ความคิดเห็นที่ 1 ผม ว่า   เช้าเปิดต่ำแล้วค่อยๆลากขึ้นปิดสูง เดาล้วนๆ  ล้วนแต่เดา จากคุณ : แค่อยากออกความคิด อ้ะคับ (SC25_KU50) - [ 2 มี.ค. 51 18:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เออ..... ขอโทษครับ ข่าวไหนของบ้านเราที่ดีมาก ๆ ครับ ขอทราบด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : หนูหิ่นห้อง V (หนูหิ่นห้อง V) - [ 2 มี.ค. 51 18:01:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณ หนูหิ่นห้อง V  ต้องการข่าวดีมากเหรอครับ   คงมีแต่ข่าวดีธรรมดา ถ้าสนใจจริงๆจะลองหามาให้ อ่ะครับ จากคุณ : Rppc2 - [ 2 มี.ค. 51 18:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พี่ Rppc 2 ถ้าเป็นข่าวยกเลิกมาตราการ 30 % ผมว่าตลาดคาดการณ์ไว้แล้วครับ เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ที่ถามเพราะอยากทราบตามหัวข้อกระทู้บอกข่าวบ้านเราดีมาก ๆ เพราะบางทีผมอาจจะตกข่าว บางข่าวที่มีประโยชน์สำหรับผม ... เคารพทุกความเห็นครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : หนูหิ่นห้อง V (หนูหิ่นห้อง V) - [ 2 มี.ค. 51 18:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมหรือประกาศ ยกเลิก30%แล้วเงินจะไหลออกจากไทยหรือ ผมว่าตรงกันข้ามนะ  น่าจะไหลเข้า ง่ายขึ้น  เงินเข้าหุ้นก็ขึ้น  ไปคิดว่าเงินเข้าแล้วหุ้นจะลงไม่แปลกไปหน่อยหรือครับ จากคุณ : KAi (stangman) - [ 2 มี.ค. 51 18:36:24 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กรุงเทพ--2 มี.ค.--รอยเตอร์                ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เผยว่า นักลงทุนญี่ปุ่นสนใจลงทุนหุ้น ไทยเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ไทยเตรียมแก้ปัญหาข้อจำกัดลงทุนต่างๆซึ่งรวมถึงข้อจำกัดขายสิทธิ จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน และอัตราส่วนถือหุ้นโดยชาวต่างชาติซึ่งทำให้ไม่สามารถโอนหุ้นได้          นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.เผยว่า เขาจะเดินทาง ไปญี่ปุ่นอีกครั้งในเดือนนี้ เพื่อพูดคุยเรื่องนี้หลังได้พบปะนักลงทุนสถาบันญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว        "เรื่องนี้เราก็จะไปคุยกับก.ล.ต.เร็วๆนี้ เราจะต้องได้ข้อสรุปก่อนเดินทางไป โรดโชว์ เพราะเราต้องตอบคำถามเรื่องนี้อีก"ผู้จัดการตลท.กล่าวกับผู้สื่อข่าว และยัง กล่าวว่า ประมาณวันที่ 20 มี.ค.นี้ เขาจะเดินทางไปญี่ปุ่น              เขากล่าวว่า ตลท.จะหารือกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์(ก.ล.ต.)ในเร็วๆนี้ ในเรื่องกระบวนการยื่นไฟลิ่ง รวมถึงความคล่องตัวเกี่ยวกับ เรื่องนี้ ซึ่งควรจะมีขั้นตอนไม่นานและมีต้นทุนไม่สูง ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้นักลงทุนญี่ปุ่นขาย สิทธิลูกหุ้นได้เมื่อบริษัทในไทยประกาศเพิ่มทุน        ในญี่ปุ่น กรณีผู้ถือหุ้นเดิมขอสละสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน สามารถนำสิทธินั้นไปขาย ต่อได้ แต่สำหรับกรณีของไทยนั้น ไม่สามารถทำได้        ก่อนหน้านั้น ตลท.ระบุว่า ช่วงวันที่ 17-19 มี.ค.ตลท.จะไปโรดโชว์เพื่อให้ ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียว ตามคำเชิญของบล.พัฒนสิน และ Nomura   Securities และในวันที่ 20 มี.ค.ก็จะไปให้ข้อมูลที่จัดโดยโบรกเกอร์ญี่ปุ่นชื่อ United   World Japan K.K.ตามคำเชิญของบล.ยูไนเต็ด (US)          ขณะที่เมื่อ 18-20 ก.พ.ที่ผ่านมา ตลท.ได้ไปร่วมงานสัมมนา"Daiwa   Investment Conference (Tokyo)"ตามคำเชิญของ Daiwa Securities SMBC   ซึ่งมีผู้ลงทุนสถาบันชาวญี่ปุ่นและต่างชาติเข้าร่วมกว่า 1,000 คน        การประชุมผู้ลงทุนสถาบันในครั้งนี้ มีบริษัทจดทะเบียนของญี่ปุ่นเข้าร่วมนำเสนอ ข้อมูลกว่า 70 บริษัทแ ละบริษัทชั้นนำในเอเชียอีกกว่า 20 บริษัท          นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในโลกและในเอเชีย รวม 8   แห่ง อาทิ NYSE Euronext ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน อินเดีย ฟิลิปปินส์   เวียดนาม และตลท.เข้าร่วมให้ข้อมูลภาวะเศรษฐกิจ และแนวทางพัฒนาตลาดทุน        "ผู้ลงทุนสถาบันญี่ปุ่นได้จัดให้ตลาดทุนไทยเป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตลงทุน...โดย หากมีการแก้ข้อจำกัดการลงทุนต่างๆในไทยได้ จะมีส่วนในการเพิ่มการลงทุนในตลาดทุน ไทยมากขึ้น"นางภัทรียา กล่าวในเอกสารเผยแพร่          เขากล่าวว่า จากการพูดคุย มี 3 ประเด็นที่จะช่วยกระตุ้นการลงทุนของชาว ญี่ปุ่นในตลาดหุ้นไทย โดยประกอบด้วย การเผยแพร่ข้อมูลพื้นฐานเพื่อตอบสนองผู้ลงทุนญี่ปุ่น ที่ลงทุนระยะยาว, การแก้ปัญหาการขายสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน และข้อจำกัดเรื่องอัตรา ส่วนถือหุ้นโดยชาวต่างชาติ ซึ่งทำให้ไม่สามารถโอนหุ้นได้          นางภัทรียา กล่าวด้วยว่า ตลท.จะทำงานร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ที่มีฐานลูกค้าญี่ปุ่น เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น ขณะที่ Daiwa Securities ยังได้สนใจ อย่างมากที่จะเข้ามาทำธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ในไทย โดยอยู่ระหว่างหาพันธมิตร        เขากล่าวว่า การไปให้ข้อมูลเมื่อเดือนก.พ.ดังกล่าว ยังได้นำเสนอข้อมูลพื้น ฐานเศรษฐกิจไทย รวมทั้งนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจที่เน้นความต้องการจากภายในประเทศ          ขณะเดียวกัน ได้ชี้ให้เห็นถึงตลาดทุนไทยที่เติบโตผ่านช่วงวิกฤติเศรษฐกิจได้   โดยบริษัทจดทะเบียนมีผลดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงการเงินที่ลดลง   พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของ ETF(Exchange Traded Fund) และตลาด อนุพันธ์ของไทยด้วย        ตามข้อมูลของ ตลท.ระบุว่า ในปี 48 นักลงทุนญี่ปุ่นมีมูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้น ไทยรวม 3.85 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 4.7 พันล้านบาทในปี 49 และ 6.9 พันล้าน บาทในปีที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นกว่า 80% จากปี 48 จากคุณ : Rppc2 - [ 2 มี.ค. 51 18:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ คุณ Kai สำหรับข้อมูล จากคุณ : หนูหิ่นห้อง V - [ 2 มี.ค. 51 18:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ข้อ 2. ไปเลย คิดอยู่นาน จากคุณ : เริ่มศึกษา - [ 2 มี.ค. 51 20:28:22 A:222.123.15.7 X: TicketID:044253 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก็ยากอยู่นะเพราะพี่ดาวปิดลบตั้งสามร้อยกว่าจุดภูมิภาคก็คงลงกันมันอยู่ที่setไทยจะเป็นตัวของตัวเองได้ไหม๊แต่ถ้าปรกติข่าวยกเลิก30%นี่ถือเป็นข่าวที่ดีมากถึงนักลงทุนจะรับรู้อยู่แล้วก็เถอะแต่การประกาศยกเลิก30%นี่มันมีผลต่อจิตรวิทยาการลงทุนที่ดีนะ(เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล) จากคุณ : ขนมไทย - [ 2 มี.ค. 51 20:53:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วันอังคารนี้ ครม ประชุมเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาษี ส่วน Dow future พรุ่งนี้ และ คืนวันจันทร์ ผมมองว่าจะบวกกลับ Dow ลบมาสองวัน เกือบ 450 จุด ระยะสั้นถือว่า oversold Dow วันศุกร์ลงเพราะ technical  ข่าวเรื่อง AIG ขาดทุน นั่นก็ไม่ได้มากมายอะไร การยกเลิก 30% เป็นสัญลักษณ์ของการเปิดประเทศ การเมืองเปลี่ยน รัฐบาลเปลี่ยน ท่าทีต่างชาติก็เปลี่ยน บ้านเรา หุ้นกลุ่มพลังงาน และเคมี  ได้รับผลดีจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน กลุ่มแบงค์  ปีที่แล้วก็ตั้งสำรองไปหมดแล้ว  ปีนี้กำไรเต็มๆ กลุ่มอหังสา ก็ได้ประโยชน์จาก ยกเลิก 30% และ mega project เดี๋ยวคงมีการออก bond lot ใหญ่  ดึงเงินต่างชาติมาให้รัฐ รัฐก็เอาไปจัดซื้อจัดจ้าง บริษัทในตลาดหุ้นอีกที กลุ่มสื่อสาร ก็ได้ประโยชน์ เพราะนโยบายเปลี่ยน และอดีตเจ้าพ่อสื่อสาร กลับประเทศมาเอง ต่างชาติเองก็ซื้อมากกว่าขาย ซื้อสุทธิอยู่ทุกวัน วัดจากคนรอบๆตัว  ขวัญกำลังใจรายย่อยดีขึ้นมาก มีหุ้นที่กำไรก็ไม่ยอมขายกัน  พวกกล้าๆกลัวๆ รอเข้าซื้อถ้าขึ้นจริงก็มีอีกมาก พวกที่ยังกลัวนี่แหล่ะ ที่จะต้องกลับมาซื้อทีหลังและดัน SET ขึ้นไป 900 จุด ที่ผ่านมา วันไหน Dow บวก เราบวกแรงกว่า วันไหน Dow ทรงๆ เราบวก วันไหน Dow ลบแรง เราเปิดลบแรงตาม แต่ตีคืนท้ายตลาดได้ตลอด ลบบ้างไม่ลบบ้าง Technical ช่วงนี้ก็ดูดี  มีลุ้น buy signal ในระดับ week อเมริกา ก็ประกาศงบกันไปหมดแล้ว  พวกขาดทุนเยอะๆให้ตกใจไม่มีอีกแล้ว ความกลัวเรื่องเศรษฐกิจถดถอย มันถดถอยแล้วในความรับรู้ของนักลงทุน (สังเกตจาก ตัวเลขเศรษฐกิจ ออกมาไม่ดี Dow ก็ไม่ลบ  แต่พอมีข่าวดีอะไรนิดหน่อย ที่แม้เป็น micro เป็นข่าวเฉพาะรายบริษัท  Dow กลับบวกไปร้อยกว่าจุด  เช่นเรื่อง IBM ซื้อหุ้นคืน   หรือ bond insurer ได้คงอันดับ rating ) ผมว่า SET เราได้เห็นเกิน 900 แน่  และจะไม่ได้เห็น 830 อีกในระยะสั้น แต่จะไปเกิน 900 แบบไหนเท่านั้นเอง ไปแบบจรวด หรือไปแบบซิกแซก  อยู่ที่ Dow กับ กระแสข่าวการเมืองไทย โดยมีข้อแม้ข้อเดียว  ว่าต่างชาติ ต้องซื้อสุทธิแบบนี้เรื่อยๆ  ไม่ต้องมาก ถ้ามากโหมหนักๆ แปลว่าใกล้จบรอบแล้ว คุณคิดว่าหุ้นขึ้นลงเพราะอะไรมากที่สุด 1 fund flow ต่างชาติ 2 Dow บวกลบ 3 ข่าวภายในประเทศ  (ข้อนี้ บางวันก็มีข่าว บางวันก็ไม่มีข่าวอะไร นานๆข่าวใหญ่มาที) 3 เดือนที่ผ่านมา Dow ติดลบทั้งสามเดือน แต่ เดือน กพ  แค่ต่างชาติซื้อสุทธิ 3 หมื่นกว่าล้าน  ก็ดันหุ้นไทยขึ้นมา 100 จุด  (ที่มันขึ้นมาไกล เพราะมันถูกอยู่แล้ว เลยใช้เงินไม่มาก ) การจะดันจาก 860 - 960 จุด  อาจต้องใช้เงินซื้อสุทธิต่างชาติ อีก ห้าหมื่นล้าน แต่ฟังผู้ว่า ธปท  ถ้าจำไม่ผิด เค้าบอกว่า เงินต่างชาติ ที่ถูกกั๊กไว้เพราะ 30% และเงินประกันความเสี่ยง ตามมาตราการเดิมที่ใช้กันมาปีกว่า  มีมากถึง หนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าล้านบาท เงินก้อนนี้เค้าไม่เอากลับแน่ เพราะบาทมันแข็งขึ้นเรื่อยๆ น่าเก็บไว้  ดอกเบี้ยเราก็ยังไม่ลด แถมเงินก้อนนี้มันเป็น weighted port ที่ budget ให้มาลงในหุ้น หรือตลาดทุนอื่นของไทย  ถ้ามันเหลือ ก็ต้องเอาไปลงในไทย ตามที่ได้จัดสรรไว้แต่แรก หลายคนอาจบอกว่า เงินก้อนนี้ส่วนใหญ่ คงเอาไปซื้อ bond เพิ่มในตลาดรอง  มีเพียงส่วนน้อย ที่มาตลาดหุ้น ( ส่วนน้อยที่ว่า ขอแค่ 20% คือ 3หมื่นกว่าล้าน  ก็ดัน SET ได้เกือบ 100 จุด) เงินส่วนใหญ่ของต่างชาติที่เหลือ จะเอามาซื้อ bond มือสอง ในตลาดรอง ก็จะมีกองทุนไทย ขาย bond ได้ กองทุนเหล่านั้น ก็จะโยกเงิน โยกสภาพคล่องที่ล้นเหลือ เข้าตลาดหุ้นอีกที เหมือนที่พวกเรา switch กองทุนเล่นกัน ใน SCBEASY นั่นแหล่ะ หุ้นจึงน่าจะไป 900 โดยประการฉะนี้ ขอแค่เห็น 870 เกือบทุกคนก็จะพูดถึง 900 กันแล้ว จากคุณ : จิตผู้รู้ - [ 2 มี.ค. 51 21:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ทำมัยไม่มีตัวเลือก "เปิดกระโดดต่ำ แล้วปิดต่ำกว่า" ว่าจะโวตซะหน่อย จากคุณ : ลุยดะ - [ 2 มี.ค. 51 22:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทำนายยาก คิดแต่ว่า ถ้าเปิดมาขึ้นก็จะขาย แล้วรอดูแต่ถ้าลงก็จะมองหาตัวพื้นฐานดีๆ เช่น ums pttar และก็พวกเหล็กบางตัวเก็บ ถ้าขึ้นคิดว่าไม่น่าจะไปไกลเพราะตลาดหุ้นโลกไม่ดีอเมริกาย่ำแย่  ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง การเมืองบ้านเรายังไม่นิ่งอาจมีการประท้วงอีกเร็วๆ นี้ ถ้าคิดในแง่ฝรั่งขายหุ้นสามารถเอาเงินบาทไปซื้อดอลล่าร์ได้มากขึ้นเพราะมีแนวโน้มค่าเงินบาทเราจะแข็งขึ้นจากมาตรการ 30 % หลับตื่นหนึ่งก็ได้ลุ้นระทึกแล้ว ใช้เวลาหากลยุทธสำหรับตนเอง แม้จะผิดก็เป็นประสบการณ์ จากคุณ : ขอให้รายย่อยรวยทุกคน (sumethpoo) - [ 2 มี.ค. 51 22:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมคิดง่ายๆว่าจะไล่ราคาหุ้นขึ้นไปทำไม ถ้าไม่คิดไปออกของข้างบน ใครๆก็มองดีๆทั้งนั้น มามองดีตอนนี้มันไม่ช้าไปหน่อยหรือปล่า ถ้าเขาคิดจะให้ไปต่อต้องตบลงมารีดรายย่อยออกก่อน ค่อยดันไปไกลๆแบบแอบขึ้นไม่ให้ตั้งเนื้อตั้งตัวน่าจะง่ายกว่า โอกาสกำไรสูงกว่า และเขาคงต้องหลอกล่อไม่ให้เรื่องง่ายๆสำหรับรายย่อยอย่างเรา  เขาคงไม่ให้คนส่วนใหญ่เดาทางออกแล้วเอาเงินมาแจกง่ายๆมังครับ เอาข่าว30% เป็นสิ่งคาดไว้แล้ว ผมว่ามันก็มีผลดีทางจิตวิทยานะ แต่เรื่องหุ้นเขาก็ยกเว้นให้ตั้งนานแล้ว มีผลเฉพาะกองทุนอสังหา และด้านการเงินการลงทุน ก็แค่ความคิดเห็นหนึ่ง วันจันทร์มาดูผลกันนะครับ จากคุณ : พ่อน้องนา - [ 3 มี.ค. 51 00:49:16 ]