ความคิดเห็นที่ 1
Q : แล้วไงต่อ ถ้ากองทุนไปลงทุนในตราสารหนี้อายุยาวๆล่ะ A : กองทุนจะมีความเสี่ยงเรื่องการขาดสภาพคล่องสูงขึ้น เนื่องจากการครบกำหนดอายุตราสารจะไม่ถี่เหมือนเก่า ดังนั้นวิธีที่ บลจ. ชอบใช้สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงขึ้นมากกว่า MMF และไม่ต้องการสภาพคล่องก็คือ เปิดเสนอขายครั้งเดียว ห้ามไถ่ถอนคืนระหว่างทางที่กองทุนยังไม่ครบกำหนด โดยรับผลตอบแทนพร้อมเงินต้นตอนกองทุนครบกำหนดเท่านั้น ถ้าอายุกองทุนไม่ถึง 1 ปี เราเรียกว่า Short-term Fixed Income Fund ถ้ายาวกว่านั้นก็เปลี่ยนคำหน้าเป็น Long-term ซะ ด้วยนโยบายการลงทุนแบบนี้ จะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนสูงขึ้นกว่า MMF หากภาวะดอกเบี้ยยังทรงๆตัว หรือเป็นขาลง แต่หากอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น จะสังเกตุว่าเนื่องจากเราล็อคผลตอบแทนไว้แล้ว เราอาจเสียโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าก็เป็นได้ ดังนั้นจะพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมระยะสั้น หรือระยะยาว ให้ดู 2 อย่างครับ 1. สภาพคล่องที่เราต้องการกับเงินลงทุนก้อนนั้น 2. แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดว่ามีทิศทางอย่างไร
Q : แล้วช่วงนี้แนวโน้มเป็นยังไงอ่ะ ไม่เคยสนใจเลย (จริงๆ ได้คำตอบ ก็อาจจะไม่สนใจเหมือนเดิมนั้นล่ะ แบร่ๆ) A : คิดซะดังเชียว ถ้าลืมจริงๆเนี่ย ไม่ตอบดีกว่า ขี้เกียจพิมพ์ เอิ๊กๆ เงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศไทยขยับตัวขึ้นมาที่ 1.3-1.7% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี 4 ธนาคารใหญ่ อยู่กันที่ 2.25%-2.75% ต่อปี แล้วแต่ธนาคาร และอาจมีแนวโน้มที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นอีก จากต้นทุนราคาน้ำมันที่กระทบกับทุกหน่วยการบริโภคและการผลิตของประเทศไทย ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงนั้นไม่ได้เพิ่มอะไรมากมาย ถ้าเหตุการณ์ยังกดำเนินไปในทิศทางนี้ คาดว่าแบงก์ชาติอาจต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างน้อย 0.25% ในไตรมาส 2 นี้ ดังนั้นปีนี้ (2008) ถือว่าเราอยู่ในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นครับ การล็อคผลตอบแทนยาวเกินไปไม่เป็นผลดีต้องกำไรในอนาคตของเรา ดังนั้นแนะนำลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีอายุ 3 เดือน เพื่อรอดูทีท่าของแบงกืชาติครับ หากปรับขึ้นแรงๆซัก 0.50% ซักทีอาจมีเหเลยก็ได้นะเออ...
Q : ที่บอกมาทั้งหมดนี้ คือกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ? A : .ช่แล้ว หากอึดอัดกับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝาก การแบ่งเงินบางส่วนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนของเงินเราในกองทุนรวมตราสารหนี้ นับว่าน่าสนใจ และให้ผลตอบแทนที่คุณไม่อาจไม่พิจารณาได้นา... เชื่อผมๆ
Q : ความเสี่ยงต่ำเนี่ย แสดงว่ายังมีความเสี่ยง ... เสี่ยงอะไร ป้องกันยังไง? A : กองทุนรวมไม่มีผุ้รับประกันเงินต้นอย่างกระทรวงการคลังที่รับประกันเงินฝากธนาคาร เนื่องจากไปลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภท ถ้ากองทุนไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ก็เสี่ยงต่ำหน่อย เพราะกระทรวงการคลังรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate Bond) ก็ต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท
A : เฮ้ย !!.... แต่ !! Q : หยุดนะบัดนี้!!! จะบอกว่าไปลงทุนในตราสารของบริษัทไหนบ้างก็ไม่รู้ใช่มั้ย? ทาง กลต. มีการคุ้มครองนักลงทุนโดยให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ให้ Credit ตราสารหนี้นั้นๆ เพื่อชี้วัดถึงความสามารถในการชำระเงินครับ ปัจจุบัน Rating ในระดับที่ต่ำสุดของการลงทุนที่เรียกว่าระดับ Investment Grade คือ BBB หากต่ำกว่านี้ (BBB- ลงมา) จะถือว่ามี Credit ต่ำ ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ หรือเสี่ยงสูงกว่าชาวบ้าน แต่ตามกฎการลงทุน "High Risk High Expected Return" ตราสารหนี้ที่มี Rating สูง ก็ให้ผลตอบแทนที่สุงกว่าด้วยเช่นกันนะครับ ดังนั้นจำไว้อย่างหนึ่ง หากเห็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ให้ตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่าเสี่ยงสูงเช่นกัน อย่าดูที่ผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว
วิธีการป้องกันความเสี่ยงของเราก็คือ ศึกษาตราสารหนี้ที่กองทุนไปลงทุน ดูอันดับ Credit Rating เองครับ และความเป็นมืออาชีพของผู้จัดการกองทุนและ บลจ. น่าจะพอแล้วนะผมว่า ^^
Q : ตอนนี้มีกองทุนอะไรน่าสนใจบ้าง?? A : ถ้าเป็น MMF แนะนำ 3 ที่ละกัน T-CASH, K-Teasury, TMBMF ครับ ถ้าเป็นกองทุนประเภท 3 เดือน ก็มีเรื่อยๆทั้งของ SCBAM, TMBAM, AYF หรือ ING ลองติดตามข่าวกองทุนจากเว็ปนี้ด้วยก็ได้ครับ http://www.smartfundmag.com/index.php
------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ
จากคุณ :
Mr.Messenger
- [
10 ม.ค. 51 00:45:28
]
|
|
|