ความคิดเห็นที่ 1 มูลค่ากับราคาไม่เหมือนกันนะครับ จากคุณ : Bomb308 - [ 12 ธ.ค. 50 16:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 KTB ไครว่าเป็นหุ้นvalueครับ จากคุณ : Rey Elessar - [ 12 ธ.ค. 50 16:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามที่คุณ Bomb308 ว่าครับ จขกท อาจจะสับสนระหว่างมูลค่าของหุ้นกับราคาของหุ้นนะครับ ราคาหุ้นของ 2 ตัวที่ว่าถูกผลักด้นด้วยอะไรครับ ถ้าเป็นพี่ คลายเครียด (ถ้าผมจำสับสนก้อขออำภัยพี่ คค ไว้ล่วงหน้านะครับ) คงจะบอกว่าแรงกรรมเป็นตัวผลักดัน ถ้าเราเข้าใจแรงกรรมที่ผลักดันก้อจะทำให้เราเข้าใจได้ว่า ราคาของหุ้น ณ ขณะนั้นเป็นไปตามมูลค่าใดๆ ที่กิจการจะทำได้ หรือจะสามารถสร้างได้ในอนาคต (ถ้าคาดการณ์ได้ถูกต้องจริง) หรือแรงกรรมอื่น ถ้าเป็นแรงกรรมอื่นมันจะอยู่ได้นานแค่ไหนกันละครับ เพราะสุดท้ายในระยะยาว ราคามันก้อต้องสนองตอบต่อผลการดำเนินงานของกิจการนะครับ จากคุณ : ผมไม่ล้านนะ แค่หน้าผากกว้าง - [ 12 ธ.ค. 50 16:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หุ้น A ราคา 5 บาท จ่ายปันผล 50 สตางค์ กำไรต่อหุ้นโตปีละ 40% กับ หุ้น B ราคา 6 บาท ไม่จ่ายปันผล มีขาดทุนสะสม ยังไม่เห็นแววทำกำไรใน 2-3 ปีนี้ หุ้นตัวไหนมีคุณค่ามากกว่าครับ? จขกท คงเห็นแล้วว่า คุณค่้าไม่ใช่ราคา จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 12 ธ.ค. 50 17:32:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จริงด้วย คุณค่า มูลค่า กับ ราคา นี่ก็คนละตัวกันอย่างสิ้นเชิงนะครับ ^^" จากคุณ : Bomb308 - [ 12 ธ.ค. 50 17:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จขกท คงต้องหาความรู้ให้มากขึ้นก่อนลงทุน จากคุณ : แม่เรือพ่วง - [ 12 ธ.ค. 50 19:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หุ้นคุณค่าตามความเห็นของผมคือมีพื้นฐานดี มีกำไร แล้วตามมาด้วยปันผล มีโอกาสเติบโตในอนาคต ROE & PE ใช้ได้ ทั้งหมดอยู่ใน KTB ไม่ใช่เหรอครับหรือคุณคิดว่าไง จากคุณ : @MP@ - [ 12 ธ.ค. 50 19:53:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อย่างที่หลายๆ คนบอกว่าคุณ จขกท คงสับสนระหว่างราคา กับ มูลค่า หุ้น KTB และ IRPC มี VI มองว่าเป็น Value stock ด้วยเหรอครับ ? อย่างสมัยก่อนที่ยังเป็น TPI มีคนเชียร์กันจนล้นบอร์ด  ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกที่เล่นข่าวเท่านั้น  ส่วนคนที่เขาใช้ปัจจัยพื้นฐานไปจับ  ผมเห็นส่วนใหญ่มีแต่บอกว่าราคาหุ้นตอนนั้น โค ต ร แพง  ไม่ได้มีความดึงดูดให้เข้าไปซื้อเลยแม้แต่น้อย   สรุป เป็นหุ้นที่ VI ไม่นิยมถือ  ดังนั้น VI คงไม่แย่หรอกครับ  คนที่แย่ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ซื้อเพราะไปฝันหวาน  จากข่าวการออกจากแผนฟื้นฟูฯ และการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของ PTT และพันธมิตร จากคุณ : GS Mobile - [ 12 ธ.ค. 50 20:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอแซวหน่อยนะครับ.............................. จาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน มูลค่า  [มูนละ-, มูน-] น. ค่าของสิ่งของ, ราคาของสิ่งของ, เช่น   ถวายจตุปัจจัยมีมูลค่า ๓๐ บาท. ราคา  น. มูลค่าของสิ่งของที่คิดเป็นเงินตรา; จํานวนเงินซึ่งได้มีการชําระหรือ ตกลงจะชําระในการซื้อขายทรัพย์สิน, โดยปริยายหมายความว่า ค่า, คุณค่า ตกลง"ราคา" คืออะไรแน่ ผมชักงง.......................................... นักเศรษศาสตร์ในนี้พอจะช่วยให้คำนิยามหน่อยได้ไหมครับ ขอบคุณ แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 50 22:26:12 จากคุณ : b n' b (K.nobody) - [ 12 ธ.ค. 50 21:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จขกท ต้องหาความรู้เพิ่มนะครับ เดี๋ยวอยู่ในตลาดได้ไม่นาน จากคุณ : *Tan* - [ 12 ธ.ค. 50 21:13:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบคุณ K.nobody ครับ สำหรับ VI แล้ว มูลค่าในที่นี้หมายถึงมูลค่าที่แท้จริงในทางทฤษฏี(Intrinsic value) ซึ่งคำนวณขี้นจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานว่า เป็นราคาที่เหมาะสมภายใต้สมมติฐานที่กำหนด(เช่น ผลตอบแทนเทียบเป็น %, อัตราการเติบโตของผลตอบแทน ฯลฯ) ราคา ก็ ราคาหุ้นวันนี้แหละครับ VI ซื้อหุ้น เมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่าที่คำนวณได้ ส่วนต่างของราคาและมูลค่าจะถูกเรียกว่า ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย(Margin of safety) ว่ากันตรงๆก็คือ เผื่อซื้อราคาต่ำไว้หน่อย เพื่อที่คำนวณไว้มันผิด หรือ เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 12 ธ.ค. 50 22:58:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เหมือนเพื่อนผมมีความเข้าใจว่าหุ้นวิ่งเร็วๆขึ้นเยอะๆ นี้เป็นหุ้นที่ดี และว่าหุ้นที่ไม่ยอมไปไหนว่าเป็นหุ้นไม่ดีจะเก็งกำไรอย่างเดียว ผมคิดว่าเพื่อนผมไม่ผิด เป็นเรื่องปกติเพราะ เป็นธรรมชาติของนักลงทุน ที่ต้องเก็งกำไร แต่ผมไม่ชอบเขาที่ดูถูก value invester ว่าไม่สามารถใช้ในตลาดไทยได้ ซึ่งผมมั่นใจว่าสามารถใช้ในตลาดไทยได้ แต่ต้องเข้าใจในธุรกิจเขาให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง การลงทุนใน  style vi ต้องอ่านตำราหลายเล่มและต้องศึกษาเป็นระยะเวลายาวนาน จากคุณ : value invester (value invester) - [ 12 ธ.ค. 50 23:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หุ้น KTB และ IRPC มี VI มองว่าเป็น Value stock ด้วยเหรอครับ ? จากคุณ : GS Mobile +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เห็นด้วยกับพี่ GS Mobile ข้างบน มองไม่เห็นตัวเร่งในหุ้นทั้งสองเลยครับ จากคุณ : สี่คูณสอง - [ 12 ธ.ค. 50 23:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณคุณ Panote ที่ช่วยชี้แจง ว่าหมายถึงIntrinsic value ผมแปลคำนี้ว่ามูลค่าที่แท้จริงคงจะถูก(จะคำนวณมาอย่างไรก็ช่างเถิด) คราวนี้ก็คงเป็นประเด็นว่า เราเริ่มมีหลากหลายความเห็นที่เห็นต่างกัน นักบัญชีบอกว่าต้องใช้มูลค่าตามบัญชี+ค่านิยมนั่นละราคาจริงซื้อขายได้ บางคนที่ลงทุนระยะยาวบอกว่า ไม่ได้ต้องทำ แผนระยะยาว 5ปี 10ปีของบริษัท แล้วหา Net present value มาเป็นราคาปัจจุบัน จึงจะเป็นราคาที่ถูกต้อง นักเศรษฐศาสตร์บอกราคามันขึ้นอยู่กับ demand-supply ตอนdemand ท่วม PER 20เท่าก็ซื้อ ตอนไม่สนใจ 6เท่าก็ไม่ซื้อ นักเทคนิคบอกราคาปัจจุบันของมัน รวมเหตุผลทุกอย่างไว้ในนั้นแล้ว (จริงๆก็คงไม่ถูกเท่าไร ตลาดมันไม่สมบูรณ์ขนาดนั้น) ผมแน่ใจว่าถ้าให้ทุกนักฯข้างต้นทำราคาของบริษัทหนึ่ง ราคาจะออกมาไม่เหมือนกันเลย แต่ผมเห้นว่าราคาปัจจุบันนั้นเป็นมูลค่าอ้างอิงได้มากที่สุด ไม่มีประโยชน์ที่เราจะบอกว่าราคาทองหมื่นสามวันนี้มันปั่นชึ้นมา ไม่นานมานี้ยังเก้าพันอยู่เลย ถ้าเราจะซื้อมูลค่าของมันก็ต้องตามราคาวันนี้จึงจะซื้อได้ (ไม่อย่างนั้นเราก็จะต้องเสี่ยงรอ ซึ่งอาจจะแพงกว่าหรือถูกกว่าก็ได้) จากการที่มูลค่า(ราคา)มันเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา คงต้องทำแบบนักบัญชีทำงบกระมังครับ ที่ต้องกำกับว่าณ.เวลาไหน เรื่องราคานี่น่าสนุกนะครับ วันหลังมาถกกันยาวๆสักที ขออภัยเจ้าของกระทู้ขอยืมที่ตอบคุณhouse (panote_saechiew) ขอบคุณ จากคุณ : b n' b (K.nobody) - [ 13 ธ.ค. 50 00:41:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าเราคุยกันต่อก็ได้ครับ หนุกดี ^_^ พูดถูกเป๊ะ เลยครับ K.nobody VI 100 คนทำ valuation บริษัทเดียวกันก็ได้ค่าไม่เหมือนกัน เผลอๆผิดไปคนละโยชน์ด้วย อ้าว! แล้ว VI จะมานั่งหา Intrinsic Value ทำไมล่ะ? คำตอบคือมันเป็นราคาที่จะให้ผลตอบแทนเมื่อเป็นไปตามสมมติฐานครับ ยกตัวอย่าง ผมเดาว่า SNC จะมีกำไรปีหน้า 1.07 บาท และตลาดจะให้ค่า SNC ที่ PE 14 ผมจะได้มูลค่าแท้จริงของ SNC คร่าวๆ ที่ 15 บาท ผมต้องการผลตอบแทน 15% ผมจะได้ว่า ผมต้องซื้อ SNC ในราคาไม่เกิน 13 บาท ถ้าสมมติฐานนี้เป็นจริง สมมติว่า ราคา SNC วันนี้ 11 บาท แปลว่าถ้าซื้อที่ีราคานี้ผมมี MOS ระดับหนึ่งละ คือแม้ตลาดให้ PE แค่ 13 ผมก็ยังไม่ขาดทุน หรือ กำไรตกลงมาแย่กว่าคาดเหลือแค่ 0.9 ผมก็ยังกำไรนะ แต่เนื่องจากเมื่อวาน ราคาปิดมัน 13 บา่ท เพราะฉะนั้น ถ้าซื้อราคานี้ MOS ก็น้อยมาก ผมจะได้ผลตอบแทนตามต้องการต้องห้ามคำนวณผิดพลาดเลย ซึ่งเมื่อ MOS น้อยๆอย่างนี้ VI หลายๆคนก็จะขอนั่งดูดีกว่า ไม่ซื้อละ อ้าว! แล้วถ้าราคามันขึ้นไปอีกล่ะ? ไม่ตกรถหรือ? คำตอบก็คือ ยอมตกรถครับ เพราะถ้าคุณคำนวณถูก ซื้อราคานี้คุณได้กำไรน้อยกว่า 15% ซึ่งเป็นเป้าหมาย ถ้าคำนวณผิด อาจถึงขาดทุน หาตัวอื่นที่ราคายังไม่สะท้อนมูลค่าดีกว่า ถ้ามันลงล่ะ? ได้เวลาอัดเงินที่เหลือลงไปไงครับ เพราะผลตอบแทนล็อตหลังต้องเกิน 15% แหงๆ เนื่องจากได้ของมากขึ้นในราคาที่ถูกลง เราึคิดกันแบบนี้แหละครับ จากคุณ : house (panote_saechiew) - [ 13 ธ.ค. 50 09:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณhouse (panote_saechiew)ส่งหุ้น SNC มาให้ดู แถมอธิบายในแง่กลยุทธ์มาให้ด้วย ก็ต้องขอสารภาพว่าไม่เคยเข้าไปดูลึกๆในหุ้นตัวนี้เลย คุยกันเล่นๆแบบขี่ม้าเลียบค่ายคงได้ นักลงทุนจริงๆเขาคงขำ เพราะถ้าไม่เจาะลึก ลงทุนแบบนี้คงหมดตัว ไม่เป็นไรเพราะคุณhouseเป็นคนลงทุนก็คงต้องเป็นคนเจาะลึก ผมค่อนข้างเห็นใจนักลงทุนระยะยาว เพราะเดิมพันค่อนข้างสูง ลงเงินไปแล้วก็ต้องรอผลเป็นปี การได้เสียระดับ 30-50% เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเวลามีผลที่ไม่ดี Insider ก็จะขายนำไปก่อน ส่วนเราต้องรอผลประกอบการว่าจะเป็นตามที่คาดการณ์หรือไม่ ซึ่งก็มักจะช้าเกินไปที่จะแก้ไขอะไรได้ SNC ที่เลือกมาเยี่ยมมากครับ เพราะปีนี้ธุรกิจเครื่องแอร์เป็นพระเอกในการส่งออกของประเทศ ไม่แน่ใจว่า SNC ทำส่งออกด้วยหรือไม่ ในแง่ผู้ถือหุ้นก็ดี มีกองทุนต่างชาติถือหุ้นด้วยค่อนข้างมาก ผมว่าบริษัทที่มีต่างชาติถือหุ้นด้วย งบการเงินค่อนข้างโปร่งใส ดูงบการเงิน3-4ปีที่ผ่านๆการเติบโตของกำไรเยี่ยมมากครับ 05 +55.5%, 06 +33.68%, 07f +~40% ใครที่ถือหุ้นตัวนี้มานานแล้ว ก็คงนั่งยิ้มไปแล้วครับ คงได้กำไร 300-500% ไปแล้ว จากนี้ไปก็คงต้องถือเป็นยุคที่สองของหุ้นตัวนี้ละครับ ต้องถือว่าเริ่มจากเพิ่มทุน 100ms.@ 12.30 เราก็คงต้องถือว่าราคาฐานใหม่ อยู่ตรงนี้ละครับ บริษัทแจ้งว่า40%ของเงินเพิ่มทุนนำไปขยายกำลังผลิต ปีแรกการผลิตคงไม่เพิ่มมากนักคงไปเพิ่มปีที่สองเต็มที่ปีที่สาม ราคาวันนี้ปิด 12.9บาท ถ้าเราจะวางแผนไว้ดังนี้ เป้าหมาย 2ปี กำไร50% ประมาณกำไรปี 51โต 20%(4เท่าของGDP 51 เยี่ยมมากแล้ว) =275 ล. กำไรต่อหุ้น 0.91บ./หุ้น PE= 14.17 (301.4ล.หุ้น) ประมาณกำไรปี 52โต 25% = 344 ล. กำไรต่อหุ้น 1.14บ./หุ้น PE= 11.31 (301.4ล.หุ้น) ผมเห็นว่าหุ้นตัวนี้อดีตเคยเล่นกันที่ PE 7-9 เท่า (ปี04-06) ดังนั้นราคา 12.9บาท นี้ไม่น่าจะถือว่าถูก อาจต้องถือถึงสามปี เว้นแต่กำไรบริบัทนี้จะก้าวกระโดดอย่างที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ว่าปี 51 กำไร ~390 ล.(โต 70%ท้าทายทีเดียว) PE จะเป็น 10เท่าพอดี เราก็คงจะได้กำไรในปี 52 ถ้าบริษัทสามารถทำกำไรเพิ่มได้ต่อเนื่อง จะเห็นว่าก็คงจะเหนื่อยอยู่เหมือนกัน เพราะบริษัทต้องกำไรสูงอย่างมาก ดูเทคนืคดีกว่า จะเห็นการกระชากขึ้นของราคามารับการเพิ่มทุน ผมว่าจะซื้อรอให้มันหลุดออกจากกรอบสามเหลี่ยมก่อนดีกว่า ให้ชัดเจนก่อนว่าจะขึ้นเหนือหรือลงใต้ ตรงกพ.07 (1)มีคนแอบเก็บไป20ล.หุ้น ที่ 5บาทเศษกำไรนับเลขไม่ถูกไปแล้วครับ ตรง(2) ก็มีการทำกำไรแยะพอสมควร น่าอิจฉามาก เดื๋ยวผมจะเก็บไว้นิดหน่อยจะได้ไว้จำที่คุยกันวันนี้ อีก2ปีจะดูว่ากำไรมันจะเป็นอย่างที่เราคิดหรือไม่ สวัสดีครับ จากคุณ : b n' b (K.nobody) - [ 13 ธ.ค. 50 22:35:31 ]