Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ยกเลิกมาตรการ 30% part 1 political & hot money (prettypetite){แตกประเด็นจาก I6377801}

    สวัสดีค่ะ

    ดิฉันใช้เวลา 2 วันเต็มๆ  ในการเรียบเรียงเรื่องนี้  โดยพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องการเมือง  

    ในที่สุด  การยกเลิกมาตรการ 30% ก็เป็นไปตามที่คาด  ดิฉันได้บอกไว้แล้วว่ายังไงๆก็ต้องกดดันให้ยกเลิก เนื่องเพราะเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่เกี่ยวกับ on shore and off shore rate of exchange  ที่ได้พูดไว้ในบทความก่อน  ตอนนั้น  หลายท่านอ่านแล้วคงไม่เข้าใจว่ามันไปเกี่ยวอะไร  ตอนนี้คงรู้แล้ว

    ส่วนบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ใหญ่ และต่างชาติ ย่อมรู้ดี และมั่นใจว่าต้องมีการยกเลิกกฎนี้แน่นอน ไม่งั้นหุ้นประเทศไทยจะสุดแสน outperformed ตลาดโลกอย่างที่เป็นใน 1 เดือนที่ผ่านมาหรือ  และเพราะ action ทาง forex exchange ระหว่างสองตลาดที่เคยต่างกันตั้ง 5 บาท  แคบเข้าทักที  และเกือบจะเท่ากันในทันทีที่มีการประกาศยกเลิกมาตรการนี้  

    มาตรการ 30% แทบจะไร้ความหมายถ้าไม่ติดผลต่าง onshore offshore  เพราะมีการผ่อนปรนมากมายก่อนหน้านี้  คนที่จะลงทุนถูกกัน 30% ในรูปพันธบัตร 1 ปีก็ปลด  ถ้าไม่อยากถือพันธบัตร ก็ทำ swap เต็มมูลค่า  ตอนนี้บอกว่าเมื่อเปิดแล้ว  เงินจะแห่เข้ามาซื้อพันธบัตร  แล้วมาตรการ 30% ห้ามไม่ให้ซื้อตรงไหน  ถือว่ากักเต็ม 100% ด้วยซ้ำ

    มีคนหนึ่งบอกว่า  เงินที่ต่างชาติถูกยึดไว้ 30% จะถูกปล่อยให้มาซื้อหุ้น  หา?  คิดได้ไงนี่  ต่างชาตินี่โง่จังนิ  แทนที่จะโอนเข้ามาเพื่อซื้อหุ้นโดยตรงได้ 100% กลับโอนในรูปลงทุนอย่างอื่นเพื่อให้ถูกกัก 30%  

    มาตรการ 30%  ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของอัตราแลกเปลี่ยน 2 ตลาด  แย่กับต่างชาติที่คิดจะเอาเงินร้อนๆมาเก็งกำไรสั้นๆในตลาดหุ้นต่างหาก   และทำให้กลุ่มคนที่เอาเงินไปซ่อน ขาดทุนทันทีที่นำกลับเข้ามา  เข้ามายังถูกกักอีก 30% ซึ่งส่วนนี้  ทำให้ติดตามอายัดได้ง่ายๆ  

    นอกเหนือจากการปกป้องการเก็งกำไรค่าเงินบาท  แท้จริงแล้ว มันคือชั้นเชิงทาง Political  เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ผลในการป้องกันไม่ให้ค่าเงินบาทแข็ง  เพราะต่างชาติสามารถเอาเงินเข้ามาได้หลายวิธีดังกล่าวข้างบน  การร่วง 100 จุดครั้งนั้น  มันเป็นไปได้ว่าเกิดจากการตอบโต้ของฝ่าย  รายใหญ่โยนหุ้นใส่กัน  พวกเขาไม่เสียหาย ที่ย่อยยับคือรายย่อย

    การเมือง จึงถูกจัดเป็น risk  อันดับต้นๆในการลงทุน  อย่าว่าแต่แค่ตลาดหุ้นเลย   ตัวเลขในบัญชีของผู้สูญเสียกลายเป็น 0 ในวันรุ่งขึ้นได้เลย  ธนบัตรกลายเป็นเศษกระดาษ  

    มาตรการถูกยกเลิก  พร้อมกับออกกฎที่มีผลกับ Non Resident หรือต่างชาติเท่านั้น  แลกเงินไทยไม่เกิน 5 ล้านเหรียญสำหรับคนทั่วไป  และ 300 ล้านเหรียญ  สำหรับบริษัทที่ต้องการลงทุน  คนไทยเชิญนำเงินต่างประเทศเข้ามาตามสบาย  มันชัดซะยิ่งกว่าอะไร  ยังต้องการคำอธิบายไหม

    ดิฉันจึงพลาดอย่างจัง ไม่คาดคิดว่า  สิ่งที่ทุกคนน่าจะรับรู้แล้ว และที่ประกาศออกมา ก็ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย จะทำให้ตื่นเต้นดีอกดีใจอะไรกันได้มากมายขนาดนี้   เรียกว่า เข้าไม่ถึงจิตวิทยาหมู่ของรายย่อย  ข้อผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของดิฉัน  มักเกิดจากการที่รู้เร็วเกินไป  รู้มาก และชอบคิดว่าทุกๆคนน่าจะรู้เหมือนกัน  แค่นั้นไม่พอ  ยังชอบมองไกลข้ามขั้นเสมอๆ

    จากคุณ : KENG76 - [ 3 มี.ค. 51 08:32:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom