ความคิดเห็นที่ 1 ต้องถามว่า ประเทศเราต้องการ บาทแข็งหรือไม่ มากกว่า เพราะมาตรการนี้ออกมา เพื่อกันบาทแข็ง ข้อมูลเชิงลึก ไม่ทราบแท้จริง ไม่อาจให้ คำวิจารณ์ได้................ รออ่านเหมือนกัน จากคุณ : WindY - [ 9 ก.พ. 51 09:58:05 A:124.120.6.127 X: TicketID:158984 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามข่าว......แบงก์ชาติโต้ รู้ข้อมูลลับแล้วหนาว โพสต์ทูเดย์ — มาตรการสำรอง 30% ปะทุ “สมัคร” ล้วงลูกการทำงาน ธปท. ลั่นต้องยกเลิก โดยจะออกเป็นมติ ครม. ฟาก ธปท. โต้เห็นข้อมูลแล้วจะหนาว นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ อาทิ สำนักข่าวอัล-จาซีรา สำนักข่าวรอยเตอร์ส สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ฟูจิทีวี กว่า 1 ชั่วโมง โดยนายสมัครกล่าวถึงมาตรการกันเงินสำรองเงินทุนไหลเข้า 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า รัฐบาลไม่เห็นด้วย และจะนำเรื่องนี้หารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากการประชุม ครม. ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ และอาจพิจารณาออกเป็นมติ ครม. แต่จะไม่บรรจุในวาระของการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เพราะเป็นเรื่องเปราะบาง “เรื่องนี้ต้องหารือกับทาง ธปท. ก่อน เพราะรัฐบาลอยากให้ ธปท. มีความเป็นอิสระในการทำงาน” นายกรัฐมนตรี กล่าว ผู้สื่อข่าวต่างชาติถามว่า หากนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าฯ ธปท. ไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกจะทำอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า หากไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ต้องหาเหตุผลที่ดีกว่าว่าเหตุใดต้องยกเลิกมาตรการดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประเด็นนี้ รมว.คลัง มีความเห็นว่ามาตรการนี้ต้องถูกยกเลิก ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการร่างนโยบายของรัฐบาลผสม 6 พรรค ก็เห็นพ้องกันว่าต้องยกเลิก นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ ธปท. กล่าวว่า ผู้บริหารของ ธปท. ได้เตรียมข้อมูลเพื่อหารือถึงเรื่องที่เข้าชี้แจงกับ รมว.คลัง แล้ว ส่วนเรื่องมาตรการสำรอง 30% อย่าเพิ่งไปคิดว่ากระทรวงการคลังจะยกเลิก และเข้าใจว่าคงได้คุยกัน ถึงตอนนั้นกระทรวงการคลังอาจจะ เข้าใจความจำเป็นและไม่ยกเลิกก็ได้ “มีตัวเลขสำคัญบางตัวที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ จะได้รับผลกระทบหากยกเลิกมาตรการนี้ และยังมีข้อมูลตัวเลขที่เขายังไม่รู้อีกเยอะ และถ้าจะเลิกจริงๆ เขาก็ต้องชั่ง น้ำหนักดูว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม” นางผ่องเพ็ญ กล่าว .......................................................................................... หนาวไหม.....อิอิ     แต่แน่ๆ ท่านที่งัก กับน้าหมัก....น่าจะเยือกแข็งแล้วละ ตามนั้น..... จากคุณ : ตี๋น้อยMBA - [ 9 ก.พ. 51 12:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 งานนี้คงต้องมีคนลาออกสังเวยกันบ้างแล้ว จากคุณ : GABLIEL - [ 9 ก.พ. 51 13:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 30% ยกเลิกแล้วจะเป็นไง ค่าเงินบาทจะแข็งขึ้นจากการเก็งกำไร ค่าน้ำมัน ค่าเครื่องจักร สินค้านำเข้า จะถูกลง แต่การส่งออกจะลำบาก ซึ่ง สัดส่วนการส่งออกในGDP ตอนนี้สูงมาก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะถดถอยตามมาได้ การเพิ่มมูลค่าให้สินค้าของไทยยังไม่ดีพอที่จะไปแข่งขันกับคู่แข่งด้านคุณภาพ จากคุณ : GABLIEL - [ 9 ก.พ. 51 13:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาเป็นรัฐบาลได้ไม่กี่วัน รัฐบาลสมัครกำลังจะสร้างปัญหาใหญ่ขึ้น 2 เรื่อง เรื่องแรกคือการประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ที่แบงก์ชาติประกาศเอาไว้ เรื่องนี้ ใครที่ไม่รู้จริง มีสิทธิ์ทำประเทศพังได้ง่าย ๆ และตอนนี้ คนที่ไม่รู้จริงกำลังขึ้นมาบริหารประเทศ เรื่องที่ 2 เรื่องคุณไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีัว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะประกาศยกเลิกมาตรการ CL โรคมะเร็ง 4 โรคที่รัฐมนตรีคนเก่าประกาศเอาไว้ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และจะกระทบคนเป็นวงกว้่าง คอยดูเถิดว่า แรงเหวี่ยงที่หวนกลับมาจะรุนแรงเพียงใด อีกไม่นานจะได้เห็น หุ หุ จากคุณ : เทวดาและนางฟ้า - [ 9 ก.พ. 51 13:31:56 A:58.8.195.185 X: TicketID:164303 ]

ความคิดเห็นที่ 6 "อยากให้ธปท.มีอิสระในการทำงาน" ต้องชั่งน้ำหนักว่าคุ้มไม่คุ้ม(กับประเทศไทย) จากคุณ : pungee1 - [ 9 ก.พ. 51 13:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องมาตรการกันสำรอง ๓๐% แบ็งค์ชาติบอกว่าขณะนี้ยกเว้นให้เกือบหมดแล้วแทบไม่มีผลอะไร     เมื่อยกเว้นไปเกือบหมดแล้วทำไมไม่ยอมให้ยกเลิก?   มันต้องมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น?     ฝ่ายหนึ่งบอกว่าเศรษฐกิจไทยบูชาแต่การส่งออกของไม่กี่อุตสาหกรรม  ยอมต่อสู้เงินบาท(เพื่อให้บาทอ่อน) เพื่อให้อุตสาหกรรมส่งออก(ของญี่ปุ่น-ฝรั่งในไทย)อยู่ได้เท่านั้น?      อีกฝ่ายบอกว่ามีคนขนเงินสดๆทั้งหวังเก็งกำไร หวังลงทุน หวัง ฯลฯ เข้ามาในประเทศ  แต่ผู้บริหารแบ็งค์ชาติไม่รู้จักหากลวิธีดึงเอาเงินเหล่านั้นมาสร้างความมั่งคั่งให้ระบบเศรษฐกิจ เลยสร้างเขื่อนดักเพื่อไม่ให้น้ำ(ก็คือเงินนั่นแหละ)ไหลเข้ามา(จึงเรียกว่า ๓๐%)       บางคนบอกว่าแม้จะเป็นเงินเก็งกำไรไม่ได้ลงทุนจริงๆ  แต่เราก็ควรให้ต่างชาติขนงินเก็งกำไรเข้ามาทุกๆวัน(ทดแทนที่บางส่วนได้กำไรหรือขาดทุนแล้วถอนออกไป)ก็เหมือนคนมีเงินแล้วฝากแบ็งค์      แล้วเราก็ดูดเอาเงินเหล่านั้นไปใช้ในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง(ไม่ใช่ไปร่วมขบวนการเก็งกำไรร่วมกับเขาถ่ายเดียว)           คนเหล่านั้นบอกว่า ฮ่องกง สิงคโปร์ สร้างระบบเศรษฐกิจประเทศเค้าให้โดยวิธีการอย่างนี้       คนรู้น้อยอย่างฟังแล้วปวดขมอง?       ก็เพ้อเจ้อคิดอะไรโง่ๆได้แค่นี้ วิชาเศรษฐศาสตร์ก็เคยเรียนเพียงสองวิชารวม ๖ หน่วยกิต       ขอผู้รู้ช่วยวิสัชนาด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 51 14:05:31 จากคุณ : พาชื่น - [ 9 ก.พ. 51 14:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลองมองอีกด้านนะค๊าบ ข้อมูลแบงค์ชาติ ทำไมเปิดเผยไม่ได้ ทำธุระกรรมอะไรไว้หรือปล่าว อย่างน้อย แบงค์ชาติ เคยมีประวัติการเก็งกำไร ที่ไม่น่าไว้ใจ มาก่อนเช่นกัน เหมือนระเบิดเวลา รู้สึกว่า พอปลด 30% (มีคนบางคน รวย จน น่าจะมาจากตรงนี้) ที่จริงอยากรู้มาก เพราะเคยทราบมาว่า ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ซื่งบุคคลทั่วไปไม่ค่อยได้สัมผัส เขาบอกว่า ยอดเงินได้เสียสูงมาก บอกตามตรง ก็กลัวความไม่โปร่งใส ของแบงค์ชาติเช่นกัน ถ้ามองว่า เราพิมพ์บาทได้ (แต่เราพิมพ์เหรียญไม่ได้) ตอนนี้เราได้ประโยชน์ ซื้อ เชื้อเพลิงถูก ซื้อยาถูก ซื้ออาวุธถูก ได้รถไฟฟ้าถูก ........ ได้ของถูกมากมาย กับการส่งออก เป็นปัญหาด้าน การแข่งขัน ตรงนี้จริงๆแล้วเราจัดการไม่ได้เลยหรือ ที่เขียนคือสงสัยตามประสาคนไม่มีข้อมุลจริง เพราะเขาไม่บอก หรือ บ.ข้ามชาติที่มาตั้งในไทยไม่ยอม จากคุณ : WindY - [ 9 ก.พ. 51 14:10:22 A:124.121.246.113 X: TicketID:158984 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แสดงว่าbankชาติมีอะไรไม่โปรงใส ถึงกลัวขนาดนั้น จากคุณ : devil amature2 (devil amature2) - [ 9 ก.พ. 51 14:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แบงค์ชาติบอกมีข้อมูลลับที่เปิดเผยไม่ได้..รู้แล้วจะหนาว ? ---คืออะไรเหรอ ...ให้ผมบอกดีไหม ก็เอาเงินมหาศาลไปสู้-ป้องกันบาทแข็ง...ยังค้างคาติดลบอยู่บานเลย ขืนไปยกเลิกกันสำรอง 30% ในเร็ววันนี้ ....กลัวบาทยิ่งแข็ง....จะเจ๊งไง.......หนาวอย่างนี้ใช่ไหม ? *ยกเลิกไปเลย...ไม่ต้องหนาว...ระยะแรกๆอาจมีผลบ้าง...ไม่นานก็สมดลเอง* ....ถ้าเงินนอกไม่ไหลเข้า...นั่นแหละคือสัญญาณที่ไม่ดี จากคุณ : 9เก้าก้าว - [ 9 ก.พ. 51 14:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับผม... การยกเลิกมาตราการนี้ไม่ส่งผลกับ SET ทั้งในทางลบ และบวก... แต่กับ Real Sector นั้นเกิดแน่... ในทางลบ และจะส่งผลกระทบมาก หากไม่มาตราการอื่นๆมารองรับ... ก่อนทำอะไรลงไป... คงจะเดือดร้อน... พอๆกับ สภาวะฟองสบู่ในสมัย ต้มยำกุ้ง... แต่ครั้งนี้จะต่างกันออกไป ไม่ใช่เริ่มที่ ไฟแนนส์ หรือแบงค์... แต่จะเจาะตรงลงไปถึง Real Sector ภาคการผลิตทางด้านเกษตร กรรมและกสิกรรม และภาคการท่องเที่ยว ครับ.... อีกกระทู้นึงคล้ายๆกันครับ... http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6314974/I6314974.html จากคุณ : Mr.Zack - [ 9 ก.พ. 51 15:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตามกระทู้ที่ถามมา...การยกเลิกมาตราการ30%มีผลต่อตลาดหุ้นอย่างไรครับ ....ผมคิดว่ามันมีผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อตลาดหุ้น ทางตรงคือ...แม้ภายหลัง 30 % จะไม่ไปกระทบกับเงินลงทุนในตลาดหุ้น แต่ต่างชาติที่จะลงทุนในตลาดหุ้นยอมขาดความั่นใจต่อมาตรการที่*อาจ*ออกมาได้อีก...สู้เอาเงินไปลงทุนในประเทศอื่นไม่ดีกว่าเหรอ...จริงๆแล้วการมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง...แค่นี้ก็พอที่จะทำให้ต่างชาติมั่นใจมากขึ้นต่อตลาดหุ้น....จะเห็นได้จากยอดซื้อสุทธิจำนวนมหาศาลในหลายวันที่ผ่านมา ทางอ้อมคือ...จะทำให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาในรูปของการลงทุนแขนงอื่นๆ ทำให้เศรษฐกิจภายรวมขยายตัว...ย่อมส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นในทางอ้อม จากคุณ : 9เก้าก้าว - [ 9 ก.พ. 51 15:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มีผลกระทบกับประเทศหรือประชาชนอย่างไรไม่รู้ แต่คิดว่าดีกับตลาดหุ้นแน่นอน จากคุณ : ขุนพิเรน - [ 9 ก.พ. 51 15:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ต้องเปิดเผย ของจริงคือ...อะไร.... ผมเคยอ่านคำพิพากษา ท่านผู้ว่า........ ผมบอกตรงๆว่าไม่น่าไว้วางใจได้เลย จากคุณ : WindY - [ 9 ก.พ. 51 16:08:12 A:124.121.246.113 X: TicketID:158984 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เดี๋ยวรอดู รมต.ท่านดูข้อมูลของแบงค์ชาติก่อนครับว่ามันหนาวจริงไหม ถ้าหนาวจริง รมต.เขาคงไม่ยกเลิกหรอก ไม่งั้นโดนเละทั้งรัฐบาล จากคุณ : tHeNuT - [ 9 ก.พ. 51 16:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความคิดเห็นที่ 5   เข้ามาเป็นรัฐบาลได้ไม่กี่วัน รัฐบาลสมัครกำลังจะสร้างปัญหาใหญ่ขึ้น 2 เรื่อง เรื่องแรกคือการประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ที่แบงก์ชาติประกาศเอาไว้ เรื่องนี้ ใครที่ไม่รู้จริง มีสิทธิ์ทำประเทศพังได้ง่าย ๆ และตอนนี้ คนที่ไม่รู้จริงกำลังขึ้นมาบริหารประเทศ เรื่องที่ 2 เรื่องคุณไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีัว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะประกาศยกเลิกมาตรการ CL โรคมะเร็ง 4 โรคที่รัฐมนตรีคนเก่าประกาศเอาไว้ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก และจะกระทบคนเป็นวงกว้่าง คอยดูเถิดว่า แรงเหวี่ยงที่หวนกลับมาจะรุนแรงเพียงใด อีกไม่นานจะได้เห็น หุ หุ จากคุณ : เทวดาและนางฟ้า - [ 9 ก.พ. 51 13:31:56 A:58.8.195.185 X: TicketID:164303 ]     อิอ  ปรกติ ธปท ก็ทำประเทศไทยพังอยู่บ่อยๆ นี่เนอะ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ตู้เซฟ - [ 9 ก.พ. 51 16:16:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ้อ เสือใบอย่างตู้เซฟมาเหมือนกันแฮะ อย่าบอกใ้ห้คนอื่นรู้นะ ว่าตัวเองเป็นเสือใบ เดี๋ยวเสียแผนหมด หุ หุ จากคุณ : เทวดาและนางฟ้า - [ 9 ก.พ. 51 16:45:40 A:58.8.189.33 X: TicketID:164303 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จริงๆก็ ต้องหารือกันถูกต้องแล้ว ดีไม่ดีอย่างไรก็ว่ากัน “เรื่องนี้ต้องหารือกับทาง ธปท. ก่อน เพราะรัฐบาลอยากให้ ธปท. มีความเป็นอิสระในการทำงาน " เรื่องนี้ถ้าสมัครทำตามนั้นจริง เห็นควรด้วยว่า รัฐบาลไม่ควรใช้กำลังภายในแทรกแซง ธปท เหตุผลโต้แย้งที่ยอมรับได้เท่านั้น ที่เป็นตัวเปลี่ยนแปลง อเมริกา รัฐบาลก็ไม่แทรกแซงเฟด ต้องมองยาวๆ อย่าเอาแค่เรื่อง 30% มาเป็นมาตราฐานใหม่ในการแทรกแซง ธปท วันข้างหน้าอาจมีเรื่องอื่นๆอีกมาก โดยส่วนตัว ผมเห็นด้วยเรื่องยกเลิกมาตราการกันสำรอง ในเวลานี้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องหุ้น มันไม่มีผลเท่าไร เพราะยกเว้นให้อยู่แล้ว เผลอๆ เงินที่ไหลมาจากตลาด bond เข้าหุ้นปีที่แล้วอาจไหลกลับไป bond อีก ถ้าข่าวยกเลิกแน่นอนแล้ว จะลงเลยหรือเล่นต่ออีกยก ก็ต้องตามไปดู จากคุณ : หวาดดี - [ 9 ก.พ. 51 17:12:07 A:125.27.23.228 X: TicketID:166622 ]

ความคิดเห็นที่ 19 บาทแข็ง ส่งออกลดลง โรงงานปิดตัว คนตกงาน แต่ คนไปเที่ยวเมืองนอกจ่ายน้อยลง สินค้านำเข้าถูกลง จากคุณ : เด็กโง่ ๆ คนนึง (Muay ja) - [ 9 ก.พ. 51 18:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ภาคการเกษตร บ้านเราผมว่าถูกม๊ากๆ ภาคการท่องเที่ยว บ้านเราก็ถูกม๊ากๆ เรายังไม่สามารถแข่งขันได้จริงหรือ ??? อยากรู้ความจริงๆ ม๊ากๆ แบงค์ ชาติ ลองเปิดเผย ตัวเลขสักครั้งก็ดีน๊ะ ว่าทำไม เราให้บาทแข็งไม่ได้ แล้วโรงงานตัองปิดตัวด้วยเหตุไร เพราะบาทแข็ง หรือ เพราะกำลังซื้อ กันแน่ ต้องมองปัญหาให้ชัดกันจริงๆดีกว่า ผมว่า จากคุณ : WindY - [ 9 ก.พ. 51 18:54:06 A:124.121.246.113 X: TicketID:158984 ]

ความคิดเห็นที่ 21 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6314974/I6314974.html#27 ขอบคุณพี่ZACK สำหรับความเห็นครับ จากคุณ : GABLIEL - [ 9 ก.พ. 51 19:37:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ " อย่าเอาเงินคนอื่นมาลงทุนนะครับ" จากคุณ : หิ่งห้อยคืนวันเพ็ญ - [ 9 ก.พ. 51 21:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 23 การยกเลิก 30% แทบไม่มีผลต่อตลาดหุ้นเลย เพราะเงินที่เข้ามาตลาดหุ้นไม่โดน 30% ตั้งนานแล้วนิ  ตั้งแต่วันที่ประกาศแล้วหุ้นมันล่วงกระฉูด พอประกาศว่ายกเว้น 30% สำหรับเงินที่ลงทุนในตลาดหุ้น วันต่อมาหุ้นก็ดีด อาจทำให้เงินลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาได้เพิ่ม  แต่ก็ไม่คิดว่าจะฟู่ฟ่ามากหรอกนะสำหรับตลาดหุ้น ส่วนเรื่องอื่นเดียวไปตอบอีกกระทู้ดีกว่า จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 9 ก.พ. 51 22:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มีผลต่อตลาดหุ้นทางอ้อม เฉพาะกลุ่มส่งออก เนื่องจากบาทจะแข็งขึ้น จากเม็ดเงินที่ำนำเข้ามาเพิ่ม ทำให้กลุ่มส่งออก แย่กว่าเก่า หุ้นกลุ่มส่งออก ต้องร่วงตามระเบียบ นอกนั้นภาพรวมไม่ค่อยมีผล จากคุณ : แอฟโฟร่ (Wai-ta-min) - [ 9 ก.พ. 51 22:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้ายกเลิกสำรอง30%    แล้วขนเงินกลับประเทศทันที   ( เอาไปแก้ปัณหาซัพไพร์ม? ) คงเสียววาบเหมือนกันนะครับ หน้าที่เขา ก็ปล่อยเขาทำเถอะ จากคุณ : pungee1 - [ 9 ก.พ. 51 22:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วมีข้อมูลอะไรของประเทศ ที่ต้องปกปิดไม่ให้ผู้นำประเทศรู้ จากคุณ : Protector - [ 9 ก.พ. 51 22:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตามคำถาม... เห็นว่ามีผลให้หุ้นขึ้นอยู่ 3 วัน หลังจากนั้นจะเห็นการขายหุ้นเอาเงินไปแลกดอลกลับบ้าน ซึ่งหุ้นนี้รวมถึงหุ้นที่เคยซื้อไว้ตั้งนานแล้วตั้งแต่ตอน 38 บาทต่อดอล... แล้วอีกหลายเดือนหุ้นไทยจะกลับมาคึกคักอีก ตอนดอลเท่า 38 บาท.... ก่อนมีมาตรการ 30% หุ้นตลาดเราก็ใช่ว่าจะดีเอามากๆนะครับ... พอมีมาตการก็ลงหนักสุดขีดอยู่วันเดียว แล้วค่อยๆปรับขึ้น...หากยกเลิกก็แค่ซื้อให้รายย่อยช่วยผสมโรง ลากไปให้ไกลหน่อย ลากอยู่ฝ่ายเดียวใช้เงินเยอะเกินไปกับตลาดเล็กๆอย่างนี้...ตอนนี้เงินมีแต่ไม่ได้มุ่งมาไทยประเทศเดียว ของดีๆมีอยู่เยอะ...ก็อาศัยรายย่อยมาผสมหน่อยก็แล้วกัน จากคุณ : ข้างบูรพา - [ 9 ก.พ. 51 22:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ทำไมเราไม่ใช่มาตราการด้านภาษีคือ ถ้าเงินทุนไหลเข้าลงทุนในบ้านเราสั้นระยะไม่กี่สัปดาห์ก็เก็บภาษีแพงหน่อย ในทางกลับกันถ้านำเงินมาลงทุนในบ้านเราระยะยาวเก็ภาษีต่ำหน่อย จากคุณ : the one peak - [ 9 ก.พ. 51 22:52:21 ]