CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เมื่อความเห็นไม่ตรงกันการพนันก็เกิดขึ้น....คุณคิดว่า SET ไปต่อ VS. กลับบ้านเก่า

      ภายในเดือนนี้ SET ไป 860 จุด (4 คน)
      ภายในเดือนนี้ SET ไป 900 จุด (4 คน)
      ภายในเดือนนี้ SET ไป 950 จุด (1 คน)
      ภายในสิ้นปีนี้ SET ไป 950 จุด (3 คน)
      ภายในสิ้นปีนี้ SET ไป 1000 จุด (1 คน)
      ภายในเดือนนี้ SET ลงไป 820 (5 คน)
      ภายในเดือนนี้ SET ลงไป 750 จุด (11 คน)
      ภายในเดือนนี้ SET ลงไป 700 จุด (0 คน)
      ภายในสิ้นปีนี้ SET ลงไป 700 จุด (0 คน)
      ภายในสิ้นปีนี้ SET ลงไป 600 จุด (4 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 33 คน

     12.12%
     12.12%
     3.03%
     9.09%
     3.03%
     15.15%
     33.33%
     0.00%
     0.00%
     12.12%


    ขอร่วมแชร์มุมมองต่อ SET ในขณะที่สถานการณ์ยังอึมครึม...แบบว่า SET กำลังหลงทางอยู่ ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี

    เมื่อวันศุกร์ที่แล้วหลังประกาศยกเลิกมาตราการ 30% ทุนคนยังมอง SET ว่าจะไป 900 จุด 1000 จุด

    แต่ผ่านมาแค่ไม่กี่วัน ทุกคนเริ่มไม่มั่นใจกันแล้ว
    เนื่องจากเมื่อวานฝรั่งขายหนัก ถึง 3000 กว่าล้าน

    การขายหนักของฝรั่ง 1 เจ้า คือ SCBS ในขณะที่เจ้าอื่นยังซื้ออยู่ ส่วนตัวก็ยังมองว่าไม่หนักหนาสาหัสอะไรนัก ซึ่งเจ้าที่ยังซื้ออยู่ก็คือเจ้าเดียวกับที่ซื้อมาโดยตลอด
    จนทำให้ใครๆเริ่มมองว่า SET จะไปต่อ

    บวกกับข้อมูลจากคุณเทวดาหุ้น ที่บอกว่า SCBS มีความต้องการใช้เงินด่วน เลยต้องถอนการลงทุน
    http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6391537/I6391537.html

    บวกกับบทวิเคราะห์ของต่างชาติที่มองหุ้นไทยว่าจะไปต่อ และให้เครดิตประเทศดีขึ้นเนื่องจากเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง
    "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" ก็กลับประเทศไทยแล้ว คาดว่านักลงทุนที่เคยเลี้ยงดูอุ้มชูกันมา ก็คงจะตีปีกดีใจ กลับมาปุ๊บ มาตราการ 30% ก็ปิ้วว์ปั๊บ ทันใจจริงๆ

    ผลงานดีอย่างนี้...ความเชื่อมั่นนักลงทุนรายใหญ่ๆที่มี insider ก็คงจะกลับมา ลั้นลา ... แน่นอน

    ปัญหาก็คือว่า เมื่อไหร่ล่ะ หุ้นไทยจะขึ้น เห็นบอกอย่างงี้หลายทีแล้ว ไม่ไปสักที
    มีคนบอกว่าหุ้นไทยถ้ามีข่าวดี คือ ข่าว 30% กับ ข่าวมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ แล้วยังไม่ไป โดยมากมักจะต้องลง เพราะนักลงทุนไม่สนข่าวดี (ตามหัวข้อข่าวที่เสนอ)

    ซึ่งก็จริงเพราะวันนี้ตอนเช้ามันก็ลงจริงๆแต่ Volume น้อย

    ความกังวลที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น US Recession หรือ SubPrime เป็นเรื่องเก่า ที่นักลงทุนได้รับรู้ข่าวเป็นอย่างดี
    ทุกๆครั้งที่ตัดสินใจซื้อหุ้นก็ซื้อทั้งๆที่รู้ว่า US Recession กำลังจะมา
    ราคาที่ซื้อก็ เป็นราคาที่คิดว่าเหมาะสมแล้ว

    การที่ตลาดจะตกไปกว่าที่คิด จะต้องมีอะไรที่คาดไม่ถึง คือ ยังไม่ได้ร่วมความเสี่ยงตัวนี้ไปในราคา

    พันธมิตรนัดชุมนุน ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนรึเปล่า
    ก็อาจจะใช่ แต่มันก็เป็นเรื่องปรกติ ก็ประเทศประชาธิปไตย

    ที่จริงถ้ามองกันแบบตรงๆ การชุมนุมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนะ นี่ถ้ายังเรียนไม่จบน่าจะทำ Thesis เรื่อง ผลต่อเศรษฐกิจจากการชุมนุนประท้วง

    เพราะ คนขายของรถเข็นได้ประโยชน์ คนขายเสื้อยืดก็ขายได้ ไหนจะร่ม ธง สายรัดข้อมือ
    ค่าแท็กซี่ก็ได้เงิน ร้านข้าวก็ได้เงิน เพราะนัดเพือนๆออกมาชุมนุมกัน แล้วไปเฮฮาต่อหลังจากนั้น

    ถ้าการชุมนุมมีแถมตังค์ ก็ยิ่งดี ฮ่าฮ่า ได้ 2 ต่อ

    US Recession มาพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะมีขึ้นช่วงปลายปี
    การหาเสียงเลือกตั้งน่าจะช่วยกระตุ้น ความเชื่อมั่นขึ้นมาได้บ้าง

    ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า ถ้า Bush ลงจากตำแหน่งเมื่อไหร ทุกอย่างจะดีขึ้น ความเชื่อมั่นของประชาชนอเมริกาต่อเศรษฐกิจจะดีขึ้น 100% เพราะ ใครๆก็เกลียด Bush (อันนี้อ้างอิงจาก เพื่อนอเมริกันทั้งหลาย ขนาดตอนเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้ไปอยู่ด้วย ยังอยากจะไปช่วยเลือกไม่เอาบุชเลย แต่ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง เซ็ง)

    สิ่งหนึ่งที่คิดว่าน่าจะดีขึ้น คือ ราคาน้ำมัน น่าจะคงที่
    มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจอเมริกา น่าจะออกมา อาจจะมีรูปแบบคล้ายๆกับของไทยนี่แหละ

    เอาเป็นว่าสรุปเลยแล้วกัน

    เศรษฐกิจไทยไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
    รัฐบาลเองก็ยังปรับเพิ่ม GDP เป็น 6% เลย

    แม้ว่าเศรษฐกิจอเมริกาไม่ค่อยจะดี แต่คงมีมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในไม่ช้า
    นอกจากนี้บริษัทใหญ่ๆในอเมริกา เด๋วนี้เค้าขยายตลาดไปต่างประเทศ ดังนั้น ก็ยังพอมีผลประกอบการจากบริษัทที่ส่งออกช่วยอยู่ (ค่าเงินดอลล่าห์อ่อนด้วย ส่งออกน่าจะดี)

    การมีสนธิสัญญาทางการค้าต่างๆ เช่น FTA  น่าจะนำเดินการต่อไปได้ หลังจากที่เรามีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง และ US มีรัฐบาลใหม่เรียบร้อย

    นอกจากนี้รัฐบาลยังมี Mega projects (เติม s) และ Super Mega Projects อีกหลายโครงการที่จะนำมาใช้
    หนี้สาธารณะของไทยยังไม่เต็มเพดาน
    นอกจากนี้ เชื่อว่า พรบ.หนี้สาารณะ ฉบับไหม่ที่กำลังจะประกาศใช้ จะทำให้การกู้ยืมเงินของรัฐบาลมีความยืดหยุ่นขึ้น

    การประชุม กนง ครั้งต่อไป คาดว่าแบงค์ชาติต้องลดดอกเบี้ยลง ค่อนข้างแน่นอน

     
     

    จากคุณ : ~Nk~ - [ 5 มี.ค. 51 11:29:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com