ความคิดเห็นที่ 1 รู้แต่ว่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริงแปลว่า สินค้าไทยแพงเท่าไรเมืองนอกก็ต้องซื้อ แบบแย่งกันซื้อ เพราะต้องใช้แต่หาที่อื่นไม่ได้ พอได้เงินนอกมาเยอะ บาทก็แข็งเอง ค่าเงินอยากให้แข็งหรืออ่อนตามใจแบบนั้นโดยไม่มีอะไรมารองรับ มีแต่ USA เท่านั้น ประเทศใหญ่ๆอื่นๆยังทำไม่ได้ คิดว่าไทยจะทำได้หรือ จากคุณ : ปลาทู - [ 6 ม.ค. 51 16:13:48 A:58.8.119.88 X: TicketID:116053 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเงินบาทแข็งค่าขึ้นขนาดนั้นอาจจะส่งผลดีต่อการนำเข้า ราคาน้ำมันถูกลงมีการใช้น้ำมันมากขึ้นส่งผลทำบัญชีเดินสะพัดขาดดุลและยังส่งผลแย่ต่อภาคการส่งออก เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น ส่งผลทำให้มีการปิดตัวของกิจการทำให้เกิดภาวะการว่างงานมากในประเทศ เศรษฐกิจประเทศยิ่งตกต่ำลง จากคุณ : mha_tang (mha_tang) - [ 6 ม.ค. 51 16:25:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ^ ^ ^ ^ ^ คห. 2 ครับ ผมมีความรู้เศรษฐศาสตร์น้อยครับ ถ้าบาทแข็งค่าขึ้น ก็ทำให้เกิดเหตุการณ์นั้น แล้วทำไมตอนปี 40 เงินบาทหลุดลุ่ยไปอยู่ที่ 50 กว่าบาท แล้วเศรษฐกิจยังแย่อยู่อีกอ่ะครับ ตกลงว่าค่าเงินบาทเท่าไหร่ถึงจะดีล่ะครับ ไม่ได้ถามกวนๆนะครับ แต่ผมไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้เลยอ่ะครับ จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น - [ 6 ม.ค. 51 16:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 1. คำถามคือมีสินค้าอะไรที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตผูกขาดแต่เพียงประเทศเดียวในโลกบ้าง ผูกขาดชนิดว่าไม่ว่าจะแพงสักเท่าไหร หรือ เงินบาทจะแข็งแค่ไหน ก็ยังมีคนซื้อ ข้าว ยาง อ้อย มัน ----- คำตอบคือไม่ 2. ลูกค้าใหญ่ของไทยคือสหรัฐอเมริกา ถ้าเงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นจริงๆ สหรัฐยังมีความจำเป็นต้องสั่งซื้อสินค้าจากไทยอีกไหม ------ คำตอบก็คือไม่ ----- การแข็งตัวของค่าบาทไม่ได้เกิดจากความเข้มเแข็งทางเศรษฐกิจของไทย แต่เกิดจากการอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ และการอ่อนตัวของดอลล่าร์ เนื่องจากทั่วโลกต่างประสบปัญหาน้ำมันแพงเหมือนกัน มีต้นทุนสูงเหมือนกัน ถ้าเราอยากขายสินค้าให้มากขึ้น 1. ควรทำให้บาทอ่อน เพื่อให้ราคาน่าสนใจ 2. หาสินค้าอื่นนอกจากสินค้าเกษตรมาส่งออก เช่น สินค้าในภาคบริการ เช่น ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเทียวในภูมิภาค เป็นศูนย์กลางสุขภาพ ถ้าเงินบาท 15บาท/ 1$ จริง (โดยพื้นฐานปัจจุบันไม่เปลี่ยน) 1. เราคงได้ซื้อน้ำมันราคาถูก มาเผาเล่นบนถนน 2. แต่คงไม่ได้ใช้่ในเชิงภาคการผลิตมากนัก เพราะเราส่งออกไปขายใครไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 51 17:21:16 จากคุณ : audy - [ 6 ม.ค. 51 17:10:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บาทแค่ 30  กลุ่มส่งออกพวกเกษตร ก็จะตายแล้วครับ ถ้า 15 (เป็นไปไม่ได้) ก็เจ๊งทั้งประเทศแหละครับ จากคุณ : Mr.X-ray - [ 6 ม.ค. 51 17:20:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ค่อยยังชั่ว เพราะตอนฟังเค้าพูดก็รู้สึกจิตใจห่อเหี่ยว กลัวว่าประเทศเราจะแย่ แต่ดูคนพูดเค้ามั่นใจมากนะคะ ว่าทำแล้วประเทศจะไปโลด กลับมาชนะเวียดนามได้ใหม่ ยังบอกด้วยว่านโยบาย ธปท. ที่ซื้อ $ ไม่หยุดนี่ผิดมหันต์เลยค่ะ แต่ก็ยังอยากฟังความเห็นที่หลากหลายอีกค่ะ จากคุณ : ps - [ 6 ม.ค. 51 18:07:29 A:58.136.96.63 X: TicketID:122442 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่บอกว่าเงินบาทแข็ง ต้นทุนการนำเข้าต่ำลง  แสดงว่าต้นทุนการผลิตต่ำลงไปด้วย แล้วเราทำไม่ไม่ลดราคาสินค้าให้ถูกลงตามต้นทุน เพื่อให้การส่งออกสู้เขาได้หละ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 51 18:56:22 จากคุณ : march_k - [ 6 ม.ค. 51 18:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ูู^ ^ ^ ^ สามารถทำได้ครับ ถ้าค่าเงินมันเสถียรภาพ มันไม่ดิ่งลงหรือขึ้นอย่างกระทันหัน จากคุณ : มอสคุงอะครับ - [ 6 ม.ค. 51 20:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 นโยบายที่ ธปท ซือ$ เนี่ยมันผิดจริงๆ แต่ บาท ที่15/$ เนี่ยไม่ไหว จากคุณ : wai-ta-min (Wai-ta-min) - [ 6 ม.ค. 51 20:10:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ในเมื่อ $ มันมีแต่ด้อยค่าลงเรื่อยๆ แล้วเอามาสำรองไว้ มูลค่ามันก็สูญหายไป ขาดทุนไปตั้งเท่าไหร่แล้ว  ได้ข่าวว่าบางประเทศเค้าเปลี่ยนไปสำรองเงินตราเป็นยูโร แล้ว เพราะเสถียร มากกว่า ส่วนเรื่อง 15/$ ก็เป็นไปตาม ความเห็นด้านบนๆ ของผู้รู้ทั้งหลาย คุณคห#3  เรื่อง ตอน 40/$ กับตอนนี้มันคนละสถานการณ์กัน ตอนนั้น บาทผูกไว้ที่25 แต่ถูกโจมตีค่าเงิน ทำให้บาทอ่อนค่า เมื่อบาทอ่อนค่าใครเดือดร้อนครับ ก็ผู้นำเข้าเดือดร้อนเพราะเดิมนำเข้า จ่าย $ ละ25 ก็กลายเป็นจ่่าย 40 ขาดทุนสิครับ ของนำเข้าทุกอย่างแพงหมด แต่ ผู้ส่งออกดีใจ เพราะ เดิมส่งออกไป ได้เงิน$ละ25 ตอนนี้ได้40 กำไรเพิ่ม 15บาท ลองคิดมูลค่าเติมล้านลงไปท้ายเลขที่ยกตัวอย่างสิครับ    กลับกัน คราวนี้อยู่ดีๆบาทแข็ง จาก 40 เหลือ 33 ใครเดือดร้อนครับ ผู้นำเข้าดีใจนำเข้าของถูกลง น้ำมันนำเข้าก็ถูกลง ไม่งั้นบาเรล ละ100$ ตอนนี้ก็ลิตรละ40บาทละครับ แต่ผู้ส่งออกเดือดร้อนเพราะเดิมส่งไปคิด $ละ40 แต่ ตอนนี้เหลือ 33 ขาดทุน บางที่ขาดทุนตั้งแต่สินค้ายังไม่ออกจากท่าเรือด้วยซ้ำ สมมุติ ขาย 100ล้านเหรียญ เช่นพวกข้าว อะไรอย่างนี้ กะว่าส่งไปจะได้กลับมา 4000ล้านบาท ไหงเหลือ 3300ล้าน ขาดทุนตั้งแต่เรือยังไ่ม่ออกจากท่า ไป700ล้าน เห็นๆ สรุป ค่าเงิน นิ่งๆ เคลื่อนไหวน้อยๆ เป็นประโยชน์กับประเทศมากสุด เค้าเรียกว่า ค่าเงินมีเสถียรภาพ ส่วนการขายได้ ไม่ได้ ขึ้นกับการปรับตัวของผู้ประกอบการ และนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ ว่าจะสนับสนุนไปทางใหน ให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากเท่าไหร สุุดท้ายคง ต้องให้รัฐบาลแก้ แต่น่าเสียดาย ตั้งแต่ฟังมาตอนหาเสียง ไม่มีพรรคไหนกล่าวถึงเศรษฐกิจ ในระยะกลาง และยาว วางวิสัยทัศน์ให้กับประเทศเลย มีแต่นโยบายขายฝัน ระยะสั้น ทำให้ชาวบ้านดีใจเล่นไปก่อนเท่านั้น เอาเฉพาะหน้าให้ประชาชนพอใจ ไปก่อน หรือ จะรอให้ไทยตามหลัง ประเทศเมียรม่าก็ไม่ทราบ จากคุณ : มือใหม่หัดโพส (Wai-ta-min) - [ 6 ม.ค. 51 20:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตาม คห.10 เลยครับ เข้าใจง่าย ดีกว่าผมจะเขียนอีกแฮะๆ จากคุณ : so6jp (so6jp) - [ 6 ม.ค. 51 20:40:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขาดทุนทางบัญชีอีก ล้านล้านบาท รัฐบาลจะหมดตัวก่อนที่จะได้ทำอย่างอื่น จากคุณ : kit74 - [ 6 ม.ค. 51 22:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 1.เห็นด้วยครับว่าควรเลิกอุ้มส่งออกได้แล้ว เพราะว่าอุ้มส่งออก ก็เท่ากับรังแกคนไม่ส่งออกครับ ทำให้สินค้านำเข้าแพงเกินจริง 2. ส่งออกตาย ต้องตายบางส่วนครับ แต่ปชช.ส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น กินกุ้ง/มะม่วงได้ถูกลง เพราะส่งออกไม่ได้ supply เหลือ ราคาจะตก 3. ควรเลิกซื้อ $ ได้ตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ผมเขียนกระทู้เรื่องนี้มาเป็นปีแล้วแต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อกัน ถ้าจะทำบาทให้อ่อน ก็ควรเก็บเงินเป็นยูโรดีกว่า 4. ตอนวิกฤติปี 40 มันก็วิกฤติจริงครับ แต่เป็นกับคนบางกลุ่ม ช่วงนั้นส่งออกสบาย เพราะขายเป็นเงินบาทได้เยอะ ถ้าเลิกอุ้ม ค่าเงินคงขึ้นไปที่ราว 26 บาทต่อดอล ก็จะเป็นวิกฤติของพวกส่งออกแทน แต่รวมๆแล้วปชช.ได้กำไร 5. เงินแข็ง ส่งออกตาย คนว่างงานเยอะ? เป็นความคิดที่ผิดครับ ช่วงแรกอาจดูเหมือนคนว่างงานเยอะ แต่มันเป็นจะเป็นแค่ชั่วคราว เพราะสักพัก คนเหล่านั้นจะกลับมาผลิตสินค้าและบริการให้คนในประเทศแทนการส่งออก ทำให้ของถูกลง ข้างล่างนี่เขียนไว้นานแล้ว ถ้าอยากอ่านก็ลองอ่านดู ------------- แต่ผมไม่เห็นด้วยกับคนส่วนใหญ่ที่ว่า ส่งออกล่ม แล้วประเทศจะม้วย จริงอยู่ว่าค่าเงินแข็ง ผู้ส่งออกจะซวย โรงงานก็คงต้องปิดไปบ้าง พนักงานก็คงต้องหางานใหม่ แต่เราก็จะซื้อน้ำมันได้ในราคาที่ถูกลง และซื้อสินค้าหลายอย่างได้ถูกลง ผมลองถามตัวเองว่า ทำไมอาหารทะเลถึงแพง ทำไมที่ดินบนเกาะริมทะเลสวยๆจึงเป็นของฝรั่งหมด ทำไมคนทำงานในประเทศ ถึงไม่มีเงินแย่งซื้อที่ดินดีๆ แถวสีลม ก็เพราะว่ามีฝรั่งแย่งเราซื้อไง ยิ่งค่าเงินบาทอ่อนเท่าไร อำนาจซื้อของฝรั่งยิ่งมากขึ้น อำนาจซื้อของผู้ส่งออกก็มากขึ้น ราคาของที่ส่งออกก็แพงขึ้น จนคนธรรมดาซื้อไม่ไหว ลองมองอีกแง่หนึ่งก็ได้ สำหรับคนที่คิดว่าส่งออกสำคัญแบบขาดไม่ได้ เมืองแรก มีคน 50% ทำงานรับใช้คนเมืองอื่น ทั้งผลิตสินค้า และบริการให้ ้เมืองที่สอง มีคน 50% ทำงาน อีก 50% ไม่ต้องทำ เพราะมีคนของเมืองแรกเป็นทาสช่วยทำให้แล้ว คนเมืองสองไม่ต้องเสียอะไร นอกจากกระดาษที่เอามาทำแบงค์ และตัวเลขในบัญชี ที่สื่อความหมายว่า ในอนาคตเราจะทำงานใช้หนี้คืนให้นะ ในระยะสั้น คนเมืองล่างสบายกว่าแน่ๆ แต่ความไม่สมดุลข้างต้นคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ตลอดไปไม่ได้แน่ ก็ค่าเงินไง ที่เป็นตัวจัดการกับความอสมดุลเช่นนี้ การได้ดุลการค้า เป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินแข็งขึ้น ค่าเงินก็จะแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนคน 50% ของเมืองแรก ที่ทำงานรับใช้คนต่างเมืองเริ่มได้เงินน้อยลง จนหันกลับมาผลิตสินค้าและบริการ เพื่อรับใช้คนเมืองเดียวกัน สรุปว่าเงินจะแข็งจะอ่อน มีข้อดีข้อเสียพอๆกัน ดีกับบางคน เสียกับบางคน ไม่คุ้ม และไม่ยุติธรรม ที่จะปั๊มบาท หรือเทียบได้กับเอาเงินภาษี ของคนทุกคน ไปอุ้มส่งออก แต่ผมว่านโยบายกันสำรอง 30% นี่ก็ไม่ดี ไม่ร้าย กลางๆ เพราะว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เสียอะไร ประเทศไม่ต้องใช้งบ นอกจากพวกเล่นหุ้น ลำดับความสำคัญในสมองผม ประชาชน >> ผู้ส่งออก >> นักเล่นหุ้นเพื่อเก็งกำไร จากคุณ : ธีรภัทร์2 - [ 6 ม.ค. 51 22:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับการทำให้ค่าเงินมีเสถียรภาพครับ จะอ่อนหรือแข็งก็ขอให้มันเหมาะสมครับไม่ใช่เพราะถูกโจมตี จีนประเทสรำรวยมหาศาลยังไม่ลอยตัวค่าเงินเลยครับ เขาใช้ Manage Foalt คบคุมค่าเงินไม่ให้ขยับมาก คนทำธุรกิจก็คาดเดากำไรขาดทุนง่าย ไม่หวือหวาครับ จากคุณ : Carlisma - [ 6 ม.ค. 51 22:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่จะสิบห้า หรือจะห้าสิบครับ แต่มันขึ้นลงเร็วไปต่างหาก ที่เกิดปัญหาเนี่ย ลองกลับลงไป 50 ภายในปีนึง เงินเฟ้อกระจายเลยครับ จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 6 ม.ค. 51 22:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอออกความเห็นด้วยคนครับ .... ในทางทฤษฎี การอ่อนลง หรือ แข็งค่าขึ้น ของค่าเงินประเทศใด จะสะท้อนถึง ความสามารถในดึงเงินเข้าประเทศนั้น   หรือ อีกนัยหนึ่งมองเงินเป็นสินค้า  จะเป็นว่า ความต้องการได้มา(demand)ของเงินสกุลนั้น มีมากกว่าความต้องการขาย(Supply) ของเงินสกุลนั้น โดยปัจจัยที่จะทำให้ค่าเงินแข็งขึ้นนั้นมีอยู่  2 ทางคือ 1.ประเทศมีความสามารถทางการแข่งขัน สามารถทำการค้าแล้วได้กำไร มีเงินเข้าประเทศมาก เปรียบเหมือนคนเก่งสามารถหาเงินมากกว่าใช้ เงินที่เหลือเก็บสะสมคือความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น (ได้ดุลการค้า ---> กำไร ---> ค่าเงินแข็งขึ้น )   (หรือที่เราเรียกว่า ดุลการค้าและดุลบริการ) 2.มีกระแสเงินจากต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศจำนวนมาก เพียงแต่เงินเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากกำไรแต่เป็น เงินกู้ยืม หรือ เงินร้อนที่มาลงทุนเก็งกำไร ระยะสั้น  เปรียบเหมือนคนที่สามารถกู้ยืมเงินคนอื่นเข้ามาได้มาก ทำให้ดูเหมือนความมั่งคั่งจะเพิ่มขึ้น )  (เงินไหลเข้ามา ----> เงินบาทมีน้อย เงินต่างชาติมีมาก ---> ราคาเงินบาทแพงขึ้น = ค่าเงินแข็ง ) ซึ่งจะเป็นในทางกลับกัยเมื่อค่าเงินลดลง ... คราวนี้มามองถึง ผลกระทบของค่าเงินแข็ง ดู 1.ถ้าเกิดจากความสามารถทางการค้า-บริการ  สิ่งที่เกิดคือ โลกจะซื้อของเราน้อยลงเพราะของเราดูแพงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง  แต่ถามว่าเราลำบากไหม  ... ตอบว่าไม่ เพราะความสามารถในการแข่งขันที่สูง จะสามารถชดเชย ความเสียเปรียบด้านราคานี้ไป เช่น ประเทศญีปุ่น เงินแข็งแต่คุณก็ยัง ซื้อของเขาในหลายรายการ  รวมถึง ความสามารถในการแข่งขันที่สูง คุณสามารถนำเงินที่มีค่า ไปลงทุนทั่วโลก เพราะสินทรัพย์ของโลก จะถูกกว่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเรา 2.เกิดจากกระแสเงินร้อนที่ไหลเข้ามา   ค่าเงินที่แข็งจะเกิดอะไรขึ้น 2.1 อุตสาหกรรมส่งออกของไทย เช่นสินค้าเกษตร จะแข่งด้านราคากับประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้  ทำให้ขายได้น้อยลง   หรือ การบริการของประเทศก็แย่ลงเพราะต่างชาติมองว่า ด้วยเงินเท่ากัน ไปเที่ยวประเทศอื่นคุ้มกว่า 2.2 มีการย้ายฐานการผลิต ในสินค้าอุตสาหกรรมไปประเทศที่ น่าจะทำกำไรได้มากกว่า (เช่น เวียดนามในอุตสาหกรรม กัมพูชา-ลาว-พม่า ในสินค้าเกษตร) (และคนที่ย้ายไป ส่วนใหญ่ไม่ใช่ทุนไทย แต่เป็นทุนต่างชาติในไทย ) ถ้าป็นอย่างนี้ การจ้างงานในส่วนนี้จะลดลงไป   2.3ด้วยความที่เป็นเงินร้อน  เหมือนคนมีบัตรเครดิตวงเงิน 2 เท่าของเงินเดือน 10 ใบ ... ดังนั้น การเพิ่มขึ้นของกระแสเงิน เป็นได้แค่ชั่วคราว เมื่อถึงจุดหนึ่ง วงเงินเต็ม แต่รายได้เท่าเดิม ( ยิ่งกว่านั้น เจ้าหนี้เงินร้อนเหล่าหนี้ ไม่มีระยะเวลาในการทวงแน่นอน ถ้าเกิดหลับฝันว่า เอาเงินไปให้รายอิ่นกู้ดีกว่า แปลว่า คุณต้องคืนเงินเขาไปเมื่อนั้น) ซึ่งทั้งหมด จะทำให้ค่าเงินไม่มีเสถียรภาพ เพราะวันไหนมันจะแข็ง หรือ อ่อนต้องไปถามนักลงทุนต่างชาติ ไม่ใช่เรา แต่ที่ซวยคือ ชาวไทย ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ซื้อขายสินค้ากับต่างประเทศ มันจะกำไรหรือขาดทุนเพราะค่าเงินไม่คงที่ ตกลงราคาได้ยาก ดังนั้น ธนาคารชาติและคลัง ของแต่ละประเทศจึงพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน ให้สมดุลที่สุด เหมือนกัปตันเรือเดินสมุทร แม้จะรู้ว่า เรือของตัวเองเป็นอย่างไร (การค้า-การบริการ) ก็ยังต้องโต้คลื่นในทะเลเงิน(การเงิน-ระดับโลก) ที่ไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไรในอนาคต แล้วเพื่อนๆคิดดูว่า ถ้าปล่อยให้ลอยตัวค่าเงินโดยไม่แทรกแซง ซึ่งเหมือน กัปตันที่ปล่อยเรือให้ลอยไปตามกระแสคลื่น  ไม่รู้จักแล่นเรืออย่างชาญฉลาด  เห็นพายุตรงหน้าก็ไม่หลบ เพราะเชื่อว่า มีแต่ปล่อยไปตามชะตากรรมแล้วชีวิตจะดีขึ้น มันจะเป้นอย่างไร .............................................  ? จากคุณ : รถไฟสายใต้ - [ 6 ม.ค. 51 22:50:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โอ้โฮ แสดงความเห็นกัน เยี่ยมๆ ทั้งนั้น - บาทเท่ากับ 15 บาทต่อ เหรียญ เป็นไปได้แต่... ก่อนจะถึงวันนั้น รัฐบาลต้องวางนโยบายหรือทิศทางของประเทศให้มุ่งไปข้างหน้าก่อน ต้องเริ่มจากนโยบาย แล้วลงมือทำในระดับจุลภาค คือ - คนงานไทยต้องทำงานจริงจัง หนักเอาเบาสู้ ไม่เกี่ยงงาน ยอมทำงานมากกว่าค่าแรง เพื่อกระตุ้น จีดีพี - ภาระเสียภาษีให้รัฐ ทุกคนต้องเสียภาษีเงินได้ จะหลบบ้าง ไม่เป็นไร แต่ทุกคนต้องเสีย เพื่อรัฐจะได้มีเงินงบประมาณเยอะๆ - รัฐบาลมีเงินเยอะๆ ก็ดำเนินโครงการต่างๆ ที่มุ่งไปสู่เป้าหมาย หรือนโยบายที่รัฐบาลวางแผนเอาไว้ รัฐบาลควรเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกอย่าง เพื่อเป็นตัวขับเศรษฐกิจในภาพรวม - เมื่อ จีดีพี เริ่มดีขึ้น นโยบายการเงิน ของธปท. ต้องเอื้อประโยชน์ให้แก่คนในประเทศ กล่าวคืออัตราดอกเบี้ยบางอย่างควรต้องถูกกว่าปกติ  เพื่อเป็นการขับดันการใช้จ่ายในแประเทศอีกทางหนึ่ง ถ้าเราทุกคนมีวินัยและทำได้แบบนี้ เศรษฐกิจจะมั่นคงจากภายใน เมื่อต่างชาติเห็นว่าเศรษฐกิจเรามั่นคง ก็เขาเหล่านั้นจะนำเงินเข้ามาลงทุนในรูปแบบต่างๆ ค่าเงินของเราจะเริ่มแข็งค่าขึ้น (เห็นมั้ยครับว่ามันเริ่มแข็งตอนนี้ เราจะสามารถทำได้ช้าหรือเร็วแค่ไหนต้องเปรียบเทียบดูเอาเองกับความเป็นไปในขณะนี้) การทำงานของ ธปท. นั้น น่าเห็นใจครับ เพราะ ธปท.ทำงานแบบ อนุรักษ์นิยม ถ้ามีการโจมตีค่าเงินบาท ถ้าคุณเป็นผู้ว่าฯ คุณจะทำอย่างไร ที่ผ่านมาคือทำตามพี่ที่เคยทำ รับรองถูกด่าน้อยและรับประกันว่า พอจะแก้ปัญหาได้บางส่วน เพราะถ้าให้แนวความคิดแบบแข็งกร้าว ถ้าไม่เกิดประโยชน์ใครจะรับผิดชอบ จากคุณ : the one peak - [ 6 ม.ค. 51 23:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยกตัวอย่างนโยบายการเงินทางยุโรป ไม่อิงกับสหรัฐฯ เท่าไร เค้าให้ภายในเข้มแข็งก่อน  คือดอกเบี้ยเงินฝากต่ำมาก ดอกฯกู้ เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ไม่เท่ากัน ระยะเวลาจ่ายคืนไม่เท่ากัน ต้นทุนเงินสั้น ใช้สั้น ยาว ใช้ยาว ค่าเงินยูโร ทุกวันนี้จึงค่อนข้างมีเสถียรภาพมากเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ สหรัฐฯ จากคุณ : the one peak - [ 6 ม.ค. 51 23:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ต่อประเด็นที่สองนะครับ วิกฤตเศรษฐกิจ ต้มยำกุ้ง ... กับค่าเงินบาทอ่อน ซึ่งใครๆก็รู้สึกเหมือนกันว่า เพราะลดค่าเงินบาท ทำให้เศรษฐกิจพัง จะขอให้มองแบบนี้ครับ ...  เงินบาทอ่อน นั้นเกิดจากความต้องการแลกเงินบาทไปเป็นเงินต่างชาติ มากกว่า เงินต่างชาติที่จะแลกมาเป็นเงินบาท และผลกระทบอันเลวร้ายจากการลดค่าเงินครั้งนั้น เช่น ธุรกิจมีหนี้เท่าตัว จากการกู้เงินต่างชาติ จนพังพาบไปตามๆกัน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงผล ไม่ใช่เหตุ ... เหมือนคน หาเงินได้น้อยกว่าใช้ อย่างต่อเนื้อง เมื่อหมุนไปถึงจุดหนึ่ง ย่อมหมดเครดิตเป็นธรรมดา สาเหตุที่แท้จริงของ วิกฤตเศรษฐกิจคือ 1. ภาคเศรษฐกิจที่ขยายตัวหลักๆ  ไม่ใช่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง การส่งออก /การแข่งขันในระดับโลกของเราไม่สูงขึ้น   แต่ที่สูงขึ้นคือภาคเก็งกำไร ... เก็งกำไรที่ดิน อสังหา หุ้น การบริโภค 2. กำลังการซื้อที่สูงขึ้น จากภาคการเก็งกำไร มาสร้าง ความต้องการชั่วคราวจำนวนมากขึ้นมา(อุปสงค์เทียม)   3. เงินกู้ต้นทุนต่ำจากต่างประเทศ เข้ามาสนับสนุนการใช้จ่าย ข้อ1-2 พอมาถึงจุดหนึ่ง ... คือ จุดที่ การเก็งกำไร มาถึงคนรับไม้สุดท้าย ที่หลงคิดว่าจะมีไม้ต่อไป จุดที่ เจ้าหนี้ต่างชาติ ไม่มีวงเงินกู้ใหม่ๆเข้ามา และขอเงินกู้คืน จุดที่ เจ้าของสินค้าพบว่า กำลังซื้อหายไปมาก และไม่เป็นไปตามกำลังการผลิตที่ขยายตัวรองรับไว้ จุดที่ ธนาคารชาติ/คลัง ไม่ยอมรับความจริงว่า เงินไหลออกเกิดจากปัญหาของประเทศ เอาแต่อุดเงินสนับสนุนไว้ จนหมดหน้าตัก ทำให้ไม่มีเงินไป รักษาเสถียรภาพเมื่อลอยตัว และถึงจุดที่ คนไทยหลายคนได้รับรู้ว่า การทำอะไรเกินตัว เกินกำลัง นำมาสู่ผลสุดท้ายที่น่ากลัว  .... จากคุณ : รถไฟสายใต้ - [ 6 ม.ค. 51 23:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มองดูไทยแลนด์ สินค้าเกษตรที่ควรได้เปรียบ -ข้าว ถูกเวียดนาม ชิงความได้เปรียบไปเรียบร้อย เค้ามีตัวแทนขายข้าวไปทั่วโลก แต่พี่ไทยไม่มี เวียดนามขายข้าวตัดราคาเรา จนเค้าไม่มีข้าวกินในประเทศ ต้องนำเข้าจากไทย พี่ไทยก็ดีในโกงราคาข้าวไปเวียดนาม แต่เขานำเข้าเท่าที่จำเป็น เพื่อรอผลผลิตในฤดูกาลใหม่ออกมาก่อน "พ่อจะส่งให้กระจายทั่วโลกเลย" -ยาง เหมือนจะดี เรามี องค์กรที่กำหนดราคายางพาราเพื่อกำหนดราคายางในตลาดโลก แต่ไม่รู้เหตุผลกลใด ยังขายยางแข่งกันเองในประเทศผู้ส่งออก -รัฐบาลไม่เสาะหาตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เมื่อมีประเทศใหม่เกิดขึ้น ประเทศเหล่านี้แหละครับที่เป็นแหล่งตลาดใหม่ของไทย เพราะเราง้อแต่สหรัฐฯ ให้โควต้า จีเอสพี มาเป็นสิบๆ ปี แต่ตอนนี้เศรษฐกิจสหรัฐ ตกต่ำ รับรองตัด จีเอสพีไทยอีกแน่ๆ โดยมีข้ออ้างต่าง ๆ นา ๆ -แรงงานไทยเป็นแรงงานที่รักสบาย หนักไม่เอา เบาอยู่บ้านดีกว่า เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ต้นทุนสินค้าต่ำลงหรึอไม่ ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ทุกรัฐบาลไม่เคยตระหนัก ฉะนั้น การที่ 1 ดอลล่าร์ เท่ากับ  15 บาทนั้น เป็นได้ค่อนข้างยาก เราต้องได้รัฐบาลที่ออกบ้าอำนาจนิดๆ เพื่อลดความสุขของคนในประเทศให้ลดลงหน่อย แต่เพื่อประโยชน์ต่อภาพรวมทั้งประเทศ จากคุณ : the one peak - [ 7 ม.ค. 51 00:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอเสริมคุณรถไฟฯ นิดนะครับ เมื่อกองทุนต่างชาติเห็นความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของไทยดังนี้แล้วจึงเริ่มลองของโจมตีค่าเงินบาทครั้งแรกก่อน และพบว่า ธปท. ออกมาปกป้องสุดกำลัง ดังนั้น การโจมตีครั้งหน้าจึงเกิดขึ้น และรุนแรงกว่าเดิม ถ้าผมจำไม่ผิด มีการโจมตีค่าเงินจากฝีมือต่างชาติไม่กี่ครั้ง หลังจากนั้น ใครเป็นผู้ที่ซื้อขายเงินได้ ก็คือคนนั้น จากคุณ : the one peak - [ 7 ม.ค. 51 00:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เหรีญมี2ด้าน   ถ้าทำแบบประเทศ สิงคโปร์และจีนทำ  ก็จะลดความกดดันเรื่องค่าเงินไปได้  อีกอย่าง  ควรปรับตระกร้าเงินตั้งนานแล้ว  เปลี่ยนสัดส่วนเงินสำรองถัวเฉลี่ยที่ทำอยู่ ซึ่งที่จริงถ้าทำตั้งแต่ปีก่อนๆ  ความกดดันก็ลดไปตั้งเยอะแล้ว   แต่แบ๊งค์ชาติมีคนเก่งเยอะเกินไปจนไม่ฟังใคร  ยิ่งหม่อมอุยด้วยแล้ว ยิ่งคิดวิธีได้พิศดารจนกระเทือนไปหมด อีกอย่างเงินบาทแข็งถ้ามองร้ายก็ร้าย   แต่ถ้าปรับตัวเป็นผู้ไปลงทุนใน อเมริกาบ้าง  ก็จะได้ของถูกลงเช่นกัน  เหมือนเขามาลงทุนบ้านเราตอนวิกฤติ   แต่ต้องเลือกให้ถูกจังหวะ จากคุณ : aeaw - [ 7 ม.ค. 51 01:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมขออนุญาตใช้กระทู้นี้สอนเด็กนักเรียนนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมแบ่งปันความรู้ให้เด็กในชั้นเรียนผม จากคุณ : pe - [ 7 ม.ค. 51 09:50:20 A:203.147.53.68 X: TicketID:164849 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เก่งกันจริงๆ ค่ะ ขอขอบคุณที่ช่วยกันแสดงความเห็นค่ะ จะมาอ่านเรื่อยๆ ค่ะ ถ้ามีเพิ่มอีก ไม่รู้ทางพรรคเจ้าของ idea จะเข้ามาอ่านบ้างรึเปล่า จะได้ฟังความเห้น ปชช. หลายๆด้าน จากคุณ : ps - [ 7 ม.ค. 51 11:00:33 A:58.136.96.76 X: TicketID:122442 ]