PANTIP.COM : I6400853 เลิกดูดาวในห้องสินธรก็ดีเหมือนกัน []

ความคิดเห็นที่ 22

อันที่จริงสิ่งที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นบ้านเรา
นอกจากปัจจัยภายนอกแล้ว ยังมี "ปัจจัยโลกาภิวัฒน์" ด้วยครับ

ดัชนีหุ้นไทยจะค่อนข้างตามดัชนีฮ่องกงพอสมควร
ซึ่งผมมองว่าเพราะคำสั่ง"นักลงทุนต่างชาติ" ส่วนใหญ่น่าจะส่งมาจากฮ่องกงและสิงคโปร์

ส่วนฮ่องกงกับนิเคอิก็ตามกันบ้าง
ตลาดหุ้นนิเคอิจะเปิดคร่อม Session พักเที่ยงของประเทศอื่นในเอเชีย

ดังนั้นหากนิเคอิดีดกลับหลัง 13.30 (11.30 ไทย) ซึ่งฮ่องกงพักเที่ยงไปแล้ว
จนถึง 15.00 (บ่ายโมง ไทย) พอฮ่องกงเปิดมา 14.30 (13.30 ไทย) คุณจะเห็นการตีกลับทันทีแรงมากครับ
ของเค้าเหวี่ยงกันเป็นเปอร์เซนต์ในสองสามนาทีไม่แปลก เวลาลงก็เช่นกัน

ซึ่งนั่นก็จะส่งผลถึงหุ้นไทยเหมือนกัน

วันจันทร์คุณลองเปิด realtime สองจอเทียบกันสิครับ ระหว่างหุ้นไทยกับฮ่องกง

จะว่าเซทจะต้องตามดาว ตามนิเคอิ ตามฮั่งเส็ง ตามฟุตซี่ทุกฝีก้าวมั้ย
ไม่ใช่ครับ แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ใช่ซะทีเดียว

เดี๋ยวนี้เงินเม็ดที่อยู่ในดาว อาจจะเคยเป็นเม็ดเดียวกับที่เคยเข้ามาเซท เข้ามานิเคอิ เข้าฮั่งเส็ง เข้าฟุตซี่

คุณลองดูสามตลาดหลักของยุโรปครับ มันตามกันยิ่งกว่าอะไรดี

โบรกเกอร์ฝรั่ง เวลาเขาเทรด เขามีโปรแกรมที่จะคอยหาช่อง Arbitrage ระหว่างแต่ละตลาดตลอดเวลา
ไม่เพียงเท่านั้น ยังทำข้าม Asset Class ด้วยครับ ทั้งหุ้น พันธบัตร ค่าเงิน อนุพันธ์ สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ใครไวกว่าก็ชนะไป

ตามอุดมคติแล้ว การ Arbitrage จะต้องไม่เกิดขึ้นครับ หรือหมดไปในเวลาเข้าใกล้ 0 ที่สุด
ดังนั้นเขาจึงพยายามแข่งกัน Bridge Gap ตรงนี้ให้ได้

มีท่านสมาชิกท่านหนึ่งเคยโพสอย่างเกรี้ยวกราดในวันที่หุ้น (ดาว) ตกว่า
ทำไมดัชนี FTSE-100 ของอังกฤษ ถึงต้องเคลื่อนไหวตามดาวทุกฝีก้าว
อังกฤษเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกาไปตั้งแต่เมื่อไร

จริงๆแล้ว อยากเรียนว่าหากคิดด้วยตรรกะนี้ ทุกประเทศเป็นเมืองขึ้นซึ่งกันและกันหมดครับ
ถึงจะแม้จะส่งอิทธิพลถึงกันมากน้อยต่างกันไป

วันที่ 19 กันยายน 2549 ตอนสี่ทุ่มบ้านเรา คุณเชื่อไหมครับว่าดาวย่อลงมาเพราะอะไร?

วันที่ 19 ธันวาคม 2549 ตลาดเอเชีย ตอ.เฉียงใต้ลงเฉลี่ยประมาณ 2% เพราะอะไร?

จริงอยู่ที่ดาวจะมีผลกับตลาดหุ้นเล็กๆ ในตะวันออกไกลมาก เนื่องจากเศรษฐกิจของหลายๆประเทศต้องพึ่งพาอเมริกา
แต่การปฏิวัติ หรือการประกาศนโยบายทางการเงินประหลาดๆ
ในประเทศเล็กๆในตะวันออกไกล ทำได้แค่เกาดาวให้คันๆ เท่านั้น

ตลาดที่เข้าไปอยู่ในสังคมโลกาภิวัฒน์ทางด้านการเงิน ยอมหลีกเลี่ยงไม่พ้นผลกระทบซึ่งกันและกัน
นอกเสียจากว่าตลาดนั้นจะเล็กจนไม่มีนัยสำคัญในระบบเศรษฐกิจโลก

ยกตัวอย่างเวียดนามครับ ตั้งแต่ลงไป 580 จุด จนรัฐบาลต้องออกมาบอกว่าจะตั้งกองทุนพยุงหุ้น
หุ้นตีกลับเกือบลิ่งทุกตัวในตลาดสองวันติดแล้วครับ
การขึ้นลิ่ง หรือลงฟลอร์ 5% พร้อมกันทุกตัว เป็นเรื่องง่ายมากในตลาดเกิดใหม่ที่สภาพคล่องยังไม่สูงมาก

และอยากเรียนถามกลับว่า ถ้าอย่างนั้นจะมาลุ้นยอดซื้อยอดขายฝรั่งกันทำไมครับ
ถ้าไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น?

การเคลื่อนไหวจะแยกออกจากกัน เมื่อไรก็ตามที่มีปัจจัยในประเทศ แข็งแรงกว่าปัจจัยนอกประเทศ
แต่จะแยกออกจากกันได้แค่ไหน แล้วแต่ความแรงของปัจจัยนั้นๆครับ

จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 7 มี.ค. 51 20:27:54 ]