PANTIP.COM : I6200218 พี่หมีพูหมูพีครับ...สนใจ ttw1 []

ความคิดเห็นที่ 7

ดูแค่ Fund Fact Sheet อย่างเีดียวก็อาจจะทำให้ไขว้เขวได้ ให้ไปโหลดรายงานรอบ 6 เดือนหรือรายงานประจำปีของกองทุนมาอ่านดูประกอบด้วย จะได้เห็นคอมเม้นท์ของบลจ.ต่อการจัดการกองทุนนี้ว่าเขามีความเห็นอย่างไร และในรอบครึ่งปีที่ผ่านมาเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง นอกจากนี้ยังดูได้อีกว่ากองทุนเขาไปลงทุนในหุ้นอะไรไว้บ้าง เป็นหุ้นที่เราชอบไหม หรือไม่ชอบเลย (แต่ก็ยังอุตส่าห์มีไว้ในกองทุนอีก) เขาลงทุนในสัดส่วนเท่าไหร่ ลงทุนในหุ้นกี่ตัว เขาจะแจกแจงเป็นหุ้นรายตัวเลย นอกจากนี้ยังได้เห็นค่าใช้จ่ายของกองทุนด้วย ถ้าเก่งบัญชี สามารถดูงบดุล ดูงบกำไรขาดทุนเป็น ก็จะแจ่มมากๆๆๆ จะได้เห็นไส้ในของแต่ละกองทุนเลยล่ะ ว่าเงินของเราไปอยู่ตรงไหนบ้าง แตกกระจายเป็นอะไร ได้กลับคืนมาในรูปไหน ฯลฯ

ถ้าหมีพูต้องเปรียบเทียบเพื่อคัดเลือกกองทุนมาลงทุน หมีพูจะโหลดเอกสารรายงานประจำปี/รายงานรอบครึ่งปีมาดูประกอบด้วยครับ

สำหรับหมีพูไม่ได้ดูที่สาระสำคัญว่ากองทุนนั้นเป็นกองหุ้น หรือกองผสมแบบยืดหยุ่น แต่ดูจากพอร์ตกองทุนเป็นหลักครับ เพราะปัจจุบันนี้กองหุ้นกับกองผสมแบบยืดหยุ่น ส่วนมากก็แทบไม่ต่างกัน กองผสมแบบยืดหยุ่นบางกองก็ลงทุนหุ้นแบบเต็มที่เลย เหมือนเป็นกองทุนหุ้นซะงั้น อย่างกองทุนเปิด เค หุ้นทุนบริพัตร นี่บอกไว้ในหนังสือชี้ชวนว่าเป็นกองผสมแบบยืดหยุ่น แต่ไปดูพอร์ตกองทุนสิ หุ้นล้วน ๆ เลย เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ตั้งกองทุนแล้วล่ะ หรืออย่างกองหุ้นล้วนอย่างบัวแก้ว นี่กันถือเงินสดติดกองทุนไว้เฉลี่ยที่ 10% ตลอดเวลา (ทำอย่างกับเป็นกองผสม)

หรืออย่างกองทุนหุ้น บัวหลวงธนคม เมื่อก่อนนี้มีเงินสดติดกองทุนมากถึง 25% เลย (น่าจะเป็นกองผสม) มาดูกองทุนในบลจ.ธนชาต อย่างออมสินพัฒนาภูมิภาค (OSPD) ก็เป็นกองทุนหุ้น แต่บางเวลาก็ถือเงินสดเกินกว่า 20% ของกองทุน (เพราะหาหุ้นที่เข้าเงื่้อนไขของกองทุนมาลงทุนไม่ได้ ก็เลยอยู่ในรูปเงินสดแทน) แต่บางช่วงเงินสดในกองทุนก็เหลือ 5% ส่วนธนชาติทุนทวี1 (TTW1) เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น เมื่อก่อนนี้บางช่วงก็มีเงินสดติดกองทุนแค่ 5% แต่ช่วงนี้มีเงินสดติดกองประมาณ 12% ด้วยเหตุนี้หมีพูถึงบอกว่า เดี๋ยวนี้จะดูแค่ชื่อประเภทกองทุนอย่างเดียวไม่ได้แล้วครับ ต้องดูเนื้อในเท่านั้น กองทุนหลายกองบอกว่าเป็นกองทุนหุ้นปันผล แต่พอไปดูหุ้นส่วนใหญ่ที่มีในกองทุนแล้ว แทบนึกไม่ออกเลยว่ากองทุนจะได้เงินที่ไหนมาจ่ายปันผล หุ้นบางตัวเป็นหุ้นเก็งกำไรชัด ๆ ถ้าบอกเป็น "กองทุนหุ้นเก็งกำไร" อาจจะโดนใจมากกว่าอีกแฮะ หมีพูชอบง่ะ (เคยไปอ่านนโยบายกองทุนของทิสโก้ บางกองทุนเขาระบุไว้ชัดเจนเลยนะว่า จะทำกำไรจากการซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นเป็นหลัก โอ้ว...โดนใจสุด ๆ นี่แหละที่หมีพูตามหามานาน)

สำหรับแผนการลงทุนในกองทุนหุ้นปีนี้ของหมีพู จะเน้นทำกำไรเป็นรอบ ๆ ครับ เพราะยังเห็นว่าี่หุ้นกลุ่มพลังงานตัวหลัก ๆ อย่าง หุ้นในกลุ่มปตท. บ้านปู ยังนำตลาดอยู่ (ทั้งขึ้นและลง) แต่บางเวลาอาจะหลบไปพักในกองทุนหุ้นแบบ Value บ้างครับ อย่าลืมนะครับว่าคุณต้องมีกองทุนหุ้นในดวงใจไว้สักสองสามกองทุน เพื่อไว้สลับกันเล่นรอบครับ อาจจะเป็นกองทุนที่เน้นหุ้นตัวใหญ่ ๆ เอาไว้เล่นกินกำไรเป็นรอบ ๆ และอาจจะมีกองทุนหุ้นที่เป็น Value สักกองนึงเพื่อเป็นที่หลบภัย หรืออาจจะเป็นกองหุ้นแบบ passive ที่มีเงื่อนไขพิเศษในการคัดเลือกหุ้น หรืออาจจะเป็นกองหุ้น SET50 เพื่อไว้พักเงินลงทุนชั่วคราว เงินลงทุนที่จะเตรียมลงทุนในกองหุ้น แต่ไม่รู้จะลงทุนในกองไหนดี ก็เอามาพักไว้ในกอง SET50 เพื่อให้เงินลงทุนของเรามันได้เดินไปกับตลาดหุ้น เราจะได้ไม่พลาดจังหวะของตลาดหุ้นทั้งขึ้นและลงครับ นี่ไม่ใช่เรื่องขำขันนะครับ นี่เป็นเรื่องจริงในการจัดการเงินลงทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จะพักเงินที่เตรียมลงทุนในหุ้น เอาไว้ในกองทุนพวก INDEX หรือตราสารที่อ้างอิงกับดัชนีชี้วัด เพื่อผลตอบแทนในระหว่างนั้น จะได้ไม่ฉีกไปจากดัชนีชี้วัดอย่างมีนัยสำคัํญครับ

นอกจากนี้แล้วยังต้องคำนึงถึงเรื่องค่าใช้่จ่ายในการลงทุนด้วยครับ อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด แต่ถ้าอะไรที่ต้องจ่ายให้กองทุน/บลจ. แล้วเราได้ประโยชน์กลับมาคุ้มค่า ก็ควรจ่ายดีกว่านะครับ แต่ถ้าเขาให้ฟรีก็รับไปด้วยความยินดีเถอะครับ เช่นค่าธรรมเนียมการซื้อขายกองทุน (ค่าต๋งเก็บเข้าบลจ.) ถ้าฟรีไ้ด้ก็ดีครับ ค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์(ค่าซื้อขายหุ้นให้กองทุน โดยเก็บเข้ากองทุน เพื่อตกเป็นของผู้ถือหน่วยลงทุนที่ยังอยู่ในกองทุน) ส่วนใหญ่เก็บอยู่ที่ระหว่าง 0.15% ถึง 0.30% นอกจากนี้ก็ดูค่าธรรมเนียมจัดการกองทุนต่าง ๆ ว่าเก็บแพงไปมั้ย ถ้าเขาเก็บถูก แล้วทำผลงานได้ดีอีกด้วย ก็ควรพิจารณากองทุนนั้นไว้ในดวงใจด้วยนะครับ

ส่วนช่องทางในการซื้อขายที่สะดวกหรือไม่สะดวกนั้น ขอให้พิจารณาเป็นเรื่องรอง ๆ ไปครับ เพราะเดี๋ยวนี้ช่องทางในการซื้อขายกองทุนนั้น หลาย ๆ บลจ. ก็พัฒนาอย่างตามทันกันแล้ว หลายที่ตามไล่หลังมากลับทำได้ก้าวหน้าไปกว่ารุ่นเก่า ๆ ซะอีก บางที่ได้ทั้งผ่านตู้เอทีเอ็ม ผ่านโทรศัพท์ ผ่าน FAX ผ่านอินเตอร์เน็ท บางคนไม่ค่อยคุ้นพวกระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็มีบาง บลจ. เปิดบริการให้โทรไปสั่งซื้อขายกับเจ้าหน้าที่บลจ.ได้โดยตรงเลยก็มีนะครับ สะดวกกว่าีอีก ขอให้สนุกและโชคดีในการลงทุนตลอดปีและตลอดไปครับ

จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 4 ม.ค. 51 22:43:53 ]