ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเข้าใจคำถามคุณ Jab ทั้งหมดนะครับ แต่จะลองตอบดูก่อน (เข้าใจว่าจะเลือกใช้วิธีซื้อคืน 5 ช่อง) เคยขายไว้ที่ 2.36 วันนี้ราคาอยู่ที่ bid 2.24 offer 2.26 ถ้าจะซื้อคืนก็ซื้อได้ที่ 2.26 ใช่ไหมครับ จับคู่คิดเงินแฝงระหว่าง 2.26 กับ 2.36 ได้ 5 ช่อง คราวนี้เรื่องขายสร้างโอกาส ต้องลองย้อนไปดู step ที่ทำมาไว้ก่อน ปกตินะครับ สมมติเราซื้อหุ้นไว้จำนวนนึง 1000 หุ้น แล้วเริ่มขาย เราขายที่ 2.36 100 หุ้น พอราคาลงมาที่ 2.32 เราต้องขายอีก 1 ไม้ด้วย นั่นคือสมมติวันนี้ราคาอยู่ที่ bid 2.24 offer 2.26 ก็แสดงว่าราคาลงจากที่เคยขาย 2.36 มาจนถึง 2.24 ในวันนี้ นั่นคือตามปกติเราต้องมีไม้ที่ขายอยู่ตามลำดับทุกสองช่อง คือ 2.36 100 หุ้น 2.32 100 หุ้น 2.28 100 หุ้น พอมาถึงวันนี้เห็นราคา offer 2.26 เราก็สามารถซื้อคืนไม้บนสุดได้ และได้เงินแฝงมาจำนวนหนึ่ง ส่วนการขายไม้ต่อไป ตามลำดับ ก็สามารถขายได้ที่ 2.24 เลย ถือเป็นไม้ใหม่ที่ขายไป ดังนั้น ณ เวลานี้ ถ้าเราขายที่ 2.24 อีก 1 ไม้ ข้อมูลที่เหลือก็จะเป็น 2.32 100 หุ้น 2.28 100 หุ้น 2.24 100 หุ้น ส่วนข้อมูลที่เคยขายไว้ 2.36 ก็จะไม่มีเพราะซื้อคืนแล้ว และได้เงินแฝงมาจำนวนหนึ่ง สำหรับไม้ที่ 2.32 เราจะซื้อคืนอีกต่อไปถ้าเห็นถ้าราคา offer ที่ 2.22 ลองตอบดูก่อนนะครับ ถ้าไม่ตรงยังไงลองคุยมาอีกทีนึงครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 14:46:34 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อีกอย่างหนึ่งคือ ในจังหวะที่หุ้นราคาลดลงมา การซื้อคืนจะทำให้ได้เงินแฝง แล้วเราเอาเงินแฝงนี้ไปซื้อหุ้นเพิ่ม ถ้าดูตามบัญชีในขณะหนึ่ง ๆ จะไม่เห็นเงินสดเพิ่มขึ้นมาชัดเจน โดยเฉพาะในหุ้นขาลง แต่จะมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นมาแทน ต่อเมื่อราคาแกว่งกลับขึ้นไปเป็นขาขึ้นบ้าง ช่วงนั้นอาจเห็นมูลค่าของพอร์ตที่เพิ่มขึ้น (ถ้าตั้งใจจะมองที่มูลค่าพอร์ต) มาจากหุ้นเดิมที่เหลือในมือมีราคาสูงขึ้น และจากหุ้นใหม่ที่เราซื้อเพิ่มเข้ามาในพอร์ต (ซื้อด้วยเงินแฝง) จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 14:52:49 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้ามองแบบคุณ Jab father ก็จะงงครับ แล้วจะทำให้ไม่กล้าขาย กล้าซื้อ การขายที่ 2.24 นั้นเป็นคนละชุดกับการซื้อคืนที่ 2.26 เอามาแทนกันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะจับคู่กับอะไร จริงไหมครับ ขายส่วนขาย ซื้อส่วนซื้อนะครับ ทำไปจะงงยิ่งกว่านี้ เพราะต้องซื้อและขายที่ราคาเดียวกันก็มี จากคุณ : wasansem - [ 30 พ.ย. 50 15:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มานั่งอ่านคำถามคุณ Jab อีกที ประเด็นสงสัยอยู่ที่คำว่า เงินเพิ่มหรือเปล่านะ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 16:47:38 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พี่ ดอกไม้ DSM ครับ ใช่อย่างที่พี่ดอกไม้ DSM ว่าครับ ถึงไม้ที่ จะซื้อ 2.26 กด ก็ซื้อได้เลย พอดีกับถึงไม้ที่จะขาย 2.24 กดก็ขายได้ มันทำใจไม่ได้ว่า หุ้นในมือก็เท่าเดิม แล้วเรากด ให้เสียคอมทำไมละครับ ผมลงบัญชีอย่างนี้ได้ไหมครับ ขาย 2.36 24 Sep คอม 53.5 ซื้อ 2.26 30 Nov คอม 0 กำไร xxx ขาย 2.24 30 Nov คอม 0 ช่อง 2.36 ก็ถูกลบออกไป ช่อง รอซื้อ ก็จะกลายเป็น 2.24 แทนครับ แบบว่าผมรับซื้อที่ 2.24 และขายที่ 2.26 เอง เพื่อประหยัดคอม ครับ --------- พี่ wasansem ครับ ขายให้ตัวเองไม่ได้หรือครับ ประหยัดคอมได้นะ เอ หรือ ค่าคอมคือค่าที่เราไม่ต้องคิดมาก แต่มันเสียดายนะ เพราะเราก็ทำตามเฮียวินัย แล้วสั่งขายก็ขาย สั่งซื้อก็ซื้อ เพียงแต่ซื้อผ่าน broke dummy อะ ลงบัญชีก็ปกตินะครับ แฮ่ๆ   จะพาให้ลมปราณแตกซ่านเอากันหรือเปล่านี่ จากคุณ : Jab father - [ 30 พ.ย. 50 17:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เงินไม่ได้เพิ่มครับ แต่เราชักทุนออกได้ต่างหาก DSM จะลดต้นทุนจนเป็นศูนย์ จากนั้นถึงจะเป็นกำไรครับ จากคุณ : wasansem - [ 30 พ.ย. 50 17:02:39 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เดี๋ยวก่อนนะครับ คุณ Jab ขออ่านความเห็นที่ 5 ก่อน ยังงงอยู่เรยครับ อิอิ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 17:12:32 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พี่ wasansem ครับ ซื้อที่          2.26      10000 หุ้น = 22600 + คอม ขายเวลาเดียวกันที่ 2.24      10000 หุ้น = 22400 + คอม เท่ากับ มีหุ้นเท่าเดิม ตังหายไป 200 + คอม 2ขา หรือเปล่าครับ แต่ถ้าเรา ลงบัญชี dummy จะได้ว่า ซื้อที่          2.26      10000 หุ้น = 22600 + คอม 0 ขายเวลาเดียวกันที่ 2.24      10000 หุ้น = 22400 + คอม 0 เท่ากับ มีหุ้นเท่าเดิมเอาตังออกมาใช้ 200 + คอม 2ขา   แล้ว ตั้งรอซื้อที่   2.14 อะ จากคุณ : Jab father - [ 30 พ.ย. 50 17:14:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ Jab ลองตั้งตัวเลขดูอีกทีดีไหมครับ ลองตั้งหลาย ๆ ไม้ที่ซื้อขายนะครับ แล้วลองดูว่าวิธีที่คิด ในความเป็นจริงมันมีตัวเงิน เหลือในบัญชีหรือเปล่า เพราะไม้ที่ขาย 2.36 แล้วมาซื้อคืน 2.26 ณ จังหวะที่ซื้อคืน และหักค่าคอมไปแล้ว จะต้องมีเงินสดเหลือในบัญชี เท่ากับเงินแฝงที่เราจะได้จากการซื้อคืนด้วยนะครับ คือมีเงินอยู่ในบัญชีจริง ๆ ที่เราจะดึงออกไปได้ ผมคิดว่าพอเข้าใจบ้างที่คุณ Jab พูด แต่ลองตั้งตัวเลขจริง ๆ ดูนะครับ เพราะถ้าไม่ได้ซื้อขายตามลำดับจริง ๆ เงินมันอาจจะไม่มีในบัญชี หรือเปล่าครับ ปล. ขอบคุณที่ถามครับ ทำให้งงด้วย ฮิ ฮิ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 17:21:12 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติมครับ ขายที่ 2.36  ซื้อคืนที่ 2.26 ได้ ไปเก็บไว้ในกระเป๋า เหมือนกันนะครับ แต่สงสัยที่ต้องชักทุน 200 + คอม 2 ขานี่มันจำเป็นไหมที่ต้องเสียครับ ในเมื่อเราสามารถใช้หลักการทางบัญชีแทนได้ จากคุณ : Jab father - [ 30 พ.ย. 50 17:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มีตัวเลขแบบความเห็นที่ 8 ชัดเจนดีเลยครับ เดี๋ยวผมลองคิดดูอีกทีนึงนะ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 17:22:19 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเอาแบบคุณ Jab ว่านะครับ เราพูดกันแบบไม้เดียวโดด ๆ เลยแล้วกัน ไม้ขายที่ 2.36 ซื้อที่ 2.26 10000 หุ้น = 22600 + คอม ขายเวลาเดียวกันที่ 2.24 10000 หุ้น = 22400 + คอม เท่ากับ มีหุ้นเท่าเดิม ตังหายไป 200 + คอม 2ขา หรือเปล่าครับ ......................................................................................... อันนี้ตังค์หายไป 200 + คอม ถูกต้องครับ ถ้าคิดเทียบจากไม้ที่ซื้อคืน และไม้ที่ขายใหม่ เพราะเป็นการซื้อแล้วขายใหม่ต่ำกว่าราคาเดิม ทำให้พอร์ตลด ....................................................................................... แต่ถ้าเรา ลงบัญชี dummy จะได้ว่า ซื้อที่ 2.26 10000 หุ้น = 22600 + คอม 0 ขายเวลาเดียวกันที่ 2.24 10000 หุ้น = 22400 + คอม 0 เท่ากับ มีหุ้นเท่าเดิมเอาตังออกมาใช้ 200 + คอม 2ขา แล้ว ตั้งรอซื้อที่ 2.14 อะ .......................................................................................... ตรงนี้มีสองประเด็นนะครับ ถ้าทำบัญชี dummy มีหุ้นเท่าเดิม ดึงตังค์ออกมาได้ 200 แต่ถ้าทำตามวิธีเงินจริง ตอนจับคู่ 2.36 กับ 2.26 จะดึงเงินแฝงจริงออกมาได้ประมาณ 800 กว่า ปัญหาอีกข้อคือ วิธี dummy ไม่ได้มีการขายออกไปจริง ที่ 2.24 คราวนี้ถ้าหุ้นไม่ได้ลงไปต่ำกว่า 2.24 ล่ะครับ หุ้นหยุดแค่นั้นที่ 2.24 แล้วกลับตัวขึ้นไปข้างบน คุณ Jab จะเอาหุ้นที่ไหนไปขายข้างบน เพราะตอนซื้อคืน ๆ แบบ dummy ก็ไม่ได้ซื้อจริง อาศัยการหักบัญชีเอา หุ้นก็ไม่มีกลับมาในมือนะครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 17:36:17 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พี่ ดอกไม้ ครับ ถ้าเราขายที่ 2.24 จริงๆ เราก็ไม่มีหุ้นนั้น มาขายข้างบนนะครับ เพราะเราขายไปแล้ว ถ้าหุ้นกลับตัวเราต้องเอากองหน้า 8 ส่วนที่เราใช้เล่นขาขึ้นมาใช้ใช่ไหมครับ จากคุณ : Jab father - [ 30 พ.ย. 50 17:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ใช่ครับคุณ Jab กรณีเรามีไม้เดียวที่ยกมา ถ้าซื้อขายตามจริง เราจะไม่มีหุ้นขึ้นมาเล่นข้างบน แต่เราจะมีเงินแฝงจำนวนนึงไปซื้อหุ้นใหม่ได้หรือซื้อหุ้นเดิมเพิ่ม แต่ถ้าเราเล่น dummy เราไม่มีหุ้นขึ้นมาขายเหมือนกัน แล้วก็ไม่มีเงินแฝงที่คำนวณถูกต้องในมือด้วย ต้องไปใช้วิธีเงินแฝงอนาคตแทน ซึ่งมันจะเป็นอีกอย่างหนึ่งอีก จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 17:57:11 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อีกอย่างหนึ่งนะครับ สมมติเรามี 10 ไม้ ขายแล้วที่ 2.36 1000 2.32 1000 2.28 1000 วันนี้เราขายแล้ว 3 ไม้ เหลือ 7 ไม้ พอถึง bid offer 2.24 2.26 คุณ Jab ใช้แบบดัมมี ก็คือไม่ได้ขายออกไปจริง 2.24 ใช่ไหมครับ แล้วถ้าหุ้นลงไปอีกเรื่อย ๆ เราก็จะไม่ได้ขายออกไปจริงหรือเปล่าครับ หุ้นยังเหลือในมือ 7 ไม้เหมือนเดิม เพราะเราคิดแบบดัมมี คราวนี้ถ้าหุ้นยังลงเรื่อย ๆ เราจะไปซื้อที่ไหนดี ถ้ามีจุดกลับตัวเราเข้าซื้อ เราก็ได้เงินแฝงแค่จาก 3 ไม้ที่ขายไปจริง เพราะ 7 ไม้ยังไม่ได้ขาย แล้วถ้ากรณีหุ้นที่ลงมาก 7 ไม้ที่เหลือในมือจะฉุดพอร์ตเราลงไปเยอะเลย เท่ากับเราไม่ได้ขายหุ้นแดงในมือออกไป จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 18:05:37 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อันนี้ผมไม่ได้หมายถึงวิธี dummy ดีหรือไม่ดีนะครับ แต่ตามความเข้าใจของผม DSM จะไม่ได้ใช้แบบ dummy เพราะต้องมีการซื้อหรือขายหุ้นออกไปจริง ๆ ถ้าคุณ Jab มีแนวคิดดี ๆ อาจใช้วิธี dummy ให้เกิดประโยชน์ก็ได้ครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 18:13:12 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พี่ดอกไม้ ครับ คือผมสงสัยว่าสูตร ลง 2 ซื้อคืน 5 ถ้าเรายึดแน่นมากเกินไปจะมีจุดรั่วให้เราเสียเงินเปล่า นะครับ ในกรณีนี้เราถือเงินรอแล้ว 23,600-53.5 = 23,546.5   เนื่องจากขายไว้เมื่อหลายวันก่อน เราเอาตังนี้มาซื้อที่     2.26 ใช้เงิน = 22,600+53.5 เหลือเงิน 893 ได้หุ้นมาเพิ่ม 10,000 แต่ตอนนั้นราคามาที่  bid 2.24 เนื่องจาก step นี้เราต้องขายตามแผน ที่กำหนด 2.24 ซื้งคือท่าช่อง bid 2.24 ใช่ไหมครับ เราก็ขายกับ  ได้ตังมา 22,400-53.5 = 22,346.5 เราเหลือเงิน 23,239.5 หายไป 307 บาทเฉยเลย โดยที่มีหุ้นเท่าเดิม แต่ถ้าเราลงแบบบัญชีเรา ตัดให้เหลือ 2.24 เราก็ไม่ต้องเสีย 307 ใช่ไหมครับ ทำให้ผมสงสัยว่า ผมว่าการซื้อ step ลง 2 ซื้อคืน 5 ช่อง แบบมีวินัยมากเกินไปไม่ดี อาจต้องมีลูกเล่นอย่างอื่นด้วย แฮ่ ขอกลับไปทวนอีกรอบแล้วมาถกกันใหม่พรุ่งนี้ครับ ขอบคุณพี่มากที่อดทนตอบ หลับฝันดีนะครับ จากคุณ : Jab father - [ 30 พ.ย. 50 18:31:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ฮิ ฮิ ถ้าพูดถึงในแง่ลูกเล่น อันนี้ก็ดีเรยย ครับ แล้วแต่เราจะพัฒนา ส่วนในเรื่องเงิน กับจำนวนหุ้น จริง ๆ แล้วถ้าคิดแบบ คุณ Jab ก็จะเห็นได้ตามนั้นเหมือนกันครับ ผมคงเสนอเพียงว่า คุณ Jab ลองตั้งตัวเลข แล้วเช็คดูทุก ๆ รูปแบบของราคานะครับ เช่น ว่าหล่นลงไป แล้วหยุด หรือหล่นลงไปยาว ๆ แล้วถึงหยุด หรือหล่นลงไปแล้วกลับตัว แล้วหยุดอีก หล่นใหม่ หรือไม่หล่นแล้ว แต่กลับตัวขึ้นเลย ผมมองว่าแต่ละวิธีการที่เราพัฒนาขึ้นมาเสริม DSM น่าจะสามารถตอบคำถามกับทุก ๆ ลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาได้ โดยอาจเป็นวิธีการค่อนข้างตายตัว หรือจะเป็นวิธีที่ปรับไปตลอดกับการเคลื่อนไหวของราคา ก็ตามแต่ ขอให้เป็นวิธีที่เราใช้ได้คล่อง ได้ผลตอบแทนในระดับนึงที่พอใจ ผมคิดว่าถ้าได้แบบนี้ เราก็สามารถพัฒนาวิธีการหรือแนวคิดใหม่ ๆ ขึ้นมาได้เสมอครับ แล้วคุณ Jab ก็อาจจะเจอลูกเล่นที่ดี ๆ มาเล่าให้ฟัง ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนกันครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 พ.ย. 50 18:44:37 A:125.27.167.213 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอแจมครับ ผ่านมาพอดี คุณ Jab ครับ ตั้งขาย 2 ซื้อ 5 ก็ดีอยู่ครับ แต่จะมีปัญหาเกิดขึ้นตามที่คุยกันนั่นแหละ  ว่าจะเสียค่าคอมให้โง่ทำไมแค่ซื้อขายกันเองที่บัญชีก็พอแล้ว ปัญหาเกิดขึ้นแน่นอนครับถ้ายึดหลักแบบมีวินัย ถ้าเทรนของหุ้นไล่ลงตลอดคุณก็ซื้อขายกันที่บัญชีอย่างเดียวไม่ต้องเสียค่าคอม ได้ กสงสฝ ด้วยแต่ว่ามันมาถูกทางแล้วรึเปล่า?????? จากประสบการณ์ผม  คุณมาผิดทางแล้วครับ เพราะว่าถ้าคุณซื้อขายกันที่บัญชีอย่างเดียว แล้วจังหวะที่หุ้นตกไม่หยุด นั่นหมายความว่า คุณไมได้ขายกองหลังเกิน 3 ไม้เลย  ไม่มีโอกาสทำ กสงสฝ คำโตๆ  แถมหุ้นที่คุณถืออยู่ในมือก็ด้อยค่าลงไปอย่างรวดเร็วครับ ถ้าเป็นผมนะ หุ้นมันลงมาก็ขายไปปกติครับ  ไม้ละ 10 เปอเซน ทีละ 2 ช่อง อย่าไปยึดติว่าห่าง 5 ช่องแล้วซื้อคืนทันที  ให้ซื้อคืนในวันที่เขียวแล้วมีช่องห่าง 5 ช่องครับ วันไหนที่เห็นสีแดงให้ไล่ขายอย่างเดียวหรือถ้าอดใจไม่ไหวจริงๆ ให้ขายอย่างเดียวแล้วมาซื้อคืนตอนปิดตลาดครับ ไม่ต้องไปซื้อขายหลอกทางบัญชี ไม่รู้ตอบตรงคำถามรึเปล่า  แต่เหตุการณ์นี้คุ้นๆครับเหมือนเคยเกิดที่ตนเองเหมือนกัน 555++ จากคุณ : เรื่องของหมู - [ 30 พ.ย. 50 19:18:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อืมม์  คุณพี่เรื่องของหมู.  ตอบได้ตรงใจผมจัง.... ................ ผมว่าผมเพิ่งจะคิดได้แบบที่คุณพี่เรื่องของหมูตอบ  ก็เร็วๆ นี้เอง (นับหนึ่งใหม่มาตั้งหลายที..  เพิ่งจะมาคิดได้) ระดับของผลงานขึ้นอยู่กับระดับของมันสมองจริงๆ..   ................... คำตอบที่คุณพี่เรื่องของหมูได้ตอบไว้   บวกกับผลงาน กสงฝ.สะสม 36% ภายใน 23 เดือน ยืนยันเป็นอย่างดีเลยว่า  นี่คือ DSM ระดับแฟนพันธ์แท้ตัวจริง   ................ เห็นด้วยกะคำตอบของคุณพี่เรื่องของหมู (ที่ไม่หมูแน่ๆ) ครับ เห็นด้วย....ตรงนี้ครับ... ถ้าซื้อขายกันที่บัญชีอย่างเดียว แล้วจังหวะที่หุ้นตกไม่หยุด จะหมายความว่า ไม่ได้ขายกองหลังเกิน 3 ไม้เลย   ก็จะไม่มีโอกาสทำ กสงสฝ คำโตๆ   แถมหุ้นที่ถืออยู่ในมือก็จะด้อยค่าลงไปอย่างรวดเร็วครับ ................... ส่วนแนวทางการทำ ยิ่งเห็นด้วยใหญ่เลยครับ...   (เพราะเพิ่งตระหนักถึงสัจจธรรมเมื่อเร็วๆ นี้เอง) ขอ re-mark คำตอบของคุณพี่เรื่องของหมูไว้ตรงนี้ด้วยแระกัน.... ................ ถ้าเป็นผมนะ หุ้นมันลงมาก็ขายไปปกติครับ   ไม้ละ 10%  ทีละ 2 ช่อง อย่าไปยึดติว่าห่าง 5 ช่องแล้วซื้อคืนทันที   ให้ซื้อคืนในวันที่เขียวแล้วมีช่องห่าง 5 ช่องครับ วันไหนที่เห็นสีแดงให้ไล่ขายอย่างเดียวหรือ ถ้าอดใจไม่ไหวจริงๆ  ให้ขายอย่างเดียว แล้วมาซื้อคืนตอนปิดตลาดครับ .................... อิอิ  แอบมาลอกคำตอบแล้วก็เอามาตอบคุณพี่ Jab father คงไม่ว่านะครับ ...................... อนึ่ง.. ต้องขอบคุณคุณพี่ดอกไม้ฯ มากๆ ด้วยครับ ที่ช่วยเคลียร์คำถามให้ได้เห็นชัดเจนมากขึ้น ............... จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 30 พ.ย. 50 22:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แก้ข้อมูลป๋าห่านครับ ผมทำ DSM ตั้งแต่ เดือน 9/2006  ถึงตอนนี้ก็ 15 เดือนเองครับไม่ใช่ 23เดือน  อิอิ ตามกราฟ  ที่กระทู้การบ้านปี 2006  มีแค่ 4 เดือนครับได้ กสงสฝ 17.38% ทบต้นครับ จากคุณ : เรื่องของหมู - [ 1 ธ.ค. 50 09:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีตอนเช้าครับ เมื่อคืนกลับไปนั่งคิดประเด็นของคุณ Jab อีกครั้งนึง พบว่าผมยังคิดไม่ครอบคลุมไปหลายจุด หรือพูดอีกอย่าง คือ เมื่อวานผมยังไม่สามารถจับประเด็นหลัก ที่มองว่าเป็นข้อสังเกตของการซื้อขายแบบ dummy ได้ พอลองนั่งดูตัวเลขดี ๆ อีกครั้งนึง ผมเข้าใจว่า ข้อสังเกตหลักข้อนึงของประเด็นนี้ เมื่อเทียบกับวิธีซื้อคืน 5 ช่อง อยู่ที่ว่า วิธี dummy ไม่มีเงินแฝงเกิดขึ้นจริง ตราบใดที่ไม่ได้มีการซื้อคืนจริง (อันนี้ผมขอข้ามเรื่องค่าคอมไปก่อน แม้จะเป็นจุดสังเกตที่คุณ Jab ยกมา เพราะว่าค่าคอมที่ประหยัดได้ อาจไม่คุ้มกับ การคิดจำนวนเงินแฝงที่ได้รับจริง ซึ่งเราจะต้องนำไปต่อยอดซื้อหุ้นเพิ่ม เป็นการขยายพอร์ตตามแนวคิด DSM) จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 10:27:53 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมจะลองตั้งตัวเลขขึ้นมาอีกครั้งนึง สมมติว่าเราเริ่มต้นด้วยการซื้อ A 10000 หุ้น ราคา 4 บาท วงเงินลงทุนของเราจะอยู่ที่ 40,085.60 บาท ผมคงจะคิดตัวเลขทั้งหมดที่ปรากฎนะครับ ซึ่งรวมถึงการคิดมูลค่าพอร์ตด้วย เพื่อให้ครอบคลุม แม้ว่าใน DSM จะไม่เน้นมูลค่าพอร์ตก็ตาม สมมติฐานแรกที่ผมตั้งคือ จะใช้ วิธี dummy กับช่วงที่หุ้นลดลงไปสั้น ๆ ช่วงนึงแล้วกลับตัวขึ้นมา อันนี้เป็นการทดลองทำซ้ำ สองสามรอบดูก่อน จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 10:39:02 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ฮิฮิฮิ...ขอตอบบ้างนะครับ....แบบว่าอยากให้หมองน้อยๆคิดบ้าง... จะได้ไม่ฝ่อครับ...  ( ลองไปทดลองทำในบัญชีด้วยอ่ะ..) ผมขอแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ ประเด็นที่ 1. คิดเห็นตามกระทู้     แบบที่คุณจ็าบ ต้องการ สามารถทำได้ครับ แต่ต้องลงระบบบัญชีให้ชัดเจนนะครับ...เนื่องจากหุ้นเป็นขาลง มูลค่าพอร์ตลด เงินที่ได้ก็คือส่วนต่างของการลดมูลค่าพอร์ตครับ ข้อดีของวิธีนี้คือ 1. ประหยัดต้นทุน (ค่าคอม) 2. ประหยัดอื่นๆ   (ไฟฟ้า เวลา ....) ข้อเสียคือ 1. จะงงตัวเลขเงินคงเหลือ กรณีถ้าหากระบบบัญชีไม่ชัดเจน 2. อย่างที่คุณเรื่องของหมูบอกครับ  จะทำให้เราสูญเสียวินัยการขายที่เป็นจริงได้ ("ที่เป็นจริง นะครับ")   แต่ถ้าหากคุณจ๊าบ ไม่มีปัญหาเรื่องการขายและสามารถปรับระบบบัญชี ตัวเลขได้ ก็ไม่มีปัญหาครับ 3. วิธีนี้จะเหมาะกับหุ้นที่ลงแบบไม่กระโชกโฮกฮากนะครับ แต่ถ้าลงแบบกระโชก ยังไงก็ต้องมีการขายจริงล่ะผมว่านะครับ...ฮิฮิฮิ..เราจะมาเล่นในบัญชีแค่ 3 ไม้ได้ไงเนอะ... ประเด็นที่ 2 ความเห็นส่วนตัวนะครับ...    อย่าลืมกฏการซื้อคืน 3 ข้อด้วยนะครับ...อันนี้ท่านอาจารย์เด่นเค้าบอกมา...(ในกระทู้เก่าๆ อ่ะครับ)    ถ้าเป็นผม ผมยังไม่ซื้อที่ 2.26 อ่ะครับ ได้แค่ไม้เดียวเอง....ผมจะรอ รอ รอ ว่ามันจะหยุดที่เท่าไรกันแน่ เพราะว่าเราเล่นหุ้นขาลง ไม่ใช่ Sideway ... ถึงแม้ว่าหุ้นจะกลับตัวขึ้นไป.. อย่างไรเสียเราก็ถือว่ามีกองหลังทิ้งไว้ 3 ไม้ อยู่ดี แต่ถ้าหากจะซื้อคืน 1 ไม้ และทิ้งกองหลังอีก 1 ไม้ ถ้าเป็นเหตุผลส่วนตัวก็ยินดีและยอมรับในการตัดสินใจครับ ...     ถ้าหากว่าเราจะรับกลับเร็ว ผมว่าเราต้องมีกองหลังไว้แล้ว 3 ไม้ แล้วช่วง Sideway เราก็ขายเร็วซื้อเร็วได้ครับ...วิธีการนี้เป็นที่ยอมรับกรณีหุ้น Sideway นะครับ...   ปล. นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะครับ ซึ่งไม่รวมความรู้สึกและเหตุการณ์ สภาวะอารมณ์ ตามที่คุณจ๊าบ ตั้งกระทู้มา ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อเราอยู่ในสถานะการณ์นั้น สิ่งที่ผมโพสอาจจะแหวกแนวไปได้ครับ  แต่ยังไงก็ต้องรักษากฏเกณฑ์ให้ได้เนอะ...    หุ้นลงต้องกล้าขาย  หุ้นขึ้นต้องกล้าซื้อ จากคุณ : akae - [ 1 ธ.ค. 50 10:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สมมติราคาลดลงไปเรื่อย ๆ จนถึง bid offer ที่ 3.76 - 3.78 ในระหว่างนี้ เราจะมีข้อมูลการขายและซื้อคืน ตามข้างล่าง โดยใช้วิธีซื้อคืน 5 ช่อง และขายไม้ใหม่ลงไป (อันนี้ถือว่าขายเมื่อเห็นราคาเลยแล้วกันนะครับ เพราะปกติแล้วเราคงต้องรอให้มีแรงขายก่อน ถึงจะขายตาม) ขาย 3.96 1000 3,951.53 ขาย 3.92 1000 3,911.61 ขาย 3.88 1000 3,871.70 ซื้อ 3.86 1000 3,868.26 - ขาย 3.84 1000 3,831.78 ซื้อ 3.82 1000 3,828.17 - ขาย 3.8 1000 3,791.87 ซื้อ 3.78 1000 3,788.09 - ขาย 3.76 1000 3,751.95 ............................................................................................... สมมติว่าราคามาหยุดที่จุดนี้ คือ bid offer ที่ 3.76 - 3.78 ตามวิธีซื้อคืน 5 ช่อง ณ จุดนี้ ข้อมูลไม้ขายที่เหลืออยู่จริงคือยังไม่จับคู่ จะเป็นแบบนี้ ขาย 3.84 1000 3,831.78 ขาย 3.8 1000 3,791.87 ขาย 3.76 1000 3,751.95 ส่วนราคาขายที่ 3.96, 3.92, 3.88 เราจะซื้อคืนไปหมดแล้ว ................................................................................................ ในขณะที่ ข้อมูลข้อมูลไม้ขายที่เหลืออยู่จริงคือยังไม่จับคู่ ของวิธี dummy จะเป็นแบบนี้ ขาย 3.96 1000 3,951.53 ขาย 3.92 1000 3,911.61 ขาย 3.88 1000 3,871.70 เพราะราคายังลดลงมาเรื่อย ๆ และเราทำการซื้อคืน และขายใหม่ แบบ dummy ในทางบัญชี ไม่ได้ซื้อคืนและขายใหม่ออกไปจริง ข้อมูลไม้ขายที่เหลืออยู่จริง มีตัวเงินจริง ก็จะเป็นแบบข้างบน จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 10:58:36 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมขอแนะนำอย่างนี้แล้วกันว่า ถ้าจะมีทั้งการซื้อและขายในหุ้นตัวเดียวกันในวันเดียวกัน ไม่ควรจะให้จำนวนซื้อกับจำนวนขาย เท่ากันนะครับ ขยายความตามข้อสงสัยกรณีถึงจุดที่ต้องขายที่ bid และซื้อที่ off ส่วนตัวผมแนะนำว่า ให้เลือกขายไปก่อน แล้วรอดูว่ามันจะลงอีกหรือเปล่า ถ้าลงก็ขายไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าไม่ลงแล้ว แล้วรู้สึกกลัวจะเสียหุ้น ก็ซื้อคืนซะ แต่การซื้อคืนนี้ จะต้องซื้อให้ได้ไม่เท่ากับที่ขายไปในวันนะ ซึ่งอาจจะยอมลดเงื่อนไข ที่ว่าจะซื้อคืนเฉพาะไม้ที่ได้ 5 ช่อง เป็น 1. ซื้อคืนมันหมดทุกไม้ที่ซื้อคืนได้ 2. ถ้ามีทิ้งไว้เยอะ ก็ซื้อคืนสัก 2 ไม้ก็ได้   3. ซื้อคืนไม้ที่ได้ 5 ช่อง บวกเพิ่มกับจำนวนที่ใช้ กสงฝ. (หลังจัดสรรแล้ว) ซื้อได้ 4. ซื้อคืนด้วยจำนวนที่ กสงฝ. (หลังจัดสรรแล้ว) สามารถซื้อได้ ซึ่งอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า จำนวนที่ได้ขายไปในวันก็ได้ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 1 ธ.ค. 50 11:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ณ จุดนี้ หรือผมขอเรียกว่ารอบแรก ตามสมมติฐานข้างบนที่เป็นการทำซ้ำในช่วงสั้น ๆ วิธีซื้อคืน 5 ช่อง จะมีเงินแฝง จากการซื้อคือหุ้น 3 ชุด เท่ากับ 250.31 บาท จำนวนหุ้นคงเหลือในมือ 7000 หุ้น เงินสดในมือเหลืออยู่ 11,625.91 บาท เมื่อเราหักเงินแฝงออกไปทั้งจำนวน สมมติว่าเราหักออกไปเก็บสะสมเลย เพื่อเอาไว้ซื้อหุ้นเพิ่ม เงินสดในมือของเราจะเหลือ เท่ากับ (11,625.91 - 250.31) เท่ากับ 11,375.60 ............................................................................................. สรุปคือ วิธีซื้อคืน 5 ช่อง มีหุ้นเหลือ 7000 หุ้น เงินสดเหลือ 11,375.60 มีเงินแฝง 250.31 (แยกต่างหาก) จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 11:08:09 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีพี่แมลงเม่าทนไฟ กับท่านซุนเอครับ .............................................................................................. ส่วนวิธี dummy จะมีเงินแฝง จากการคำนวณสมมติซื้อคืนหุ้น 3 ชุด เท่ากับ 250.31 บาท เหมือนกัน จำนวนหุ้นคงเหลือในมือ 7000 หุ้น เหมือนกัน แต่เงินสดในมือเหลืออยู่มากกว่าคือ 11,734.83 บาท และข้อมูลขายก็จะเหลือต่างกับวิธี 5 ช่อง (เหมือนความเห็นที่ 25) เพราะไม่ได้มีการซื้อขายจริง คราวนี้เมื่อเราสมมติคำนวณเงินแฝง เราก็ต้องหักเงินแฝงออกไปเหมือนกัน เพื่อว่าจะใช้เงินแฝงไปทำงานได้ เงินสดในมือของเราจะเหลือ เท่ากับ (11,734.83 - 250.31) เท่ากับ 11,484.52 ............................................................................................. สรุปคือ วิธีซื้อคืน dummy มีหุ้นเหลือ 7000 หุ้น เงินสดเหลือ 11,484.52 มีเงินแฝง 250.31 (แยกต่างหาก) ตรงจุดเงินแฝงอันนี้จะเป็นข้อสังเกตหลักนะครับ และถ้าคิดค่าคอม วิธี dummy ณ จุดนี้จะประหยัดค่าคอมได้เท่ากับ 48.92 บาท (คิดเฉพาะการซื้อคืนและขายใหม่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง) จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 11:17:21 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คราวนี้สมมติหุ้นกลับตัวขึ้นไป วนรอบเดิมใหม่ ตรงนี้ผมสมมติให้ซ้ำเดิมก่อนในช่วงสั้นนะครับ เพื่อให้ดูง่าย ไม่งั้นตัวเลขจะแปรมาก แต่ผลสรุปก็ยังคงคล้ายกัน ในรอบใหม่นี้ วิธีซื้อคืน 5 ช่องจะมีการขายที่จุด 3.96 1000 , 3.92 1000 , 3.88 1000 เหมือนในรอบแรก เพราะข้อมูลที่จุดเหล่านี้ เราซื้อคืนไปหมดแล้ว และมีการซื้อคืนที่ 3.86 1000, 3.82 1000, 3.78 1000 เหมือนในรอบแรก เพราะข้อมูลซื้อคืนเหล่านี้ก็ได้จับคู่ไปหมดแล้ว แต่จุดต่างคือ จุดขายที่ 3.84 1000, 3.8 1000, 3.76 1000 ในรอบใหม่นี้จะไม่มีการขาย เพราะเราได้ขายไว้แล้ว จะไม่ขายซ้ำ ............................................................................................. ในรอบที่สองนี้ เมื่อขายและซื้อคืนตามข้างต้น วิธีซื้อคืน 5 ช่อง ก็จะมีเงินแฝงเท่าเดิม จากการซื้อคือหุ้น 3 ชุด เท่ากับ 250.31 บาท จำนวนหุ้นคงเหลือในมือ 7000 หุ้น เงินสดในมือเหลืออยู่ 11,876.22 บาท (ก่อนหักเงินแฝงสะสม 2 รอบ) เมื่อเราหักเงินแฝงออกไปทั้งจำนวน สมมติว่าเราหักออกไปเก็บสะสมเลย เพื่อเอาไว้ซื้อหุ้นเพิ่ม เงินสดในมือของเราจะเหลือ เท่ากับ (11,876.22 - 500.62) เท่ากับ 11,375.60 ............................................................................................. สรุปคือ วิธีซื้อคืน 5 ช่อง มีหุ้นเหลือ 7000 หุ้น เงินสดเหลือ 11,375.60 มีเงินแฝง 500.62 (แยกต่างหาก) จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 11:31:36 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนวิธี dummy พอวนรอบใหม่ อันนี้จะทำอย่างไรดี เพราะข้อมูลขายเดิมก็ยังอยู่ ยังไม่มีการจับคู่กันไปจริง ๆ สมมติว่าเราคิดแบบเดิมเลย คือ dummy รอบใหม่ต่อ คิดเงินแฝงจากการขายแล้วซื้อคืน แบบ dummy เหมือนรอบแรก ก็จะมีเงินแฝง จากการคำนวณสมมติซื้อคืนหุ้น 3 ชุด เท่ากับ 250.31 บาท เหมือนกัน จำนวนหุ้นคงเหลือในมือ 7000 หุ้น เหมือนกัน คราวนี้เงินสดในมือที่เหลืออยู่ตามบัญชีเนื่องจากไม่ได้มีการซื้อขายจริงเลย ยังคงเท่ากับ 11,734.83 บาท แต่เงินแฝงจากการคำนวณของเราจะเพิ่มขึ้นแล้ว เพราะเรามีการซื้อคืนแบบ dummy เป็นรอบที่สอง ทำให้เมื่อหักเงินแฝงออกไป เงินสดในมือของเราจะเหลือ เท่ากับ (11,734.83 - 500.62) เท่ากับ 11,234.21 ............................................................................................. สรุปคือ วิธีซื้อคืน dummy มีหุ้นเหลือ 7000 หุ้น เงินสดในบัญชีเหลือ 11,234.21 เนื่องจากเราจะแยกเงินแฝงออกไป 500.62 (แยกต่างหาก) จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 11:42:24 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พอเริ่มรอบที่สอง ของการทำซ้ำ จะเริ่มเห็นประเด็นของเงินแฝง ในวิธีซื้อคืน 5 ช่อง เมื่อทำซ้ำไปเรื่อย ๆ เงินแฝงที่เราหักแยกออกไปเลย จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีตัวเงินจริง ขณะที่เงินสดในมือก็จะไม่ลดลง ขณะที่วิธี dummy เมื่อทำซ้ำไปเรื่อย ๆ เงินแฝงที่เราหักแยกออกไป จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน มีตัวเงินจริง แต่เงินสดในมือจะลดลง เนื่องจากไม่มีการซื้อและขายที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นเงินแฝงที่คำนวณได้ และแยกออกไปสร้างหุ้นตัวใหม่ จะได้มาจากการไปหักจากเงินที่เหลือในมือ ถ้าพูดแบบในกระทู้การบ้าน ลักษณะนี้จะเป็นการกินกระดูกของเราไปเรื่อย ๆ เมื่อทำซ้ำไปหลาย ๆ รอบ เงินแฝงก็จะเพิ่มขึ้น แต่เงินจริงในมือจากการขายหุ้นจะลดลงเรื่อย ๆ เหมือนกัน จุดสำคัญที่ผมคิดคือ เมื่อไม่มีการขายได้เงินมาจริง และไม่มีการซื้อคืนจริง เงินแฝงก็จะไม่เกิดขึ้นจริงด้วย จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 11:48:01 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ในแง่ของประเด็นเงินแฝง ถึงตอนนี้ผมยังคงคิดเหมือนข้างบน แม้จะเป็นเพียงการทดสอบแบบทำซ้ำ แต่เมื่อขยายหรือเปลี่ยนแปลงจุดขายใหม่ ผมยังมองว่าผลจะออกมาคล้าย ๆ กัน เท่าที่ทดลองคำนวณดูเมื่อคืน คราวนี้มาในแง่วิธีการ เวลานำไปใช้จริง สมมติว่าเรา ใช้ dummy แค่สองสามจังหวะที่หุ้นลงล่ะ คือในช่วงที่วิธีซื้อคืน 5 ช่อง มีการซื้อขายไปแล้ว 4 ครั้ง หรือซื้อคืน 2 ชุด และขายใหม่ออกไป 2 ไม้ ตรงนี้วิธี dummy เราไม่ซื้อขายจริง แต่เรากำหนดว่าจะไปซื้อขายจริง ณ จุดใดจุดหนึ่งที่ต่ำลงไปอีกสักนิด เช่น ขาย 3.96 10000 3.92 1000 3.88 1000 ขณะที่วิธีซื้อคืน 5 ช่อง มีข้อมูลแบบนี้เพิ่มขึ้นมา ซื้อ 3.86 1000 3,868.26 - ขาย 3.84 1000 3,831.78 ซื้อ 3.82 1000 3,828.17 - ขาย 3.8 1000 3,791.87 ซื้อ 3.78 1000 3,788.09 - ขาย 3.76 1000 3,751.95 แต่วิธี dummy เราไม่มี คราวนี้สมมติเราจะกำหนดจุดซื้อคืนจริงเพิ่มขึ้นมา คือมีการซื้อคืนจริงเข้ามา ถ้า ราคาลงไปที่ สมมติว่า 3.74 คล้ายกับที่คุณ Jab ยกมา ว่าลงไปซื้อคืนที่ข้างล่างที่ 2.14 ล่ะจะเป็นอย่างไร จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 11:56:11 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตรงจุดนี้ในแง่ของวิธีการผมคิดว่าทำได้ แต่ในแง่ของแนวคิด เมื่อมีการกำหนดจุดซื้อขึ้น และมีการเข้าซื้อจริง เท่ากับว่า วิธีที่ทำอยู่ ลดความเป็น dummy ลงแล้ว แต่จะไปพ้องกับวิธีการซื้อคืนช้า ที่กำหนดจุดซื้อแน่นอน แทน พอเข้าลักษณะซื้อคืนช้า หรือมีลักษณะผสม เราคงจะเอาข้อดีของการที่ลดค่าคอม ฯ ลงได้ ไปเปรียบเทียบกับวิธีซื้อคืน 5 ช่อง คงไม่ถนัดนัก อีกอย่างหนึ่งคือ ในแง่ของการปฏิบัติจริง ถ้ากำหนดว่าใช้ dummy บางช่วง และมีจุดซื้อคืนจริงด้วย ข้อดี คือ คราวนี้จะมีเงินแฝงเกิดขึ้นจริงแล้ว ไม่มีการกินกระดูกตัวเอง แต่ข้อสังเกตคือ การคำนวณเงินแฝง ต้องเอาให้แน่นอนว่า จะคำนวณอย่างไร ไม่งั้นจะทับซื้อนกันได้ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 12:07:15 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ส่วนประเด็น การไม่ขายหุ้นออกไปจริง เวลาที่หุ้นตกมาก แบบที่พี่หมูและพี่คนล่าห่าน ยกขึ้นมา อันนี้โดยส่วนตัวผมเห็นด้วยนะครับ โดยเฉพาะถ้าไปเทียบกับวิธีซื้อคืนช้า ผลเสียน่าจะเห็นชัดเจน คือเท่ากับเราไม่ได้ขายหุ้นแดง เหมือนที่พูดไว้ ............................................................................................ แต่พอเช็คตัวเลขกับวิธีซื้อคืนทุก 5 ช่อง อันนี้ในแง่ของมูลค่าพอร์ต ในระยะเวลาสั้น กลับไม่ต่างกันมากครับ โดยเฉพาะถ้าอยู่บนสมมติฐานว่า หุ้นจะกลับตัวขึ้นมาด้วย แต่ในระยะยาว อันนี้ผมยังไม่ได้ดูให้ดี ส่วนในแง่เงินแฝง ก็จะมีข้อสังเกต เหมือนที่ผมพูดมาข้างบน อย่างไรก็ตามในความรู้สึกส่วนตัว ถ้าหุ้นลงชัดเจน ผมยังค่อนข้างคิดว่าน่าจะขายนะครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 12:14:18 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สุดท้ายนี้ ข้างบนที่ผมพูดมาทั้งหมด เป็นแค่มุมมองของผมเองในขณะนี้ เท่าที่ได้ไปนั่งคิดมาเมื่อคืน อาจมีข้อผิดพลาดอยู่มาก ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ และก็อยากขอบคุณ คุณ Jab อีกสักครั้งนึง ที่ประเด็นนี้ ช่วยเตือนให้ผมรู้ตัวเองว่า ผมยังคงเป็นแค่นักเรียนน้อยอยู่เหมือนเดิม ขอบคุณจากใจจริงครับ DSM จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 1 ธ.ค. 50 12:17:11 A:125.27.166.99 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ความเห็นส่วนตัวโดยไม่อ่านของคนอื่น คือ คุณ Jab Father อยากซื้อคืนและขายออก โดยไม่จ่ายค่าต๋ง ซึ่งตามหลักการค้าจริงๆแล้ว ไม่ใช่ครับ เนื่องจากหุ้นเป็นเหมือนของ ถ้าไม่ขายออกไปจริง แล้วซื้อคืนจริง ก็ไม่ได้กำไรส่วนต่างครับ แล้วแถมจะได้ความสับสน กลับมาเป็นของแถมด้วยครับ คำตอบ คือ "การจับคู่" ครับ จากคุณ : กึ่งสำเร็จรูป - [ 2 ธ.ค. 50 11:00:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณครับพี่ๆ ทุกท่านที่ให้มุมมอง จะเก็บไปทบทวนแล้วนำไปใช้ต่อ และ ขอบคุณ พี่ คนล่าห่าน ตรงนี้แหละที่ผมไม่แน่ใจ --------------------------- อย่าไปยึดติว่าห่าง 5 ช่องแล้วซื้อคืนทันที   ให้ซื้อคืนในวันที่เขียวแล้วมีช่องห่าง 5 ช่องครับ วันไหนที่เห็นสีแดงให้ไล่ขายอย่างเดียวหรือ ถ้าอดใจไม่ไหวจริงๆ  ให้ขายอย่างเดียว แล้วมาซื้อคืนตอนปิดตลาดครับ --------------------------- อะไรแดง อะไรเรียกเขียว ผมขออนุญาต ยกเป็นกระทู้ใหม่ นะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 50 11:16:57 แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 50 10:43:52 จากคุณ : Jab father - [ 3 ธ.ค. 50 10:40:56 ]