ความคิดเห็นที่ 6
เรื่องจริงที่ผมทราบมาคือ ว่ากันด้วยเรื่องปัญหาทางด้านการมองเห็น ทางด้านสาธารณสุขของไทยในอดีตไม่มีผู้ดูแลด้านนี้โดยตรง
ประเทศอื่นๆนั้นปัญหาด้านโรคตา และปัญหาด้านการมองเห็นจะแยกกันชัดเจน ปัญหาด้านการมองเห็น จะถูกดูแลโดย Doctor of Optometry ส่วนปัญหาด้านโรคตา จะถูกดูแลโดย ophthalmologist หรือจักษุแพทย์
ดังนั้นในต่างประเทศนั้นผู้ที่มีปัญหาในการมองเห็นก็จะไปปรึกษา Doctor of optometry หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า Optometrist
ในประเทศไทยนั้นทั้งประเทศมี Optometrist ไม่เกิน 40 คน หากคิดจังหวัดละ 1 คน ยังไม่ไม่ครบทุกจังหวัดเลยครับ เท่าที่ทราบส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพ ถ้าต่างจังหวัดเท่าที่ทราบ จังหวัดสตูลมี 1 คน , นครพนมมี 2 คน , โคราชมี 1 คน และสมุทรปราการ 1 คน อยู่ในร้านแว่นที่เปิดมานานแล้ว ในจังหวัดนั้นๆ มิได้อยู่ในโรงพยาบาล หากอยากทราบคงต้องไปสอบถาม กันเอาเองครับ หากได้ลองวัดสายตากับ Optometrist สักครั้ง จะรู้เลยว่าเค้าเช็คสายตาให้เราละเอียดจริงๆ แต่เสียเวลาหน่อยนะ แล้วพวกคุณจะลืมร้านแว่นเดิมๆไปเลย
กลับมาที่ประเด็นของ จขกท ดีกว่า ในความเห็นผมนะ ร้านแว่นที่สาขามากแทบทุกอำเภอที่ว่านั่นหละ ไม่ว่าจะเป็นท็อป , บิวตี้ , กุงทาย และอื่นๆ มาตรฐานอยู่ในเกณฑ์ต่ำนะในความคิดของผม ยังเทียบกับร้านแว่นเก่าแก่ทั่วไปในแต่ละจังหวัดไม่ได้เลย โดยผมมองจากประสบการณ์ การลองผิดลองถูก ผ่านมาหมดแล้ว ส่วนใหญ่เจ้าของร้านดำเนินการเอง ประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 10 ปี ส่วนร้านท็อป ใช้พนักงานในการดำเนินการ พนักงานเข้าๆออกๆ คิดดูเอาเองครับ บางความเห็นที่บอกว่าเค้าต้นทุนต่ำผมก็ว่าจริงนะ ต่ำเฉพาะของที่เขาขายนะ เพราะเค้ามีสาขาหลายร้อยสาขาทั่วประเทศ
การซื้อจำนวนมากในแต่ละครั้ง แน่นอนย่อมได้ในราคาที่ถูก แต่ที่ผมเคยไปสำรวจดู ร้านพวกนี้เค้าจะสั่งโรงงานผลิต ติดยี่ห้อของตัวเอง ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่ไปดูที่ร้านอื่นไม่มียี่ห้อนี้ เขาป้องกันการเช็คราคาไงครับ ส่วนเรื่องเลนส์ คุณคิดว่าเลนส์ที่ ผลิตตามมาตราฐานยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับจีน หรือเกาหลี คุณคิดว่ามาตรฐานเหมือนกันมั้ย แล้วราคาควรเป็นราคาเดียวกันมั้ย แล้วร้านท็อป คุณคิดว่าเค้าจะใช้เลนส์มาตรฐานไหนครับ ราคา ผมว่าต่างกันเป็นเท่าตัว
แว่นโฆษณาว่าลด 50% มีของแถมอีกต่างหาก ขอถามหน่อยเถอะว่า ของแถมหนะอยากได้มั้ย ราคาของแถมเค้าบวกในราคาสินค้ารึยัง ใช่ของแถมจริงรึเปล่า
เป็นไปได้มั้ยว่าสินค้านึงอยากขายซัก 100 บาท แบบมีกำไรเพียงพอ ที่จะจ่ายเงินเดือนพนักงานสาขาละ 4-5 คน คนละขั้นต่ำคง 6 พัน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ จ่ายค่าเช่าตึกแถว เห็นว่าค่าเช่าเดือนนึงก็ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นต่อ 1ห้อง ถ้าสองห้องก็เอาสองคุณ ถ้าห้องหัวมุมยิ่งแพง เราคงไม่ต้องสมมตินะว่าทุนเต้าเท่าไหร่ดี
แล้วต้องติดราคาไว้เผื่อลด 50% บวกราคาของแถม บวกราคาค่าโฆษณา ทีวีนาทีละ 6 แสนบาท ไม่รู้โฆษณาไปกี่ร้อยล้าน ก็ต้องติดราคา 200 บาท ลด 50% แล้วเหลือ 100 บาท ต่อรองราคาไม่ได้แล้ว เพราะลดลงมา ครึ่งนึงแล้ว พนักงานเค้าพูดหยั่งงั้น
ถามจริงคนเดินเข้าร้านแว่น ไม่ใช่อยากได้แว่นซักอัน ที่ใส่แล้วมองชัด ดูสบายตา ไม่งง ไม่ปวดตา ไม่ปวดหัวคุณภาพดีๆ หรอกหรือ
ก่อนเข้าร้านแว่น ไม่ลองถามคนที่รู้จักซัก 10 คน หน่อยเหรอ ว่าพวกเค้าทำแว่นที่ไหนกัน
จากคุณ :
GimMick
- [
7 ม.ค. 51 23:18:40
]
|
|
|