ความคิดเห็นที่ 1 ใช้ความรักของทั้งสองคนจัดการครับ จากคุณ : เงินไม่เกี่ยว - [ 18 ธ.ค. 50 13:17:39 A:117.47.211.62 X: TicketID:155883 ]

ความคิดเห็นที่ 2 (มาก + น้อย) / 2 = กลายเป็นค่าเฉลี่ย สำหรับครอบครัวเดียวกันครับ จากคุณ : pjuk - [ 18 ธ.ค. 50 13:22:56 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แค่ ๔๐๐๐๐ เองเหรอ ของเค้ามากกว่าแฟน ๙๐๐๐๐ แฟนเลยต้องนวดให้ก่อนนอนทุกคืนเลย คริ คริ จากคุณ : หย่ายสุดในบ้าน - [ 18 ธ.ค. 50 13:23:58 A:124.120.106.72 X: TicketID:078229 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าเงินเดือนผู้หญิงมากกว่า ก็พยายามช่วย โดยใช้เงินซื้อของส่วนตัว หรือ ออกค่าใช้จ่ายเบ็ตเล็ด ต่างๆ ในบ้าน หรือ ช่วยค่าใช้จ่าย ลูก ๆ ก็ดูดีนะครับ จากคุณ : A - [ 18 ธ.ค. 50 13:24:22 A:58.136.126.49 X: TicketID:123592 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก็คือถ้าพูดถึงเรื่องนี้ใครๆก็ต้องน้อยใจเป็นธรรมดาครับ มีหลายอย่างที่เงินซื้อไม่ได้นะครับ. จากคุณ : burinpun - [ 18 ธ.ค. 50 13:24:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นสามีภรรยากันแล้วแค่เรื่องเงินหากตกลงกันไม่ได้ก็แยกทางกันเดินเถอะ เรื่องน้อยใจของสามีอาจจะมีบ้าง แต่ยุคนี้ หากเอาเรื่องนี้มาถกเถียงกันมันไม่ค่อยดีนะสิทธิชายหญิงมันเท่ากัน ประสาอะไรที่เมียมีตังมากกว่าสามี การตกลงเรื่องเงินก็ไม่ยากทำบัญชีค่าใช้จ่ายในบ้านขึ้นมา เงินเดือนที่ได้มาก็หักมารวมเป็นเปอร์เซนต์ที่เท่าๆกันมารวมเป็นกองทุนส่วนกลางใช้จับจ่าย เงินเดือนส่วนที่เหลือก็ไปใช้จ่ายส่วนตัวไป และต้องดูแลบัญชีอย่างเข้มงวดกฏกติกาเคร่งครัดทั้ง2ฝ่าย จากคุณ : Yoko_Machi - [ 18 ธ.ค. 50 13:24:56 A:124.120.169.68 X: TicketID:157129 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การเก็บเงิน เท่าที่เห็นมา ผู้หญิงเป็นคนเก็บจะดีกว่าให้ผู้ชายเก็บ หรือใช้คนละกระเป๋า ก็เก็บไว้ส่วนตัว 20000 แล้วเป็นกองกลางอีก 20000 ดีไหมคะ(สำหรับคนเพิ่งเริ่มต้นชีวิตคู่) ห้ามออกคำสั่ง คือห้ามทำตัวเป็นผู้นำเด็ดขาด คือผู้หญิงแม้จะเด่นกว่า ฉลาดกว่า ก็ต้องแกล้งโง่บ้างค่ะ เพราะผู้ชายส่วนมากชอบบงการ แต่ไม่ชอบถูกบงการ อยากได้อะไร ให้อ้อนวอนขอเหมือนต้องการความช่วยเหลือจากเขา เขาจะได้รู้สึกว่า เขาสำคัญ(อันนี้ผู้ชายฝากบอกมา) เป็นสาเหตุว่าทำไมผู้ชายชอบผู้หญิงพูดจาไพเราะ ที่สำคัญที่สุดคือ เจ๊ต้องไม่แสดงท่าทีข่มเขา หรือดูถูกเขาค่ะ ห้ามเห็นว่าเงินเดือนเขาน้อยด้อยค่าด้วย อย่างเช่น เขาเงินเดือน 20000 แต่เป็นเงินเก็บได้แค่ 3000 เจ๊ก็ไปว่าเขาฟุ่มเฟือย ใช้เงินเปลือง ไม่รู้จักเก็บ เพราะเจ๊เก็บได้เยอะกว่า เพราะเจ๊เก็บได้ 5000 เป็นต้น จากคุณ : เบบี้โรส (เบบี้โรส) - [ 18 ธ.ค. 50 13:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่น่ามีปัญหานะ อย่างพวกหมอ หรือหมอทันตสาวๆ คงมีแฟนเปงพนักงานบริษัทมั้งแหละ จากคุณ : Heinz (Heinz) - [ 18 ธ.ค. 50 13:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คือว่า........ความรัก  เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คน  2 คนสามารถอยู่ร่วมกันได้ แต่ถ้าจะบอกว่า..............." เงินไม่เกี่ยว "   ก็อาจเป็นเรื่อง "อุดมคติ" มากเกินไป เพราะชีวิตจริง  ไม่ใช่นิยาย ความรักอาจจืดจางได้  และความรักไม่ได้ทำให้ " ท้องอิ่ม" น้องสาว (ญาติ)  ก็แต่งงานกับชายหนุ่มที่เงินเดือนน้อยกว่าและน้อยกว่า มาตลอด  ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่าฝ่ายชายมีความกระตือรือล้นน้อยกว่าที่ควรเป็น แต่......ถ้าถามว่า  เขามีความสุขไหม โดยรวมก็ยังดูดีอยู่ค่ะ แต่เรื่องภายใน ครอบครัว  ทะเลใจไม่ทราบ ไม่เคยยุ่ง  มีอะไรช่วยได้ก็ช่วยค่ะ ตอนนี้น้องสาวก็เหนื่อยค่ะ ทำงานหนัก ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ  แม้จะช่วยกันแต่ คนรายได้มากกว่าก็ต้องจ่ายมากกว่าอยู่ดี ทั้งนี้คือ เขายังไม่มีลูกกันนะคะ  เพราะมีแล้ว เขาบอกว่าเลี้ยงไม่ไหวแน่ ๆ คุณคงต้องตกลงกันให้ดีๆ ว่า  รายได้ของใคร  ใครเก็บ ต่างคน ต่างเก็บ และมีสวนหนึ่งเป็นบัญชีร่วม  ส่วนไหนเป็นรายจ่ายรวม ส่วนไหนเป็นรายจ่ายแยก ควรทำให้ชัดเจน  ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายนะ แต่เรื่องเงิน ทอง เป็นของสำคัญ ไม่เข้าใคร ออกใคร  เหมือนกัน     เชื่อว่ามีหลายคู่ที่ ไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลย อยู่ร่วมกันได้ดี มีความสุข แต่บังเอิญว่า คนใกล้ตัวดูเหมือนจะมีปัญหา ในอนาคต  หน้าที่การงานของเขาอาจก้าวหน้ามากกว่าคุณก็ได้   แต่กรณีน้องเรา  คงต้องฟันธงว่า " หมดสิทธิ์ "  เพราะนิสัยน้องเขยเราไม่ค่อยขยันเอาซะเลย  งานบ้านยังไม่ค่อยช่วยน้องสาวเราทำ เห็นแล้วยังรุ้สึกเบื่อแทนน้องสาวเลยค่ะ ขอให้คุณโชคค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 50 20:58:14 แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 50 14:00:36 จากคุณ : ทะเลใจ (ทะเลใจ) - [ 18 ธ.ค. 50 13:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องแบบนี้ ผมว่า ผมเคยคิดเอาไว้ประมาณว่า เอาเงินเดือน(ไม่รวมงานนอก) 50% ยังไม่หักค่าใช้จ่ายของทั้งคู่ เช่น คุณ + แฟน = 30000 บาท.....แล้วเอามาลบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่มีร่วมกัน บ้าน รถ ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ(กรณีแต่งงานแล้วนะคับ ถ้ายังก็เงินใครเงินมัน) ถ้าหักลบแล้ว เหลือเท่าไหร่ เอาไว้เป็นเงินเก็บ(เพื่ออนาคตของลูกคุณ)....ส่วนที่เหลืออีกคนละ 50 % เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ให้จัดการเอง เพราะแต่ละคนก็มีค่าใช้จ่ายที่มันบอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่(ไหนจะเลี้ยงดูพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายอีก) แบบนี้แฟร์กว่า แต่....กรณีนี้เฉพาะคนที่แต่งงานแล้วนะคับ ถ้ายัง ก็แล้วแต่ว่าจะเริ่มสร้างร่วมกันป่าว โดยไม่เกี่ยวกับเงินเดือนของกันและกัน เช่นทำอะไรร่วมกันแล้วเอาเงินตรงนั้นสะสม...... จากคุณ : dark leklek - [ 18 ธ.ค. 50 13:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 งั้นคุณก็ไปบอกเจ้านายคุณให้ลดเงินเดือนลงมาเท่ากับแฟนคุณ ดีไหม๊ เอิกๆๆๆๆ ล้อเล่นน่ะครับ   อย่าคิดมากไปเลยครับ ว่าแฟนคุณจะน้อยใจ  เมื่อแต่งงานเป็นครอบครัวแล้ว รายได้ของทั้งสองก็ต้องมาสร้างครอบครัวด้วยกัน  คนไหนได้มากก็จ่ายค่าใช้จ่ายส่วนกลางมากหน่อย ก็เท่านั้น อย่าคิดเล็กคิดน้อย  จะหมางใจกันเปล่าๆ   ส่วนมากผู้ชายหาเงินได้มากกว่าก็ให้เงินภริยาใช้บ้าง  อย่างกรณีคุณ หาเงินได้มากกว่าก็ให้เงินสามีคุณใช้บ้าง จะเป็นไรไปล่ะ  แต่ผมว่าสามีคุณคงไม่เอาหรอก จากคุณ : นิธิพจน์ - [ 18 ธ.ค. 50 13:42:48 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ของผมใช้ระบบกองกลางครับ เอาเงินมาลงเท่ากันคนละส่วน (เพิ่มทุนให้กับเงินบ้าน)ไม่ได้ตายตัวว่าเท่าไหร่ต่อเดือน ใช้จ่ายในบ้านเก็บจากเงินตรงนี้ นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายของใครก็จ่ายกันเองครับ เก็บกันเองเอง จากคุณ : huamei - [ 18 ธ.ค. 50 13:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เพื่อนผมเป็นผู้ชาย แต่งงาน เมียทำงานคนเดียว ส่วนตัวเขาเป็นแม่บ้าน ดูแลลูกเล็กๆ สองคน พร้อมกับทำงานบ้านด้วย ผมก็เห็นเขามีความสุขดีนะครับ ผิดกับผมตัวคนเดียว งานก็ไม่ได้ทำ เมียก็ไม่มี ลูกก็ไม่ต้องเลี้ยง ตอนแก่จะลำบาก จากคุณ : mar รุ่นเก๋า - [ 18 ธ.ค. 50 13:53:13 A:125.25.129.42 X: TicketID:122020 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมไม่มีเงินเดือนซักบาท อยู่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว ไม่เห็นจะรู้สึกน้อยใจอะไร รู้สึกหงอยๆ บ้างก็ตอนหุ้นตก จากคุณ : tobacco - [ 18 ธ.ค. 50 14:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณเบบี้โรส คห.๗ พูดได้ถูกต้องครับ (แต่ผู้ชายที่ทำตัวเป็นปลิงก็มีครับ ให้ระวังดีๆ) จากคุณ : อนาคิน (Invincible_man) - [ 18 ธ.ค. 50 14:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผม 7 หมื่น ภรรยาผม 12000 บาท ยังอยู่กันได้แบบ happy เพราะเงินที่ได้ ก็เพื่อครอบครัวและลูก   ;) จากคุณ : polymerman - [ 18 ธ.ค. 50 14:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 หากการที่เงินเดือนต่างกันมีปัญหาในการจัดการหลังแต่งงาน ผมรับรองได้ว่าชีวิตคู่ของคุณจะมีปัญหาอีกเยอะที่จะต้องจัดการ ทางที่ดีคุณกับแฟนต้องเลิกคิดเรื่องเงินเดือนต่างกันให้หมดจากจิตใจเสียก่อน แล้วถามตัวเองว่ารักเขาหรือไม่ ห่วงเขาหรือไม่ พร้อมที่จะเดินจูงมือไปนรก ด้วยกันหรือไม่.....ถ้าคำตอบว่า รัก ห่วง พร้อม  เรื่องเงินเดือนต่างกันมันเป็นเรื่องขี้หมา...ที่จะจัดการ.... จากคุณ : ข้างบูรพา - [ 18 ธ.ค. 50 14:30:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขึ้นอยู่กับใจกับการกระทำของคุณเอง ผมเงินเดือนน้อยกว่าแฟนทั้งๆที่จบสูงกว่า แต่มีปัญหา ไม่ใช่เพราะผมน้อยใจ แต่เพราะแฟนผมไม่พอใจที่ผมหาเงินได้น้อยกว่า ตอนแรกเงินเดือนผมมากกว่า ก็ไม่มีปัญหาอะไร เค้าถือว่าเป็นเงินของทั้งสองคน แต่พอเงินเดือนเค้าขึ้นไปมากกว่าผม กลับคิดว่าเงินที่เค้าหาได้เป็นเงินของเค้าเพราะหาได้มากกว่า ชีวิตคู่ก็เลยกลายเป็นชีวิตเดี่ยว ตัวอยู่ด้วยกัน แต่เหมือนกับอยู่คนละบ้าน ใช้เงินคนละกระเป๋า ใครหาได้เท่าไหร่ ก็เป็นเงินของคนนั้น หวังว่าคุณคงจะไม่เป็นแบบนี้นะ จากคุณ : ตะวันอิงดอย - [ 18 ธ.ค. 50 14:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ต้องคุยกันนะครับ เพราะเรื่องอย่างนี้ผมว่าผู้ชายมีแนวโน้มจะเก็บมาคิดมาก ผู้ชายส่วนมากนั้น เกิดมาพร้อมกับอุดมคติที่ว่าต้องเป็นผู้นำครอบครัว หากเขาไม่สามารถทำได้ เขาจะเกิดความไม่ภูมิใจในตนเอง แม้จะหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ มาไขข้อติดใจนั้น ก็มักจะไม่สามารถลบมันไปจากใจได้จริง ๆ ต้องคุยกันอย่างเข้าใจครับ คุยเสียตั้งแต่ตอนนี้ คุยให้เคลียร์ อย่างใจเย็น เปิดใจกัน และพยามที่จะเข้าใจซึ่งกันและกันให้มาก ๆ ไว้ครับ จากคุณ : smurfy - [ 18 ธ.ค. 50 14:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คริ คริ คริ เมื่อก่อนเราทำงานกินเงินเดือนก็มากกว่าแฟน แต่งงานกันตอนเขาออกจากงานเดิม มารองานใหม่ด้วย เดี๋ยวนี้เขาเชิญเรามาดูแลบ้าน เงินเดือนเราเลยกลายเป็นน้อยกว่าเลย (เพราะต้องรอเขาแบ่งเงินเดือนมาให้) คำเตือน ถึงแม้แฟนคุณจะเงินเดือนน้อยกว่าก็ไม่เป็นไร แต่ให้นอ้ยในปริมาณที่พอเพียงเลี้ยงคุณ และครอบครัวได้ก็พอนะ 5555 จากคุณ : โซดาจืด - [ 18 ธ.ค. 50 14:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้ามีนายคนเดียวกันความสามารถเท่ากันก็น่าน้อยใจ แต่ถ้าแค่ความรู้ความสามารถต่างกัน..ต้องดูว่าเป็นแฟนกันได้ยังไงก่อน ในเมื่อเป็นแฟนกันได้--เรื่องน้อยใจถ้าจะเกิดมันก็ต้องเกิดหรือน่าจะเกิดก่อนจะเป็นแฟนกันแล้วเพราะเป็นเรื่องที่ควรจะเห็นตั้งแต่แรกแล้ว ฟันธงว่าไม่น่าจะน้อยใจเพราะเป็นเรื่องที่น่าจะคาดกันไว้และทำใจอยู่ก่อนแล้ว จากคุณ : Kingdom of Heaven - [ 18 ธ.ค. 50 15:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เคยเห็นเคสนี้กะตัวเองเลย ถ้าผู้หยิงไม่เอามาพูดมันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ถ้าเอามาพูดเวลาทะเลาะกันหรือคอยทวงบุญคุญตลอด หรือเปรียบเทียบสามีตนเองกะสามีเพื่อน มันเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่มากๆ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 50 15:14:26 จากคุณ : ellipsis - [ 18 ธ.ค. 50 15:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เอาค่าใช้จ่ายรวมในบ้าน หาร 2 ยุติธรรมดี ไม่มีคนจ่ายมากไปหรือจ่ายน้อยไป เงินที่เหลือต่างคนต่างใช้ ต่างคนต่างเก็บ ถ้ามีลูกก็ตกลงกันใหม่ เพราะเป้าหมายชีวิตเริ่มเปลี่ยนแล้ว จะต้องมีเงินค่าใช้จ่ายของลูก"ของเรา" ค่าอาหาร ค่าเล่าเรียน ค่าประกันสุขภาพ ค่า.....ฯ เงินสะสมเผื่ออนาคตของเด็ก :) จากคุณ : WrW - [ 18 ธ.ค. 50 15:15:27 A:124.121.188.49 X: TicketID:160032 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ smurfy คะ เราก็คิดว่า ผู้ชายน่าจะคิดอย่างนั้นค่ะ เราเลยกลัวว่าเค้าจะ น้อยใจหรือเปล่า แต่ตัวเราไม่คิดอะไรค่ะ คุณเบบี้โรส ขอบคุณนะคะ เราก็กะจะทำแบบนี้ค่ะ คือ เอาเงินไว้เป็น กองกลางแล้วแบ่งใช้เท่า ๆ กัน อาจจะคนละหมื่นต่อเดือน เงินที่เหลือ เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ถ้าอยากมีเงินเก็บ ก็เก็บเอาจากที่ได้แบ่งกันนั้นแล้ว คุณ นิธิพจน์ ขอบคุณนะคะ เราสบายใจขึ้นเยอะเลย แล้วก็ขอบคุณทุก ๆ ความเห็นนะคะ ถึงจะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ก็อ่านทุกข้อความ   เลยค่ะ จากคุณ : จขกท. (อิสรภาพของแมวเหมียว) - [ 18 ธ.ค. 50 15:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จริงๆ ก็เป็นประเด็นของคนสองคนเท่านั้นที่คุยกัน แค่คนรอบข้างก็มีส่วนอย่างมาก คิดดูว่า ถ้าเพื่อนหรือญาติบอกว่าแฟนคุณตกถังข้าวสาร จะยอมรับได้ไหม คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูนโดนปล่อยๆ ก็สึกได้เหมือนกัน อย่างที่คุณเบบี้โรสบอก ขึ้นกับคุณอิสรภาพของแมวเหมียวที่จะทำให้แฟนรู้สึกอย่างไร ทุกคนมีอีโก้กันทั้งนั้น อาจจะมากบ้างน้อยบ้าง ดูแลใจกันให้ดีจะช่วยเป็นเกราะป้องกันปัญหาต่างๆ ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 50 15:40:05 จากคุณ : wasansem - [ 18 ธ.ค. 50 15:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หายาก  อย่าแต่งเลยเชื่อเถ่อะ จากคุณ : Ninja'Dad - [ 18 ธ.ค. 50 15:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เราว่า จขกท. คงจะเป็นห่วงความรู้สึกของแฟนมากกว่า มั้งคะ กรณีพี่สาวเราที่แต่งงานแล้ว เค้าไม่บอกแฟนหรอกค่ะว่าเค้าได้เงินเดือนเท่าไร่ มีเงินในบัญชีเท่าไร่ นอกจากกว่า อยากได้อะไร ค่อยคุยกันแล้วก็ตัดสินใจกันว่าจะซื้อหรือไม่น่ะค่ะ ^^ แฮปปี้ๆ ค่ะ จากคุณ : Love in the mist - [ 18 ธ.ค. 50 16:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรียนคุณ #7 ผมเห็นเพื่อนผม บ้านไหนบ้านนั้น สามีเป็นผู้นำ แต่ว่า .... นำตามคำสั่งภรรยา อิ อิ ไม่กลัวเมียแล้วจะเจริญหรือ อิ อิ อิ จากคุณ : สั่งได้ แต่ห้ามบ่น - [ 18 ธ.ค. 50 17:10:26 A:58.8.171.129 X: TicketID:106200 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อืมน ไม่ต้องคิดอะไรเลย แต่งงานกัน ถ้าหากคิดว่าเงินเป็นใหญ่ ความสุขสงบในบ้านคงจะเกิดยาก เงินเป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้นครับ ไม่ใช่ทั้งหมด ควรตัดเรื่องเงินออกจากความคิด ฝ่ายชายน้อยใจได้แต่เก็บไว้ในใจครับ พยายามขวนขวาย ไม่นิ่งดูดาย อะไรอะไรก็น่าจะดีได้ คงเข้าใจนะครับ จากคุณ : บ้านไม้ที่ชายนา - [ 18 ธ.ค. 50 17:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมยังไม่มีเมียครับโสด ขอบคุณทุกคนผมจะจำไว้ใช้ในอนาคตครับ จากคุณ : hunterchon (hunterchon) - [ 18 ธ.ค. 50 17:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไหนๆเป็นคนๆเดียวกันแล้ว ก็เอาเงินรวมกันให้หมดเลยค่ะ เพราะเพื่อครอบครัวเพื่อลูก รวมกันไปเลย แล้วตอนทะเลาะกันห้ามยกเรื่องเงินใครลงมาก ลงน้อยมาเถียงกันนะ ไม่งั๊นบาดใจอีกฝ่ายแน่ ( นอกจากคิดเผื่อไว้ว่าเกิดมีแยกทางกัน อย่างนั้นก็ต้องคิดให้ดีๆอีกที) จากคุณ : อำพันสีทอง - [ 18 ธ.ค. 50 18:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สำหรับผมแล้ว  .. รวมกันทั้งหมดครับ.  ไม่คิดว่าใครได้มาก ได้น้อย เพราะทั้งหมดนั้น ก็เพื่อชีวิตคู่ของเรานั้นเอง   ...  (รักกันมาก ๆ จริงใจกันมากๆ นะครับ ดีที่สุดแล้วหล่ะ) จากคุณ : หนุ่มSMEs - [ 18 ธ.ค. 50 18:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แบบ จขกท ยังห่างไม่มากค่ะ พี่สะใภ้ทำกิจการส่วนตัว เงินเดือนมากกว่าพี่ชายที่รับราชการเป็นสิบเท่า อยู่กันมาร่วมสิบปี พี่ชายทำหน้าที่พ่อบ้านเต็มตัว ทำกับข้าว รับส่งลูก สอนการบ้าน ดูแลซ่อมแซมบ้าน รถ ... ค่าใช้จ่ายใหญ่ๆพี่สะใภ้ออกหมด ลูกหลายคน ค่าใช้จ่ายเยอะเหมือนกัน ก็อยู่กันได้ดีออก อ้อ..พี่เราย้ายไปอยู่บ้านพี่สะใภ้ด้วย เพราะเขาเป็นลูกสาวคนเดียว ถ้ามัวแต่ติดใจเรื่องฐานะ คงไม่ได้อยู่ด้วยกันแน่   อีกอย่าง มีอะไร พี่สะใภ้จะปรึกษาพี่ชายตลอด ทำให้เขาดูมีคุณค่าขึ้นมั้ง (เราว่าเขาฉลาดที่รู้ว่าเขาควรจะวางตัวยังไงน่ะ ^ ^) จากคุณ : saifan - [ 18 ธ.ค. 50 20:13:18 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คิดเหมือนคุณellipsisครับ หากทะเลาะกันแล้ว อย่านำเรื่องนี้มาเกี่ยว ห้ามพูดว่า ภาระทั้งหมดอยู่ที่ฉันนะ ห้ามพูดว่า แค่ฉันหาเงินเข้าบ้านก็เหนื่อยแล้วนะ ทำไมต้องมาทำนั่นนี่อีก ไม่นาน เด่วเขาจะจากไปหาคนที่มองเขาว่ามีคุณค่า หากคุณทำตามตัวอย่างแบบนี้นะคับ จากคุณ : ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง - [ 19 ธ.ค. 50 01:07:50 ]