PANTIP.COM : I6011245 January effectคืออะไร ปีหน้าจะเกิดไหม [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 3

มันเริ่มมาจากพฤติกรรมการลงทุนของต่างชาติในอดีต ที่มักจะกลับเข้ามาลงทุนล่วงหน้าในช่วงปลายปีแล้วกระชากยาวไปถึงต้นปี ซึ่งเคยเกิดพฤติกรรมซ้ำซากแบบนี้มาหลายครั้งจนเกิดเป็นความเคยชิน ทำให้นักลงทุนมองว่าพฤติกรรมแบบนี้อาจจะกลับมาเกิดอย่างที่เคยเกิด ซึ่งไม่จำเป็นเสมอไป ก็เลยมีคนเรียก Cycle พฤติกรรมของตลาดหุ้นไทยว่าเป็น แจ๊คพอตแห่งโชคในเดือนมกราคม ซึ่งย้อนไปดู "ประวัติศาสตร์" มันกิด January Effect หลายครั้งและเป็นช่วงแห่งความ Happy ของตลาด แต่จะเป็น Happy ของนักลงทุนไหม ก็อยู่ว่าใน Cycle นั้นเราจับถูกกลุ่ม ถูกตัว จับถูกหุ้นดาวเด่นของรอบนั้นไหม

ในอดีต January Effect หากเกิด หุ้นจะพร้อมใจประสานมือกันขยับขึ้นไป เป็นเดือนที่เหมือนแจก Bonus ให้นักลงทุน แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือพฤติกรรมการลงทุนของ "ผู้นำ" หากมันเปลี่ยนไป สิ่งที่เกิดในตลาดก็เปลี่ยนตาม วัฏจักรการลงทุนของตลาดหุ้นไทยเริ่มมาจากความคิดของนักลงทุน ที่เริ่มจากมองพื้นฐานหุ้นเพียงอย่างเดียว มีเงินแต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาทำให้หุ้นขึ้น ก็ต้องใช้พื้นฐานหุ้น นี่เป็นยุคแรกๆของตลาดหุ้นไทยที่คนเล่นพื้นฐานหุ้นจะได้กำไรกันเยอะ แต่เมื่อมันไปถึงจุดๆหนึ่ง พฤติกรรมตลาดเปลี่ยน คนหันมาเก็งกำไร หันมาเล่นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว ซึ่งในความจริงมันไม่มี ไม่มีหุ้นอะไรที่มีพื้นฐานเพิ่มขึ้นรวดเร็วขนาดนั้น ดังนั้นต้องฝืนความจริง ด้วยการปั่นราคาหุ้น สมัยก่อนการปั่นหุ้นง่ายเพราะปัจจัยแห่งความสามัคคีของนักลงทุนทั้งรายใหญ่ รายย่อย คิดเหมือนกัน การปั่นหุ้นสมัยก่อนจึงปั่นยาว ปั่นแบบไม่กลัวการดักทุบเก็งกำไรสั้นๆ เมื่อไปถึงจุดๆหนึ่งพฤติกรรมเปลี่ยน ปัจจุบันต่างชาติเองก็เปลี่ยน เปลี่ยนพฤติกรรมมาเล่นที่เน้นหุ้นใหญ่ๆ หนีการดักทุบเก็งกำไร กลายมาเป็นผู้ครอบครองหัวใจของตลาด Control หุ้นใหญ่ๆแต่หากเราไม่เปลี่ยนหละ ยังกลับไปคิดแบบเดิม ยังไปยึดเกาะเสาหลักแบบเดิมๆ มันเหมือนปล่อยโอกาสให้เดินผ่านไปโดยทำได้แค่มองมันผ่านไปๆๆๆๆๆ

เล่นหุ้นแบบกองโจร !!!!
ผมชอบคำๆนี้เพราะผมผ่านการลงทุนแบบนี้มาแล้ว เราพอร์ตเล็กๆต้องอาศัยการลงทุนแบบกองโจร ฉกฉวยกินเล็กกินน้อย สะสมกำลังรอว่าวันนึงกองทัพกองโจร(พอร์ต)ของเราจะใหญ่ขึ้น ต้องยอมรับเลยว่านี่เป็นบันไดขั้นแรกของคนที่เป็นนักลงทุนรายย่อยๆที่อยากฝันไปให้ไกล และไปให้ถึง แต่การลงทุนแบบกองโจรมันเหนื่อยนะ เพราะไร้รูปแบบ เห็นจังหวะไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต้องใช้โอกาสนั้นทันที มันเปรียบเหมือนการเล่นสั้นๆที่ไม่ได้คาดหวังร่ำรวย เป้าหมายกองกำลังของเราเพียงสะสมกำลังให้มากพอที่จะเลื่อนขั้นขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นวงจรการลงทุนตรงนี้ต้องบอกว่าคือการเล่นหุ้นปั่น หุ้นที่ราคาขึ้นหวือหวา เราไม่มีทางรู้ว่าหุ้นตัวไหนหรือเมื่อไหร่ใครจะมาปั่น แต่เรามีเพื่อนที่มาคอยเตือนสะกิดที่ข้างหูว่าหุ้นตัวไหนมีพฤติกรรมแปลกๆเท่านั้น ต้องบอกเลยว่าหากไม่มี Technical ทำไม่ได้ คราวนี้หละก็เป็นเรื่องของ "โจร" ที่จะแอบเข้าไปฉกฉวยเสบียงกลับออกมา หากมันมีข้าวอยู่ในยุ้งฉางเป็นพันๆกระสอบ เราจะไม่แบกเป็นกระสอบๆออกมานะ เอาแค่เพียงใส่ถุงพลาสติคเล้กๆกลับออกมาให้ได้เท่านั้น แต่ต้องขยันหมั่นเข้าไปเอา อย่าโลภ อย่าไปคาดหวังการร่ำรวยจากการลงทุนแบบกองโจร เพราะเป้าหมายของเราคือรอวันที่เสบียงที่สะสมมันจะเต็มยุ้งฉางเล้กๆของเรา เพราะเมื่อไหร่ที่เต็มแล้ว เราจะทำศึกใหม่ที่ใหญ่กว่านั้น ยกฐานะตัวเองจากกองทัพกองโจรขึ้นไปเป็นทัพศึก

แผนยึดเมือง !!!!
การหมกตัว เก็บตัว หากินอยู่ในป่า มันเหนื่อย มันลำบาก มันต้องทรสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา เราต้องออกมาสร้างเมือง เมื่อจะเปลี่ยนตัวเอง ก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตตามด้วย จะไปเสียเวลาฉกฉวยหาเช้ากินค่ำแบบที่เคยทำไม่ได้แล้ว ตอนนี้ผมข้ามกองกำลังแบบกองโจรมาแล้ว รอวันที่จะจัดทัพใหม่ คราวนี้มองไปที่เมืองหลวงแห่งแคว้น จะไม่มาเสียเวลากับการไปดักทุบชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมาอีกแล้ว เพราะเราจะเล่นกับสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น จะว่าไปแล้วก็คือการมองการลงทุนที่ใหญ่ขึ้น จะไม่ขนข้าวออกมาจากยุ้งฉางทีละถุงๆแล้ว แต่จะแบกมาทีละกระสอบ เพราะเวลานี้มีแรงสะสมกำลังพอสมควรแล้ว อาจจะหมายถึงการลงทุนรอบกลางๆที่ไม่ใช่การเล่นสั้นๆมากเกินไป ซึ่งก็อาจจะมีส่วนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกหุ้นปั่นบ้างในบางเวลา แต่จะไม่มองอะไรสั้นๆเท่านั้น เป็นการสะสมกำลังทัพให้ถึงจุดๆหนึ่ง เพื่อเตรียมจัดทัพยึดแคว้น

เป้าหมายคือยึดดินแดน !!!!
ไม่ใช่ผมจะพูดเรื่องการเมืองนะ แต่ผมเปรียบเทียบให้เห็นภาพเฉยๆ เพราะจริงๆแล้วเป้าหมายของทุกๆคนคือความหลุดพ้นจากความจำเจของชีวิต หนีความจำเจของารตกเป็นทาสของเงิน ออกมาหาความหลุดพ้นของชีวิต หากคิดแบบนั้นมันก็ไม่ใช่ว่ามีแต่ในตลาดหุ้นนะ จริงๆมันก็อยู่ที่ความพอใจของแต่ละคนด้วย แต่ผมอยากให้มองว่าโอกาสในตลาดหุ้นมันเป็น Infinity ทำไมเราจะไม่ลองใช้มันดู ลองให้มันรู้กันไปเลยว่าเราทำมันไม่ได้ จะได้ไม่มาติดค้างอยู่ในใจว่าตกลงเราทำได้ไหม ศึกใหญ่ก็ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้พร้อมที่จะสู้กับขวากหนามที่ใหญ่ ผมมองว่าเมื่อวันนึงพอร์ตใหญ่ การลงทุนจะยิ่งน้อยลง แต่จะใช้สมองคิดวางแผนที่มากขึ้น ในตลาดหุ้นไทยหรือตลาดหุ้นไทนๆทั่วโลก ไม่มีหรอกที่หุ้นจะขึ้นได้ตลอดเวลาหรือลงตลอดเวลา มันจะมีจังหวะของมัน และในจังหวะของตลาดมันจะมี "ขุนศึก" โดดเด่นเพียงคนเดียว(กลุ่มหุ้น) เราต้องหาขุนศึกให้เจอ เจอแล้วเล็งเป้าหมาย "ฟันหัว" นั่นคือทุ่มพอร์ตการลงทุนใส่ลงไป เราไม่รู้ว่าวงจรของตลาดหุ้นจะมาหรือเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่หากจะกินปลาใหญ่ก็ต้องรอเวลา เงื้อมดาบรอ แต่ช่วงที่รอก็อย่าปล่อยให้อะไรผ่านไป ปักเบ็ดรอปลาใหญ่แต่ก็ต้องมีเบ็ดคันเล็กๆไว้จับปลาเล็กๆเพื่อประทังชีวิตและเป็นการเฝ้ามองตลาดไปเรื่อยๆ พูดง่ายๆว่าถึงแม้นทัพจะใหญ่ก็ต้องมีสมุนแบบกองโจรคอย Support ไว้ด้วย เวลานี้จะไม่แบกข้ามมาทีละกระสอบแล้วนะ แต่จะยกทีละยุ้งฉางกันเลย

ผมเขียนคร่าวๆนะ แต่มันเป็นแผนที่ของผมที่ผมคิดและทำแบบนี้ ผมเอาใจช่วยนักลงทุนรายย่อยๆเพราะผมชอบคำๆนี้ เราได้เปรียบนักลงทุนรายใหญ่ๆตรงที่เราเริ่มจากสิ่งที่เรียกว่าย่อยๆเล้กๆ ยอมที่จะเอาตัวลงไปคลุกดินคลุกทราย ไม่มีรูปแบบ แต่วันนึงเราจะเปลี่ยนตัวเองให้ได้ ...เขียนเรื่อง January Effect ไหงลากยาวมาเรื่องนี้ได้ก็ไม่รู้ แบบว่ามันเพลิน เขียนติดลมไปหน่อย :-)
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 10:17:19
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 10:14:55

จากคุณ : rockriverarms - [ 12 พ.ย. 50 10:11:42 ]