Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ..................น้ำใจจากคนแบงค์ชาติ ........................

    เข้าใจว่าห้องนี้น่าจะมีคนที่ทำงานธนาคารอ่านกันเยอะ ขออนุญาตโพสต์ที่นี่นะคะ รายละเอียดเหตุการณ์

    เช้านี้ก่อนไปทำงาน จขกท มีอาการปวดท้องน้อยนิดๆ คิดอยู่เหมือนกันว่าซักพักคงจะปวดหนัก อยากหยุดพัก แต่งานด่วนหลายชิ้นทำให้ต้องฝืนใจแต่งตัวไปทำงาน ก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะทานยา  Ponstan ตามปกติที่เคยปวดแล้วสามารถระงับอาการได้

    จขกท ขึ้นรถเมล์สาย 23 ตรงสี่แยกบางนาก่อนขึ้นทางด่วนแม้จะสายแล้วแต่รถก็ค่อนข้างแน่น ซักพักอาการปวดเริ่มเพิ่มขึ้นทีละนิด ทีละนิด จนมีความรู้สึกว่ายืนไม่ไหว ถ้ายืนต่ออาจทรุดได้ เราเลยตัดสินใจที่จะเดินเซ เซ ไปที่บันไดทางขึ้น บันไดค่อนข้างสกปรกมีรอยเท้าที่ผ่านการย่ำน้ำโคลนหลายรอย แต่วินาทีนั้นคือไม่สนใจแล้วต้องนั่งลง โดยข้างๆ มีกระเป๋ารถเมล์ผู้หญิงยืนอยู่ แม้เราจะปวดจนตัวงอก็ไม่ได้รับการสนใจถามไถ่ ตอนนั้นรู้สึกเหงื่อชื้นๆ ผุดเต็มหน้า ใจก็หวิวๆ ปวดจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ไม่สามารถยืดตัวได้ต้องงอจนตัวพับไปข้างหน้า ตลอดระยะทางที่เรางอตัวอยู่ประมาณ 10 นาที กระเป๋ารถคนนั้นก็ไม่ได้สนใจใดๆ จนเราเองต้องขอร้องว่า

    “ถ้ารถเมล์ลงจากทางด่วนรบกวนให้ช่วยเรียกแท็กซี่ไปส่งโรงพยาบาลให้หน่อยได้ไหมคะ” ตอนนั้นเรียกเองไม่ไหวจริงๆ

    เธอปฏิเสธเสียงเรียบๆ ว่า ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้เพราะเดี๋ยวคนขับไม่รู้ว่าเธอลงก็จะออกรถไป เธอกลัวว่าจะขึ้นรถไม่ทันไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้  

    ตอนนี้เริ่มมีอาการคลื่นไส้และหูอื้อร่วมกับอาการปวดท้องที่เพิ่มขึ้น ปวดจนตัวพับลงไปแต่ตาก็มองที่กระจกรถตลอดว่าถึงไหนแล้ว เมื่อไรจะถึงเสียที ตลอดเวลาประมาณ 20 นาที เราไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ได้แต่ปวดจนตัวงอ ในขณะที่สติเหมือนจะหลุดออกไปสมองก็คิดว่าเราจะช่วยเหลือตัวเองอย่างไรในภาวะอย่างนี้  ก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนนึง ถามว่า คุณเป็นอะไร ตอนนั้นเราจำไม่ได้ชัดเจนนักว่าตอบไปอย่างไรบ้างเพราะปวดท้องจนเบลอ ถ้าใครเคยมีประสบการณ์ปวดท้องหนักๆ อาจจะพอจินตนาการได้ค่ะว่ามันทรมานขนาดไหน  รู้ว่าขอร้องไปประมาณว่า

    ถ้ารถเมล์จอดแล้วรบกวนช่วยเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลให้ทีได้มั๊ย

    ตลอดระยะเวลาที่ปวดท้องจนตัวงอนั้น กระเป๋ารถเมล์ได้แต่ยืนเฉยๆ  เรามองเห็นแค่ปลายเท้าของเค้า พอปวดหนักๆ ก็จะจิกมือเข้าไปที่เข่าเพื่อให้รู้สึกตัวอย่าเป็นลม  โชคดีที่วันนี้รถไม่ติดมากนัก ประมาณ 30 นาทีที่ปวดอยู่ ก็มาถึงป้ายรถเมล์ป้ายแรกจากทางด่วน  มีคนจะลงในขณะที่เรานั่งขวางอยู่ตรงบันไดและไม่รู้เลยว่าจะลุกได้อย่างไร ตอนนั้นเรี่ยวแรงก็หายไปหมด ประตูรถเมล์เปิดพี่ธนวัฒน์ (ทราบชื่อภายหลัง) ลงไปก่อน และเห็นว่าเราไม่ไหวแน่ๆ เลยยื่นมือมาให้เกาะ พร้อมกับมีมืออีกหลายมือที่ช่วยพยุง       (ขอบคุณทุกๆ คนนะคะ ที่ช่วย)

    เราถูกพยุงให้ไปนั่งตรงป้ายรถเมล์ มีพี่พนักงานขายตั๋วเดือน ที่ขายตรงนี้ประจำ รีบกุลีกุจอมาช่วยพยุง ถามไถ่อาการ พยายามช่วยเหลือ และมีผู้หญิงอีกคนส่งยาดมมาให้พร้อมกับบอกว่า อันนี้ซื้อใหม่ๆ ค่ะใช้เลยนะคะ    (ขอบคุณมากค่ะ)
    นั่งในแท็กซี่แล้วอาการปวดยังมากอยู่ พี่ธนวัฒน์ที่มารู้ชื่อจากในรถและรู้เพิ่มเติมว่าทำงานที่แบงค์ชาติ คอยช่วยเหลือตลอดถือยาหม่องและบอกให้เราเอาทาที่ท้อง ทั้งปลอบใจ ทั้งคิดหาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ตอนนั้นปวดท้องจนหน้าซีดพี่แท็กซี่ถามว่าจะให้เปิดไฟฉุกเฉินมั๊ย เพราะดูท่าไม่ไหวมากๆ  เราบอกไม่เป็นไรแต่ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล BNH หน่อยเพราะมีประวัติการรักษาอยู่ที่นั่น
    ใกล้ถึงโรงพยาบาลเราหยิบกระเป๋าเพื่อเตรียมจ่ายค่ารถ พี่ธนวัฒน์บอกว่าไม่ต้อง ไม่ต้อง  ซึ่งเรายอมไม่ได้จริงๆ ช่วยเราแล้วยังจะมาจ่ายค่ารถให้อีก ก็เลยรีบจ่ายและจ่ายไว้เกินเพื่อให้รถกลับไปส่งพี่เค้าที่ทำงานเพราะตอนนั้นสายมากแล้ว แต่พี่เค้าไม่ยอมไปบอกว่าไหนๆ มันก็สายแล้ว พอรถจอดก็วิ่งไปเรียกรถเข็นมาให้ ตอนนี้เราเหมือนวูบไปแล้ว รู้ตัวอีกทีนอนอยู่บนเตียง พยาบาลและหมอยืนรอบเตียงหลังซักถามอาการ หมอสั่งให้ใช้ยาฉีดโดยใช้เข็มซิลิโคนเจาะที่หลังมือเพื่อเจาะเอาเลือดและฉีดยาเข้าเส้นเลือดตอนเห็นปริมาณยา เราอึ้งไปเลยเพราะขนาดและปริมาณยาเท่ากับเข็มที่ใช้ดูดเลือดไปตรวจ

    ตอนนี้เราคิดว่าพี่ธนวัฒน์คงไปแล้ว แต่เราได้ยินเสียงหมอตอบใครคนนึงว่า ไม่เป็นอะไรมากครับ แต่อาการปวดหนักมาก ไม่ต้องห่วง พยาบาลอีกคนเปิดม่านเข้ามา เราเลยมองเห็นว่าพี่ธนวัฒน์นั่นเองที่ถามอาการกับหมอ เราเลยยกมือไหว้และขอบคุณพี่เค้าและบอกว่า พี่รีบไปทำงานเถอะค่ะหนูไม่เป็นไร พี่เค้ายังคงลังเล และบอกว่าไม่เป็นไรผมจะอยู่รอจนกว่าจะมีเพื่อนหรือญาติคุณมา
    ตอนนี้พยาบาลมาจับมือเราหาเส้นเลือดที่หลังมือ พี่เค้ายังคงยืนอยู่ เราเลยบอกว่า พี่คะหนูไม่เป็นไร หนูไม่ได้ขอให้ใครมาเพราะเคยมีอาการอย่างนี้มาก่อนเดี๋ยวก็หายค่ะ พี่กลับไปเถอะค่ะ และยกมือไหว้ขอบคุณพี่เค้าอีกครั้งนึง    
    พยาบาลเข้ามาอีกคนและปิดม่าน ................................


    จุดประสงค์ในการตั้งกระทู้ของ จขกท คือ

    1     ขอบคุณคนที่ช่วย จขกท วันนี้
    2    หวังว่าคนที่รู้จักพี่ธนวัฒน์หรือพี่ธนวัฒน์เองจะได้มาอ่านกระทู้นี้ และช่วยติดต่อกลับทีค่ะ

    เนื่องจากว่าตอนที่ถามชื่อและขอเบอร์โทรศัพท์   พี่ธนวัฒน์บอกแต่ชื่อและที่ทำงาน เหมือนจะรู้ว่าเราอยากตอบแทนซึ่งพี่เค้าก็บอกว่า ผมเคยไม่สบายบนรถเมล์เหมือนกัน ไม่เป็นไร ผมอยากช่วยเท่านั้น  อีกทั้งตอนนั้นเราเองก็ไม่ค่อยมีแรงจะตื๊อถามนักและคิดว่าน่าจะถามหาคนชื่อธนวัฒน์ได้ไม่ยาก มันเป็นการเข้าใจผิดของเราจริงๆ หลังจากที่อาการดีขึ้น ได้โทรไปที่แบงค์ชาติและเล่าเหตุการณ์ให้คนที่รับสายฟัง ซึ่งเค้าพยายามช่วยเหลือแต่พนักงานที่นั่นมีคนชื่อธนวัฒน์เยอะมาก แม้จะบอกลักษณะไปแต่ก็เหมือนไม่ช่วยอะไรนัก ตอนนี้ทำได้แค่ฝากเบอร์มือถือไว้และบอกคนที่รับสายว่าถ้าทราบว่าพี่เค้าเป็นใคร  รบกวนโทรกลับด้วย อยากขอบคุณจริงๆ และอยากบอกว่าตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว กลับบ้านได้แล้ว ขอบคุณค่ะสำหรับน้ำใจของพี่ที่ทำให้วันนี้กลายเป็นวันดีๆ


    พี่ธนวัฒน์ใส่แว่นตากรอบเหลี่ยม ผิวไม่ขาวแต่ไม่คล้ำ ขึ้นรถเมล์สาย 23 และแน่นอนว่าวันนี้ไปทำงานสาย

    จากคุณ : minimint7 - [ 25 ก.พ. 51 15:52:33 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom