PANTIP.COM : I6133958 วันจันทร์ต่างชาติน่าจะขายหุ้นมาก อย่าเพิ่งรีบเข้าไปรับ ! [หุ้น]

ความคิดเห็นที่ 11

16 ธันวาคม พ.ศ. 2550 18:00:00

"รสนา"นำทีมแถลง เตรียมยื่นร้องศาลปกครอง 17ธ.ค. ให้ออกคำบังคับคดีกระบวนการประเมินทรัพย์สินชัดเจน หวั่นฮั้วกัน เสนอคนกลางเป็นกก.ประเมินทรัพย์สิน ค้านนำเข้าครม. 18 ธ.ค.หวั่นฮั้วอุ้ม

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : น.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำสมาพันธ์เพื่อผู้บริโภค พร้อมตัวแทนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และทีมผู้ฟ้องคดีแปรรูปปตท.ต่อศาลปกครอง ประกอบด้วย น.ส.สาลี อ๋องสมหวัง และน.ส.สายรุ้ง ทองปลอม ร่วมกันแถลงข่าว

น.ส.รสนา กล่าวว่า จากคำสั่งศาลปกครองที่พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ร่วมกันกระทำการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐ ออกจากอำนาจและสิทธิของผู้ถูกฟ้องคดี ให้เสร็จสิ้นก่อนการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน 2550 ซึ่งกำหนดภานใน 120วัน แต่ขณะนี้ รัฐบาล และปตท.ะรวบรัดประเมินทรัพย์สินให้เสร็จภายใน 18 ธ.ค. และจะมีการซื้อขายหุ้น ปตท.ในวันดังกล่าวด้วย

ดังนั้น ในพรุ่งนี้(17 ธ.ค.) เวลา 15.00 น. ทีมผู้ฟ้องคดีจะไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ออกคำบังคับกับผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ ถึงกระบวนการในการประเมินทรัพย์สิน รวมทั้งออกคำบังคับจะต้องทำอะไรบ้างในเรื่องการกำหนดมูลค่าทรัพย์สิน รวมทั้งสิทธิการวางท่อปิโตรเลียมก็ต้องให้ระบุรายการสิทธิในที่ดินว่ามีอะไรที่ไหนบ้าง

"ไม่ใช่แค่ 32 ไร่เท่านั้น เพราะยังมีส่วนอื่นๆ เช่นท่อส่งก๊าซไทย-มาเลเซีย ท่อส่งก๊าซไทย-พม่า ซึ่งมีเครือข่ายใยแก้วด้วย มูลค่ามหาศาล เพราะคำพิพากษาที่ออกมาไม่ได้ระบุวิธีการ ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ฮั้วกันได้"

น.ส.รสนา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในเรื่องการแยกอำนาจสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจาก ปตท. ซึ่งจะรวมถึงอำนาจในการเวนคืน การรอนสิทธิ รวมถึงอำนาจในการผูกขาด ซึ่งเป็นสิทธิที่จะต้องเอาคืนให้รัฐก็ไม่มีรายละเอียดในคำพิพากษา ทำให้การปฏิบัติในการบังคับคดีอาจจะทำให้การคุ้มครองสาธารณประโยชน์ไม่เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล

นอกจากนี้ จะขอให้ศาลมีคำคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้มีการถอดเอสพีหุ้น ปตท.ในวันอังคารนี้ เพื่อคุ้มครองทั้งประโยชน์สาธารณะ และผู้ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากทรัพย์สินยังประเมินไม่เรียบร้อยทำให้เราไม่รู้มูลค่าหุ้นที่แท้จริงของ ปตท. หากเทรดไปแล้วอาจมีปัญหาขึ้นมาในภายหลังได้

ส่วนเรื่องการตั้งทีมการประเมินทรัพย์สินนั้น จะต้องมีความโปร่งใส บุคคลต้องไม่มีหุ้นเกี่ยวข้องกับ ปตท. แต่มีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ 14 คน จาก 29คนมีหุ้นในปตท. จึงเสนอให้นำสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) สำนักงานความรับผิดทางแพ่งของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตัวแทนสภาทนายความ นักวิชาการที่มีความรู้เรื่องการประเมินมูลค่าและการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเข้ามา และควรให้ตัวแทนผู้ฟ้องคดีเข้าไปร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้วย การที่รมว.คลัง ระบุจะให้กรมธนารักษ์มาประเมินทรัพย์สินนั้น อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นกรรมการปตท. และมีหุ้น ปตท.ด้วย อาจมีปัญหาความเป็นกลางได้

ทางด้าน น.ส.สาลี กล่าวว่า ขอประกาศว่าเราจะเดินหน้าแน่นอนในการติดตามการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของ ปตท.ที่ต้องคืนต่อรัฐตามคำพิพากษา เราไม่อยากเห็นการตีมูลค่าทรัพย์สินเหมือนของ กฟผ.ที่สุดท้ายแล้วประเมินทางบัญชีเหลือบาทเดียว ซึ่งหวังว่าครั้งนี้ควรจะเป็นการประเมินมูลค่าที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่ทางบัญชี ซึ่งรัฐบาลยังมีเวลา 120 วัน ไม่ต้องรีบร้อน และต้องไม่เอาบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีหุ้นใน ปตท.เข้าไปดำเนินการ

"หวังว่า รัฐมนตรีคลังจะทำหน้าที่อย่างดี ไม่มีการฮั้วกัน และเรื่องสิทธิการวางท่อก๊าซก็ไม่ใช่มีแค่ 3เส้นเท่าที่ศาลยกตัวอย่างเท่านั้น แต่เชื่อว่ามีหลายเส้นทั้งใต้ดิน และทะเล จึงต้องมีกระบวนการที่ดีและคนที่ไม่ผลประโยชน์เข้าไปมีส่วนในการประเมิน"

ขณะที่ น.ส.สายรุ้ง กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลไม่สามารถประเมินและแบ่งแยกทรัพย์สินได้ชัดเจน การจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ครม. วันที่ 18 ธ.ค.นี้ จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้องชอบธรรม เพราะ รมว.คลัง รมว.พลังงาน และปตท.แถลงร่วมกันจะนำเรื่องเข้าสู่ครม.และจัดการให้เสร็จสิ้นภายใน 18 ธ.ค. เหมือนสร้างละครมาตบตา

"แต่ในที่สุดท้าย ปตท.ก็กลับสู่สภาพเดิม จึงหวังว่ารัฐบาล และกระทรวงการคลังจะไม่ฮั้วกับ ปตท. ดังนั้นถ้ายังแบ่งแยกทรัพย์ไม่ได้ชัดเจนก็ไม่ควรนำเรื่องเข้าสู่ครม.เพื่อไปสร้างความชอบธรรมให้ ปตท." น.ส.สายรุ้ง กล่าว

ที่มา
http://www.bangkokbiznews.com/2007/12/16/WW10_WW10_news.php?newsid=211918

จากคุณ : ยังไม่จบ - [ 16 ธ.ค. 50 20:29:44 A:172.16.3.205 X:203.146.104.32 TicketID:144714 ]