ความคิดเห็นที่ 1 กราฟ เป็นเรื่องราวอดีต แต่ กราฟ บอกความน่าจะเป็นได้ กราฟ อย่างเดียวไม่พอหรอกครับ เห็นเหมือนกัน แต่ ความกล้า ความไว ต่างกัน ผลลัพท์ที่ได้จึงต่างกัน จากคุณ : WindY - [ 29 ม.ค. 51 08:54:50 A:124.120.3.200 X: TicketID:158984 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดังนั้น ถ้ากราฟเล่นตามที่เราคิด เราก็เล่นกับมัน ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่เล่น ขอบคุณพี่ think_pos  ครับ  หายไปเป็นปีเลย จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 29 ม.ค. 51 09:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สวัสดีครับ หายไปนานเชียว ว่าเรื่องกราฟเรื่องเทคนิค ตราบใดยังอยู่ในตลาดหุ้น คงหนีไม่พ้นที่จะต้องทำนายอนาคต การทำนายอนาคตแบบโบราณ ใช้การทำนายทางโหราศาสตร์ การเสี่ยงทาย สมัยใหม่เราดัดแปลงให้เป็นวิทยาศาสตร์ โดยเอาวิชาสถิติเข้าประกอบ ดังนั้น ผมก็ยังคงฟันธงว่า เทคนิคจะยังคงอยู่คู่ตลาดหุ้นตลอดไป แล้วถ้าใช้กันมากๆอะไรจะเกิดขึ้น ผมเห็นว่ามันจะยิ่งแม่นยำ คนส่วนน้อย(แต่เงินมาก)ชี้นำตลาดด้วยจิตวิทยาสร้างอารมณ์ร่วม เทคนิคช่วยรวบรวมเงินน้อย(แต่มากคน)ให้เป็นกลุ่มก้อนสู้กับเงินมาก ตลาดมันถึงสนุกมีเสนห์น่าสนใจไงครับ จากคุณ : b n' b (K.nobody) - [ 29 ม.ค. 51 09:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เช้าเจอเช้าแจม เป็นคำถามที่มีคนถามบ่อย แจมตอบตามความเห็น ธรรมชาติเขาให้การจุติเริ่มต้นจากไข่ก่อนมากที่สุด กรณีเกิดเป้นตัวก็ต้องเริ่มจากไข่ภายใน ..ดังนั้น ไข่เกิดก่อนไก่ ซึ่งเรื่องนี้พวกเราพาสับสนเพราะเกิดจาก การนำของตัวอักษรไทยเมื่อ 700 ปีก่อน อย่าหลงและนำมาสับสนกับธรรมชาติที่เป็นจริง ส่วนกราฟ กับคนใช้กราฟ ตอบ.. คนเล่นเกิดก่อนกราฟ แล้วคนต่อๆไปจึงนำกราฟที่คนส่วนมากลงมือจริงไปแล้วมาวิเคราะห์ คาดการณ์ คาดเหตุคาดผลต่อไปในภายหน้า การใช้กราฟจึงต้องอาศัยประสบการณ์จริงของแต่ละคนเข้าไปสวมจิตวิณานในการวิเคราะห์ จึงน่าจะดีกว่า ฉนั้น คนที่เคยเล่นหุ้นตัวนั้นๆ จะดูกราฟและวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของหุ้นตัวนั้นๆ ได้ดีกว่าคนที่ไม่เคยเล่นหุ้นตัวนั้นมาอ่านวิเคราะห์ อันได้แก่บรรดานักวิเคราะห์ทั้งหลาย ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : nowya - [ 29 ม.ค. 51 09:25:08 A:58.8.183.131 X: TicketID:112031 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 51 09:50:44 จากคุณ : endophine - [ 29 ม.ค. 51 09:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ... ขอบคุณครับ จากคุณ : GABLIEL - [ 29 ม.ค. 51 09:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ จากคุณ : blitzen - [ 29 ม.ค. 51 10:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณค่ะ ดีใจที่กลับมาเล่าสู่กันฟังอีก จากคุณ : m-ko - [ 29 ม.ค. 51 10:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดีใจครับที่มีกระทู้สร้างสรรใช้ความคิดบ้างในสินธร เบื่อพวกเทพเดามั่วใบ้หวยเต็มที ในความเห็นตํ่าต้อยของผม ปัจจัยพื้นฐานบอกเราว่าซื้อขายหุ้นตัวไหนกล่มไหน กราฟบอกเราว่าให้ลงมือเวลาใด จากคุณ : drsp - [ 29 ม.ค. 51 11:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ... จากคุณ : helga - [ 29 ม.ค. 51 11:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แจมด้วยคนนะครับ ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะ....สงครามราคาหุ้นแบบกองโจรที่สะท้อนออกมานั้นเกิดจาก...1.พฤติกรรมของมนุษย์ กลุ่มหนึ่ง(ส่วนน้อย) 2.มนุษย์กลุ่มนี้เองมีจุดประสงค์มที่ซ่อนเร็นแอบแฝงอยู่ก่อนแล้วจึงกระทำให้เกิด กราฟแท่งเทียน  3.tool indy index ต่างๆก็บ่งบอกแนวโน้มทิศทางของผู้มีอำนาจกลุ่มซ่อนเร็นแอบแฝง  4.การเบี่ยงเบน หักเหของกราฟของtool indexต่างๆก็คือกลยุทธ์การปรับแผนตามการMatchingของVolumeและPriceของตลาดขณะนั้น..ซึ่งบางครั้งนำไปพยากรณ์ในอนาคตได้ไม่ชัดเจน .เทียบเท่ากับการซื้อ/ขายจริง...อย่าลืมว่าจิตกร+หมอศัลกรรมเวลาหยิบเครื่องมือมาใช้ทำงานถึงเราเห็นได้ด้วยตา แต่ไม่สามารถเข้าถึงภายในจิตใจเค๊าได้หรอกครับ........ จากคุณ : หุ้นคือก้อนเมฆ (poodprad) - [ 29 ม.ค. 51 11:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ.. ถ้าเล่นเหมือนกันหมดทั้งสามขา ก็ไม่สนุกสิครับ.. (ความเห็นที่แตกแยก การพนันจึงบังเกิด) จากคุณ : Jonathan Livingston - [ 29 ม.ค. 51 11:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีครับ   ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับ  วันนี้ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านครับ ดัชนีถ้าเล่นในสภาพ sideway  มันจะกระโดดไปมา  จะลงให้ถึงก็ไม่ถึง  และพอเวลาขึ้นก็เช่นกันครับ เล่นแบบนี้จะเหนื่อยมากๆ    จนกว่ามันจะโฟกัสแล้วถึงตอนนั้น   จะแทงขึ้นหรือแทงลง  ภาพจริงถึงจะปรากฎ     ช่วงแบบนี้ก็เหมือนนักแสดงกำลังแต่งตัว แต่งหน้ากันครับ  55555 ลักษณะแบบนี้ก็เหมือนจังหวะที่หุ้นแต่ละตัวต่างคนต่างเล่นครับ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 51 11:58:37 จากคุณ : aeaw - [ 29 ม.ค. 51 11:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ ^_^ จากคุณ : 007-s - [ 29 ม.ค. 51 12:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับทุกท่าน ผมยังเหมือนเดิมคือหาเวลานั่งหน้าจอคอมไม่ค่อยได้  อาจจะทักทายช้าไปบ้างแต่จำทุกคนได้ครับ ยิ่งอ่านความคิดแต่ละคนแล้วนับถือๆ  ฝึกฝีมือไปไกลกว่าผมเยอะเลย ผมยังใช้วิธีเดิมๆแบบคนไม่ค่อยมีเวลา  ดูกราฟหลังตลาดปิดหรือก่อนตลาดเปิด เวลาตลาดทำการผมก็ทำงานประจำดูหุ้นทางทีวีบ้างแล้วก็ซื้อขายผ่านมาร์----------เลยกลายเป็นนักลงทุนระยะกลางถึงยาวโดยไม่ตั้งใจ(เทรดระหว่างวันลำบาก) ๒-๓ปีที่ผ่านมาคงไม่ดีนักดัชนีไม่ลงแต่หุ้นลงเกือบทั้งหมดยกเว้นพลังงาน  ปีนี้ผมคิดว่าพลังงานคงไม่โดดเด่นเพราะราคาน้ำมันทำนิวไฮยากแต่ดอกเบี้ยจะเริ่มลดลงทั่วโลก  ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่มีการลงทุนใหม่ๆได้ประโยชน์ ถ้าหุ้นกลุ่มหลักกลับมาคึกคักเราคงเห็นดัชนี๔หลักสักทีครับ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 51 12:50:01 จากคุณ : think_pos - [ 29 ม.ค. 51 12:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนแรกอ่านผ่านๆ ของพี่ think_pos ก็เอ๊ะ ไม่น่าจะตอบง่ายๆ เรื่องกองทุนชี้นำตลาดนี่สงสัยมานานแล้วครับ ว่า กองทุนไทย มีหน้าที่ทำเพื่อรายย่อย(ผู้ซื้อหน่วย) โดยสู้กับต่างชาติ หรือ เอาเงินรายย่อย มารับแรงกระแทกต่างชาติกันแน่ และที่พี่โพสว่า ถ้ากองทุนเล่นเทคนิค คือ นิวโลว์ คืออะไรครับ ทำ ชอร์ตเซลหรือรู้อะไรดีๆ เทคนิคที่ดึงจิตวิทยามวลชนด้วยนี่ ผมว่าปา อินดิเคเตอร์ทิ้งดีกว่า เหลือแค่แท่งเทียนพอ อิอิอิ จากคุณ : KENG76 - [ 29 ม.ค. 51 13:23:24 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่ามาปาใส่หัวผมนะ ผมบอกพี่แล้วไง ผมไม่รับ ไม่รับ ไม่รับ จากคุณ : ปลานิลจิ๋ว - [ 29 ม.ค. 51 18:06:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่า มันเหมือนกับ กฏหมายธรรมดาเด่วนี้น่ะแหละ  ความคิดผม เชื่อว่า เครื่องมือเทคนิคมันเกิดขึ้นมาหรือสามารถนำมาใช้ได้ผลดีนั้น เกิดจากที่ว่ากลุ่มคนเล่นหุ้นใช้เครื่องมือนี้ในการดูจุดเข้าซื้อหรือทำไรหลายๆอย่าง  มันเหมือนกับ สัญญาณไฟแดง-เขียว ที่มนุษย์กำหนดให้รถวิ่ง หรือหยุด   ซึ่งมันไม่ได้เป็นกฏของธรรมชาติ แต่มันเป็นกฏเกณท์ของคนเล่นหุ้น  ผมว่ามันมีเท่านี้แหละ เรื่องค่า สถิติ ฯลฯ อะไรทั้งหลาย ก็ยังเห็นแค่ว่ามันตามหลังมา  เรื่องมีสถิติก็เพราะ มีคนใช้กราฟเทคนิคในการซื้อ-ขายกันเยอะ กว่าสมัยที่มันไม่มีกราฟเทคนิค ไม่มีอะไรเลย  เหมือนกะวันปีใหม่ดีๆนี่เอง จากคุณ : chayinna - [ 29 ม.ค. 51 18:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : ช้างทมิฬ - [ 29 ม.ค. 51 21:59:23 ]