พอดีเขียนถึงเรืองนี้ส่งให้เพือ่นท่านนึง พอเขียนเสร็จคิดว่าคงพอมีประโยชน์บ้างนิดหนอ่ย กับผู้เล่นทั่วๆไป เลยเอาแนวคิดมาลงไว้ให้อ่านเล่นกันครับ
................................................................
คือ โดยหลักการแล้ว เราจะรู้อยู่แล้วว่าหุ้นตัวใหนจะขึ้น แต่ส่วนใหญ๋หุ้นที่เราเล่นเป็นหุ้นตัวเล็ก
จึงเข้าก่อนก้ไม่ได้กลัวเงินถูกขัง จึงต้องรอซื้อตอนเค้าเริ่มไล่ แต่ก้ไม่กล้าซื้อมากเกินเงินที่ถือได้อยู่ดี
เพราะกลัวโดนเค้าทุบ ทำให้เราซื้อหุ้นได้ไม่มาก กำไรที่ว่าได้เยอะๆ เราจึงได้แค่ไม่กี่สตางค์เท่ากับจำนวนเงินที่เราถือได้
เข้าหลักที่ว่าเงินน้อย ซื้อได้น้อยก้กำไรน้อยตามไปด้วย
ในขณะเดียวกัน เราเน็ตตัวใหญ่ เราซื้อได้เต็มวงเงินเน็ต และมาร์จิ้นที่เรามี ทำให้ซื้อได้มากกว่าเท่าตัวที่เรามี อาทิเช่น
อธิบายว่า เรามีเงินจริงอยู่ก้อนนึง แต่ในพอร์ทเราส่วนใหญ่จะถือหุ้นตัวอื่นอยู่ ซื้อได้จริงๆ ดีไม่ดีได้ไม่เกิน1ใน3 เพราะที่เหลือถือหุ้นตัวอื่นอยู่
แล้วเวลาจะซื้อหุ้นก้ซือ้เยอะไม่ได้ ออฟเฟอร์ไม่มีให้ซื้อ บิดไม่พอให้ขาย แม้รู้ว่าหุ้นขึ้นแน่ๆ จะยกแถวก้ไม่กล้า กลัวโดนทุบโดนขัง
สรุปว่าซื้อจริงๆไม่แคล้วได้แค่ไม่มาก เพราะกลัวเวลาขาย ไมมีบิด กลัวโดนขัง กลัวโดนทุบ สรุปแล้วซื้อได้แค่หน่อยเดียวเอง
แม้ตัวเลขจะดูว่าได้กำไรเยอะเปอร์เซนต์ แต่ที่แท้จริงเราได้กำไรเป็นตัวเงินไม่มาก เพราะซื้อได้จริงไม่เยอะ
ในขณะเดียวกัน ถ้าเราเน็ตหุ้นตัวใหญ๋ เราเหลือเงินสดไม่มาก หรือว่าติดหุ้นเกือบหมด ก็ตามเราสามารถซื้อได้เต็มวงเงินเครดิทที่เรามี
บิดก้มีให้ขายเวลาจะทิ้ง ออฟเฟอร์ก้มีมากมายให้เราซื้อ
ตอนซื้อจะซื้อเยอะแค่ไหนก้ได้ ไม่มีสะดุ้ง
ตอนขายก้สามารถขายได้ในไม้เดียวไมมีสะเทือน
เก็งดีดี ขอแค่สี่ห้าข่องก้รวยเละแล้ว
เข้าสูตรที่ว่าซื้อมาก แม้จะกำไรเปอร์เซนต์น้อย แต่ก้ได้เงินเยอะกว่าครับ
อีกนิดคือ แม้ว่าจะเน็ตเยอะ แต่หุ้นตัวใหญ่ความผันผวนต่ำ ทำให้ความเสียงมันต่ำไปด้วย ผิดพลาดก้โดนกันไม่เกินช่องสองช่อง
ด้วยวิธีอ่านกราฟแบบที่เราใช้กัน สามารถหาหุ้นตัวใหญ๋ที่มีแนวโน้มขึ้นแน่ๆ ได้ไม่ยากอยู่แล้ว
กราฟถูก คนอ่านๆถูก วอลุ่มมีมากพอ การหักหลังก้ไม่เกิดขึ่น
โอกาสได้กำไร จึงมีสูงตามไปด้วย เพราะซื้อเยอะ จึงได้เยอะ ด้วยประการฉะนี้แล
แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 51 02:36:10