ความคิดเห็นที่ 1 เราทำงานกับบริษัทอเมริกัน มีสาขาในไทย บริษัทเป็นตัวแทนจัดหางาน นับตั้งแต่วิกฤตซัพไพรม์เมื่อปีที่แล้ว จนถึง ณ ปัจจุบันนี้ยังมีงานจ้างพนักงานที่ทางอเมริกาเข้ามาตลอด ไม่เห็นงานที่เรารับผิดชอบมันจะลงลดเลยอ่ะเป็นปกติ และก็เคยอ่านบทความที่ประกาศเรื่องการจ้างแรงงานยังอยู่ในอัตราที่ดีอยู่นั่นก็สอดคล้องกับงานที่เรารับผิดชอบ ฉะนั้นอย่าไปตกใจมากมันเป็นแค่ panic ที่คาดไม่ถึงเท่านั้น แต่ถ้าถามจริงๆ แล้วสหรัฐอเมริกา ก็ยังคงเป็นประเทศที่น่าลงทุนอยู่ดี มีพื้นฐานที่ดีนั่นไม่แปลกเลยที่ว่าทำไมสหรัฐอเมริกาถึงได้ฉายาว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ ถ้าไม่ลงทุนที่อเมริกาแล้วจะไปลงทุนที่ไหนที่ให้ผลตอบแทนสูง? ยุโปรก็ไม่ดี ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียก็ไม่ดี แล้วถ้านั้นจะไปลงทุนที่ไหน? สุดท้ายมันก็ต้องกลับมาที่ตลาดหุ้นอยู่ดี จากคุณ : into the blue - [ 24 ม.ค. 51 10:41:17 A:202.90.114.137 X: TicketID:037906 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ของจริงครับ ที่สำคัญคนของเขาเข้าใจสภาวะดีกว่าของเราเยอะเลย เขาทำงานมากขึ้น พยายามประหยัด และยังคงมีความเคลียดอยู่สูง ต่างจากของเราเมื่อปี 40 ตอนนั้นคนของเรายังคงใช้ชีวิตสนุกสนานเหมือนเดิมเกิน 60% อาจเป็นเพราะคนของเราแม้จะลำบากยากแค้นแต่ไม่มีอดตาย ของเขาถ้าไม่มีคืออดตายหนาวตายได้ จากคุณ : weeras - [ 24 ม.ค. 51 10:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พี่ชายผม พึ่งกลับมา มันบอกว่า อเมริกา  ยังใช่จ่ายเหมือนเดิมเลย  ยิ่งถ้าบุชให้คูปองคืนภาษี นะ คิดว่ามันยิ่งทำให้ อะไรเเย่ลงไป ประเทศเขาเหมือนไม่มีผลเท่าไรเลย หรือว่ายังไม่กระทบถึงภาคครัวเรือน จากคุณ : sandee.kung - [ 24 ม.ค. 51 10:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพื่อนที่อยู่ทางโน่นยังใช้ชีวิตปกติค่ะ จากความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่า ปัญหาSupprime เป็นเรื่องหนี้สินที่เป็นห่วงโซ่ จากการไม่ชำระของลูกหนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น อยู่ในกลุ่มเกี่ยวกับสถาบันการเงิน และตลาดทุนซะส่วนใหญ่ สหรัฐอเมริกาเป็นตำรวจโลกได้ เรื่องในบ้านของเขา น่าจะแก้ไขได้ดีนะคะ แต่ที่ป่วนโลก เพราะเราอิงกับประเทศมหาอำนาจ ทำให้เดือดร้อนแบบนี้ กลุ่มปัญหา supprime น่าจะเป็น พวกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้น เป็นต้น ใครไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ ไม่กระทบมากนะคะ จากคุณ : สาวดอย - [ 24 ม.ค. 51 11:20:51 A:125.25.149.100 X: TicketID:128368 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พวกที่โดนยึดบ้าน ผ่อนบ้านไม่ไหวที่อเมริกา คือพวกที่กู้เงินซื้อบ้านเต็มจำนวน แล้วใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่แค่ 5 ปีหลังจากนั้นดอกเบี้ยจะลอยตัว ตอนนี้ครบ 5 ปีแล้วไง ดอกมันก้อขึ้น ค่าผ่อนต่อเดือนก้อขึ้น แต่เงินเดือนขึ้นตามไม่ทัน ก้อเจ๊ง  ถ้าเค้าเลือกแบบดอกเบี้ยคงที่ 30 ปี ก้อคงไม่มีปัญหาอ่ะ จากคุณ : หนูออน (NuOrn) - [ 24 ม.ค. 51 11:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่รู้สินะ ก่อนปี 40 ผมทำงานอยู่ในธุรกิจการเงิน ทำงาน จบมาใหม่เลยๆ พี่ที่ทำงานบอก คอยดูจะมีแบงค์ล้ม บ.เงินทุนล้ แน่ ผมบอกจะบ้าหรือพี่แบงค์ล้ม และก็จริงๆเกิดขึ้น ตอนนั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้หรอกครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่เชื่อลองถามเพื่อนร่วมงานของคุณดูสิ เอาคนที่ไม่เล่นหุ้น ไม่เล่นกองทุนนะ เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ US  มีปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก จากคุณ : neotheone - [ 24 ม.ค. 51 11:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 Housing price has been down quite a lot. This would affect consumer spending. Low interest rate would help. Reatil: In the past years, I think All store sold out almost every thing during Thanks Giving promotion(Nov). There would be new collection selling at high price during X'mas and new year. For this year, I still see price reduction during X'mas and even after new year. I think it was down quite a lot. Labor Mkt: Not many company announce lay off. But I think it will come. Over all, I think the problem is very serious as housing sector is huge. However There are many others, those are very strong. I hope that Fed will be capable of containing the problem. The recent move was really good. In my opinion, we should see a better trend in 2H08. จากคุณ : YT - [ 24 ม.ค. 51 12:15:22 A:98.207.195.150 X: TicketID:154076 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พวกฝรั่งเค้าใช้จ่าย ย่างประหยัดมาแต่ไหนแต่ไร แล้ว เค้าก็ยังดูใช้จ่ายตามปกติ เพียงแต่ การซื้อขายบ้าน ฝืดมากในรอบ 20 ปี ราคาบ้านแถบตอนเหนือ ของ California ลดลงถึง 20 % แล้วก็ยังไม่ค่อยมีคนซื้อ จากคุณ : NANG20 - [ 24 ม.ค. 51 12:30:01 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยกับ คห 4 แต่มันจะลามไปส่วนอื่นๆในไม่ช้าไม่เกิน 2 ปีคงได้เห็นอะไรชัดมากกว่านี้ ตอนนี้ยังไม่รู้อะไรหรอก ของไทยก็เริ่มจากภาคอสังหาฯเหมือนกันซึ่งเกิดก่อนปี 2540 ด้วยซ้ำ ในส่วนอื่นๆก็ไม่รู้ว่าหรอกว่าเศรษฐกิจของประเทศเริ่มมีปัญหาและจนกระทั่งภาคการเงินที่เป็นหัวใจของเศรษฐกิจ เริ่มมีปัญหาโดยเฉพาะกับธปท. และผลที่สุดต้องลอยตัวค่าเงินนั่นแหล่ะ จากคุณ : Ultraguy - [ 24 ม.ค. 51 12:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขึ้นกับอุตสาหกรรมครับ กลุ่มการเงินอาจจะเริ่มมี lay off บ้าง ตามภาวะการณ์ แต่กลุ่มอื่นๆ เช่นกลุ่ม hi tech   ราคาสินค้าเกษตรก็ดีครับ (us ภาคเกษตรก็ใหญ่นะครับ แรงงานในกลุ่มนี้ก็ไม่น้อย)  ยังเติบโตได้อยู่ครับ เคยอยู่ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ แค่ออกความเห็นครับ จากคุณ : I bet - [ 24 ม.ค. 51 12:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าปี 40 มันเหมือนเรื่องที่เกิดสมบูรณ์แล้วนะครับ แต่ อเมริกาเพิ่งเริ่มต้นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตอนจบจะเป็นเหมือนปี 40 หรือไม่ คิดว่าอยู่ที่ความเหนือและความตั้งใจ ในการแก้ปัญหาของผู้นำครับ ตรงนี้แหละที่ต่างกับปี 40 ของเราอย่างสิ้นเชิงเหอเหอ จากคุณ : luckydog2 - [ 24 ม.ค. 51 13:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอแชร์บ้างครับผิดตรงไหนต้องขอความรู้ด้วยครับผมประมวลจากความเข้าใจที่อ่านๆมา ตลาดหุ้นมันเหมือนเป็นตัวสะท้อนภาวะเศรษฐกิจออกมาก่อน ดังนั้นตลาดหุ้นจะไปก่อนครับ แล้วจึงค่อยกระทบไปถึงประชาชนทั่วไป เพราะคนที่เล่นหุ้นจะมองดูอนาคตของบริษัทต่างๆ ถ้ามันไม่ดีตลาดหุ้นไปก่อน จากนั้นบริษัทจะเริ่มล้ม กระเทือนไปถึงคนในบริษัท แล้วกระทบต่อเป็นลูกโซ่ คนที่เล่นหุ้นนั้นมีจำนวนน้อยครับเมื่อเทียบกับประชากรทั้งประเทศ คนส่วนใหญ่จึงยังไม่ค่อยรู้ผลกระทบความรุนแรงจากซับไพร์มที่กำลังจะระเบิด และการเล่นกับตราสารอนุพันธ์ที่เล่นด้วยการใช้เครดิตถึง 10 เท่าของเงินสดจริงที่จ่ายออกไป  การค้ำประกันความเสี่ยงต่อกันไปไม่รู้กี่ทอด ผมว่าเกิดวิกฤติแน่ครับและจะแรงกว่าต้มยำกุ้งมากๆ เพียงแต่มันจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่ ยังไงก็อย่าประมาทครับ จากคุณ : spymatrix - [ 24 ม.ค. 51 13:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พี่ชายอยู่อเมริกา ทำงานได้เดือนละ 2,500 เหรียญ ผ่อนบ้านเดือนละ 2,000 เหรียญ (บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาด 5 ห้องนอน) ประหยัดสุดๆ ที่ทำงานเลี้ยงอาหาร 3 มื้อ กินจนจะกลายเป็นพ่อหมู บอกว่าเศรษฐกิจที่โน่นดีมากๆ เหมาะแก่การเปิดร้านอาหารเป็นที่สุด จากคุณ : อี...แหล๋ - [ 24 ม.ค. 51 17:54:51 A:125.25.137.129 X: TicketID:122020 ]