 |
ประสบการณ์ใน ตลาดหุ้น
สิ่งแรกที่ผมต้องเอย คือขอโทษทุกท่านที่ทำให้เกิดกระทู้โต้เถียงเกิดขึ้น ผมมิได้มีเจตนาที่จะคุยโม้โอ้อวดตน แต่นั้นคือ ความจริงที่ผมได้กระทำ และผมไม่ได้ดูคนที่จำนวนเงินที่เขามี และไม่เคยคิดดูถูกใคร นี้มิใช่สันดานของผมแต่ผมดูจากการกระทำ " กรรมเป็น สิ่งบอกเจตนา " สิ่งที่ผมโพสเมื่อคืนเพียงแค่อยากบอกว่า อารมณ์ของตลาดหุ้น มิใช่เหมือนการบวกเลข เช่น 1+1 = 2 เสมอไป การดู Dow Jone เป็นเพียงการดู แนวโน้มของ Sentiment ของตลาด มิจำเป็นเสมอไปที่ตลาดต่างประเทศลบ ของเราต้องลบด้วย การที่ผมเข้ามาในเวปนี้เสมอ เพราะผมรู้ว่าที่นี้เป็นจุดเริ่มต้น ของนักลงทุนหน้าใหม่ ที่จะมาค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม และผมยินดีกับนักลงทุนหน้า ที่ได้รับความรู้ที่ถูกต้องจากหลาย ๆ ท่าน เช่น Tecnical จาก คุณ Taxi, คุณ
Kitty. และปัจจัยพื้นฐาน จาก คุณ ตี๋น้อยMBA รวมทั้งประสบการณ์ จากคุณ ปลานิลจิ๋ว (อย่าบอกว่าไม่มีประสบการณ์ เยอะนะครับ ผมดูจากใบหุ้น FIN 1 ครับ) และอีกหลาย ๆ ท่าน ผมพยายามจะทำตนให้มีประโยชน์แบบหลาย ๆ ท่าน ที่กล่าวมาแต่ผมรู้ ว่าความสามารถผมไม่พอ สิ่งเดียวที่ผมจะพอช่วยได้ คือ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ที่ผมพบมา ให้ทุกคนรู้ว่าตลาดหุ้น มิได้หอมหวาน อย่างที่ฝัน คุณต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อแลกกับความสำเร็จ มิใช่ เกิดจากการร้องขอ ยังมีความน่ากลัวอีกเยอะ ในตลาด ในชีวิตของการเล่นหุ้นของผม ผมเห็นคนที่รวยจากตลาดหุ้นไม่ถึง 5 คน แต่เสียหายจากตลาดหุ้นไม่น่าต่ำกว่า 40 คน และการเสียหายนี้ไม่ใช่ บาทสองบาท แต่ผมหมายถึง การเสียหายชนิดที่เรียกว่า แทบล้มละลายหมดตัว ทุกคนเสียหายไม่ต่ำกว่า คนละ 20-80 ล้านบาท นั้น คือ สาเหตุ ที่ผมพยายามโพส ช่วยเตือน เท่าทีผมพอช่วยได้ แค่นี้ก่อนแล้วกัน วันหลังว่าว่างจะมาเล่าให้ฟังครับ
ปล มีคำถามก่อนนอน เชิญเก็บไปคิดนะครับ มีเวลา 2 วัน ข้อ 1. ยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ดีจริงหรือสำหรับตลาดหุ้น ? ( Fund flow รอซื้อเฉพาะ ตลาดบ้านเรา หรือ เออ.... น่าคิด )
ข้อ 2. ถ้าคุณมีหุ้นเยอะมาก ๆ คุณว่าเวลาไหนน่าขายหุ้นที่สุด 1 ตลาดซึม 2 ตลาดดี ทุกคนอยากซื้อหุ้น
โชคดีทุกท่าน ครับ
จากคุณ :
หนูหิ่นห้อง V 
- [
29 ก.พ. 51 23:06:37
]
|
|
|
|
|
|
