ความคิดเห็นที่ 1 จากข้อสังเกตที่ว่า ในการเทรดแบบ DSM เมื่อราคาหุ้นตกลงมาก ๆ พร้อมกับมูลค่าพอร์ตที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด การนำเงินแฝงที่ได้รับในระหว่างทางไปเพิ่มหุ้น โดยไม่ต้องเพิ่มเงินลงทุน กระบวนการดังกล่าวจะนำไปสู่ ความมีอิสรภาพทางการเงินได้จริงหรือไม่ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 24 ม.ค. 51 17:29:57 A:125.27.165.51 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จนถึงวันนี้ตัวผมเองยังคงมีความเชื่อว่า 1. เป็นธรรมชาติของกระบวนการเทรดแบบ DSM ที่มูลค่าพอร์ตมักจะลดต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มต้นอยู่เสมอ จนกว่าจะถึงเวลา ที่สามารถเพิ่มจำนวนหุ้นในมือได้ระดับหนึ่ง ณ วันนั้น มูลค่าพอร์ตจะไม่ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มต้นอีก 2. จำนวนหุ้นที่สามารถเพิ่มมากขึ้นได้เรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องนำเงินมาลงทุนเพิ่ม จะนำไปสู่ การมีรายได้สม่ำเสมอจากเงินสดแฝง หรือจากเงินปันผลในอนาคต แต่ความเชื่อของผมดังกล่าว ยังคงเป็นแค่ความเชื่อ ในการศึกษาและเทรดแบบ DSM ในช่วงเวลาประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา แม้ความเชื่อยังคงเดิม แต่ผลลัพธ์ยังมองไม่เห็นชัดเจน อีกทั้งมีข้อผิดพลาดหลาย ๆ อย่าง ผมจึงอยากลองตั้งใจตามดูสักครั้ง กับการเทรด DSM แบบเบสิค (ในแบบที่ผมตีความ) ลองตามดูในระยะเวลานาน ๆ ว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป ความเชื่อที่ว่านั้น เป็นความจริงหรือไม่ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 24 ม.ค. 51 17:39:35 A:125.27.165.51 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อย่างไรก็ดี ด้วยข้อจำกัดในแง่ของความรู้ ในการตีความของผมเอง วิธีการเทรดที่อาจไม่ถูกต้องตามหลัก สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ไม่สามารถสะท้อนถึงกระบวนการ DSM ที่แท้จริงได้ แต่ผมหวังว่า การรายงานผลที่เกิดขึ้นจริงอย่างตรงไปตรงมา อาจจะสะท้อนแง่มุมบางอย่างที่เป็นประโยชน์ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย แม้ไม่อาจพิสูจน์ความเชื่อข้างต้นได้อย่างเต็มที่ อย่างน้อยก็ทำใจว่า ตามดูมือใหม่คนนึง ลงทุนแบบ DSM ก็แล้วกันนะครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 24 ม.ค. 51 17:50:26 A:125.27.165.51 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมตั้งชื่อพอร์ตว่า พอร์ตหนอนตัวอ้วน มีเงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 1 หมื่นบาท ผมทยอยซื้อหุ้น ASP เมื่อตอนสิ้นปี 2550 3.74 บาท 1,200 หุ้น 3.72 บาท 1,100 หุ้น 3.62 บาท 400 หุ้น รวมมีหุ้น ASP ทั้งหมด 2,700 หุ้น มูลค่าเงินลงทุน 10,049.46 บาท (ผมขอคิดเป็น 10,000 บาทถ้วนนะครับ จะได้ดูตัวเลขง่าย ๆ ) ผมใช้วิธีการเทรดคือ 1. เมื่อหุ้นลง ผมจะขายหุ้นลงมาเรื่อย ๆ ทุก 2 ช่อง และจะซื้อหุ้นคืนเมื่อหุ้นกลับตัวขึ้นจากข้างล่าง 4 ช่อง 2. เมื่อหุ้นขึ้น ผมจะถือหุ้นตามขึ้นไป โดยจะเริ่มขายไม้ 10 % ไม้แรกเมื่อหุ้นขึ้นไปถึงประมาณ 15 ช่องแล้วกลับตัวลงมา 3. มีการขาย 1 % ในขาขึ้น อันนี้เนื่องจากผมมีหุ้นน้อย ก็ทำได้ไม่เต็มที่ ผมจึงขายครั้งละ 100 หุ้น ในขาขึ้นทุก 2 ช่องบ้าง หรือ 3 ช่องบ้าง ไม่แน่นอน ถือเป็นการขายไม้ 1 % 4. เงินแฝงที่ได้ผมจะนำไปซื้อหุ้นเพิ่ม และจะหักเงินแฝง 25 % ของที่ทำได้แต่ละเดือน ออกไปเป็นเงินคืนทุน 5. ในกรณีที่หุ้นขึ้นไปมาก และทิ้งกองหลังมากกว่า 3 ไม้ ผมอาจจะแปลงร่างกองหลังบางส่วนเป็นหุ้นตัวอื่น ที่ราคาต่ำกว่า ASP โดยจะแปลงขาดไปเลย คือไม่เก็บข้อมูล ASP ไม้ที่แปลง ไว้ซื้อคืนอีก ผลต่างที่เกิดขึ้นจากการแปลงร่าง จะถือเป็นเงินแฝงเทียม ไว้ใช้เพิ่มหุ้นเท่านั้น ไม่มีการหักออก หรือนำไปใช้อย่างอื่น 6. ผมจะรายงานเฉพาะเงินแฝงแท้ จากการขายแล้วซื้อคืนหุ้นถูกกว่าขายเท่านั้น ไม่รวมเงินแฝงเทียม (ถ้ามี) 7. ถ้าหุ้น ASP หรือหุ้นตัวอื่นในอนาคต ราคาตกลงมามากถึง 50 % ของราคาซื้อลงทุน ผมอาจจะเปลี่ยนตัว โดยนำเงินจากการขายหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่ ไปซื้อหุ้นตัวใหม่แทน โดยอาจเก็บหรือไม่เก็บข้อมูลเก่าของหุ้นตัวที่แปลง ไว้เทรดก็ได้ แต่วิธีการตรงนี้ผมยังไม่ชัดเจน เลยขอพูดไว้กว้าง ๆ ก่อนนะครับ .......................................................................................... ที่ผมเล่ามาข้างต้น เพื่อให้มองเห็นภาพว่า ผมใช้วิธีเทรดอย่างไร หากมีข้อผิดพลาดหรือไม่ตรงกับหลักการ DSM ตรงไหน ก็จะได้มองเห็นชัดเจนตั้งแต่แรก จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 24 ม.ค. 51 18:20:16 A:125.27.167.23 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมคงไม่ได้พูดถึงรายการซื้อ ขาย อย่างละเอียดนะครับ แต่ก็จะยึดหลักการเทรดที่กล่าวไว้ข้างบน และจะตามอัพเดตข้อมูลสรุปความเคลื่อนไหวของพอร์ต ไปเรื่อย ๆ กระทู้นี้อาจใช้เวลานาน เป็นสองสามปี หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือผมสลบเหมือดไปก่อน โดยขออนุญาต copy เป็นกระทู้ใหม่ เป็นบางช่วง ผมคงเขียนหลาย ๆ อย่างตามความเห็นส่วนตัวของผม ตามความคิดที่อาจไม่ถูกต้องตามหลักการนัก หากพี่ ๆ เพื่อน ๆ ท่านใดมีข้อคิด ข้อสังเกต คำแนะนำ ก็จะขอบคุณมากครับ แต่หากท่านใดที่ไม่สนใจ ก็ขอให้ผ่านไปนะครับ และผมขอกล่าวอีกครั้งว่า ทุก ๆ อย่างที่เขียนในกระทู้ ล้วนเป็นมุมมองของผมคนเดียว ในฐานะของคนหนึ่งที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ************************************** ไม่สามารถใช้เป็นตัวแทนของแนวคิด DSM ได้ ************************************** จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 24 ม.ค. 51 18:30:01 A:125.27.167.23 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อีกเหตุผลหนึ่ง ที่ผมอยากเขียนกระทู้นี้ ก็คือ ตลาดหุ้นค่อนข้างจะเป็นขาลง ตั้งแต่ต้นปี ตัวผมเองก็ยังคิดว่า ดัชนีตลาดน่าจะลงไปมากกว่าตอนนี้อีก ทำให้เป็นการดี ที่จะติดตามว่า ในสภาพที่เป็นขาลงตั้งแต่เริ่มต้นลงทุน เราจะฟื้นกลับมาได้ไหม ใช้เวลานานแค่ไหน จะเจออะไรระหว่างทางบ้าง ............................................................................................. ณ วันนี้ 24 มกราคม 2551 ราคาปิดหุ้นน้องเอ (ASP) อยู่ที่ 2.94 บาท ขณะที่ราคาลงทุนเริ่มต้นอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 3.72 บาท ผมคิดว่าราคาน่าจะลงมาแล้วประมาณ เท่ากับ 3.72 - 2.94 = 0.78 0.78 หารด้วย 3.72 ได้เท่ากับ ประมาณ 21 % ของราคาลงทุน (ไม่ทราบคิดแบบนี้ ถูกไหมนะครับ) ผมมีน้องเอ (ASP) เหลืออยู่ในมือ 1,000 หุ้น และขายไว้แล้ว 1,700 หุ้น แม้ราคาน้องเอจะค่อนข้างเป็นขาลงมาโดยตลอด แต่ก็มีการกลับตัวอยู่บ้าง ทำให้ผมต้องซื้อคืนตามแผนที่วางไว้ จึงยังคงมีหุ้นเหลือในมือ แม้ราคาจะลงมามากพอสมควรแล้ว ผมคิดว่า จำนวนหุ้นที่เรายังต้องซื้อคืนกลับมาตามแผนและถืออยู่ในมือนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มูลค่าพอร์ตลดลง ตามวิธี DSM เมื่อเทียบกับการที่สามารถขาย cut loss ออกไป ตามวิธีอื่น เนื่องจากแม้แนวโน้มของตลาดต่างประเทศ ข่าวเศรษฐกิจการเมือง หรือแนวโน้มของดัชนีบ้านเรา จะเป็นอย่างไร เรายังคงต้องทำตามแผนที่วางไว้ นั่นคือ เมื่อลงต้องขาย เมื่อขึ้นต้องซื้อ ทำให้แม้บางครั้งจะคิดว่า หุ้นน่าจะลงไปอีก อย่าเพิ่งซื้อคืนเลย ก็ยังคงต้องทำตามแผนต่อไป มูลค่าพอร์ตของน้องเอ วันนี้ อยู่ที่ 8,327.97 หรือ 83.27 % คิดเป็นมูลค่าลบไปแล้ว 17 % จากเงินลงทุน 10,000 บาท ในเวลาที่ผ่านมา 1 เดือน จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 24 ม.ค. 51 18:48:58 A:125.27.167.23 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แม้ในความเห็นข้างต้น ผมจะพูดคล้ายกับว่า การทำตามแผน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มูลค่าพอร์ตลดลง แต่จุดนี้ ผมคิดว่าเป็นจุดที่สำคัญจุดนึงของแนวคิด DSM ในช่วงปลายปีที่แล้ว ผมรู้สึกตัวว่า แนวคิดการสร้างรายได้ จากการขายแล้วซื้อคืน ในราคาที่ถูกกว่าราคาขายนั้น จะต้องเป็นสิ่งที่ซึมลึกเข้าไปในใจของเรา คำว่า "ซื้อให้ถูกกว่าขาย" มีนัยยะได้สองแบบ คือ ขายก่อนแล้วซื้อคืน หรือ ซื้อก่อนแล้วขาย แม้ในกระบวนการเทรดของผม ผมจะยอมรับทั้งสองแบบว่าเป็นการสร้างรายได้ ที่ถูกต้องตามหลัก DSM เราอาจจับคู่คิดเงินแฝงจาก หุ้นที่ขายก่อนแล้วซื้อคืน หรือซื้อก่อนแล้วขาย ก็ได้ แต่ในทางปฏิบัติ ในการเทรดแบบเบสิคนั้น แนวคิดของการซื้อ น่าจะเป็นการ ขายแล้วซื้อคืน มาก่อน การซื้อแล้วขาย เนื่องจาก หากเรามีความคิดหลักว่า จะขายแล้วซื้อคืน ย่อมส่งผลต่อการเทรด ที่พร้อมจะขายหุ้นในทุกราคาตามแผน เพื่อจะซื้อคืนในวันข้างหน้า โดยไม่พะวงกับสภาพตลาดในขณะนั้น เป็นการทำตามแผน โดยไม่ต้องมีข้อกังวลใด ๆ แต่หากมีความคิดของ การซื้อเพื่อจะขายสูงกว่า เข้ามาเป็นหลัก ในบางครั้งการตัดสินใจซื้อหรือขาย อาจมีความรู้สึกของการคาดเดาตลาด เพิ่มเข้ามา อย่างไรก็ตามผมไม่ได้พูดว่า แนวคิดควรจะเป็น การขายแล้วซื้อคืน เท่านั้น ผมขอใช้คำว่า เป็นแนวคิดเบสิค ที่ควรมาก่อน เนื่องจากทุกวันนี้ ผมยังมองว่า ทั้งสองอย่างล้วนสามารถสร้างรายได้เงินแฝงให้กับเรา จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 24 ม.ค. 51 19:07:57 A:125.27.167.23 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จากคำแนะนำของ คุณเด่นศรี ที่คุณ wasansem ได้ยกมาให้อ่านเมื่อวันก่อน ในส่วนที่ว่า ............................................................................................ "มองว่ามันเป็นทรัพย์สิน ที่สร้างรายได้ ตราบใดที่มันยังมีมูลค่า มันสร้างรายได้ให้เราได้เสมอ แนวคิดนี้ เปรียบเหมือน การลงทุนที่นำเงินสดก้อนหนึ่ง ซื้อหุ้น จากนั้น เราก็มาเฝ้ามองดูว่า หุ้นก้อนนั้น มันกำลังทำงานของมันอย่างขยันขันแข็ง เราไม่เคยมองว่ามันเหลือค่าเท่าไหร่ แต่เรามองว่า มันกำลังสร้างเงินให้เราเท่าไหร่ เปรียบเหมือนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่คุณเน้นอย่างจริงจังว่า จะเก็บรายได้จากค่าเช่าจากสิ่งที่คุณซื้อมา เมื่อซื้อตึกมาแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องสนใจราคาตัวตึก เพราะคุณได้ตัดสินใจแล้วว่า คุณจะหารายได้จากค่าเช่าของมัน ไม่ใช่กำไรที่จะขายมัน ดังนั้น ไม่ว่าราคามันจะมากขึ้นหรือน้อยลง คุณก็ไม่ได้ต้องการขายเพราะไม่ต้องการกำไร สิ่งที่ต้องการคือ ค่าเช่าของมัน ที่ได้มาทุกเดือน ทุกปี " ......................................................................................... ผมมองว่าแนวคิดเหล่านี้ เป็นจุดสำคัญมาก ๆ เป็นแนวคิด ที่เราต้องเข้าไปให้ถึง ที่เราต้องกำหนดไว้ในใจ หากเราเลือกที่จะลงทุนในแนวทาง DSM เมื่อใดก็ตามที่แนวคิดเหล่านี้ซึมซาบเข้าไปในใจ กลายเป็นความรู้สึก ไม่ใช่เป็นแค่ความจำ ผมเชื่อว่า เราจะเทรด DSM ได้ง่าย และสบายใจมากขึ้นครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 24 ม.ค. 51 19:15:58 A:125.27.167.23 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แอบมาดูพอร์ทหนอนตัวอ้วนครับ จากคุณ : ozzyii - [ 24 ม.ค. 51 20:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ครับดีครับเห็นด้วย  งั้นเรามายุบรวมกันดีมั้ยครับ  dsm sumary  กับกระทู้ของพี่  ถ้าพี่จะเขียนทุกวัน เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลอ้างอิงกัน  ว่าพี่ทำอย่างไรไปกับหุ้นกับภาวะตลาดวันนั้น แตกประเด็นไปเรื่อย ๆ  เวลาย้อนกลับมาดูซักสามเดือนผ่านไป  ก้อจะได้แนวคิดเพื่อก้าวไปข้างหน้า ............................................................................. ผมไม่เคยสงสัยในดีเอสเอ็ม  ที่ผมสงสัยคือผมเห็นว่าดี  แต่ทำไมผมไม่ทำตามวิธีของดีเอสเอ็มจริง ๆ เหมือนเรารู้ว่าออกกำลังกายดีแน่ ๆ  แต่เราก้อบอกไม่มีเวลา  ไม่ว่าง .................................................................. หุ้นขาขึ้น  ไม่ว่าเทรดแบบไหน  ก้อได้กำไร   แต่ดีเอสเอ็มขาลง  สามารถอยู่ได้ในตลาดตลอดเวลา  ไม่มีดอย  ติดหุ้น "หุ้นไม่ทำจุดสูงสุด  แต่ไม่ทำจุดต่ำสุด"  นี่แหละที่จะทำเงินให้ดีเอสเอ็ม ข้อความเต็ม ๆ  ผมจำไม่ได้ครับ  แต่ก้อประมาณนี้ ดังนั้นถ้าหุ้นตกมากกว่า  50 %  จากจุดลงทุนครั้งแรก  ควรที่จะหมดมือไปแล้ว ถ้าวินัย  ยังอยู่  มันต้องเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นตัวนั้นแน่ ๆ จากคุณ : จอนฟอน - [ 24 ม.ค. 51 20:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่จริง ๆ  แล้ว  หลักการดีเอสเอ็ม  ไม่พูดเรื่องกำไรขาดทุน ต้องพูดว่ารายได้  ไม่ใช่เล่นคำ  มันต่างกันมากจริง ๆ หุ้นนั้นจะสร้างรายได้ให้เราไปตลอด  ไม่ว่าจะมาจากปันผล  หรือ  กส.งฝ. จากคุณ : จอนฟอน - [ 24 ม.ค. 51 20:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แอบเข้ามาดู จากคุณ : akae - [ 24 ม.ค. 51 22:35:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6267650/I6267650.html ที่นี่เค้าก็เดินทางด้วย DSM นะครับ... น่าภูมิใจ น่าภูมิใจ ... จากคุณ : akae - [ 24 ม.ค. 51 22:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เนื่องจากผมมีหลายตัว ดังนนั้นในบางตัวได้เกิดผลให้เห็นบ้างแล้ว ราคาตอนนี้ขายปิดไปก็ยังกำไร ตัวเหล่านี้สบายใจจริงๆ จากคุณ : trakulsom - [ 25 ม.ค. 51 06:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 น่าจะชวนเข้ามาเฮฮาด้วยกันนะครับ จากคุณ : Mr.Eiji - [ 25 ม.ค. 51 09:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีทุกท่านครับ คุณจอนครับ ผมว่า DSM Summary ก็ดีแล้วนะครับ เป็นทางการดี มีรูปข้อมูลสวย ๆ ด้วย มีความเห็นดี ๆ ของคุณจอนด้วย มีพี่ ๆ เพื่อน ๆ ไปเล่าให้ฟังทุกวัน กระทู้นี้บางวันผมอาจไม่ได้เขียนเพิ่ม บางวันก็อาจคุยเรื่อยเปื่อย แต่ผมก็จะไปสรุปข้อมูลน้องเอ ในกระทู้คุณจอนทุกวันเหมือนกันครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 25 ม.ค. 51 10:17:09 A:125.27.161.185 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้น้องเอ เปิดเช้า ราคามาอยู่ที่กองหลังตัวบนเลยครับ ก็ได้ซื้อคืนไม้ที่ขายไว้ข้างบนกลับมา ช่วงกลางวันก็ยังลุ้นว่าซื้อแล้วจะต้องลงไปขายใหม่เลยไหม เพราะน้องเค้าใจเย็นเอามาก ๆ ราคากระเถิบทีละนิด เพิ่งมาวิ่งขึ้นชัด ๆ ก็ตอนเย็นก่อนปิดตลาดครับ วันนี้ราคาปิดที่ 3.14 ห่างจากกองหลังตัวบนของผมแค่ 6 ช่อง ถ้าหุ้นขึ้นจริง จุดขายไม้ใหญ่ ต่อไปก็อยู่ที่ประมาณ 3.32 ระหว่างทางก็คงขายไม้เล็ก 1 % ครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 25 ม.ค. 51 19:15:25 A:125.27.164.112 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เชียร์ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 25 ม.ค. 51 19:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อเช้าผมพูดถึงการซื้อคืนเร็ว แบบพ่อมด Harry Wasan ไว้นิดนึงในกระทู้เฮฮา ผมเองค่อนข้างประทับใจกับวิธีนี้ เหมือนที่เขียนไว้ว่า เสน่ห์อยู่ที่ ความเรียบง่าย และไม่เคยสนใจมูลค่าพอร์ต แม้หลักการดั้งเดิมของ DSM จะไม่กังวลกับมูลค่าพอร์ต แต่วิธีซื้อคืนเร็วนี้ ก็ยิ่งสะท้อนแนวคิดนี้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเป็นวิธีที่เน้นการทำตามแผน อย่างชัดเจน ไม่ว่าแนวโน้มตลาด จะเป็นอย่างไร ทุกอย่างก็ยังทำไปตามแผน ผมเองชอบมากครับ เลยแอบเรียกว่า พอร์ตโวลเดอร์มอร์ เพื่อแซวพี่หลังไมค์เล็กน้อย หวังว่าพี่หลังไมค์คงไม่มาเยี่ยมนะครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 25 ม.ค. 51 19:30:14 A:125.27.164.112 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับ พี่แมลงเม่าทนไฟ ถ้ามีโอกาส คุยถึงแนวโน้มเซ็ตบ้างนะครับ ผมชอบอ่านที่พี่ Taxi เค้าเขียนไว้ในกระทู้สรุปตอนเย็นของคุณ roadtrip ตอนอ่านก็ยังนึกถึงพี่แมลงเม่าทนไฟเลยครับ ............................................................................................. เดิมผมมีข้อสังเกต 2 ข้อเกี่ยวกับการซื้อคืนเร็ว นั่นคือ ข้อแรก การซื้อคืนกลับทุกครั้งที่ซื้อได้ ทำให้ในเวลาที่หุ้นตกลงไปเยอะ เรายังคงมีหุ้นในมือ เนื่องจากจะซื้อหุ้นกลับมาตามแผนทุกครั้ง ข้อสังเกตสำคัญของผมไม่ได้อยู่ที่เรื่องมูลค่าพอร์ตที่จะลดลงเห็นได้ชัด เนื่องจากผมมองว่า การเทรดแบบ DSM มูลค่าพอร์ตน่าจะลดทุกวิธี ในระยะเวลาหนึ่ง แต่อยู่ที่ในกรณีของการที่หุ้นตัวนั้น ราคาตกลงไปมากถึง 50 % หรือมีการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของบริษัทค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามผมมองว่า การเลือกหุ้นที่ดีของเราตั้งแต่เริ่มต้น น่าจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญตัวนึง ทำให้เราสามารถซื้อคืนได้อย่างสบายใจ เพราะหุ้นที่ดี แม้ราคาตกลงไป ก็คงจะกลับมาได้อย่างแน่นอน หรืออาจมีวิธีป้องกัน อย่างอื่นอยู่อีก ที่ผมยังคิดไปไม่ถึงก็เป็นได้ ส่วนข้อสังเกตอีกข้อของผม อันนี้ยังไม่ชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่ข้อเสียอะไรหรอกครับ ทั้งสองข้อเป็นแค่มุมมองต่อผลที่เกิดขึ้นจริงจากการใช้วิธีการนี้เท่านั้น จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 25 ม.ค. 51 19:40:11 A:125.27.164.112 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อย่างวิธีการซื้อคืนช้า แบบที่ผมใช้อยู่ บางครั้งพอซื้อรวบไม้ที่ขายไว้ข้างบนกลับมา หุ้นก็กลับลงไปใหม่ ทำให้ต้องหอบหุ้นเต็มมือ ขายเป็นขาลงต่อไป หรือบางทีซื้อคืนไม่ทัน หุ้นกระโดดขึ้นพรวดพราด ต้องทิ้งกองหลังหลาย ๆ ไม้ อันนี้ก็เจออยู่บ่อย ๆ ครับ จริง ๆ แล้วมันก็มีวิธีให้เล่นที่หลากหลายอยู่ ในแง่เทคนิค แต่คงต้องไปขอคำแนะนำจากพี่ขวัญชัย เจ้าของบ่อตกปลา หรือพี่แมลงเม่าทนไฟ คุณงำงำ นั่นล่ะครับ ผมเองไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก ก็เกาะเบสิคไปเรื่อย ๆ ผมคิดว่าแต่ละวิธีก็จะมีจุดที่เราไม่ค่อยถนัดอยู่ ขอเพียงให้เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเรา นั่นล่ะครับ ก็ยิ้มได้แล้ว จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 25 ม.ค. 51 20:17:58 A:125.27.164.112 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อีกเรื่องนึงคือ ในตอนปลายอาทิตย์ที่สอง ผมก็ลังเลตอนซื้อคืนครับ คือไม่ทันได้ดู แล้วหุ้นกลับตัวขึ้นพ้นกองหลังตัวบนไป 3 - 4 ช่อง ปกติถ้าอยู่หน้าจอ พอถึงกองหลังตัวบนผมก็จะซื้อคืน แต่คราวนี้ไปทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เกิดความเสียดายขึ้นมา เอ รอนิดนึง เผื่อลงมาดีไหม ปรากฎว่ากระโดดปรู๊ดขึ้นไปเลยครับ ผิดหวังกับตัวเองอยู่สองวัน เสียเงินแฝงที่ควรจะได้ไปประมาณ 1 % จริง ๆ แล้วเรื่องเงินแฝงของน้องเอนี้น้อยมากครับ ไม่กี่บาทเอง แต่เสียความรู้สึกว่า ขนาดตั้งใจแล้ว ก็ยังมีลังเลอยู่อีก อันนี้ไม่ดีเลย น่าจะเอาหัวโหม่งพุงน้องเอกิ ให้สลบเหมือดไปเลยนะครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 25 ม.ค. 51 20:27:25 A:125.27.164.112 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มาลงชื่อนั่งเรียนด้วยครับ (ยิ้ม) จากคุณ : พิราบเงิน - [ 26 ม.ค. 51 12:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่ำวันเสาร์ครับ  ไม่รู้จะทำรัย  เล่นเนตไปเรื่อย ก้อวนไปวนมา  ห้องสินธร  ดีเอสเอ็ม  วีไอ  กลต. เซทเทรด  ราชดำเนิน  บลูแพลนเน็ต  แกลเลอรี่ ขอเสนอพี่ดอกไม้ว่ากระทู้นี้เอาแค่ 30 - 40  ความเห็น แล้วแตกประเด็นไปเรื่อย ๆ  ดีมั้ยครับ  จะได้ไม่ยาวเกินไป  ถ้าพี่จะเขียนบ่อย ๆ กลับไปอ่าน  คห.ที่  8  ผมลืมประเด็นนี้ไปนานแล้ว  ดีครับ  พี่เขียนกระทู้นี้บ่อย  นะครับ   .................................................................................... "มองว่ามันเป็นทรัพย์สิน ที่สร้างรายได้ ตราบใดที่มันยังมีมูลค่า มันสร้างรายได้ให้เราได้เสมอ แนวคิดนี้ เปรียบเหมือน การลงทุนที่นำเงินสดก้อนหนึ่ง ซื้อหุ้น จากนั้น เราก็มาเฝ้ามองดูว่า หุ้นก้อนนั้น มันกำลังทำงานของมันอย่างขยันขันแข็ง เราไม่เคยมองว่ามันเหลือค่าเท่าไหร่ แต่เรามองว่า มันกำลังสร้างเงินให้เราเท่าไหร่ เปรียบเหมือนการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่คุณเน้นอย่างจริงจังว่า จะเก็บรายได้จากค่าเช่าจากสิ่งที่คุณซื้อมา เมื่อซื้อตึกมาแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องสนใจราคาตัวตึก เพราะคุณได้ตัดสินใจแล้วว่า คุณจะหารายได้จากค่าเช่าของมัน ไม่ใช่กำไรที่จะขายมัน ดังนั้น ไม่ว่าราคามันจะมากขึ้นหรือน้อยลง คุณก็ไม่ได้ต้องการขายเพราะไม่ต้องการกำไร สิ่งที่ต้องการคือ ค่าเช่าของมัน ที่ได้มาทุกเดือน ทุกปี .................................................................... จากคุณ : จอนฟอน - [ 26 ม.ค. 51 21:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้ามองว่าเป็นทรัพย์สิน  สร้างรายได้ให้เราเรื่อย ๆ  เหมือนซื้อตึกให้คนเช่า แล้วเราเก็บค่าเช่าไปเรื่อย  ๆ  มูลค่าตึกลดลง  หรือมูลค่าหุ้นลดลง  ก้อไม่สนใจ เพราะหลักใหญ่ของเราคือขายสร้างรายได้ไปเรื่อย  ๆ  หุ้นลงก้อขาย  หุ้นลงมาก  ก้อขายเท่าที่ขายได้ ถ้าคิดอย่างนี้  วันหุ้นตกหนัก  สมมติว่าน้องลานนา  เริ่มต้นขายไม้ที่ 1  14.50  บาท  เวลา  11.00  น.  10  % ก่อนไปพักเที่ยงดูอีกที  สมมุติว่าราคาเหลือ  13.50  ก้อขายไม่ที่ 2  แค่  10%  เท่านั้น  หุ้นจะเหลือยู่ในมืออีก  80  % ถ้าเราไปดูพอร์ตคิดแบบกำไรขาดทุน  จิตใจจะหวั่นไหวอย่างยิ่ง  ต๊กกะจัย และคิดจะเททิ้งให้หมด  ตามภาวะตลาด  แล้วไปรอรับต่ำ ๆ  เป็นการเร่งเวลา เหมือนเด็กทารกหนึ่งคน  ใช้เวลาเก้าเดือนจึงจะคลอด เรากลับจะใช้ผู้ชายเก้าคน  เพื่อให้ได้เด็กทารกภายในหนึ่งเดือน ขอยืมคำปู่บัฟเฟต์มาใช้หน่อยครับ  คำพูดประมาณนี้  เราอย่าไปเร่งเวลา แต่ถ้าเราคิดว่าหุ้นคือทรัพย์สินให้เช่า  เราก้อรับรายได้ไปเรื่อย  ๆ  เวลาหุ้นตก ตกอีกขายอีก  จนหมดมือ  ไม่ว่าภาวะตลาดจะตกหนักเพียงใด ซับไพรม์จะเป็นยังไง  เกิดวิกฤติการเงินทั่วโลก เราก้อไม่ต้องหวั่นไหวว่าตลาดหุ้นจะไป 600  จุด  หรือเหลือแค่  300  จุด ตราบใดที่บริษัทยังดำเนินกิจการ  ไม่เจ๊งแน่ ๆ และมีกำไร  มีปันผล  ตลาดหุ้นยังไม่ปิด เราสามารถสร้างรายได้ไปได้เรื่อย ๆ  แต่ส่วนมากเราจะลืม   ถ้าพี่ดอกไม้ไม่เอ่ยถึง  ประโยคนี้ผมลืมไปแล้วจริง  ๆ  ขอบคุณครับ  ขอบคุณจริง  ๆ จากคุณ : จอนฟอน - [ 26 ม.ค. 51 21:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าคิดว่าหุ้นคือทรัพย์สิน  ดังนั้นการเลือกหุ้นที่ไม่มีวันเจ๊งหรือไม่ออกไปจากตลาดแน่ ๆ มีกำไร  มากบ้าง  น้อยบ้างเป็นบางปี  มีปันผลยิ่งดี  มีการสวิง  มีวอลุ่มพอสมควร   ดังนั้น  วอแรนต์จึงไม่สมควรนำมาเล่นดีอเอสเอ็มอย่างยิ่ง  ยกเว้นเก็งกำไรเท่านั้น เพราะมีอายุจำกัด  มูลค่าเหลือศูนย์  ไม่อาจสร้างรายได้อีกต่อไปเมื่อหมดอายุ ............................................................ ถ้าเราจะรักษาทรัพย์สิน  สร้างรายได้โดยการขายหุ้น  ไปเรื่อย  ๆ ต้องดูบัญชี  ดูหุ้นในมือ  รักษาเงินสดสำรอง  เพื่อซื้อคืนหุ้น  นำมาสร้างรายได้ใหม่   ยามหุ้นกลับตัว   แต่ทำอย่างไรจึงจะไม่เหลือหุ้นในมือมากไป  ยามหุ้นตกไปเรื่อย ๆ การรักษาสมดุล  การรักษาจังหวะ  วิธีดีเอสเอ็มเบสิค  ซื้อให้ถูกกว่าขาย  จึงสำคัญที่สุด การเดาตลาด  จึงเป็นข้อห้ามอีกข้อนึงของดีเอสเอ็ม เพื่อเป็นจุดยึดเหนี่ยวจิตใจ  ยามเราท้อแท้  กับวิกฤติตลาดหุ้นตกหนักทั่วโลก ผมขอนำม๊อตโต้  ใน  คห.ที่  8  และ  คห.นี้  แปะที่  ดีเอสเอ็ม  ซัมมารี่  เพื่อเตือนสติตัวเองทุกวันนะครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 26 ม.ค. 51 22:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านแล้วผมมีความสุขใจครับ ผมเข้าใจ(ไปเอง)ว่าพี่ๆเข้าใจในหลักการแล้ว การควบคุมให้มีวินัยในการ trade ก็ ok แล้ว เหลืออย่างเดียวที่พี่ยังคงสงสัยคือ ทำไปเรื่อยๆมูลค่า port จะเพิ่มขึ้นจริงหรือ? พวกเราโชคร้ายไปนิด ที่ช่วงนี้หุ้นเป็นขาลง ผลประกอบการเลยไม่ชัดเจน แต่ผมขอยืนยันครับ ตอนขาขึ้นพี่ๆจะได้พบกับ"ปาฏิหาริย์" DSM จัดเป็นแนวคิดที่จะเข้าถึงด้วย "ตถตา" ครับ ไม่มีทางลัดที่บอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วจะเข้าใจ ต้องลองทำเองเท่านั้น ผมจึงไม่เคยไปยุ่ง ไปตอบในห้องสินธรเลย เพราะแน่ใจว่า ตัวผมเองไม่ใจเย็นเท่า ท่านเจ้าสำนัก โชคร้ายซ้ำสองของสำนัก DSM ...ผู้ที่บรรลุวิชาแล้ว(หรือคิดไปเองว่าตัวเองบรรลุ)ก็หายไปจากห้องสนทนาดื้อๆ ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เป็นอย่างนี้กันทุกรุ่น ปล่อยให้พวกเราตีความ อ่านคัมภีร์(ไล่ให้ไปอ่านกระทู้เก่า) และฝึกฝนเอาเอง ถ้าวันไหนพี่ดอกไม้ พี่ห่าน หรือผมหายไปเลย ไม่กลับมาตอบอีกทีก็แปลว่า พวกเราสำเร็จวิชาแล้ว จำต้องอำลา หายไปจากสำนักเหมือนธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมานั่นเอง อิอิ จากคุณ : ไม่เก่งแต่อยากตอบ - [ 27 ม.ค. 51 22:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หลงคิดผิดมาตลอด คิดว่าพี่หมอ Mix งานเยอะ คนไข้สาว ๆ แยะ ไหนจะต้องอ่านหนังสือตอนกลางคืน เลยไม่ค่อยได้เข้ามาคุยในห้อง เพิ่งจะทราบเหตุผลวันนี้เอง จากคุณ : ดอกไม้DSM - [ 28 ม.ค. 51 10:56:47 A:119.42.64.133 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ฮิ ฮิ คุณจอนครับ ข้างบนเป็นคำพูดของคุณเด่นศรี ที่คุณ wasansem ยกมา แล้วป๋มก็ copy มาอีกทีนึงกั๊บ อีกไม่กี่วันก็จะครบเดือนแล้ว ต้นเดือนก็ขึ้นกระทู้ใหม่นะครับ วันนี้น้องเอ เปิดมาต่ำกว่าราคาปิดวันก่อน แต่ก็สูงกว่ากองหลังนิดหน่อยครับ ตอนเช้าก็ได้ขายไม้ 1 % ออกไปหนึ่งไม้ พอตอนบ่ายน้องลงมาวิ่งเล่นอยู่แถวกองหลัง ไม่ยอมไปไหน ปิดตลาดก็เลยซื้อไม้ 1 % กลับมา สรุปวันนี้ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย ได้แต่ฟังเพลงในยูตู๊บ พอเพลินใจ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 28 ม.ค. 51 16:56:51 A:125.27.162.206 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมคิดว่า ช่วงที่พี่หมีมาเยี่ยม เป็นโอกาสที่ดีช่วงนึงทีเดียว โดยเฉพาะกับคนใหม่ เป็นช่วงเวลา ที่เราได้มองเห็นมูลค่าพอร์ตของเราลดลงไปเรื่อย ๆ เป็นช่วงเวลา ที่ชักจะไม่ค่อยแน่ใจ เมื่อล้วงกระเป๋าดูแล้วเงินหายไปไม่น้อย เป็นช่วงเวลา ที่จะได้ถามตัวเองอีกสักหน ว่าจะไปต่อดีไหม หากเรายังคงเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป เราก็อาจต้องใช้เวลาสักระยะ กว่าจะคุ้นเคยกับการมาเยี่ยมของพี่หมี กว่าจะขายหุ้นออกมาได้เรื่อย ๆ ตามราคาที่ลดลง กว่าจะมองตัวเลขมูลค่าพอร์ตที่ลดลง ได้อย่างเข้าใจ เราคงเคยได้ยินว่า ถ้าทำ DSM แล้ว เกิดเราเปลี่ยนใจหยุดกลางทาง พอร์ตของเราก็จะเสียหายได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเพียงผู้เริ่มต้น หรือเริ่มมาแล้วสักระยะหนึ่ง ขอให้ใช้โอกาสนี้ ทบทวนตัวเองอีกสักครั้งนะครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 28 ม.ค. 51 17:19:53 A:125.27.162.206 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 31 "ถ้าเราจะรักษาทรัพย์สิน สร้างรายได้โดยการขายหุ้น ไปเรื่อย ๆ ต้องดูบัญชี ดูหุ้นในมือ รักษาเงินสดสำรอง เพื่อซื้อคืนหุ้น นำมาสร้างรายได้ใหม่ ยามหุ้นกลับตัว" ............................................................................................ อันนี้เป็นประโยคสำคัญจากความเห็นของคุณจอนฟอน เมื่อวานนี้นะครับ เป็นประโยคที่นำมาใช้เตือนใจตัวผมเองสำหรับปีนี้เหมือนกันครับ "รักษาหุ้นเดิม เพิ่มหุ้นใหม่" เงินที่เคยขายหุ้นออกไป พร้อมที่จะซื้อหุ้นกลับคืนมา ขณะที่เงินแฝงที่ได้รับ ก็พร้อมจะไปซื้อหุ้นเพิ่ม ถ้าเราดูบัญชี ดูหุ้น ดูเงินสด ทำได้แบบที่คุณจอนว่า ผมว่าเราคงจะผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี ทั้งช่วงที่หุ้นขึ้นและหุ้นลง จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 28 ม.ค. 51 19:02:44 A:125.27.169.129 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 32 วันนี้ผมไม่ได้ซื้อขายน้องเอ เลยครับ ราคาน้องวิ่งขึ้นลงอยู่ในช่วงกองหลัง แล้วก็เลยขึ้นมานิดนึง ถ้ามีหมื่นหุ้น ก็คงได้ขาย 1% สักไม้สองไม้ แต่มีหุ้นน้อย เลยไม่ได้ทำอะไรครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 29 ม.ค. 51 16:36:55 A:125.27.166.145 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 33 วันนี้ยังเหมือนเดิมครับ ไม่ได้ทำอะไรเลย น้องวิ่งพ้นกองหลังมานิดนึง บางทีก็กลับลงไปใหม่อีก จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 30 ม.ค. 51 16:33:54 A:125.27.161.50 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 34 วันนี้หุ้นเขียวดีเลยนะครับ เห็นพี่หรั่งซื้อตอนเที่ยงตั้งพันล้าน น้องเอ ก็ขึ้นจากเมื่อวานมา 6 ช่อง ผมเลยได้ขายไม้ 1 % สองไม้ครับ ราคาปิดก็อยู่สูงกว่ากองหลังครับ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 31 ม.ค. 51 17:33:04 A:125.27.162.191 X: TicketID:125129 ]