็ขอดีใจนานๆ หยุดและนิ่งมองหุ้นทั่วๆไป เพราะหลายๆครั้งที่ผ่านไปแล้ว ขายไปปั๊บ ใจไม่นิ่ง คว้าตัวใหม่ ซึ่งก็ต้องศึกษาฐานหุ้นใหม่อีก ไม่คุ้นเคย เลยติดกับดักไปซะงั้น มีหุ้นดี แต่..เพราะ..มีความกลัว ว่าจะไปต่อไหม? พอขาย ก็ขึ้น..ทำใจไม่ได้ ก็มีบ่อยไป หาก..ตัดใจ ทำใจได้ ก็ดี...เพราะ...หุ้นทุกๆตัวบนกระดาน ไม่มีเจ้าของเดิมที่ถือครองหุ้นนานๆหรอก เวียนว่ายเปลี่ยนคนมารับช่วง แบ่งเบาภาวะ ของกรรม ไปเรื่อยๆ ไม่มีสิ้นสุด เป็นวัฏจักรของการลงทุน มองห่างๆ มองนานๆ...มองอย่างคนไม่รักและอาลัยในหุ้น..โดยมากจะมองเห็นอะไรๆ..ออกจากตัวหุ้นนั้นๆๆ บางจังหวะที่ไม่สนใจหุ้นนั้นๆ พอเห็นราคาที่เคยเห็น ก็..เป็นจังหวะที่เราเข้าไปถือพอดี... ซื้อมาถูก..ก็ดีใจ และหุ้นก็ไป..ได้เวลาขาย..ก็ขายทันที ไม่เก็บ ไม่ยึดติดกับหุ้นอีกแล้ว...พักหลังจะสบายใจมากขึ้น ไม่เครียด นอนหลับสบายกว่าเมื่อก่อนมาก หากิจกรรมหลายๆอย่างทำ แทนที่จะมาหมกมุ่นกับหุ้น จะรู้สึกว่า ที่แล้วๆมา เราได้เสียเวลาที่มีค่าไปมากมายหลายปี หลุดพ้น ช่วงเวลาแห่งความทรมานใจมาได้ ถือว่า ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ล้วนแล้วแต่มีค่า มีความสุขในยามบั้นปลาย หากย้อนเวลาได้ จะหันไปจัดระเบียบชีวิตที่ลงทุนกับหุ้น ให้น้อยลง มีรีมิดในการลงทุนที่จำกัด คิดว่าอีกครึ่งค่อนชีวิตที่เหลืออยู่ จะไม่อิจฉาคนรวยๆ ขออยู่อย่างพอเพียง ใจสงบ พอใจในสิ่งที่มี เท่านี้...คือ..สิ่งที่ใจปรารถนาจริงๆ.. แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 50 18:43:41 จากคุณ : สุเกียง - [ 4 พ.ย. 50 18:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อ่าน ความเห็น 35 มาตั้งนาน นึกว่า อาจารย์ Nowya มาเขียน ดู ชื่อลงท้ายกลายเป็น พี่สุเกียงไปได้ ผมติดตามอ่านมานานแล้ว...แสดงว่าพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้แล้ว รู้กลไก..ตลกๆๆ ของตลาดต้มตุ๋นแห่งนี้แล้ว .....ยินดี ด้วยครับ..... นับได้ว่า ตลาดห-ลักทรัพย์นี่ท่านไวจริงๆ พอคนรุ่นเก่า ตั้งหลักได้ รู้ทันกลวิธี ก็ออกผลิตภัณท์ ขโมยทรัพย์รุ่นใหม่ ให้ทันใด โดยมีกลวิธีที่แยบยลกว่าเดิม ออปชั่น...ใช่ที่กำลัง งง-สงสัยกันอยู่ใช่ไหม เริ่มต้น...กันแล้ว จากคุณ : Juj - [ 4 พ.ย. 50 20:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หลายคนบอกเล่นหุ้น (ขึ้นขาย ลงซื้อ) ง่ายๆแค่นี้ก็ได้กำไรแต่ทำแล้วขาดทุนจม หรือไม่ก็ขายหมูทุกที หลังจากนั้นผมจึงเปลี่ยนความคิดเป็นขึ้นซื้อ ลงขาย กำไรเรื่อยมาหลักการง่ายๆดูภาพใหญ่ในแบบแนวโน้มหุ้นไม่โงหัวขึ้นไม่ต้องซื้อ พอมันขึ้นก็เริ่มซื้อยิ่งขึ้นก็ยิ่งซื้อเพิ่มตราบใดหุ้นยังไม่ลงมาเกินกว่า 5% จากจุดสูงสุดก็ไม่ต้องขาย ปล่อยกำไรวิ่งไปเรื่อยๆ แต่ถ้าขาดทุนเกิน 5% ขายทันทีอย่าคิดมากต้องจำกัดการขาดทุนไม่ใช่นั่งดูหุ้นลงไปเรื่อยๆจนขาดทุนจนทำใจไม่ได้ จากคุณ : taksinomic - [ 4 พ.ย. 50 20:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาศึกษาค่ะ  ^^ ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆจากรุ่นพี่ทุกท่านนะคะ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- - [ 4 พ.ย. 50 22:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เค้ามาอ่าน ประสบการณ์ ผู้รู้ จากคุณ : แนนแนน - [ 4 พ.ย. 50 23:28:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ยกห้าดาวให้พี่ สุเกียงครับ  ผมชอบอ่านประสบการณ์ของพี่ครับ  ติดตามมาหลายปีแล้ว  ชอบ ที่พี่นั่งรถเมล์เล่นเรื่อยเปื่อยใจลอย เพราะมากกว่าคำว่าเครียดครับ ผมว่าพี่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะดี เป็นประสบการณ์อันมีค่ามากครับ เทคนิคที่ อยู่ในตำรา ใช้ไม่ได้หรอกครับ หากใช้ได้กันหมด คนอ่านเข้าใจใช้เป็นก็รวยกันหมดแล้วครับ  คนเขียนตำรา คงรวยมัวแต่เล่นหุ้นจนไม่มีเวลาเขียนตำรา ไม่ก็เงินทำให้นิสัยเปลี่ยน เอาเงินไปผลาญเล่นไม่เอาเวลามาเขียนตำราเทคนิคหรอกครับ ลองอ่านของ เฮียเอ็น ดูไหม(ผมยังไม่ได้อ่านเลย อยู่ญี่ปุ่น  ว่างๆ เฮียให้ซีเอ็ดส่งมาขายที่นี้หน่อยนะครับ)   เฮียเอ็นเล่นแบบไม่มีเทคนิค แต่ชนะตลาดไม่ขาดทุนครับ ส่วนเทคนิค ลองเอากราฟมาใส่ตัวแปรมั่ว ๆ ดูครับ อันไหน ดูแล้วตรงกับสถานะการณ์ มากสุด แล้วทำตามได้กำไรมากสุด ก็ยึดอันนั้นเป็นหลักครับ(ใช้เวลาหน่อยนะ แต่คุ้ม) แต่ละสภาวะตลาด ก็ใช้เทคนิคต่างกันครับ จากคุณ : โจนาธาน (Jeonathan) - [ 4 พ.ย. 50 23:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ความผิดพลาดในการเล่นเป็นเรืองปรกติครับไม่ต้องไปขวนขวายเรียนกราฟที่ไหนให้ถูกต้มเสียเงินเสียทอง สูตรสำเร็จไม่มี มันมีแต่สูตรพื้นฐานกับการสะสมประสบการณ์ระหว่างทาง จงเชือมั่นในสิ่งที่คุณศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัวเอง อาศัยหลักการในหนังสือที่แนะนำกันในนี้แหละตรับ ค่อยๆสะสมประสบการณ์ ไปเรือยๆ แล้ว เปอร์เซนต์การเล่นมันจะดีขึ้นไปเรือยๆ ตามจำนวนปีที่เล่น ความผิดพลาดเผลอเรอจะต่ำลง ต่ำลง   แต่อย่าคาดหวังว่าจะไม่มีการผิดพลาดเกิดขึ้น เพราะไม่ว่าอย่างไร คุณก้ยังเป็นมนุษย์   เล่นให้ถูก7ใน10 ก่อน แล้วค่อยๆเลือนไปเป็น 8ใน10  แล้วค่อยเป็น9ใน10 แต่ถูกต้องร้อยเลยไม่ได้ อย่างไรก้ไม่ได้  มันต้องมีข้อผิดพลาดบ้างเป็นธรรมดาครับ  เพราะเราเป็นมนุษย์ ............................................. ให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ครับ  อย่าคาดหวังสูงเกินไป อย่าบีบคั้นตัวเองเกินไป ให้เวลาตัวเองบ้างครับ^_^ พูดถึงอาจารย์ nowya แล้วพักนี้ไม่เห็นท่านเขียนอะไรเหมอืนกันนะครับ ชอบอ่านข้อเขียนท่านเหมือนกันครับ จากคุณ : khonthai.tk. (khonthai.tk.) - [ 4 พ.ย. 50 23:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เล่นมา...หลายปี  ก็ยัง ขายหมู เหมือนกันครับ เพื่อนๆ แมงเม่าก็เป็นกัน  อย่าไปเครียด กดดันตัวเองมากไปครับ ปล่อยสมองโล่งๆบ้าง จะมองเห็นทางเองครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : เสือ_กลิ่นหอม - [ 5 พ.ย. 50 00:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ท่านสุเกียง สุดยอดครับ เป็นการให้คำแนะนำที่ดีสำหรับตลาดหุ้นไทยครับ จากคุณ : รุ่นกลาง - [ 5 พ.ย. 50 00:39:32 A:58.9.43.166 X: TicketID:143632 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านหลายๆๆความเห็นแล้ว เป็นวิทยาทานที่ดีครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : tp14d - [ 5 พ.ย. 50 01:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ้าว  เพิ่งจะรู้ว่าคุณโจนาธาน อยู่ญี่ปุ่น แค่ซีเอ็ดขายอยู่ในไทย  ยอดขายก็ยังลูกผีลูกคนอยู่เลยครับ ผมคิดว่า ขายหมูกับติดดอย มันเป็นเช่นนั้นเองครับ ใครไม่อยากขายหมูหรือติดดอย ก็ต้องไปตั้งตลาดหุ้น  แล้วก็เล่นซื้อขายเองคนเดียว ตลาดหุ้นจะได้ เป็นไปตามที่เราต้องการทุกอย่าง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้   ผมจึงไม่คิด เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ก็คิดง่ายๆแค่นั้นแหละ มีด้วยหรือ  เล่นหุ้นแล้วไม่ขายหมู หรือติดดอย มีแต่ว่า  ต้องพยายามขายหมูกับติดดอยให้มันน้อยที่สุด เท่านั้นเอง ทำไมความรู้เพียงอย่างเดียว   ไม่สามารถช่วยให้ประสพความสำเร็จในการลงทุน ผมคิดว่า  "สเปคตรัมของนักลงทุน"  ให้คำตอบได้ครับ รู้เขา(ความรู้ ข้อมูลต่างๆ)   สำคัญน้อยกว่ารู้เรา (ความสามารถตามปัจจัยพื้นฐานสะสมของตัวเอง) จากคุณ : endophine - [ 5 พ.ย. 50 07:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ลอง เล่นแบบ คิดใหม่ สิครับ แบบว่าตั้งใจให้เล่นแล้ว พยายยามให้ ขาดทุนมากสุด แทนที่จะกำไรมากสุด ปรับวิธีคิด  แต่ไม่ใช่ซื้อขายบ่อยๆให้ขาดทุนค่า comนะ แบบหุ้นขึ้น ซื้อๆๆๆ พอหุ้นตก ขายๆๆๆ  คิดซะว่า ต้องซื้อตอนแพงๆ แล้วขายให้ได้ตายถูกๆ ใช้เงินก้อนเดียวพอนะเดี๋ยวหมดตัวซักห้าหมื่น จากคุณ : ก (tunpao) - [ 5 พ.ย. 50 09:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 47 1ปีแล้ว ถามใจตัวเอง ลึกๆชอบเล่นหุ้นแบบที่ทำอยู่รึเปล่า ลองปรับเปลี่ยนแนวทางการเล่นดูบ้าง หรือเลิกเล่นไปทำอย่างอื่น แล้วทบทวนที่ผ่านมาซักพักก็ค่อยกลับมาใหม่ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 5 พ.ย. 50 09:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 48 http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=1250 อ่านให้จบอาจช่วยได้ จากคุณ : stocksindrome - [ 5 พ.ย. 50 11:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผมเห็นด้วย กับหลายๆ ท่านนะว่า    ควรเปลี่ยนวิธีคิด   ปรับมุมมองเสียใหม่ จาก  ซื้อตอนหุ้นลง  ขายตอนหุ้นขึ้น   มาเป็น ซื้อตอนหุ้นขึ้น   ขายตอนหุ้นลง     ลองดู จะได้เงินมากกว่าเดิม  ผมทำแล้ว ได้ผลจริงๆ     เดี๋ยวนี้ ทฤษฎีการลงทุนใหม่ๆ  ไม่ว่าจะเป็น   เสี่ยยักษ์ Bizweek   หรือ  หนังสือ  ปรัชญาหุ้น    ก็เป็น  แนวนี้ หมดแล้ว     ( ถ้าเป็นหนังสือหุ้น ที่ออก หลังปี 50 นะ) ลองไปหาซื้อ  ปรัชญาหุ้น  มาอ่านดูก็ได้    จะรู้ว่า  คิดใหม่ ทำใหม่ เป็นอย่างไร แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 50 11:46:17 จากคุณ : Stockthai - [ 5 พ.ย. 50 11:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เวลานี้ 11.30ได้ทำตัวเป็น vi สมใจและสมน้ำหน้าตัวเองที่ใจร้อนไม่มีวินัยติดอยู่ที่ set 906พอติดหุ้นก็บอกตัวเองว่าจะเป็นvi พอช่วงหุ้นขึ้นก็ทำตัวเป็นvs สรุปเราใช่ vsopไหมท่านendophine จากคุณ : okp (okp) - [ 5 พ.ย. 50 11:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณ คุณ Juj ค่ะ ฮาๆๆ อาจารย์ Nowya เป็นนักลงทุนระดับปรมาจารย์ค่ะ เป็นอาจารย์ของคุณ อยากเชือก ซึ่งต่างเป็นนักลงทุนรุ่นก่อนดิฉันมานานหลายปี มีประสบการณ์การลงทุนที่สุขุม ละเอียดอ่อน คำแนะนำที่พิมพ์ลงกระทู้ก็ลึกซึ้ง ดิฉันเป็นนักลงทุนธรรมดาๆเหมือนเพื่อนๆทุกๆคนค่ะ เรียนถูกเรียนผิดไปเรื่อยๆ ค่ะ **ขอบคุณ คุณ โจนาธาน และ คุณ รุ่นกลาง ค่ะ ฮาๆๆ ไม่กล้ารับคำชมเชยเลยจริงๆ  บางครั้งก็ลอยและจม ต้องแหวกว่ายขึ้นหาฝั่งแทบแย่เหมือนกัน สรุป ก็โดน ลูกระเบิดถล่ม จนสบัดสะบอมม์ คล้ายๆเพื่อนๆรุ่นใหม่โดนกัน ถูกม้วนในมรสุมเดียวกัน เลยพอจะเข้าใจความรู้สึกที่ได้รับ .. ไม่เป็นไร...สู้ๆๆ จนกว่าจะได้ข้อสรุปให้กับใจตัวเองเข้าสักวัน ตอนนี้ขอแค่ สุขภาพกายใจเข้มแข็ง เรียนผูกได้ ก็ต้องเรียนแก้ได้..เข้าสักวัน ตอนนี้เอาแค่จัดระเบียบเงินลงทุนให้ได้ ก็เหมือนการผ่อนสายป่านไม่ให้ตึง จนเกิดความเครียด เท่านี้..ก็ รักษา ทุนสำรองอยู่กะเรานานๆ  บางครั้งลืมตัวเอาทุนที่เก็บไว้มาเล่นเพิ่ม..อย่างนี้..อันตรายมาก ต้องทำใจ หุ้นจะขึ้นหรือลง..ก็ช่างเขาเถอะ มีเท่านี้ เล่นเท่านี้ แพ้แล้วต้องถอยเป็น หาจังหวะใหม่ ก็ยังไม่สาย และทุกอย่าง มีทางแก้ไขได้ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ.. ตลาดหุ้น..ก็ยังไม่หนีหายไปไหน...ล้มแล้ว ต้องยืน และ ลุกขึ้นมาใหม่อย่างมีสติ.. ทำตัวให้เหมือนตุ๊กตาล้มลุกให้ได้ แล้วเราจะยืนและเดินอย่างมั่นใจยิ่งกว่าเดิมค่ะ... จากคุณ : สุเกียง - [ 5 พ.ย. 50 14:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เผื่อ อาจารย์ Nowya แวะมาอ่าน จะได้รู้ว่า ความรู้ที่อาจารย์ได้ให้ความเห็นไว้ ตามกระทู้ต่างๆก่อนหน้านี้ และของอาจารย์ อยากเชือก ที่ให้ไว้หลายๆปีก่อน มันได้ผลนะครับ ...และคงได้เห็น การพัฒนาตัวเองขึ้นมา ซึ่ง อย่างกรณี พี่สุเกียง นี่ จะเห็นได้ ชัด คำแนะนำ เมื่อผ่านมา 3-4 ปีแล้วมาถึงบัดนี้ คงเห็นแล้ว ว่าไม่สูญเปล่าอย่างที่กังวลหรอกครับ และผมนี่เองเลย ที่เคยถามอาจารย์อยากเชือกเรื่องจนมุม QH-W2 เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ ...ยืนยันได้เลยครับ...ข้อคิดเห็นต่างๆนั้น ไม่สูญเปล่า จากคุณ : Juj - [ 5 พ.ย. 50 15:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณ คุณ Juj  ค่ะ จากคุณ : สุเกียง - [ 5 พ.ย. 50 15:42:43 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ของผมคล้ายๆคุณเพียงแต่.....ที่ผมขายเพราะไม่โลภ(ได้เท่าไหร่ก้ช่างยังไงก้กำไร) แล้วที่ยอมคัทขาดทุน ภายใน 3 เดือนนี้ คัทไป 1 ตัว ก้แค่ขาดทุนกำไรสะสม...คิดซะว่า ไม่เข้าเนื้อก็ดีถม ตอนนี้ขายๆซื้อๆจนกำไรเพิ่มมานิดหน่อย เคล็ดลับของผม......เล่นแต่หุ้นพื้นดีๆ หุ้นปั่นไม่สนเลย ไม่เครียดด้วย ลงมายังไงก้กลับไปยืนสูงกว่าเดิมทุกตัว..........แล้วไอ้หุ้นเฮงซวยที่คัทไป 1 ตัวที่ว่า มันสุดๆจิงๆอ่านไม่ขาด โดนไป 2 พันบาท จากคุณ : dark leklek - [ 6 พ.ย. 50 17:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ทำตรงข้ามกับ สิ่งที่ทำให้คุณขาดทุน จากคุณ : x-philes - [ 6 พ.ย. 50 17:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อาการเดียวกันเลยค่ะ แต่พอได้นั่งดูตลาดบ่อยๆ เล่นนานๆไปจะดีขึ้นเอง คือจะเริ่มกล้ามากขึ้นและรู้จักระวังมากขึ้นด้วย จากคุณ : นินจาคาปูชิโน่ - [ 6 พ.ย. 50 19:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ผมมือใหม่ เข้ามาอ่านคำแนะนำจากพี่ๆ นับถือทุกๆคับคับ ผมจะใช้สติในการตัดสินใจเท่านั้น จากคุณ : Tatona - [ 6 พ.ย. 50 21:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ค่ะ  เพิ่งเข้ามาเดินตลาดกับเขาต้นเดือนสิงหาคมนี้เองได้รับประโยชน์มากมายจริงๆ ค่ะ แต่เราก็พยายามหาความรู้จากตลาดหลักทรัพย์ อ่านหนังสือเกี่ยวกับหุ้นหลาย ๆ เล่ม คุยกับผู้มีประสบการณ์ท่านอื่น วันนี้ได้กำไรมานิดหน่อย 7 - 8  พันบาท  จากต้นทุนประมาณ 70,000 บาท ในเวลา 2 วัน สำหรับบางคนอาจน้อยเหลือเกิน แต่เราก็พอใจแล้วค่ะ  ตลาดผันผวนอย่างนี้ ตัวเองก็เจอ " ขายหมู ติดดอย " บ้างเหมือนกัน ในพอร์ตยังมีตัวที่ขาดทุนอยู่บ้างประมาณ 5 - 10 %  ตัวไหน พื้นฐานดี ก็จะถือรอก่อน เก็บได้ เงินเย็น  ตัวไหนไม่อยากถือยาว  พอได้กำไร ตามควรก็จะขายออกไปค่ะ       จากคุณ : ทะเลใจ (ทะเลใจ) - [ 6 พ.ย. 50 22:17:55 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ท่านครับ ท่านได้เพราะอะไรฤา ท่านเสียเพราะอะไรฤา จดไว้บ้างมั๊ย และยังทำผิดเหมือนเดิมรึเปล่าครับท่าน เซียนที่แท้จริง อยู่ในตัวของคุณนั่นแหละ อย่ามาหาตาม web board เลย ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะ พี่ ๆ ที่นี่ดีหลาย ๆ คน แต่ยอดฝีมือในหนังจีนมักจะตกเขาฝึกวิชาคนเดียวทั้งนั้น ส่วนใหญ่พวกฝึกวิชาตามสำนักมักจะเป็นพระรองหรือไม่ก็เป็นตัวโกงไปเรยยยย ถ้าขายหมูหรือติดดอยเป็นเรื่องปกตินะ ย้ำอีกครั้งเหมือนเฮียเอ็นบอกปกติมาก ๆ skill ของตัวท่านที่ขาด ผมคิดว่าเป็นเรื่อง การหาจุดขาย... ซื้อแล้วขายหมู แสดงว่าเก่ง เล่นหุ้น 10 คนซื้อแล้วติด 9 คน คุณขายหมูได้กำไรแสดงว่าเก่งกว่าคนอีก 90% ของตลาดนะ ส่วนเรื่องติดดอย ซื้อแล้วติดเลยรึเปล่า หรือซื้อแล้วขึ้นแล้วลง แล้วดิ่ง แล้วติด ถ้าเป็นอย่างหลังลดความโลภ ลงหน่อยก็แจ๋ว ละ อย่าไปฟังเซียนตามเวปมากนักนะ มันทำให้เราควบคุมความโลภไม่ได้ เห็นเค้า (ว่า) ได้ยังโง้น ได้ยังงี้ เราก็จะยิ่งโลภและความหายนะจะมาเยือน สุดท้าย หาตัวเองให้เจอนะ มีนักวิเคราะห์ต่างประเทศบอกว่า หลายคนอยากเป็น บัฟเฟตต์ บางคนอ่านหนังสือมาเล่มสองเล่มก็เล่นหุ้นแบบ บัฟเฟตต์ คือซื้อแล้วไม่ขาย พอมันตก ก็สวมวิญญาณ VI พอมันตกหนัก (บัฟเฟตต์บอกต้องทนเห็นหุ้นตัวเองลงห้าสิบเปอร์เซนต์โดยไม่รู้สึกอะไร) พอเอาเข้าจริง รับไม่ได้ไง และก็ขายตอนตกสุด ๆ นั่นแหละ ก็ขาดทุนเลย เค้าเปรียบเปรยไว้ว่า อ่านหนังสือฟิสิกส์มาเล่มสองเล่มเป็น ไอน์สไตร์ ไม่ได้ฉันใด อ่านหนังสือบัฟเฟตต์มาเล่มสองเล่มก็เป็นบัฟเฟตต์ไม่ได้ฉันท์นั้น เป็นตัวของตัวเอง หาสไตล์ของตัวเอง ไม่ต้องอ่านเวปบอร์ดมาก รบกับใจตัวเองให้ได้ รู้เขารู้เรารบร้อยได้ร้อย ถ้ารู้จริงนะ แต่ถ้ารู้เราอย่างเดียว อย่างน้อยเราก็พร้อมรบทุกสนามจะได้หรือเสีย ว่ากันอีกเรื่อง ได้รู้ว่าได้เพราะอะไร เสียเสียเพราะอะไร เก็บเป็นความรู้ส่วนตัว รู้จริงแล้วมาแชร์คนอื่น ยังไม่รู้จริงก็เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ความรู้จะช่วยเราได้ทุกสถานการณ์ จากคุณ : Catrule - [ 7 พ.ย. 50 00:05:34 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ยังติดดอยอยู่ กำลังเรียนรู้วืธีลงจากดอยเช่นกัน จากคุณ : หมูอ้วนท้วน - [ 7 พ.ย. 50 08:32:43 A:124.121.34.83 X: TicketID:159662 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ่อ... ค่อยยังชั่ว นึกว่าเราเป็นอยู่คนเดียวซะอีก แหะๆ... จากคุณ : pp - [ 7 พ.ย. 50 11:25:57 A:10.7.51.253 X:202.28.169.165 TicketID:031898 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ต้องตัดความโลภ กับ ความกลัวให้ได้ ซึ่งดิฉันเองก็ยังพยายามอยู่เลยอ่ะ จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [ 8 พ.ย. 50 19:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เล่นสั้นเกินไปมั้ง ช่อง สองช่องก้อขาย คือ ขายหมู พอขายหมู เสียดายหมู ก้อไล่ต่อ คือ เจอดอย งัย ใช่ ป่ะ ตัวเอง   จากคุณ : Green Turbo - [ 9 พ.ย. 50 17:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 10 พ.ย. 50 15:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มาเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านค่ะ... จากคุณ : lekjar - [ 1 ธ.ค. 50 13:58:29 ]