หายไปอาทิตย์เนิงเต็มๆเลย ขอเว้นเรื่อง BRIC ไว้ก่อนนะครับ เพราะท่าทางสงครามยังไม่จบง่ายๆ ก่อนจะดูของใหม่เข้ามาในพอร์ต ไปดูของเก่ากันหน่อยว่าจะทำยังไงกับมันได้บ้าง
ในทางเทคนิดโดยดูที่ตัวเลขนั้น เรามองกันที่ GDP ของอเมริกาเป็นหลัก เพื่อที่จะบอกได้ชัดเจนว่า US นั้นเข้าสู่ภาวะ Recession จริงๆ (ต้องมี GDP ติดลบติดต่อกัน 3 ไตรมาส) ซึ่งถ้ามองในมุมนี้ กว่าเราจะรู้ว่าควรทำอย่างไรกับพอร์ตก็อาจสายเกินไป (ทั้งด้านที่ดี และไม่ดี)
ถ้าเรารอจังหวะเพื่อดู GDP ของอเมริกาจริงๆ ตลาดอาจ Rebound กลับมา หรืออาจลงไปต่ำกว่าที่เป็นอยู่ก็เป็นไปได้ แต่ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรกับพอร์ตของเราที่เป็นอยู่นี้ เราก็ต้องมาคาดการ์ณกันล่ะครับ ว่าอเมริกาจะเป็นอย่างไรต่อ และผลลัพท์ที่ออกมามีโอกาสไปทางไหนบ้าง และแต่ละทาง ทางใดน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด
ทำไม Recession ที่ฝั่งกะโน้น ถึงกระทบหุ้นเมืองไทย หรือตลาดเอเชีย?
- ตลาดอเมริกาถือเป็นตลาด Import ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การที่อเมริกามีเศรษฐกิจไม่ดี ก็ย่อมกระทบกับการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ พอบริโภคได้น้อยลง ก็นำเข้าสินค้าน้อยลงตามไปด้วย พอนำเข้าน้อยลง ประเทศที่ส่งออกก็กำไรน้อยลง ต่อๆกันไปเป็นโดมิโนอย่างนี้เรื่อยๆ
เพราะฉะนั้นการเดาง่ายๆว่า Recession ที่ฝั่งโน้นกระทบกับใครยังไงมากที่สุด ก็ต้องไปดูที่ตัวเลขการส่งออกของประเทศนั้นๆ ว่าคิดเป็น % แล้วผูกพันกับมหาอำนาจอย่างมะกันเท่าไหร่ และกระทบกับ GDP เท่าไหร่กันบ้าง
โชคดีของนัลงทุนที่ไม่ต้องหาตัวเลขพวกนี้มาเอง เพราะมีคนทำงานกินเงินเดือน อยู่กับการลงทุน หามาให้เราแล้วคร่าวๆ (ถูกผิดนี่อีกเรื่องครับ) ดูตารางด้านล่างเลยจ้า
ถึงแม้ประเทศไทยจะส่งออกไปหาอเมริกาในสัดส่วนที่ลดลงเมื่อเทียบกับ 3-5 ปีก่อน แต่ก็ยังมีความผูกพันในระดับสูงพอสมควร ถึงแม้จีนยังไปได้ต่อ ด้วยการบริโภคภายในประเทศจากคนจำนวนมหาศาล แต่เศรษฐกิจจีนในปัจจุบันก็ยังห่างไกลจากคำว่า "ปลอดภัย" พอสมควร จากตาราง หาก Recession ไม่เกิด GDP ของไทยในปี 2008 น่าจะอยู่ที่ 5%ต่อปี (ไม่รู้เยอะไปหรือเปล่า) แต่เมื่อไม่เป็นอย่างที่หวัง จะเห็นว่าทุกเศรษฐกิจในเอเชียได้รับผลกระทบทั้งสิ้น มากน้อยแตกต่างกันไป
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 51 22:08:31