PANTIP.COM : I6139248 ราคาที่เหมาะสม PTT จะไปอยู่ตรงไหน หลังคำพิพากษา []

ความคิดเห็นที่ 12

เดี๋ยวจะคิด มูลค่าที่หายไป แบบบ้านๆให้

ท่อก๊าซ ที่ต้องโอนไป มีมูลค่าประมาณ 47,000 ล้าน
จาก 100,000 ล้าน คิดเป็น 47 % (โอนแค่ท่อ 3-4 เส้น ก่อนแปรรูป )

ตรงนี้ book หายไป 47000/2800 = 16.78 บาทต่อหุ้น
แต่ book มันขึ้นๆลงๆ ทุกวัน แล้วแต่จะคิด
ผมว่าวันนี้หุ้นลง 18 จุด book PTT ลดลงจาก PTTEP ATC TOP RRC IRPC มันลง ทำให้ book ลดลง มากกว่า 17 บาทซะอีก

book PTT วิ่งไปมาระหว่าง 80-120 ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
แต่ราคาหุ้น PTT ก็ไม่เคยต่ำกว่า 300 ในช่วงหลังๆ

book ไม่ใช่ประเด็น แต่ที่ลดลง คือ ความสามารถในการทำกำไร

เดิมสร้างท่อมา เก็บเงินค่าผ่านท่อได้ ปีละ 20,000 ล้าน
แต่ต่อไปนี้ ต้องจ่ายค่าเช่า

ถ้าเป็นไปตามการเช่าราชพัสดุ เป็นไปตาม กรมธนารักษ์คิดราคาค่าเช่า

ค่าเช่า จะเท่ากับ 1- 5 % ของรายได้

best case ค่าเช่า 1 %จะเท่ากับ 0.01 x 20000 x 0.47

47 คือ เปอร์เซ็นต์จำนวนท่อก๊าซที่โอนกลับ
= 94 ล้านบาทต่อปี

worst case ค่าเช่า 5 % จะกระทบกำไร 470 ล้านต่อปี

หารจำนวนหุ้น 2800 ล้านหุ้น ก็ตกประมาณ 0.04 - 0.17 บาทต่อหุ้น

คิดค่าเช่าย้อนหลัง 5 ปี ก็ไม่กลัว ลดไปไม่ถึง 1 บาท

แต่ที่จริง ปตท จะเช่าอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ สักวันก็ต้องประมูล

หักค่าเช่าแล้ว ปตท ได้ประโยชน์ ประมาณ 0.975*0.47*20000
= ปีละ 9165 ล้าน จากท่อที่ตัวเองไม่ใช่เจ้าของมาตลอด 5 ปี

ปตท ลงทุนสร้างไป 47000 ล้าน ได้ประโยชน์ปีละ 9000 ล้านจากตรงนี้ งั้นให้ ปตท เช่า 5 ปีก็แล้วกัน ปตท ก็จะได้ประโยชน์ไปชดเชยค่าท่อที่ตัวเองสร้างมา

หลังจาก 5 ปีนี้ไป ให้เปิดประมูล

ถ้าเป็นอย่างที่ผมว่า สรุปก็คือ
book จะลด 17 บาท จากการตัดจำหน่ายท่อก๊าซ
แต่ก็คิด intangible asset สิทธิ์การเช่า มาชดเชยได้เกือบจะพอดี

และ 5 ปีแรก รายได้จะลดไป 0.17 บาทต่อหุ้น จากค่าเช่าต่อปี
และอาจมีค่าเช่าย้อนหลัง 0.85 บาทต่อหุ้น
และค่าภาษี = 10000/2800 = 3.5 บาทต่อหุ้น
จ่ายครั้งเดียวจบ ( วันนี้ ปตท ยื่นเรื่องขอ งดเว้นภาษีอยู่ )

แต่ หลังจาก 5 ปีไป แย่หน่อย
เพราะต้องไปประมูลเช่าท่อ จากที่เคยได้กำไร 90 กว่า % (เพราะตัวเองเป็นคนสร้าง คนลงทุน เลยได้สิทธิ์เช่าจากรัฐ 5 ปี )

การประมูล อาจทำให้มี net profit เหลือ 10 % หรือน้อยกว่า ตามหลักการดำเนินธุรกิจแบบแข่งขัน

จากที่เคยได้ 20000 ล้าน ก็อาจเหลือแค่ 2000 ล้าน
หายไป 18000/2800 = 6.42 บาทต่อหุ้น เลยทีเดียว
แต่กว่าจะส่งผลร้าย ก็จนกว่า สิทธิ์การเช่าจะหมดลง

ทั้งหมดนี้ผมเดา แต่ก็มีหลักการอยู่บ้าง
อ้างอิงหลัก การสร้างสาธารณูปโภคให้รัฐ แล้วคืนแก่รัฐในระยะเวลาที่กำหนด
(เหมือนทางด่วน การท่าอากาศยาน รถไฟฟ้า )

ตัวแปรพรุ่งนี้ จึงอยู่ที่ จะได้เช่า ในราคากี่บาท ยิ่งถูกยิ่งดี
และสิทธิ์การเช่า นานกี่ ปี ยิ่งนานยิ่งดี

หรือถ้าเช่าแพงหน่อย แต่ได้สิทธิ์ยาวๆ ก็คุ้ม

วิธีคิดตามนี้ คือกระทบ แค่ 5 บาทต่อหุ้น เพราะภาระภาษี และค่าเช่าย้อนหลัง ส่วน book และกำไรกระทบน้อยมาก
______________________________________________
ส่วนคนที่บอกว่า กระทบ 100 บาทต่อหุ้น

เพราะเค้ามองว่า โอนท่อไปทุกเส้นเลย ทำให้ book ลด แสนล้าน คือ 35 บาท
นอกจากนี้ กำไร หายไปทุกปี จากค่าผ่านท่อ 20000 ล้าน คิดเป็น 7.14 บาทต่อหุ้น

คิด PE 10 เท่า ราคาเหมาะสม ก็หายไป 71.4 บาท บวกกับที่ book ลดไป 35 บาท มันก็ลดไป ประมาณ 100 บาท

แต่วิธีแรก ใกล้เคียงแน่ๆ เพราะศาลก็บอกเองว่า ปตท ได้สิทธิ์เช่าต่อ

แต่ก็ยอมรับอยู่เหมือนกัน ว่า หลังสิทธิ์การเช่าหมดลง กำไรปตท ก็ลดลง อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคงต้องหวัง การเจริญเติบโตของบริษัท เป็นตัวชดเชย

พรุ่งนี้ พอเราได้ข่าว ค่าเช่า กับ ระยะเวลาได้สิทธิ์ เราก็คำนวนคร่าวๆ ได้เลย ไม่ต้องรอนักวิเคราะห์

แต่ถ้า ค่าเช่า เป็นหน่วย คิดตาม อัตราการไหล ตามปริมาตร
อย่างนี้ต้องแปลงหน่วยหน่อยนึง

จากคุณ : จิตผู้รู้ - [ 17 ธ.ค. 50 20:33:46 ]