PANTIP.COM : I6257295 ฤา Supprime จะซ้ำรอย "ราชาเงินทุน" [หุ้น]

ฤา Supprime จะซ้ำรอย "ราชาเงินทุน"

ฤา Subprime จะซ้ำรอย "ราชาเงินทุน"
วิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2522
วิกฤตการณ์ทางการเงินของไทยที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเสถียรภาพ และความเชื่อมั่นของระบบสถาบันการเงินของไทยครั้งสำคัญ เกิดขึ้นในปี 2522 เมื่อบริษัทราชาเงินทุนถูกฟ้องล้มละลาย เนื่องจากมีสินทรัพย์ไม่เพียงพอชำระหนี้สิน โดยความเป็นมาของวิกฤตการณ์ในครั้งนั้น เกิดจากการที่บริษัทราชาเงินทุนที่เป็นบริษัทเงินทุนขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทย ในช่วงปี 2521 มี การเพิ่มทุนอย่างก้าวกระโดด และขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วจากการให้บริษัทในเครือและลูกค้ากู้ยืมเงินไปซื้อหุ้น และมีการปล่อยกู้ให้กับบริษัทในเครือ 3 บริษัทกู้ยืมเงินซื้อหุ้นบริษัทตัวเองอย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2521 - 2522 ซึ่งบริษัทราชาเงินทุนได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2520 หลังจากตลาดหลักทรัพย์เปิดดำเนินการครั้งแรกในปี 2518 เพียง 2 ปี หลังจากมีการปล่อยกู้เพื่อให้ลูกค้าและบริษัทที่เกี่ยวข้องซื้อหุ้น ทำให้หุ้นของบริษัทราชาเงินทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่าง ไร้ปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน จากราคาเปิด ณ วันแรกเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่ 275 บาท ได้พุ่งสูงขึ้นถึง 2,470 บาท ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2521 ก่อนจะตกลงมาเหลือเพียง 380 บาทเป็นราคาสุดท้าย ก่อนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระงับการซื้อขาย เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2522
บริษัทราชาเงินทุนเริ่มมีปัญหาติดขัดการชำระหนี้ตั้งแต่ปี 2522 เป็นต้นมา เมื่อเจ้าหนี้ส่วนที่เป็นสถาบันการเงิน และลูกค้าผู้ถือตั๋วสัญญา ใช้เงินของบริษัท เรียกร้องให้บริษัทชำระหนี้ จนในที่สุดบริษัทราชาเงินทุนขาดสภาพคล่อง ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเข้าไปควบคุมบริษัทราชา-เงินทุนในวันที่ 11 พฤษภาคม 2522 และเมื่อตรวจสอบฐานะการเงิน พบว่าสินทรัพย์คงเหลือไม่เพียงพอชำระหนี้สิน เกิดภาวะล้มละลาย กระทรวงการคลังจึงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ของบริษัทราชาเงินทุน เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2522
เหตุการณ์ในครั้งนั้นก่อให้เกิดภาวะตื่นตระหนกต่อความมั่นคงของสถาบันการเงินอื่นๆ ผู้ฝากเงินในบริษัทเงินทุนได้ย้ายเงินฝากมาอยู่กับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันบริษัทเงินทุนขนาดกลางและขนาดเล็กหลายแห่งประสบปัญหาจากการแห่ถอนเงินของลูกค้าไปฝากที่ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่แทน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์บางแห่ง เข้าไปช่วยเหลือด้านการเงินกับสถาบันการเงินขนาดกลางหลายแห่ง วิกฤตการณ์ในครั้งนั้นทำให้ทางการของไทยเริ่มตระหนักถึงความจำเป็นของการมีสถาบันประกันเงินฝากที่เข้ามาปกป้องคุ้มครอง ผู้ฝากเงิน อย่างไรก็ตามร่างกฎหมายสถาบันประกันเงินฝากได้ถูกถอนออกจากรัฐสภา

อ่านแล้วคุ้นๆกันบ้างไม๊

ถัดจาก ราชาเงินทุน 2 ปี Oil Crisis
****แก้ไขชื่อหัวข้อที่ผิด supprime ==> subprime ****
รีบไปหน่อยผิดเลย >_<

แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 51 09:13:16

จากคุณ : น้องส้มเด็กดี - [ 22 ม.ค. 51 08:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 1

วิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2526
ในช่วงปี 2526 ได้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินอีกครั้ง เนื่องจากความหละหลวมของระบบกำกับดูแลสถาบันการเงินจากทางการ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ซึ่งได้แก่ ธนาคารเอเชียทรัสต์ ธนาคารนครหลวงไทย และธนาคารมหานคร รวมทั้งบริษัทเงินทุนอีกหลายแห่ง เกิดการฉ้อโกงโดยผู้บริหารในสถาบันการเงิน รวมทั้งมีปัญหาหนี้สูญ ตลอดจนการขาดสภาพคล่องทางการเงินใน การรองรับการไถ่ถอนของผู้ฝากเงิน นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ประชาชนไปฝากเงินในบริษัทการเงินที่ ผิดกฎหมาย (ทรัสต์เถื่อน) หรือการเล่นแชร์ลูกโซ่ที่เป็นภัยต่อระบบการเงิน เช่น แชร์แม่ชม้อย ทำให้รัฐบาลต้องเข้ามาดูแลคุ้มครองประชาชน ตลอดจนต้องเข้าไปพยุงฐานะทางการเงินและแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินหลายแห่งที่มีปัญหา ขณะเดียวกันมีสถาบันการเงินบางแห่งอยู่ในภาวะล้มละลายและต้องปิดกิจการ รัฐบาลจึงตั้งโครงการ 4 เมษายน 2527 ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน โดยมี การปรับปรุงระบบการบริหารของบริษัทเงินทุนให้มีประสิทธิภาพ และออกพระราชกำหนดการกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2527
นอกจากนี้แล้วปัญหาเศรษฐกิจในระดับมหภาคอันสืบเนื่องจากวิกฤตการณ์น้ำมัน (Oil Shock) ครั้งที่ 2 ในช่วงปี 2524 ที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นจากประมาณ 17 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่สูงถึงบาร์เรลละ 34 ดอลลาร์สหรัฐฯส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซามาจนถึงปี 2527 ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุมสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไม่ให้เติบโตเกินร้อยละ 18 รวมถึงมีมาตรการจัดชั้นสินเชื่อที่มีปัญหาเพื่อควบคุมการปล่อยกู้ให้มีความเข้มงวดมากขึ้นสำหรับธุรกิจที่ไม่เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันขนาดของสินเชื่อเพื่อการนำเข้าก็มีการควบคุมไม่ให้ขยายตัวเกินร้อยละ 5 ต่อปี

นอกจากนี้ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2527 รัฐบาลประกาศปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราจาก การผูกค่าเงินบาทไว้กับดอลลาร์ มาเป็นระบบตะกร้าเงินที่ผูกค่าเงินบาทไว้กับกลุ่มประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ทำให้ระบบเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามก็ส่งผลดีต่อการดำเนินเศรษฐกิจในระยะ ต่อมาจากมาตรการรักษาวินัยทางการเงินที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ
วิกฤตการณ์ครั้งนั้น ตอกย้ำให้ภาครัฐหันมาพิจารณาการจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝาก ที่จะ เข้ามาคุ้มครองผู้ฝากเงินในลักษณะที่มีการประกาศวงเงิน และเงื่อนไขชัดเจน (Explicit Guarantee) ทั้งนี้เพื่อให้สถาบันการเงินมีวินัยในการดำเนินธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินที่แท้จริงโดยปราศจากการอุ้มชูของทางการ เพื่อลดความสูญเสียจากการเข้าไปสนับสนุนของภาครัฐในกรณีที่ภาคเอกชนดำเนินธุรกิจแล้วเกิดปัญหาเนื่องจากขาดความระมัดระวัง และขาดวินัยทางการเงินใน การประกอบธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยขณะนั้นยังอ่อนแอจากปัญหาต่าง ๆ เช่น ปัญหาหนี้เสีย ปัญหาความพอเพียงของเงินกองทุน ปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อ ผู้ฝากเงิน หากธนาคารแห่งประเทศไทยยกเลิกการคุ้มครองผู้ฝากเงิน แล้วให้สถาบันประกันเงินฝากจัดตั้งขึ้นมาคุ้มครองผู้ฝากเงินแบบกำหนดวงเงินชัดเจนในทันที จะก่อให้เกิดปัญหาการขาด ความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงของผู้ฝากเงิน โดยเฉพาะในกลุ่มสถาบันการเงินขนาดเล็ก เนื่องจากผู้ฝากเงินกับสถาบันการเงินขนาดเล็ก จะแห่กันถอนเงินฝากไปไว้กับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่คิดว่ามี ความปลอดภัยกว่า ทำให้สถาบันการเงินขนาดเล็กเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินอีกครั้ง
เมื่อภาครัฐยังไม่สามารถจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากได้ในช่วงนั้น ภาครัฐได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Institutions Development Fund; FIDF) ขึ้นมาในปี 2528 เพื่อดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เพื่อให้ระบบสถาบันการเงินดำเนินธุรกิจอย่างมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันเมื่อเกิดวิกฤตการณ์กับระบบสถาบันการเงิน กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ตามสมควรกับผู้ฝากเงิน

ถึง USA,EU จะมีกูรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง(GURU) มากมาย แต่ก็คงจะจบ Supprime แบบไม่สวย
เพราะ ความโลภไม่เคยปราณีใคร ฟองสบู่เงินกู้&Derivertive ที่ปั่นจนเกินงาม เอาเงินในอนาคตมาใช้ หลอกตาว่าเสมือนมีสภาพคล่องล้นเหลือในระบบการเงิน สุดท้ายก็ต้องแตก เป็น Cycle เช่นนี้เรื่อยไป
Goldmansach CitiGroup Merlylynch ขาดทุนกระจาย ขนาดแบงค์อันดับต้นๆของโลกนะเนี่ย !!!!!!

Trade อย่างพอเพียง แล้วเราจะเพียงพอ >_<"

http://www.bex.or.th/files_bexplorer/2548-07-bexplorer.pdf
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 51 08:16:00

จากคุณ : น้องส้มเด็กดี - [ 22 ม.ค. 51 08:14:19 ]