..
คนส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด อาจจะชอบหุ้นขึ้น
คนบางส่วน (โดยเฉพาะ DSM) ชอบหุ้นที่ขึ้นๆ ลงๆ
(แต่ก็คงโน้มเอียงไปในทาง ขึ้นๆ ลงๆ ที่ไปในทางขึ้นมากกว่า)
สำหรับผมแล้ว ชอบหุ้นที่ขึ้นๆ ลงๆ
และโน้มเอียงไปในทางลงเสียมากกว่า
ทำไมจึงเป็นแบบนั้น
ลองคิดดูนะครับว่า
หากคุณมีเงินอยู่ก้อนนึง สมมุติว่า 1 ล้านบาท
ราคาหุ้นตอนนี้อยู่ที่ 10 บาท
คุณลงทุนซื้อได้เต็มที่ไม่เกิน 100,000 หุ้น
ลองคิดต่อไปอีกว่า
คุณทำ DSM ไประยะเวลาหนึ่ง ซื้อๆ ขายๆ ได้เงินแฝงมาบางส่วน
หุ้นขึ้นไปที่ 20 บาท
จำนวนหุ้นในมือของคุณ น่าจะเพิ่มหรือลดจากเดิม ???
คุณจะเห็นเองว่า จำนวนหุ้นนั้นลดลงอย่างแน่นอน
แต่มูลค่าพอร์ตกลับเพิ่มขึ้น นั่นคือความสบายใจอย่างหนึ่ง
แต่ถ้าคุณต้องการทำธุรกิจค้าขายสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง
เมื่อผลกำไรของสินค้าแต่ละชิ้น มีค่าเท่าๆ กัน
คุณควรจะเลือกสินค้าที่มีราคาถูกกว่า เพราะจะได้มีจำนวนสินค้าในมือมากกว่า
เงิน 1,000,000 บาท จะเพิ่มจำนวนหุ้นได้มากกว่า
หากหุ้นลงจาก 10 บาท มาที่ 5 บาท
จำนวนหุ้นอาจเพิ่มจาก 100,000 หุ้น เป็น 120,000 หรือมากกว่า หากราคาลงมาที่ 5 บาท
แต่แทบจะเป็นไปได้ยากมากที่จำนวนหุ้นจะเพิ่มขึ้น
หากราคาขึ้นจาก 10 บาท ไปที่ 20 บาท
หากคุณซื้อขายด้วยระบบ DSM
10% ของจำนวนหุ้น 120,000 หุ้น = 12,000 หุ้น
ในขณะที่
10% ของจำนวนหุ้น 100,000 หุ้น (หรือน้อยกว่านั้น) = 10,000 หุ้น
ลองคิดดูว่า
หากคุณต้องการกำไรอย่างสม่ำเสมอคราวละ 4 ช่องเท่าๆ กัน
จำนวนหุ้น 100,000 หุ้น ที่ซื้อๆ ขายๆ ที่ราคา 20 บาท
กับ จำนวนหุ้น 120,000 หุ้น ที่ซื้อๆ ขายๆ ที่ราคา 5 บาท
(ด้วยความถี่ ที่สมมุติว่าเท่าๆ กัน)
อันไหนจะทำเงินแฝงได้เยอะกว่ากัน
และหากเทียบกับเงินแฝงที่คุณได้มาแล้ว
หากต้องการเพิ่มจำนวนหุ้น
อย่างไหนจะได้จำนวนหุ้นมากกว่ากัน
สมมุติว่าคุณได้เงินแฝง 100,000 บาท
การที่จะไปเพิ่มหุ้นที่ราคา 20 บาท
คุณก็ได้หุ้นเพิ่มขึ้นมาเพียง 5,000 หุ้น
แต่ถ้าคุณนำไปเพิ่มหุ้นที่ราคา 5 บาท
คุณกลับได้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 20,000 หุ้น
คิดดูต่อไปอีกว่า
10% ของ 5,000 คือ 500 นั่นคือ หุ้นที่คุณจะแบ่งขายทีละ 10% ของหุ้นจำนวนใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา
แต่ 10% ของ 20,000 คือ 2,000 นั่นคือหุ้นที่จะแบ่งขายทีละ 10% หากได้หุ้นมาในราคา 5 บาท
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงชอบหุ้นลง มากกว่าหุ้นขึ้น
และหวังไว้ในแต่ละวันว่า หุ้นจะลงมามากกว่าเมื่อวาน
ความเสี่ยงของหุ้นตก ก็คือ มันอาจจะตกไปจนไม่เหลือมูลค่าอีกเลย
แต่นั่น ไม่ได้เกิดขึ้นแต่กับเราคนเดียว
คนอื่นๆ ก็ต้องร่วมชะตากรรมด้วยกัน จึงไม่เห็นต้องตกใจ
และหากคุณสร้างรายได้ที่ถี่มากพอ
คุณจะได้ทุนคืน และเหลือหุ้นไว้เทรดฟรีๆ จำนวนหนึ่ง
แต่ใครจะรู้ใช่ไหมครับ ว่า
หุ้นจะขึ้น หรือ หุ้นจะลง
เอาเถอะ ขึ้นก็ดี ลงก็ดี
มาให้กำลังใจกัน ในยามหุ้นเป็นขาลงครับ
(ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ใช้ DSM ในการเทรด
แต่โดยหลักการหารายได้นั้น ไม่แตกต่างกัน
คือ การลงทุนในสินทรัพย์ ให้มันสร้างรายได้ออกมา
ผมจึงไม่เคยกังวลว่า มูลค่าพอร์ตลดลงไปแล้วเท่าไรก็ตาม
ตราบใดที่ GI ยังเพิ่มขึ้นอยู่เสมอๆ
ถ้าจะเป็นนักลงทุน ต้องมองว่า เราจะลงทุนยาวนาน
ไม่ใช่เพียง ห้าปี สิบปี หรือ ยี่สิบ สามสิบปี แล้วร่ำรวย
แต่ต้องมองว่า เราจะลงทุนยาว นาน นานจนกว่าจะตาย
และถ้ามั่นใจว่ามาถูกทาง จะต้องนานชั่วลูกชั่วหลาน แม้ว่าคุณจะตายไปแล้วก็ตาม
(ขอเพียงแต่ตลาดหุ้นไม่หายไปจากระบบธุรกิจ)
และคุณต้องถ่ายทอดแนวคิดวิธีการให้รุ่นลูกรุ่นหลานของคุณรับช่วงต่อไปได้
เพราะฉะนั้น ระบบที่ทำให้คุณอยู่กับตลาดหุ้นไปได้จนตลอดชีวิต
นั่นคือระบบที่ถูกต้องแล้ว
และผมก็เชื่อว่า DSM ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ)
..
แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 23:14:45
แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 22:38:11
แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 22:22:34