ความคิดเห็นที่ 11
วิธีคิดราคาเฉลี่ยรวมค่าคอม+VATคิดได้หลายวิธีแล้วแต่โบรกจะใช้ เช่น FIFO, LIFO, Overall Average เป็นต้น หลักการคิดของโบรกจะใช้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายทำให้ราคาเฉลี่ยไม่ตรงกับความเป็นจริงตามเงินที่ลงไป เพื่อความถูกต้องครบถ้วนทุกสตางค์ควรใช้ราคาเฉลี่ยเกิดขึ้นแต่ละครั้งทำการซื้อหรือขาย ตามตัวอย่าง
คือวันที่ 1 ซื้อหุ้น A มาราคา 39บาท 2000หุ้น _______ค่าหุ้น 78,000.00 บาท บนสมมติฐานค่าคอม 0.25% + VAR จะเป็นเงิน 208.65 บาท รวมยอดเงินจ่ายออกจากกระเป๋า 78,208.65 บาท เฉลี่ย 39.104 บาทต่อหุ้นคือต้นทุน หรือ คิดง่ายๆ 39.00 x 1.002675 = 39.104 บาท วันที่ 2 ซื้อเพิ่มอีก ราคา35.5 บาท 1000หุ้น _______ค่าหุ้น 35,500.00 บาท ค่าคอม 0.25% + VAR จะเป็นเงิน 107.00 บาท(ขั้นต่ำ) รวมยอดเงินจ่ายออกจากกระเป๋า 35,607.00 บาท ในการซื้อวันที่ 2 ณ จุดนี้จะมี 3,000 หุ้น ยอดเงินที่จ่ายไปแล้ว 113,815.65 บาท เฉลี่ย 37.938 ต่อหุ้นนั้นราคาต้นทุนใหม่ วันที่ 3 ขายออก 36.5บาท 1000หุ้น _______ขายต่ำกว่าราคา สามารถคิดได้ 2 วิธี (๑) ตัดขาดทุนไปก่อน เงินค่าหุ้น 36,500 บาท หัก ค่าคอม+VAT 107.00 บาท(ขึ้นต่ำ) รับสุทธิ 36,303.00 บาท ต่อต้นทุน 37,938.00 (1,000 x 37.938) บาท ขาดทุน -1,635.00 บาท เหลือหุ้นในพอร์ต 2,000 หุ้น ที่ราคา เฉลี่ย(ต้นทุน) 37.938 บาท (๒) กำไรขาดทุนเอาไว้ไปคิดต้อนสุดท้ายขายหุ้นหมด(ไม่ขายก็ยังไม่ขาดทุน) ขาย 1,000 หุ้น เงินได้รับ 36,303.00 บาท จากต้นทุนที่จ่ายไป 113,815.65 บาท เหลือ 77,512.65 บาท(เงินที่ลงไป) ของ 2,000 หุ้นที่เหลืออยู่ เฉลี่ยต้นทุน 38.756 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะสูงขึ้นจากต้นทุนเดิม 37.938 บาท
ฉะนั้นตัวเลขที่โชว์ใน statements ส่งมาให้ที่บ้านเป็นเพียงตัวเลขที่โบรกใช้ในการคำนวนเพื่อจุดประสงค์ของเขาเท่านั้น อย่าไปวิตกกังวลกับมัน ขอให้จำนวนหุ้นถูกต้องเป็นใช้ได้ ส่วนราคาต้นทุนเราควรใช้วิธีที่เราถนัดเลือกใช้ตามความเป็นจริงของเงินที่ลงไป
จากคุณ :
xyz
- [
7 ก.พ. 51 23:26:20
A:124.120.135.78 X:203.144.160.251 TicketID:000564
]
|
|
|