ความคิดเห็นที่ 1 บิดเบือนกลไกตลาด อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ควรทำก็ได้ครับ จากคุณ : GAK - [ 7 ธ.ค. 50 18:47:48 A:58.10.155.182 X: TicketID:160538 ]

ความคิดเห็นที่ 2 .ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเวลาขึ้นมันก็ขึ้นอย่างช้าๆ เวลาลงมันก็ลงอย่างช้าๆเหมือนกัน ที่ว่าให้ราคาขึ้นอย่างช้าๆ แล้วคนจะมีเวลาปรับตัว ก็กลัวว่าจะไม่ปรับตัวกันนะซิ แต่จะเคยชินกันไปมากกว่า เช่น ต้องขึ้นจาก 10 บาทไป 14 บาท ถ้าใช้วิธีขึ้นเดือนละ บาท พอถึงเดือนที่สี่ จะไม่รู้สึกว่าแพง เพราะขึ้นจากเดือนที่แล้วแค่บาทเดียว แต่ถ้าขึ้นที่เดียว 4 บาท กลับจะรู้สึกว่าแพง จากคุณ : delight - [ 7 ธ.ค. 50 19:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปล่อยไปตามกลไกตลาดดีกว่าครับ จากคุณ : Bomb308 - [ 7 ธ.ค. 50 19:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าจะหวังให้น้ำมันขึ้นบ้างลงบ้าง และจ่ายตรงค่าเฉลี่ย สุดท้ายก็ไม่ต่างจาก แนวการใช้เงินกองทุนน้ำมันเลยมังครับ คือน้ำมันขึ้นกองทุนก็จ่าย น้ำมันลง กองทุนก็เก็บเงิน ก็ไม่ต่างจากที่ผ่านมา แต่ถ้าน้ำมันมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น และส่วนมากราคาน้ำมันทรงตัวอยู่เหนือเส้น ค่าเฉลี่ย และใช้วิธีแบบจขกท. กองทุนน้ำมันก็จะขาดทุนบักโกรกและต้อง ออกพันธบัตรกู้ชาติอีกหลายชุดมังครับ ก็คือถ้าจะหาทางเลี่ยงไม่ให้ ประชาชนจ่ายค่าน้ำมันตามจริง ก็ต้องมีคนมาจ่ายแทนให้อยู่ดีครับ ไม่มีใคร เสกให้ส่วนต่างราคาน้ำมันนั้นหายไปได้อะ เพราะฉะนั้นสุดท้ายวิธีที่ดีที่สุดคือพลังงานทดแทน และการประหยัด จากคุณ : umdadevil - [ 7 ธ.ค. 50 19:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 น้ำมันซักวันคงจะหร่อยหรอจนเป็นทรัพยากรหายาก ตอนนั้นหากไร้ซึ่งพลังงานทดแทน รับรองได้ว่าประเทศไทยปั่นป่วนแน่ๆ ฉะนั้นผมเห็นด้วยกับคุณ#4 อยากเห็นไทยเป็นชาติแรกที่สามารถเอาน้ำมันไบโอดีเซล100% ไปใช้ผลิตไฟฟ้า/ใช้แทนน้ำมัน/ก๊าซธรรมชาติ เป็นชาติแรกจัง จากคุณ : ํYoko_Machi - [ 7 ธ.ค. 50 20:39:19 A:124.120.163.90 X: TicketID:157129 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าพลังงานทดแทนเกิดยากครับ  น้ำมันแพงก็จริง  แต่ก็มีช่วงที่ราคาลง  ถ้าใครลงทุนกันพลังงานทดแทนพอน้ำมันลงก็เจ๊ง  พอเจ๊งแล้วน้ำมันก็ขึ้นอีก ถ้าจะให้พลังงานทดแทนได้เกิดจริงต้องทำให้ราคาน้ำมันสูงตลอด จะมีคนลงทุนกับพลังงานทดแทน และคนก็จะหันมาใช้พลังงานทดแทน  แต่ถ้ารัฐบาลไหนทำอย่างที่ผมว่าจริงสงสัยโดนด่าเละ  เพราะระหว่างที่พลังงานทดแทนยังไม่พร้อมชาวบ้านจะลำบากมาก จากคุณ : marupong - [ 7 ธ.ค. 50 21:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 7 ธ.ค. 50 22:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ้าว ที่ใช้น้ำมันแพงกว่าปกติ 3-4 บาท ก็เพราะ ไปกำหนดราคามันนี่ไง กองทุนเป็นหนี้  9 หมื่นล้าน ต้องทะยอยใช้ 2 ปีกว่า มานี่ไงครับ ลืมแล้วเหรอไง น้ำมันแพงมัน ก็ต้องปล่อยไปครับ เวลามันแพงก็ แพงทั้งโลก เท่ากันหมดครับ ไม่มีใครในโลกได้เปรียบ เสียเปรียบ ครับ จากคุณ : งำงำ มีดบิน - [ 7 ธ.ค. 50 23:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบคุณ คห4 ค่ะ "ถ้าจะหวังให้น้ำมันขึ้นบ้างลงบ้าง และจ่ายตรงค่าเฉลี่ย สุดท้ายก็ไม่ต่างจาก แนวการใช้เงินกองทุนน้ำมันเลยมังครับ คือน้ำมันขึ้นกองทุนก็จ่าย น้ำมันลง กองทุนก็เก็บเงิน ก็ไม่ต่างจากที่ผ่านมา" ต่างกันค่ะ ไอเดียนี้  มีจุดประสงค์ เพื่อ รักษาระดับราคาขายของน้ำมัน ให้เปลี่ยนแปลงตามจริงในระยะยาว แต่ไม่แกว่ง คือไม่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น ผลคือ ราคาจะไม่มีพีคที่สูงเกินไป  จนทำให้ราคาสินค้าต้องกระเทือนขึ้นๆ(แต่ไม่)ลงๆ นี่คือที่มาที่ต้องปรับราคาขายตามค่าเฉลี่ย ของเดิมน่ะ  เขาตั้งกองทุน เพื่อกดราคาให้ต่ำแค่ช่วงหนึ่ง โดยลดราคาขายลงคงที่ เช่นชดเชยสัก 2 หรือ 3 บาท ก็ชดเชญคงที่อยู่อย่างนั้น ราคาขายต่ำลง  แต่ก็แกว่งตามราคาตลาดโลก สุดท้ายชดเชยไม่ไหว  ต้องเก็บเงินคืน  ก็เก็บคงที่อีก อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แม้ราคาจะขึ้นสูงมาก  มาถึงพีค  ก็ยังเก็บเงินคืนสูงๆ  พาลให้ราคายิ่งสูงมาก ไม่ได้มีการจัดการให้เหมาะสมเลย ความจริง ถ้าได้วิเคราห์ ทางเทคนิคสักหน่อย  ก็จะรู้ว่าราคาน้ำมันกำลังทำยอดสูงสุดในช่วงนี้ แล้วก็จะพักตัว ลดลงต่อไปเป็นเวลานานพอควร ดังนั้น ช่วงนี้ จึงเป็นช่วงที่ ควรจะชดเชยราคาน้ำมัน ให้ถูกลง   เพื่อไม่ให้พ่อค้า ทั้งหลายปรับราคาสินค้าตามจนสูงเกินไป หลังจากนี้ เมื่อราคลดลงตามจังหวะของมัน  ก็ลดการชดเชย จนหยุดไป เมื่อราคาน้ำมันลดลงต่ำมาก ก็เก็บเงินคืน คือต้องทำให้ถูกจังหวะ ก็เหมือนที่เราซื้อขายหุ้น  ราคาต่ำทยอยเก็บ  ราคาสูงทยอยขาย  อย่างนั้นเลย เมื่ออยู่ในความควบคุมได้ดี  ผลดีก็จะตามมา จากคุณ : sb*star - [ 8 ธ.ค. 50 00:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คห4 ต่อค่ะ "แต่ถ้าน้ำมันมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น และส่วนมากราคาน้ำมันทรงตัวอยู่เหนือเส้น ค่าเฉลี่ย และใช้วิธีแบบจขกท. กองทุนน้ำมันก็จะขาดทุนบักโกรกและต้อง ออกพันธบัตรกู้ชาติอีกหลายชุดมังครับ ก็คือถ้าจะหาทางเลี่ยงไม่ให้ ประชาชนจ่ายค่าน้ำมันตามจริง ก็ต้องมีคนมาจ่ายแทนให้อยู่ดีครับ ไม่มีใคร เสกให้ส่วนต่างราคาน้ำมันนั้นหายไปได้อะ" ย่อหน้านี้  มี 2  ประเด็น 1) กองทุนน้ำมันจะขาดทุน บักโกรก หรือไม่ 2) ต้องมีคนมาจ่ายแทนหรือไม่ ตอบ 1) การกำหนดราคาขาย ตามค่าเฉลี่ย  ก็เพื่อกำจัดการแกว่งเท่านั้น    ราคาจะยังสูงขึ้นหรือลดลง ในระยะยาว ตามจริง    ในทางคณิตศาสตร์  เราจะคำนวณได้ว่า ผลรวมของปริมาณที่อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย    กับผลรวมใต้เส้นค่าเฉลี่ย จะเท่ากัน    ดังนั้น ราคาที่อยู่เหนือ=ชดเชย   จะเท่ากับราคาที่อยู่ใต้เส้น=เก็บเข้า    เมื่อ ทั้งสองส่วนเท่ากัน  จึงไม่มีการขาดทุน    อาจจะมีคนแย้งว่า  ถ้าราคาตลาดขึ้นตลอด ไม่ลงเลย แล้วจะหักกันอย่างไร    คงต้องอธิบายยาว ก็ขอใช้รูปอธิบายแทนค่ะ จากคุณ : sb*star - [ 8 ธ.ค. 50 01:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 2) ต้องมีคนมาจ่ายแทนหรือไม่    ตอบว่า ไม่มีการจ่ายแทน    เงินกองทุน จะไหลเข้าออกตามส่วนต่างของราคาตลาดน้ำมันดิบ  กับราคาเฉลี่ย    ในระยะยาวจะชดเชยกันเป็นศูนย์    ผู้ใช้น้ำมันจะรู้สึกว่าราคามีการเคลื่อนไหว  ที่คาดการณ์ได้ง่าย เช่น ราคาค่อยๆ สูงขึ้น ( เส้นเหลืองในช่วงปี 2003-06)      ราคาค่อนข้างคงที่ ( ช่วงกลางปี 2006- กลางปี2007 )      ราคาลดลง  ( คาดการณ์ ปี 2008-09 ) จากคุณ : sb*star - [ 8 ธ.ค. 50 01:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบ คห1  และ คห 3 กลไกตลาด คือ อะไร  ทำหน้าที่อย่างไร ในกรณีการขายน้ำมัน  คือ การแข่งขันของผู้ค้า ควบคุมให้ราคาอยู่ในจุดสมดุลย์ การปรับชดเชยให้ราคาอยู่ที่ค่าเฉลี่ย ไม่มีผลกระทบตรงนี้ เพราะเป็นการปรับทั่วทั้งหมดจากต้นทาง   ผู้ค้ายังสามารถตั้งราคาขายแตกต่างกันได้โดยอิสระ ในกรณีราคาน้ำมัน  คือ การเปลี่ยนแปลงระดับการบริโภค การใช้ค่าเฉลี่ย ก็คือ มีการเปลี่ยนแปลงตามจริง ไม่บิดเบือน รวมทั้งไม่ถูกบิดเบือนจากการเก็งกำไร ที่ทำให้ราคาแกว่งสูงต่ำเกินจริงด้วย ผลคือ  การบริโภคจะปรับตัวได้ตามความเป็นจริง  ในเวลาที่เหมาะสม โดยสรุปแล้ว จะได้ผลดีกว่าการ ไม่จัดการ ( ไม่ทำอะไร แล้วอ้างว่า ปล่อยตามกลไกตลาด ) จากคุณ : sb*star - [ 8 ธ.ค. 50 02:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้ ปตท ก็ทำอยู่แล้วนิ   เวลาน้ำมันขึ้นไปแรง ปตท ก็รอแล้วรอเล่าให้แน่ใจจริงๆ ค่อยขึ้นราคาน้ำมันไงครับ อิอิ อันนี้น่าจะชม ไม่ยักกับมีใครชม ปตทบ้างเลยว่าทำเพื่อคนไทย พอเวลาน้ำมันลง ปตท ก็จะลดราคาน้ำมันช้าหน่อย  อิอิแต่จะโดนด่าไว้ก่อนประจำ ฮ่าๆๆ ว่าไม่ช่วยไทย จากคุณ : งำงำ มีดบิน - [ 8 ธ.ค. 50 12:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอหน่อยแล้วกัน  อย่าหาว่า เชียร์ทักกี้เลย  แต่ผมมองความคิดบางอย่างของเขาว่าดี ในกรณีน้ำมัน ทักกี้ เคยเสนอ เรื่องการเป็นคลังน้ำมัน ให้กับรัสเซีย  คราวนี้ อย่าพึ่งอคติ ครับ มาดูกัน การทำตัวเป็นคลังน้ำมัน ก็เหมือนกับที่สิงคโปร์ทำ แล้วมันดีไหม ???  (จะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับคนทำด้วย ตรงนี้ต้องอย่าลืม) ผมมองว่า การเป็นคลังน้ำมันมันก็มีประโยชน์  อีกอย่าง รัสเซียเอง ก็เป็นแหล่งน้ำมันของโลก เช่นกัน   ประโยชน์อื่นๆ ผมคงบอกมากไม่ได้ เพราะเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ที่ยังไม่ชัดเจนในการพิสูจน์ให้ประจักษ์  แต่การทำตัวเป็นคลังน้ำมันแบบ สิงคโปร์ มันชัดเจนครับ ส่วนกรณีของ จขกท  นั้น ก็คงไม่ต่างกับการตรึงราคา ซึ่งทำมาตั้งนานแล้ว จนเกิดกรณีลอยตัว เพราะอุดเงินไม่ไหว  และเป็นปัญหากองทุนน้ำมันจนปัจจุบันนี้  ถ้ากลับไปทำอีก ก็คงซ้ำรอยเดิมอีก พลังงานทดแทนเป็นเรื่องน่าสนใจ เคยดูสารคดี เรื่องการผลิตไฟฟ้าตามบ้านของญี่ปุ่น เขาก็ทำ  ถ้ารัฐบาลสนับสนุนก็คงเป็นเรื่องดี  เหมือนกับมด เวลาขนของใหญ่มันก็จะใช้มดหลายๆ ตัวมาช่วยกัน   ถ้าผลิตไฟฟ้าในบ้านเป็นทางเลือกในราคาที่ไม่แพง และถ้ามีคนสนใจร่วมกันทำมากขึ้น ๆ และมากขึ้น ก็เหมือนกับมีมดหลายตัว  แต่ กฟผ จะยอมเหรอ เมื่อรายได้ลดลง   สุดท้ายก็ต้องมาลงตรงจุดที่ว่า อย่าขายแพง และอย่าขาดทุน ครับ จากคุณ : หมูทุบ (pork) - [ 8 ธ.ค. 50 16:39:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วิธีการของ จขกท. เป็นเรื่องเฟ้อฝันไม่สามารถปฏิบัติได้จริงเพราะมีโอกาสสูงที่จะถูกการเมืองเข้าแทรกเพื่อหาคะแนนเสียงหรือถูกกดดันจนน้ำมันเป็นสินค้าการเมืองซึ่งในยุคสมัยหนึ่งการปรับขึ้นราคาน้ำมันสามารถทำให้รัฐบาลล่มได้ อีกประการหนึ่งก็คือถ้าเรากดราคาไม่ให้สูงนานเกินไปมีโอกาสสูงเช่นกันที่น้ำมันราคาถูกจากประเทศไทยจะทะลักไปขายแพงที่สิงคโปร์ จากคุณ : alien1200 - [ 8 ธ.ค. 50 20:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 #14 น่าจะมอง Side Effect ด้วยนะครับ ข้อดีอาจจะเป็นอย่างที่ท่านบอก ข้อเสียคือ จะกลายเป็นนำประเทศเข้าไปเลือกฝ่ายโดยไม่จำเป็น คำถามคือ อะไรที่มีผลกระทบทางด้านลบต่อเนื่องมากกว่า ระหว่างการปรับทัศนคติในการใช้น้ำมันโดยผู้บริโภคต้องปรับตัวกันมากหน่อย กับการนำประเทศเข้าสู่เหตุที่อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งแบบนั้น ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่มีกำลัง หรือนัยสำคัญอะไรมากมายนะครับ ในระดับนานาชาติ เรายังคงเป็นแค่ประเทศเล็กๆ ที่แม้แต่กับประเทศเพื่อนบ้าน (อย่างประเทศทางซ้ายมือในแผนที่) เราก็ยังต้องก้มหัวให้เลย จะให้ไป "เลือกข้าง" อะไรขนาดนั้น เพื่อให้เราได้ใช้น้ำมันถูกลง มีความจำเ็ป็นมากแค่ไหนครับ? ถึงแม้ว่ามหาอำนาจเก่าอย่างรัสเซียจะไม่น่าเกรงขามเท่าเมื่อก่อน แต่การเอาตัวไปเลือกข้างแบบนั้น ผมว่าละเอียดอ่อ่นมากนะครับ ข้อเสียสำคัญ (อีกข้อนึง) ของรัฐบาลที่แล้วในความเห็นของผมคือ ไม่ยอมคิดให้รอบคอบ ไม่ฟังมุมมองที่เห็นต่างออกไป  เน้นแต่ความรวดเร็วจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องยาวนานครับ ผมขอไม่พูดถึงประเด็นอื่นๆ ที่มีคนวิจารณ์กันไปเยอะแล้ว เพื่อบรรยากาศที่ดีนะครับ ส่วนวิธีที่เจ้าของกระทู้เสนอ ผมยังนึกไม่ออกว่า หลักการต่างจากกองทุนน้ำมันที่เราทำอยู่ยังไง จากคุณ : BoogieBug - [ วันรัฐธรรมนูญ 09:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สนับ สนุน 14 และแย้งกับ 16 ผมถือว่า เป็นการค้าเสรี ไม่ใช่การเลือกข้าง อย่างไรก็ตาม เรายังเป็นมิตรกับ อเมริกาอยู่ อีกอย่างฝั่ง อเมริกา หรือ อาหรับ ขายน้ำมันแพงทำไม เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกซื้อของถูกไม่ใช่เหรอ ถ้าเราเป็นฮับน้ำมันจริง อุตสาหกรรม ต่อเนื่องก็จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรงกลั่นน้ำ ปิโตรเคมี ยา อาหาร รถยนต์ และอื่นๆอีกมากมาย ฝันๆๆๆ ตื่นๆๆๆ ความมั่งคั่งของประเทศจะตามมา อย่าคิดมาก พอเพียง พอเพียง ท่องไว้ เอ้า NGO มาแย้งเรื่องสิ่งแวดล้อมหน่อย สำหรับ จขกท แล้ว เห็นว่า ควรจะปล่อยเสรีครับ ปล่อยไปตามกลไกการตลาด อย่างไรก็ตาม น้ำมันไม่มีวันลง มีแต่จะขึ้นไปข้างหน้า เพราะ นับวันจะหมดไปและหายากขึ้น เราเองควรพัฒนา พลังงาน ทดแทนได้แล้ว จากคุณ : u5canoe - [ วันรัฐธรรมนูญ 10:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยังออกความเห็นเชิงลึกไม่ได้ครับ เพราะน้ำมันราคาลิตรละ 30 บาท มีส่วนผสมจาก =  ต้นทุนบริหาร + ต้นทุนน้ำมัน + ขนส่ง + ค่าการตลาด + ภาษี ในสัดส่วนเท่าไรบ้าง มันเป็นแดนสนทยามานานแล้วครับ คนรู้ก็ไม่กล้าออกมาเปิดเผย ว่าทำไมราคาน้ำมัน ไม่ได้คิดจากสัดส่วนต้นทุน แต่ใช้อ้างอิงราคาตลาดสิงคโปร์แทน ส่วนตัวเห็นด้วยกับจขกท.นะครับ เพราะว่า 1. ลดการ panic ของประชาชน 2. ทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ ซึ่งทั้งสองประเด็นเป็นเป้าหมายที่สำคัญมาก ในการบริหารเศรฐกิจประเทศ แต่ผมยังไม่ได้ศึกษาว่าเส้น Moving Average จะส่งผลลัพท์ทำให้ Offset ราคา = 0 (ศูนย์) บาท หรือไม่ ผมขอเปรียบเทียบกับ สมการถดถอยเส้นตรง (Linear Regression) ในการทำสถิติ เส้น Linear Regression จะทำให้ผลรวมค่า offset ของตัวอย่างที่สุ่มมา มีค่าเท่ากับ ศูนย์ แล้วถ้าหาก Moving Average มีคุณสมบัติเทียบเคียงกับ Linear Regression ได้ ผมว่ากองทุนน้ำมันเพื่อการนี้ จะไม่ขาดทุนแน่นอนครับ จากคุณ : ตี๋แกงป่า - [ วันรัฐธรรมนูญ 12:23:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 5# น่าสนใจนะครับ มีคนกะลังถกประเด็นในเรื่องไบโอดีเซลยู่พอดีที่ห้องราช http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6102412/P6102412.html จริงๆแล้วพลังงานทางเลือกน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่านะครับ(โดยส่วนตัวผมเอง) จากคุณ : GusZ - [ วันรัฐธรรมนูญ 18:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นด้วยเนอะ ต้องโทษตัวเราเองที่ อธิบายไม่เก่ง จากคุณ : sb*star - [ 11 ธ.ค. 50 00:33:40 ]