ความคิดเห็นที่ 1 ประกันสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นมากค่ะ เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นซื้อไว้ดีกว่านะคะ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหลังไมค์ได้ค่ะ จากคุณ : sweetest_girl - [ 29 ก.พ. 51 01:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าคิดว่าป่วยหนัก แล้วเข้า รพ. เอกชน บริการดีๆ ก็ควรทำครับ พ่อผมรถชน ขาหัก 2ข้าง 6 ท่อน ค่าใช้จ่าย 17 วัน แปดแสนครึ่ง ผ่าตัดดามเหล็ก ต้องหาหมอหลังจากนั้นอีกรวม ใกล้ๆล้านแล้ว คุยกันเล่นๆ ว่า ถ้าเค้าส่งพ่อไป รพ.รัฐ คงพิจารณา ตัดขาทิ้งสองข้าง เพราะประหยัดงบประมาณหลวง และเร็วดีด้วย ไม่มีครอบครัวเลือกประกันที่ ไม่ต้อง เอาประกันชีวิตหรอกครับ เปลือง เปล่าๆตายไปไม่รู้จะเอาไปให้ใคร อย่าไปเชื่อว่า ออมเงิน ไม่คุ้มเลยจริงๆ ถ้าซื้อแต่ประกันสุขภาพ ควารซื้อ รวดเดียวยาวๆหลายๆปีเลย เป็นการล็อกสัญญา ประกันสุขภาพ ส่วนมากจะเป็นสัญญาปีต่อปี ถึงแม้จะเป็นประกันซื้อพ่วงประกันชีวิตก็ตาม ถ้าเกิดคุณเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมาจริงๆ ประกันจ่ายแยะๆ จะสามารถ ยกเลิกต่อสัญญากับคุณในปีต่อไปรับ อันนี้ พ่อผมก็โดน ไทยประกันชีวิต บอกยกเลิกมาแล้ว ตอนเส้นเลือดตีบ ขอให้ โชคดดีกับการทำประกัน จากคุณ : Pigfarm - [ 29 ก.พ. 51 07:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีพ่อแม่คนหนึ่ง   ได้ลูกแฝดเป็นชาย   ลูกอายุได้ 18 ปี    ลูกคนที่ 1 ชอบทำบุญ  คนที่ 2 ไม่ชอบ ได้แต่ทำประกันภัย ได้ขับรถไปเที่ยวกัน   พ่อแม่ลูกทั้ง 4   เกดิอุบัติเหตุ รถชน    ลูกคนที่ 1 แค่ บาดเจ็บเล็กน้อย  คนที่ 2 ต้องเสียขาไป 1 ข้าง ก็ได้ไปรับเงินจากประกันภัย มา  แต่ไม่ได้ ขา คืนกลับมาดั่งเดิม        อย่าทำประกันอย่างเดียว ทำบุญด้วย น่ะ      บุญกับปาบไม่สามารถ ลบกัน ได้  แต่ ก็ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา  ประกันภัย ก็ช่วยผ่อนหน้กเป็นเบาก็แค่ เงิน ตรา จากคุณ : angthongmen - [ 29 ก.พ. 51 09:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเข้ามาเฟอมอีกคนคับ ควรทำเป็นอย่างยิ่ง แล้วเลือกแบบมีเงินออมปันผลด้วย ผมเพิ่งป่วยแบบสุดชีวิตเมื่อ 3 วันก่อน เพิ่งเห็นคุณค่ามันก็วันนั้นแหล่ะ...........เสียปีละ หมื่นนิดๆ แลกกับชีวิต ไม่แพงแล้วคับ...........กินเที่ยวยังใช้มากกว่านี้เลย นี่ชีวิตเรา ทำไปเถอะคับ จากคุณ : dark leklek - [ 29 ก.พ. 51 11:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมก็ทำนะ แม้ว่าจะมีของบริษัทแล้วก็ตาม ทำตอนนี้ดีกว่า พอแก่ๆไป เกิดมีโรคร้าย ซวยเลย ของบริษัทถ้าเราออกก็หมดกันครับ อะไรๆก็ไม่มั่นคง ถ้ายังไม่มีครอบครัว ทำประกันสุขภาพ ไว้ให้ตัวเองครับ เกิดเป็นโรคร้ายขึ้นมาซวยเลย ตกงานไม่มีคนช่วยเหลืออีก จากคุณ : [C]h[a]i - [ 29 ก.พ. 51 13:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จำเป็นมากที่สุดค่ะ พวกประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกัน 36 โรคร้าย ฯลฯ เพราะไม่มีใครบอกได้ว่าวันหนึ่งเราจะเกิดเป็นโรคอะไรขึ้นมาเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้น จึงต้องรีบทำประกันไว้ซะตั้งแต่คุณยังมีสุขภาพสมบรูณ์ เพราะขืนรอจนป่วยแล้วค่อยคิดมาทำ พวกบริษัทประกันเค้าจะไม่รับทำนะคะ  มีตัวอย่าง คือญาติคนนึงของเราตอนนี้ เกิดคลำพบก้อนที่เต้านม แล้วก็กลัวว่าจะเป็นมะเร็ง แต่ยังไม่ไปตรวจกับหมอ เพราะไม่ต้องการให้มีประวัติ เนื่องจากพึ่งทำประกันไปไม่ถึงหกเดือน คิดดูสิ ว่าต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้ นี่ถ้าเค้าทำตั้งกะยังมีสุขภาพดีๆ สงสัยว่าเป็นอะไรขึ้นมาปุ๊ป ก็วิ่งหาหมอตรวจรีบรักษาได้ปั๊ปเลย ไม่ต้องมารอตุ๊มๆต่อมๆอย่างนี้ จากคุณ : หนูขิง - [ 29 ก.พ. 51 13:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปรึกษา คุณหมีพู ครับ หลังไมค์ไปเลย อีกอย่าง อย่างหวัง ที่จะเป็นโรค แล้วได้รับการรักษาที่ดี อย่างเดียว ต้องป้องกัน โรคที่มันป้องกันได้ด้วยครับ ด้วยการออกกำลังกาย กับ เลือกกินอาหาร ด้วยครับ จากคุณ : หมูอวบ - [ 29 ก.พ. 51 18:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณคุณหมูอวบที่ช่วยแนะนำหมีพูครับ หมีพูขอให้ข้อมูลหน้าไมค์ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ท่านอื่น ๆ ด้วยครับ ก่อนอื่นคุณต้องแยกแนวคิดก่อนนะครับว่า การลงทุนกับกองทุนรวมนั้นเป็นการเพิ่มค่าให้ความมั่งคั่ง (บางทีก็ลดค่าได้นะครับ) ส่วนการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัย นั้นเป็นการปกป้องความมั่งคั่งของเรา ไม่ให้สูญหายไปทั้งหมดกับภัยต่าง ๆ ที่เกิดกับตัวเรา เช่นความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ จากข้อมูลที่คุณให้มาข้างต้น หมีพูเห็นว่าให้ลงทุนในกองทุนรวมเป็นหลัก เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งของทรัพย์สิน แต่ในขณะเดียวกันก็เจียดเงินออกมาส่วนนึง ไม่มากครับเพื่อซื้อประกันสุขภาพ, ประกันโรคร้ายแรง, ประกันอุบัติเหตุ และหากยังไม่มีประกันชีวิต ก็ควรซื้อประกันตลอดชีพตัวคุณเองไว้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ รวมถึงเป็นมรดกเงินสดในอนาคตให้ครอบครัวด้วยครับ (ทุนประกันมรดก 1 ล้าน เบี้ยประกันประมาณ 2 หมื่นนิด ๆ ชำระแค่ 20 ปี คุ้มครองไปตลอดชีวิต ถ้าอยู่ถึงอายุ 90 ปี ก็รับเงิน 1 ล้านนี้กลับไปด้วย) - ประกันสุขภาพนั้น เลือกแบบคนไข้ใน ความคุ้มครองระดับกลาง ๆ ก็พอครับ เพราะเห็นคุณเบิกได้ 50-100% เบี้ยประกันสุขภาพนั้นก็ประมาณปีละ 5,850 บาท - ประกันโรคมะเร็ง ก็เลือกเงินชดเชยครึ่งล้าน เบี้ยประกันก็ปีละ 4,600 บาท - ประกันอุบัติเหตุ เผื่อไว้ฉุกเฉินเป็นค่ารักษาพยาบาลแบบด่วน ๆ ครั้งละ 20,000 ก็พอ เบี้ยประกันปีละ 900 บาท เบี้ยประกันทั้งสามรายการข้างต้น รวมปีละ 11,350 บาท คิดแล้วเท่ากับ 1.90% ของรายได้ทั้งปีเท่านั้นเองครับ (เดือนละ 5 หมื่น = ปีละ 6 แสน) จะเห็นได้ว่าเบี้ยประกันจำนวนเล็กน้อยนี้ ช่วยปกป้องเงินออมก้อนใหญ่ของคุณและครอบครัว ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุที่เกิดกับตัวคุณ แถมยังได้รับการบริการรักษาพยาบาลที่ดีมากขึ้น มีทางเลือกในการรักษามากขึ้นอีกด้วยครับ บางคนประกันรถใหม่ เสียเบี้ยปีละเป็นหมื่น เสียดายเงินแต่ก็ยอมตัดใจซื้อประกันรถ เพราะเหตุผลต่าง ๆ นานา อย่าลืมว่ารถใหม่ นานวันก็กลายเป็นรถเก่า รอวันผุพัง แต่หนึ่งสมองสองมือของเรานั้น สร้างสมประสบการณ์ ความสามารถต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างเงินทองให้ตัวเราและครอบครัว ได้มากมายกว่ามูลค่ารถใหม่นั้นตั้งหลายเท่าตัว แต่หลายคนกลับเลือกทำประกันให้ตัวเอง ด้วยทุนประกันที่รองรับความเสี่ยงได้เพียงแค่ เศษเสี้ยวของค่าความสามารถของตนเองเท่านั้น อย่างนี้เรียกว่ารักรถมากกว่ารักตัวเองและครอบครัวครับ จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 29 ก.พ. 51 21:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับผม จากคุณ : [kv] - [ 1 มี.ค. 51 10:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตามที่คุณหมีพู ข้างบนเลยครับ จากคุณ : จิฟฟี่ - [ 4 มี.ค. 51 16:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดิฉันชื่อ  ภิญญาพัชญ์ค่ะ   เป็นตัวแทนประกันชีวิตของ บ. AIA  ค่ะ  ท่านใดที่มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับประกันชีวิต  ปรึกษาได้ค่ะ   เราอยากให้คนไทยซื้อประกันชีวิตแบบเข้าใจประกันชีวิตจริงๆ  ไม่ใช่ตัวแทนตื้อค่ะ  086-3306576   คุ้มครอง40โรคร้ายแรง แค่วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งก็จ่ายแล้วนะคะของ AIA จากคุณ : ภิญญาพัชญ์ - [ 20 มี.ค. 51 11:10:47 ]