Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เสียงสะท้อนของมาร์เก็ตติ้ง กับมุมมองของนักลงทุน

    ในฐานะที่ จขกท อยู่ในแวดวงของอาชีพนี้มาเป็นเวลามากกว่า 15 ปี ได้เห็นตั้งแต่ดัชนี 1700 จนมาถึง 200 จุด
    โดยอายุงานก้อถือว่าไม่มากไม่น้อย ได้เห็นเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาอย่างมากมาย ..ในฐานะเจ้าหน้าที่การตลาด ตั้งแต่คนที่เข้ามาในตลาดดัวยจำนวนเงินนับร้อยล้านและกลับออกไปแบบหมดตัว จนทำให้เป็นปัญหากระทบไปถึงครอบครับและฆ่าตัวตาย(บ้างคนก้อไปขายแซนวิช)

        แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยังไม่เคยเห็นเลยคือการประสบความสำเร็จของนักลงทุนรายย่อย ..แบบถาวร จะมีบ้างที่ได้เป็นกอบเป็นกรรมในรอบนี้ แต่สุดท้ายก้อหมดตัวไปในรอบหน้า มากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับความโลภและอีโก้

        ความรู้สึกผมตลอด 10 ปีที่ผ่านมา...ไม่เคยเห็นคนที่เก่งจริง ...ไมว่าจะเป็นนักวิเคราะห์หรือ แม้กระทั่งผู้จัดการกองทุนดังๆ ที่นั่งเสนอตัวจะดูแลการลงทุนให้  ผมไม่เคยเห็นเอาตัวรอดได้เวลาเกิดวิกฤต จาก nav 10 บาทบริหารจนมาเหลือบาทเดียวก็เคยกันมาแล้ว ...(และทุกวันนี้ก้อยังเห็นหน้าอยู่ตาม tv )

         แล้วทำไมเหล่านักลงทุนถึงไม่หมดไปจากตลาดเสียที่ มีมาให้เป็นเหยื่อกันตลอดเวลา เวลาผมเห็นนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นตามสื่อต่างๆเช่นจอโทรทัศน์ ก้ออมยิ้มทุกครั้ง แล้วนึกในใจว่าถ้าเงินเดือนเขาไม่เยอะมากขนาดนี้เขาจะกล้าออกมาหลอกคนตาม tv แบบนี้หรือไม่ ผมคิดว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ทำงานไม่ได้ทำเพื่อนักลงทุนแต่ทำเพื่อปกป้องเงินเดือนของตนเอง การให้ความเห็นส่วนใหญ่เป็นการอธิบายหลังเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วทั้งสิ้ง  หรือถ้าจะมีคาดการบ้างก้อคาดการไปตามสูตรเดิมๆ คือ จากข้อมูลที่เจ้าของบริษัทที่ให้ไป visit โดยเจ้าของก้อวางแผนแล้วว่าจะใช้นักวิเคราะห์เป็นเครื่องมืออย่างไร หรือไม่ก้อจากตำรา mba เพราะถ้าใช้เครืองมือเหล่านี้ถ้ามีการวิเคราะห์ผิดพลาด ..นักวิเคราะห์ก็สามารถโยนความผิดไปให้กับสิ่งเหล่านี้ได้ ..ดังเราจะเห็นได้ว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มักวิเคราะห์อะไร ก้อตามไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับเงินเดือนของตัวเอง ..ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้น (และส่วนใหญ่ก้อจะพลาด)

        ในส่วนผมเองที่ทำหน้าที่การตลาด ก้อมีหน้าที่ชักจูงลูกค้าเข้ามาสร้างรายได้ให้กับบริษัท หรือเรียกให้สวยหรูว่าแนะนำการลงทุน ...แต่ข้อเท็จจริง ประเด็นหลักคือชวนให้ลูกค้าซื้อขาย ประเด็นรองอย่าทำให้บริษัทเสียหาย ประเด็นท้ายทำกำไรให้ลูกค้าบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่กดดันพอสมควรในการจะทำให้ 3 อย่างสมดุลกัน เช่น ถ้าเราเกิดบังเอิญไปรู้มาว่าหุ้นตัวนี้ดี ...อยากให้ลูกค้าถือนานก้อทำไม่ได้เพราะเราจะไม่มีผลงานให้บริษัท ...บางที่เห็นใจลูกค้าแต่ทำไงได้ ..เราไม่ได้มีลูกค้าใหญ่แบบเสี่ยปู่ หรือบรรดาเสี่ยทั้งหลาย แค่มีหลักล่ะ 10 ล้าน 20 ล้านก้อต้องปั้นวอลุ่มกันหัวหมุน  ....ทำงานไปตามหน้าที่ แต่พยายามตอบแทนลูกค้าเท่าที่จะทำได้ ..ไม่ว่าจะเป็นการคอยแจ้งรายงานความเสียจากการลงทุน ...ปลอบโยนและคอยให้กำลังใจ ..เดินไปเสียค่าน้ำค่าไฟให้ ..ปิดบังความลับของลูกค้าที่ไม่ประสงค์จให้ครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานรู้ นอกนั้นก้อให้ความเห็น ผิดบ้างถูกบ้างไปตามจังหวะของตลาด ..

        ดังนั้นจึงสงสัยว่าพวกท่านทั้งหลายที่เป็นนักลงทุน ทำไมถึงไม่หวั่นเกรงต่อผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับท่าน ในการลงทุน หรือพวกท่านคิดว่า ท่านคงเก่งกว่ารายย่อยทั้งหลายในอดีต ที่เคยย่อยยับกันมาแล้ วหรือคิดกันว่าฉันไม่ใช่รายย่อย..ฉันเป็นเซียน ..ถึงแม้จะเป็นขนาดเล็ก

       เชื่อผมเถอะครับ ...ผมว่าท่านทั้งหลายในห้องสินธรเนี่ยเป็นรายย่อยทั้งหมด ท่านอาจจะดีใจกับการกำไรบ้างเป็นรอบๆ แต่ตราบใดท่านยังไม่ออกไปจากตลาด ผมว่าพวกท่านไม่ต่างกับ รายย่อยในอดีตแน่ ท่านอย่าคิดว่ารายย่อยในอดีตจะไม่เก่งเท่าท่าน ...ไม่เชื่อท่านก้อลองนึกถึงคนที่ขายแซนวิชอยู่ทุกวันนี้ ...นั่นแหละโครตะระ ..เซียนเลย ..
     
       .....แล้วท่านทั้งหลายล่ะ คิดว่าเก่งเท่าเขาหรือเปล่า...

    ปล. ความเห็นนี้อาจจะมีบางท่านไม่พอใจ ต้องขออภัยท่านทั้งหลายด้วย และไม่ว่าความเห็นนี้จะถูกผิดดีเลวอย่างไร ขอยืนยันว่าทำไปด้วยความหวังดี

    จากคุณ : ปุริมพัฒน์ - [ 26 พ.ย. 50 23:38:56 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom