ความคิดเห็นที่ 1 ยกตัวอย่างตัวเองนะครับ ผมเปิดธนวัฒน์กับ SET50 เพราะจะ Switch ได้เวลา t พอ SET จะตกผมก็ Switch ไปธนวัฒน์ พอ SET จะขึ้นผมก็ Switch กลับไป SET50 มีหลายคนทำแบบนี้เหมือนกันครับ เฉลี่ยตอนนี้ผลตอบแทนได้ 36% ต่อปี ผมว่าดีกว่าเพราะได้ทั้ง ตอน SET ขึ้น-ดอกเบี้ยตกและ SET ตก-ดอกเบี้ยขึ้น หรือจะนอนนิ่งๆในธนวัฒน์ผลตอบแทน 3% ก็เกือบจะตายตัวอยู่แล้ว อยู่ที่เราจะเลือกจับ แล้วสบายใจกว่าเล่นหุ้นรายตัวด้วยเพราะจะเล่นเป็นภาพรวม แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 51 16:29:01 จากคุณ : Go2Better - [ 9 มี.ค. 51 16:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับผม ข้อ 4 นะครับ   ถ้ามือใหม่ยังมองตลาดไม่ออกว่าขึ้นหรือลง ผมว่าวันไหนที่หุ้นตกก็ซื้อเถอะครับ จะรอลง รอตก ทุกวัน ก็ไมรู้วันไหนที่จะลงถึงก้นเหว เอาเป็นเงินเย็นและลงทุนกลางถึงยาวหน่อยละ ถือว่า เล่าสู่กันฟัง นะครับ ( พี่เบิร์ดมาเอง)    ผมลง set 50 (100% )    1.จะเล่นเป็นรอบครับสักประมาณ 20% ต่อรอบ    2.ไม่ซื้อ/ขายบ่อย    ต.ย.   สมมติใส่เงิน  10,000   ถ้ากำไรสัก 7-8% ผมจะขายประมาณ 50% ของมูลค่าหน่วยลงทุน   จาก ต.ย. 10,000 * 8% = 10,800 คือมูลค่าหน่วยลงทุน ขายครั้งที่ 1   ผมจะขาย 50% คือ 10,800 / 2 = 5,400  (เงินจำนวนนี้อยู่ใน atm) จากนั้นก็รอจังหวะขายถ้าขึ้นถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้   สมมติขึ้นก่อนนะคับ ขายครั้ง ที่2   กรณีขึ้นสัก 6% ก็ขาย 50% ของมูลค่าหน่วยลงทุน   แต่ต้องใจเย็นๆนะครับเพราะมันขึ้นๆลงๆ   ก็ทำการขายและคิดเหมือนเดิมครับ เพียงแต่เปลี่ยนตัวเลข และขายที่ถ้าผลตอบแทนโดยรวมแล้ว ประมาณ 20%   การคิด% เอาราคาที่เราซื้อ มาคิดก็ได้ครับ   ส่วนผมจะจำราคาที่ซื้อมาแล้วตอนเย็นก็ดู nav ว่าเท่าไหรได้กี่%  ความจริงรายละเอียดมันมากครับเอาคร่าวๆนะครับ  ส่วนตอนขาลง   จากที่เราขาย ครั้งแรก 50% ของมูลค่าหน่วยลงทุน  เราก็มีเงินอยู่ใน  atm 5,400 บาท   ถ้าขาลงต้องจำ ราคาที่เราซื้อว่าเท่าไหร   สมมติต่อนะว่าเราซื้อที่   38.0000 ถ้ามันลงมาต่ำกว่า 38.0000 ก็เข้าซื้อ 50%ของ  5,400 แต่ต่ำกว่า 38.0000 เท่าไหร่แล้วซื้อก็คาดการณ์เอานะครับ ถ้าลงอีก  ก็ซื้ออีก ของเงินที่เหลือ   ก็ประมาณนี้ครับไม่รู้จะงง อะป่าว ก็ เล่าสู่กันฟังเฉยๆไมมีอะไร   พอก่อนนะครับ ขอตัวกินข้าวก่อน  ป.ล.ผิดพลาดเยี่ยงไรข้าน้อยผิดแต่ผู้เดียว        ขอพรที่ให้มาจงกลับไปที่ผู้ให้เถิด ครับ          ทุกอย่างเกิดที่เหตุและดับที่เหตุ จากคุณ : หลิวลู่ลม (เพียงผ่านมา) - [ 9 มี.ค. 51 18:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1  ธนรัฐ ธนบดี ธนวัฒน์  ต่างกันที่สัดส่วนตราสารหนี้ภาคเอกชน+รัฐบาลครับ  โดย ธนรัฐ เกือบทั้งหมดเป็นภาครัฐ+เงินฝาก  ธนรัฐ และธนบดี ยังไม่เคยเห็น NAV ติดลบนะครับ  สำหรับธนวัฒน์แล้ว บางวันมีติดลบบางเหมือนกัน(เพราะเทรดกันหนักหน่วงกว่าครับ คิดซะว่าเหมือนการเทรดหุ้นหละครับ ต้องมีขาดทุนบางวันเหมือนกัน) 2  ผลประกอบการที่ผ่านมา T-CASH ดีกว่าตลอดมาครับ  แต่ว่า T-Cash จะมีเรื่องการรับคำสั่งขายคืนที่ก่อนเวลา 12.00 และการโอนเงินเข้าธนาคารที่ไม่ใช่ ธนชาติเป็น T+2 นะครับ ไปดูตรงนี้ด้วย  ถ้าเงินเยอะ ก็จัดให้เหมาะกับการใช้จ่ายครับ  ถ้าเงินไม่มาก อยู่ TMBAM ของเล่นเยอะครับ 3  ส่วนตัวไม่เคยเดาเลยครับ  เพราะ DCA มันตลอด  เช่นผมคิดว่าผมจะลงทุนใน tmbgold 50000 ในช่วงเดือนนี้ เพราะผมคิดว่า หลังจากเดือนนี้ไปทองจะทำราคาขึ้นได้อีก ผมก็ ดูเลยว่าเดือนนี้เหลือเวลาทำการอีก 15วัน ผมเอา 50000/15 แล้วกดสั่งโปรแกรมการลงทุน ของ tmbam ไว้ว่าวัน จ อ พ พฤ ศ ซื้อวันละ 3300 พอหมดเดือนผมก็ยกเลิกคำสั่งซื้อทั้งหมด  ผมก็จะลงทุน 3300x15=49500  หรือใครจะสั่งให้เป็น 3333x15=49995 ก็ได้ครับ แล้วแต่สะดวก  พอปลายปีถ้าทองชึ้นผมก็กำไร แต่ถ้าไม่ก็ขาดทุนหละครับ 4  ซื้อกองทุนทองคำตอนนี้เสี่ยงไหม  ก็เสี่ยงเหมือนกันเพราะมันขึ้นมาสูงมากแล้ว  แต่ถ้าคิดว่าปัญหาโลกจะดำเนินต่อไป ทองคำก็เป็นอะไรที่น่าจะทำกำไรได้พอควรเหมือนกัน  แต่ไม่ควรทุ่มซื้อ เยอะจนความเสี่ยงเกินตัวคุณครับ 5  ค่าใช้จ่ายกองทุน เขาคิดไว้ในหน่วยในราคารับซื้อขายอยู่แล้ว ไม่ต้องไปคิดมากตรงนี้  แต่ถ้าจะดูก็ไปดูที่   ก็เหมือนเราไปซื้อขายที่ร้านทองครับ ราคารับซื้อขายทองแท่งก็ต่างกัน 100 เป็นมาตราฐาน การซื้อกับกองทุน ราคาก็ไปต่างกันตรงราคาซื้อขาย/หน่วย 6  Jumbo25 ควรรอตอนดัชนีอ่อนตัวครับ  เพราะกองทุนนี้แทบจะตามหุ้นตระกูล ปอ 7  เข้าใจถูกต้องครับ  และแนะนำให้ซื้อในตลาดหุ้นด้วย เพราะว่าราคามันต่อรองได้  ราคา บลจ.เป็นราคา IPO ต่อไม่ได้นะถ้าขาไม่ใหญ่จริง 8  ลองตามข่าว กองทุนอสังหาฯที่เวป  http://www.smartfundmag.com/  แล้วโทรฯไปดูว่า กองทุนนั้นเขาให้ ธนาคารไหนเป็นตัวแทนจำหน่ายบ้าง   แต่บอกได้ว่า ซื้อในตลาดไม่ยากอย่างที่คิด  เปิดบัญชี เสียอากร30บาท  โอนเงินเท่าไร ซื้อได้เท่านั้น  ง่ายๆ 9+10  ส่วนตัวสำหรับคนทำงานประจำ  ผมไม่เห็นด้วยในการสวิทไปๆ มาๆ บ่อยจนเกินควรนะครับ  การสวิทเข้ากองทุนหุ้น ควรทำเป็นรอบๆ ตามดัชนีหุ้นจะดีกว่า  สับเปลี่ยนบ่อยลำบากครับ เพราะติดเรื่อง T+3 กับ T ไปอ่านตรงนี้ดีๆนะครับ เป็นทุก บลจ.นะบอกก่อน  สับกองทุนทองคำ เข้ากองทุนหุ้น ทำไม่ได้มั้ง เพราะกองทองมัน T+5  ไปอ่านตารางสับเปลี่ยนให้ดีก่อนครับ ถ้าจะกินปันผลอย่างกองอสังหาฯ  ลองมองๆ set50dv(เซ็ต50ปันผล) เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 9 มี.ค. 51 19:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 http://www.tmbam.com/v1/th/mutualFundsDetail.php?id=31&catid=4&accept=1 จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 9 มี.ค. 51 19:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ตารางสับเปลียนครับ http://www.tmbam.com/v1/th/performance2.php จะเห็นว่าถ้า วันจันทร์ สั่งสับเปลี่ยนจากกองทุนทอง ไปธนบดี  คุณจะขายกองทุนทองได้ NAV วันจันทร์  และว่าว่าจะซื้อกองทุน ธนบดีได้วัน ศุกร์ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 9 มี.ค. 51 20:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณ คุณ Go2Better , คุณหลิวลู่ลม และคุณแมวน้ำขี้เซา มากๆเลยครับ ได้ข้อมูลแต่ละคนครบถ้วนเลยครับ ผมมีคำถาม ขอถามคุณแมวน้ำขี้เซา เพิ่มเติมนิดนึงครับผม 1.กองทุนอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอลพิทอลลิตี้ (Quality Hospitality Leasehold Property Fund) หรือ QHOP เป็นกองทุนเปิดไหมครับ คือถ้ากรณีฉุกเฉินจะได้ถอนมาใช้ได้น่ะครับ 2.ผมยังงงๆกับ JUMBO25 ครับ เห็นคุณแมวน้ำแนะนำให้ซื้อในตลาดหุ้นด้วย เพราะว่าราคามันต่อรองได้ ผมซื้อแบบนี้ไม่เป็นน่ะครับ ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อนครับ ผมต้องทำยังไงดีครับ 3.SET50DV คือเซ็ตที่ปันผลด้วยหรอครับ มีกองทุนไหนบ้างครับ ผมคุ้นๆแต่นึกไม่ออกครับ ถ้าเป็นของ TMB จะดีมากเลยครับ ผมจะได้เปิดบัญชีกองทุนทีเดียว ขอบคุณมากครับ .. จากคุณ : SakuraCiFer - [ 9 มี.ค. 51 20:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แบบคุณแมวน้ำขี้เมาก็ดีนะ เล่นระหว่าง ธนวัฒน์ กับ SET50 น่ะ จากคุณ : kunimi_winterfall - [ 9 มี.ค. 51 20:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 1  เดี่ยวขอไปหาข้อมูลก่อน  ดูชื่อแล้วเหมือนโรงพยาบาล 2  Jumbo25 คือแนะนำว่า จะซื้อวันไหน เปิดเวปดูหุ้น หรือทีวีดูหุ้น(ช่อง9) ดูว่าดัชนีมันล่วงเยอไหม  หรือจะเล่นแบบ DCA ก็ได้ครับ  แต่ถ้าให้แนะนำจริงๆ  มือใหม่อย่าเพิ่งยุ่งกับ  Jumbo25 จะดีกว่าครับ    รายละเอียดของ jumbo25 มักจะถือหุ้นกลุ่ม PTT(ตระกูลปอ) และหุ้นกลุ่มพลังงานอื่นๆ ซึ่งเวลาดัชนีล่วงเพราะ ปตท ล่วง  พี่ท่านจะล่วง  แต่ว่าดัชนีเขียวอ่อนๆ แต่ ปตท ล่วง พี่ท่านก็ล่วง  เพราะงั้นถ้าไม่ค่อยได้ดูหุ้น ผมว่าไปดู Set50 มันจะดีกว่านะ และถ้าเงินพอ ผมว่าเล่น ptt เองเลยดีกว่าเล่น jumbo20  แต่ก็นะ ptt มันแพง ถือว่าเป็นหุ้นตัวใหญ่ 3  ของทหารไทยครับ  เซ็ต 50ปันผล http://www.tmbam.com/v1/th/mutualFundsDetail.php?id=9&catid=3   เท่าที่ดู ส่วนตัวนะครับ ถ้าให้เลือก กองทุนอสังหาฯ โรงแรม กับ เซ็ต50ปันผล  ผมลงเซ็ต50ปันผลดีกว่า แต่กับกองทุนอสังหาฯอื่นๆ ก็ต้องเทียบเป็นตัวๆ  คืออัตราเสี่ยงตัวนี้ อยู่ที่ว่า ช่วงแรกๆ คงมีขาดทุนทางบัญชีอยู่บ้าง(อาจลดความเสี่ยงด้วย DCA) แต่ถ้าถือยาวๆสัก 2ปี+ ผมว่าอนาคตดีพอควร จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 9 มี.ค. 51 20:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รู้ได้ไงว่าเราขี้เมา   จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 9 มี.ค. 51 20:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 SakuraCiFer ครับ ไอ้กองทุน qhop เนี่ยของบลจไหนครับ สงสัยเพิ่งจัด ยังไม่เข้าตลาด  คงต้องไปอ่านใน บลจ.หละครับ ปกติ กองทุนอสังหาฯ เมื่อจัดตั้งแล้ว ต้องจดทะเบียนในตลาดครับ เป็นกฎหมาย จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 9 มี.ค. 51 20:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณแมวน้ำขี้เซาครับ กองทุนอสังหาฯนี้ครับ รู้สึกว่าธ.ทหารไทยจะเป็นตัวแทนขายด้วยครับผม http://www.smartfundmag.com/comment.php?idnews=913 จากคุณ : SakuraCiFer - [ 9 มี.ค. 51 21:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 -บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้เปิดขายกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอลพิทอลลิตี้ (Quality Hospitality Leasehold Property Fund) หรือ QHOP แล้วตั้งแต่วันที่ 3-11 มี.ค.ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 1,000 บาท กองทุน QHOP มีมูลค่าโครงการ 1,913 ล้านบาท และมีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าโรงแรมอมารี บูเลอวาร์ด ระยะเวลา 30 ปี โดยให้ช่วงเช่าต่อกับบริษัทควอลิตี้ อินน์ ซึ่งเป็นกลุ่มเจ้าของโรงแรม และให้กลุ่ม Amari Hotels and Resorts เป็นผู้บริหารงาน ผลตอบแทนของกองทุน QHOP นี้จะอยู่ในรูปอัตราค่าเช่า ที่คงที่ปีละ 125 ล้านบาท ซึ่งบริษัทควอลิตี้ อินน์ จะมีการรับประกันค่าเช่าขั้นต่ำในระยะเวลา 5 ปี โดย 2 ปีแรกค่าเช่าขั้นต่ำจะอยู่ที่ประมาณ 173 ล้านบาท และตั้งแต่ปีที่ 3 ขึ้นไปอัตราค่าเช่าขั้นต่ำจะอยู่ที่ 163 ล้านบาท ซึ่งจะมีหนังสือค้ำประกันธนาคารในวงเงินค้ำประกัน 100 ล้านบาทเป็นหลักประกันการชำระค่าเช่านอกเหนือจากค่าเช่าคงที่แล้ว กองทุนนี้ยังสามารถขอปรับค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นตามผลประกอบการจริงของโรงแรม จึงคาดว่าผลตอบแทนของผู้ลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 8-10% ต่อปี สนใจลงทุนสอบถามที่ธนาคารทหารไทยและบลจ.ไอเอ็นจี หรือ www.ingfunds.co.th  (ข้อมูล จาก www.smartfundmag.com) -PF ทุกกองตอนนนี้เป็น กองทุนปิด ครับ หลังจาก IPO แล้วไม่สามารถซื้อ-ขาย หน่วยลงทุนเพิ่มได้กับทาง บลจ. แต่สามารถซื้อขายผ่านตลท. ได้ โดย ผ่านโบรก เหมือนหุ้นตัวหนึ่ง ครับ ถ้าต้องการใช้เงินก็ขายได้ ครับ แต่อาจมีปัญหาด้านสภาพคล่องพอสมควร และมักต้อง discount ราคาครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 51 21:57:39 จากคุณ : เด็กฟาร์ - [ 9 มี.ค. 51 21:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณ คุณเด็กฟาร์ครับ .. คุณแมวน้ำขี้เซาครับ งั้นตอนนี้ผมตัดสินใจลงทุน 3 ตัวนี้ละครับ 1.TMBGOLD (ระยะกลาง) ช่วงทองกำลังลงจะโอนไปธนวัฒน์ครับ 2.SET50ปันผล/JUMBO25 (ระยะกลาง/ยาว) ช่วงหุ้นจะตก โอนไปธนวัฒน์ครับ 3.TMBCB ธนวัฒน์ (ระยะยาว) สุดท้าย ผมยังคงงงอีกแล้วครับ กับ SET50ปันผล คือปันผลปีละ 2ครั้ง ใช่ไหมครับ และถ้าปันผล 1.5บาท คือเราจะได้เท่ากับ จำนวนหน่วยลงทุน * 1.5 อย่างนี้ไหมครับ และผลประกอบการเค้าจะนำส่วนปันผลตรงนี้มาแสดงรวมกันไหมครับ ต้องขอคำชี้แนะอีกแล้วครับ ขอบคุณครับ .. จากคุณ : SakuraCiFer - [ 9 มี.ค. 51 22:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอ่อ...พวกพี่ ๆ ทั้งหลายกั๊บ ทำม้าย ทำไมไม่มีใครแก้ไขความเข้าใจผิดของคุณซากุระไซเฟอร์เลยกั๊บ - กองทุนของทหารไทย ซื้อครั้งแรก ขั้นต่ำ 2,000 บาท น่ะเข้าใจถูกต้อง - แต่ซื้อ ขาย สับเปลี่ยน ครั้งต่อ ๆ ไป ขั้นต่ำแค่ 1 บาท (หนึ่งบาท) เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องกองทุนหุ้นนั้น หมีพูเห็นต่างนะครับ ระหว่าง SET50 กับ JUMBO25 เราควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดไปเลยครับ นั่นก็คือ JUMBO25 คุณค่าที่คุณคู่ควร You are worth it!! เพราะว่า JUMBO25 มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้น 25 ตัวจากดัชนี SET เกือบ 500 ตัว โดยหุ้นเหล่านั้นต้องผ่านการกลั่นกรองมาแล้วถึง 4 ขั้นตอนครับ กว่าจะได้เข้ามาอยู่ใน JUMBO25 ในขณะที่หุ้นในดัชนี SET50 นั้น จะดูแค่ market cap. ขอให้มี market cap ที่สูงตามเกณฑ์ของดัชนี ก็มีสิทธิเข้ามาอยู่ในลิสต์แล้ว แต่บริษัทนั้นจะมีกำไรหรือไม่มีกำไร จะจ่ายหรือไม่จ่ายปันผล หรือผลงานดีไม่ดีอย่างไร เขาก็ไม่สนใจครับ ดังนั้นตั้งแต่มีกองทุน JUMBO25 หมีพูก็ไม่เคยไปลงทุนกับกอง SET50 อีกเลย (ก็เขาคัดแต่ของคุณภาพดีมาให้เราแล้วนิ) แม้ว่า JUMBO25 จะมีหุ้นในกลุ่มปตท.มากกว่า SET50 ก็ตาม แต่ตลาดหุ้นไทยในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มักจะเป็นกลุ่มปตท.ที่นำตลาดซะเป็นส่วนใหญ่ครับ และโดยภาพรวมแล้วผลการดำเนินงานของ JUMBO25 ก็ดีกว่า SET50 ด้วยครับ จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 9 มี.ค. 51 23:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 SET50 ดีกว่า Jumbo25 ตรงไหน? ตรงที่มีความผันผวนสูงกว่า ก็มันมั่นคงน้อยกว่านิ จึงเหมาะกับการสวิทโยกไปมาที่จะทำให้มีโอกาสได้ส่วนต่างสูงกว่าด้วย * ซึ่งหากใช้ Jumbo25 จะเสียโอกาสที่จะได้ส่วนต่าง "เพิ่ม" ตรงนี้ อย่างเช่นตอนนี้กอง SET50 ติดลบ 4% ในขณะที่ Jumbo25 ติดลบ 3% 1% ของทุก 1 บาทที่เป็นส่วนต่างที่เราจะได้คืนเมื่อสวิทออกแล้วสวิทกลับไป ทุกแสนนึงก็จะได้ส่วนเพิ่ม 1 พันนั่นเอง นอกจากนี้ SET50 ยังเกี่ยวข้องกับ SET50 Index ค่อนข้างสูงต่างจาก Jumbo25 ที่บางทีไม่ไปในทางเดียวกับ SET50 Index จึงทำให้ดูแนวโน้มได้ยากกว่า การตัดสินใจสับเปลี่ยนจึงลำบากกว่า ซึ่งหากจะเล่น TFEX ทุก 1 จุดที่ประเมินผิดทางคือเงินที่จะต้องเพิ่มเข้าไป หรือเงินต้นที่จะถูกหักออกไป ในขณะที่การเลือก Jumbo25 แบบทิ้งไว้ระยะยาวก็ไม่ได้หมายถึงว่าจะปลอดภัย เพราะความผันผวนทางศก.ของไทยยังมีสูงโอกาสที่จะติดดอยก็มีเหมือนกัน จึงไม่เลือกลงทุน Jumbo25 แบบทิ้งๆไว้ด้วยประการฉะนี้ครับ ปล.เป็นความเห็นส่วนตัว อาจผิดพลาดได้และไม่ควรยึดถือเป็นแบบอย่างตายตัว จากคุณ : Go2Better - [ 10 มี.ค. 51 00:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จากรูปแสดงผลการดำเนินงาน จะเห็นจุดต่ำสุดของ SET50 ต่ำกว่า Jumbo25 ในขณะที่จุดสูงสุดของ SET50 จะทำได้สูงกว่า Jumbo25 ที่จะเป็นส่วนต่าง "เพิ่ม" จากคุณ : Go2Better - [ 10 มี.ค. 51 00:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ดูรูปซิ สงสัยผมจะเข้าใจอะไรผิดเสียแล้วละครับ จากคุณ : Go2Better - [ 10 มี.ค. 51 00:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ Go2 ถ้าเรื่อง jumboกะ 50 เนีย่ผมว่า อีกด้านที่ต้องดูคือ ราคา ครับมันต่างกันเยอะมาก พอตัว แล้วถ้าดูจากช่วง 2 ปีก่อน จนถึงปัจจุบัน ผมว่าหุ้นไทย 50 ตัวมัน ดูไม่ดีครับ ทำไมหรือ ดูจากกองทุน กรุงเืทพทศพล ถือ แค่ 10 ตัว ผลตอบแทนออกมาดีกว่า แล้วในมุมมองต่างประเทศ มีหุ้นไทย น่าลงทุนระยะยาวได้ แค่ 30 ตัวเท่านั้น แต่jumbo มีปัญหาคือถ้า ผูจัดการกองนั้นเลือกผิด เราก็พลาด ไปเลย อย่างปีที่แล้วมาถึงปี นี้ ผมมองว่า ถือหุ้นน้อยตัวดีกว่า ครับ ********* ่การติดตามและคาดเดา ก็ยอมรับว่า 50 นั้น เดาได้ดีกว่า แต่อีกผมมองว่ามันใกล้กันครับต่างกันเล็กน้อย แต่ทิศทางหลักก็ไปแนวโน้มเดียวกัน สำหรับเจ้าของกระทู้ ผมมองว่า มือใหม่ ่จะซื้อเมื่อไร นั้นเป็นจุดสำคัญ เลย แนะนำให้ฟังจากนักวิเคราะห์หุ้น หลายคนดูว่าไปทางเดียวกันหรือเปล่า แนะนำซื้อหรือยัง เป็นอีกตัวช่วย หนึ่ง สำหรับมือใหม่ ครับ ส่วนการเข้าซื้อให้ทะยอยซื้อครับ ทะยอยเข้า เมื่อเข้าผิดก็ยังสามารถ ลดต้นทุนได้ ด้วยการซื้อที่ราคาต่ำกว่า จากคุณ : i-angle - [ 10 มี.ค. 51 10:28:11 A:161.200.255.162 X: TicketID:163222 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ๋๊JUMBO25 ต้องผ่านการคัดเลือก 4 ขั้นตอน โดยระบบโปรแกรมที่ตั้งไว้ครับ ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาในพอร์ต JUMBO25 ไม่มีหุ้นบ้านปูเลยนะครับ แต่ผลงานก็ออกมาดีกว่า SET50 ซึ่งมีบ้านปูอยู่ด้วย (แถมมีหุ้นอื่น ๆ อีกมากกว่า 25 ตัว) สังเกตุได้จากที่ผ่านมาถ้าวันไหน บ้านปูขึ้นแรงลงแรง จะมีผลต่อ SET50 แต่ไม่มีผลกับ JUMBO25 เลย ผลงานย้อนหลังในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา Jumbo25 แพ้ SET50 ไปหน่อยนึง เป็นไปตามที่คุณ Go2Better ได้นำกราฟมาเปรียบเทียบให้ดู แต่มองย้อนกลับไปมากกว่า 3 เดือน Jumbo25 ก็ชนะ SET50 มาตลอดครับ แต่รอบนี้ยังไม่รู้ เพราะ JUMBO25 เปลี่ยนพอร์ตทุกวันที่ 1 มีนาคม กับ 1 กันยายน และการบริหารกองทุนนี้ก็เป็นแบบ Passive อย่างเดียวเท่านั้น หุ้นใครจะร่วงจะรุ่งก็ไม่สนใจ มันจะเดินหน้าต่อไปตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ รอจนกว่าจะครบรอบ 6 เดือนค่อย run program กันใหม่ครับ จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 10 มี.ค. 51 12:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอสารภาพก่อนว่า ไม่ได้เจาะรายละเอียดน้องโบเท่าไร จากที่พี่หมีฯ และพี่โก๋ดีกว่า แนะนำมา ผสมด้วย จขกท มือใหม่ ผมว่าลองดูด้วยเงินเท่าๆกันไปเลยก็ได้ครับ สักหกเดือน ปีหนึ่ง ก็คงเห็นเองว่าชอบตัวไหนมากกว่า ไม่แน่ใจก็ลงแต่น้อย  เอาเงินไปอยู่ตราสารหนี้ก่อนก็ได้ เรื่อง เซ็ท50ปันผล จากลิงก์ที่ให้ไป จะเห็นว่ามันก็ไม่ได้จ่ายปีละสองรอบ อย่างปี49 ก็จ่ายรอบเดียวครับ  แต่ก็จ่ายมา 0.94 ลองดู น้องโบปันผลด้วยไหมครับ และตามที่ จขกท เข้าใจครับ ถ้าเขาบอกว่าจ่าย 2บาท ก็เป็น 2บาท/หน่วย  ว่าแต่ตอนสมัคร บลจ. กรอกไว้ว่าให้หัก ณ.ที่จ่ายหรือเปล่าครับ การสับเปลี่ยนเข้าออกกองทุนนี้ ต้องระวังหน่อยครับ เพราะเท่าที่ทราบว่ามีช่วงที่ งดซื้อด้วยครับ  คือช่วงปิดสมุดว่าจะจ่ายปันผลคนไหนบ้าง  ช่วงนั้นอยากเข้าอาจเข้าไม่ได้นะครับ ส่วนตัวนะครับ กองทุน QHOP ผมว่ารอซื้อในตลาดดีกว่า  แต่อ่านแล้วไม่ค่อยปลี้มเท่าไรเลย  ถ้าคิดจะซื้อผมว่า ว่างๆ จขกท ควรไปเดินเล่นในโรงแรมนี้บางจะดีกว่า โรงแรมก็อย่างที่พี่หมีเคยบอก มันมีปัญหาเรื่อง โลว์ซีซั่น ไฮซีซั่นด้วย จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 10 มี.ค. 51 13:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณพี่แมวน้ำกั๊บ น้องโบ25 ไม่มีปันผลนะกั๊บ แต่ถ้าน้องโบ25LTF มีปันผลด้วยแน่นอน (กอง LTF ต้องถือตามเงื่อนไขของสรรพากรด้วย) ส่วนกองทุน QHOP นั้นบอกได้เลยว่าโรงแรมนี้มีคู่แข่งรายรอบเยอะมาก เนื่องจากอยู่ต้นสุขุมวิท มีตั้งแต่ระดับ 2 ดาวยัน 5 ดาว ที่สำคัญโรงแรมนี้อยู่ในซอย(ไม่ลึกครับ)ไม่ได้อยู่ริมถนนใหญ่ ตัวโรงแรมไม่ได้ใหญ่ดังในรูปนะครับ ข้างล่างชั้นล้อบบี้ก็เล็ก รูปห้องพักที่เห็นในโบร์ชัวร์ ก็เป็นห้องระดับสูง (รู้สึกว่าเป็น 2 bedroom suite) ไม่ใช่ห้องระดับมาตรฐานที่ขายแขกทั่วไป (ห้องที่ขายแขกมักจะเป็น Superior room กับ Deluxe Room ซึ่งมักจะมีปริมาณ 80% ของห้องพักทั้งหมด) เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว กลุ่มลูกค้าจะมาจากโซนยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย ราคาโรงแรมแถวนั้นใกล้เคียงกันครับ พวก outlet ต่าง ๆ พวกห้องจัดเลี้ยงสัมมนาในโรงแรมก็ไม่มากนัก (outlet มักจะเป็นตัวช่วยทำกำไรได้ครับ) ดังนั้นรายได้หลักจริง ๆ มาจากค่าห้องพัก ซึ่งต้องแยกก่อนว่าเป็นสัดส่วนราคาของ Agent หรือราคา Corporate หรือราคา Rack rate อย่างไหนที่เยอะกว่ากัน เพราะราคาทั้งสองอย่างนี้ไม่เหมือนกันครับ ราคาที่โรงแรมเสนอให้ Agent จะถูกกว่า Corporate และเซ็นสัญญาปีต่อปี แลกกับการที่เอเย่นต์ต่าง ๆ ส่งลูกค้าทั่วโลกมาให้โรงแรม ส่วนราคา Corporate จะสูงกว่าราคา Agent เซ็นสัญญาปีต่อปีเช่นกัน แต่การเข้าพักก็ขึ้นอยู่กับแต่ละ Corporate ว่ามีแขกของตัวเองมากน้อยแค่ไหนในแต่ละปี ส่วน Rack-rate ก็คือราคาที่แขก Walk-in โดยตรง (ราคาแพงกว่าซื้อผ่านเอเย่นต์) ซึ่งมีสัดส่วนน้อยมากสำหรับธุรกิจโรงแรมระดับเกรดสูง โรงแรมนี่ต้องดูหลาย ๆ อย่างประกอบกันครับ เพราะเป็นสถานที่กึ่งสาธารณะครับ จะทำฟอร์มมาเดินเล่นในโรงแรม ก็โดนจับภาพด้วยกล้องเอาไว้หมด จะมาฟอร์มกินอาหารโรงแรม แล้วเถลไถลไปเดินดูห้องหับต่าง ๆ ก็โดนจับภาพด้วยเหมือนกัน (ส่วนใหญ่พวกเอเย่นต์จะได้รับเชิญจากเซลล์ มาเชิญไปกินข้าวแล้วพาไปดูห้องพักด้วยนั่นแหละ ถึงจะได้ข้อมูลเยอะ)  ถ้าใครรู้จักเซลล์ขายห้องพักของโรงแรม ก็ลองสอบถามดูได้ครับ เพื่อจะได้ข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจ (เซลล์โรงแรมเปลี่ยนงานไปที่โรงแรมอื่น ๆ กันบ่อยมั่กๆๆๆๆ เลยได้ความรู้หลายโรงแรม) จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 10 มี.ค. 51 14:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อิอิ  เมื่อก่อนไม่เคยสนน้องโบ้ เลยหละ พอเห็นพี่หมีฯร่ายมา เลยว่าจะเข้าไปดูสักหน่อย ก็พอดีว่า เข้าไม่ได้  ไม่รู้เวปมันล่ม หรือไงกัน  เลยทำ Link มาให้ จขกท ดูไม่ได้ เห็นเป็นหมวด กองทุนหุ้นระยะยาว จัมโบ้ยี่ห้า ปันผล  ก็น่าจะใช่ LTF หละครับ ว่าแล้วข้อถามพี่หมีฯเพิ่มสักนิดเลย  พอดีว่าผมวางแผนเลิกทำงานจะกินแต่ปันผล  ถ้าผมซื้อ LTF เนี่ยจะได้ไหมครับ แล้วหักภาษีกับข้อคืนได้ไหม เช่นสมมุติ ปีนี้ทั้งปีผมได้ปันผลที่หัก 10-30 มารวมแล้วก็ 1.2ล้าน ผมมีสิทธิซื้อ LTF สักเท่าไรครับ  หรือซื้อเป็น RMF ดี  ถ้าผมจำไม่ผิด LTF 5ปีใช่ไหมครับ  แล้วครบ 5ปี เนี่ยต้องขาย หรือถือต่อไปได้เรื่อยๆครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 10 มี.ค. 51 14:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แอบตกใจเล็กน้อยกับคำตอบครับ ได้เห็นคนเก่งๆมาช่วยกันแนะนำแบบนี้ ดีใจมากๆเลยครับ ได้สาระและความรู้เพิ่มขึ้นเยอะครับ เรื่อง JUMBO25 หรือ SET50 นั้นผมขอตัดสินใจอีกทีนะครับ บางทีอาจจะซื้อที่ราคาเท่ากันวัดไปสักปีนึงเลยแบบคุณแมวน้ำขี้เซาแนะนำครับ ส่วนเรื่อง กองทุน QHOP ผมคงไม่ตามแล้วครับ เล่นหลายที่ดูแล้วปวดหัวเหมือนกัน สรุปคงเป็น TMBGOLD , ธนวัฒน์ , JUMBO25/SET50 ส่วนวันที่เข้าซื้อผมคงซื้อ ธนวัฒน์ ตัวแรกก่อนเลยครับ ที่เหลือคงรอฟังข่าวเศรษฐกิจโลกก่อนครับ .. ต้องขอขอบคุณ คุณ i-angle - , คุณ Go2Better , คุณหมีพูหมูพี และคุณแมวน้ำขี้เซา มากๆครับ(จากใจจริง) ขอให้ทุกท่าน รวยๆ เฮงๆ ตลอดชาตินี้และชาติต่อๆไปครับ .. แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 51 15:21:20 จากคุณ : SakuraCiFer - [ 10 มี.ค. 51 15:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามารับพรครับ อิอิ  ตอบตามความรู้ตัวเอง ผิดบ้างถูกบ้าง  จขกท ต้องไปกรองเองนะครับ และก็ขออวยพร จขกท(SakuraCiFer) เช่นกันครับ  ขอให้ประสพความสำเร็จในการลงทุนตามเป้าที่วางไว้นะครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 10 มี.ค. 51 15:16:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามารับพรด้วยเช่นกันครับ (งกครับ...อิอิ)  และขออวยพรที่ประเสริฐเหล่านั้น คืนกลับไปหาคุณซากุระไซเฟอร์ด้วยเช่นกันครับ โชคดีกันถ้วนหน้าเลยนะครับ ส่วนคุณพี่แมวน้ำจะวางแผนรีบเออรี่รีไทร์ ทำฟอร์มว่าขอกินแต่ปันผลจากหุ้น แล้วคิดสะระตะเอาเองว่าเป็นเงินได้ประจำปี เพื่อเป็นฐานในการซื้อ RMF & LTF ก็ได้ครับ โดยซื้อได้ไม่เกินอย่างละ 15% และต้องไม่เกินอย่างละ 5 แสนครับ (น้องหมีพูล่ะตาร้อนผ่าวๆๆๆๆ) ส่วนจะซื้อ RMF หรือ LTF ดีเนี่ย ตอบไม่ได้ครับ แต่ถ้าเป็นน้องหมีพู ที่ชอบหุ้นมากกว่าตราสารหนี้ ขอเป็น LTF อย่างเดียวดีกว่า แค่ 5 ปีปฏิทินก็ขายคืนได้ ปีไหนจะลงทุนหรือไม่ลงทุนก็ได้ไม่บังคับ ให้ความคล่องตัวมากกว่าครับ (แต่หมีพูคิดว่ากินปันผลจากหุ้น แล้วนำมาเครดิตภาษีคืนเนี่ย ถ้าจะรุ่งกว่านะกั๊บ) จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 10 มี.ค. 51 16:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเชื่อว่า พี่หมีฯจะรีไทร์ ได้ดีกว่าผมอีกนะครับ ตอนนั้นผมค่อยมาตาร้อนคืนแล้วกัน   15% ของจำนวนที่เสียภาษีในปีนั้นๆ ใช่ไหมครับที่ซื้อได้  แล้วแต่ละปีต้องซื้อเท่ากันป่าวครับ สำหรับ LTF กินปันผล แล้วมาขอเครดิตภาษีคืน  จริงๆผมก็ว่าดีนะ  แต่บางบริษัท จ่ายปันผลมาแบบขอคืนไม่ได้อะครับทำไงดี  หรือว่าทำใจปล่อยๆไปดี ถือว่าเสียภาษีช่วยชาติบ้าง( ทำมาตั้งแต่เด็กจนแก่  ประกันสังคมยังเถี่ยงกันไม่จบเลยว่ากรรมการใช้ได้ป่าว สำนักที่จ้างมาก็บอกส่งไปก่อนแล้วกัน ใช้ได้ก็กำไรกว่านะ  ชักเซ็ง...) ถ้าผมซื้อ LTF เนี่ยผมขอเครดิตภาษีคืนอีกไม่ได้แล้วเหรอครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 10 มี.ค. 51 16:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับท่านที่สงสัยว่า JUMBO25 มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นอย่างไร ติดตามได้ที่นี่เลยครับ (Credit : บลจ.ทหารไทย) หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหลักทรัพย์ 1. เป็นหุ้นสามัญและ/หรือหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุด 100 อันดับแรก โดยคำนวณจากค่าเฉลี่ยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรายวัน โดยใช้ ราคาปิด ณ สิ้นวันที่ปรากฏบนกระดานหลักย้อนหลัง 1 เดือน โดยนับจากวันทำการแรกถึงวันทำการสุดท้ายของ เดือนกุมภาพันธ์และวันทำการแรกถึงวันทำการสุดท้ายเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ หากหลักทรัพย์ใดมีมูลค่าตามราคาตลาดรายวันย้อนหลังต่ำกว่า 1 เดือน ให้ใช้ค่าเฉลี่ยของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดนับจากวันแรกที่เข้าทำการ ซื้อขายจนถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์และเดือนสิงหาคมในการคำนวณ 2. เป็นหุ้นสามัญและ/หรือหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทจดทะเบียนที่มีการจ่ายเงินปันผลหรือประกาศจ่ายเงินปันผล ในช่วง 1 ปีปฏิทินก่อนวันทำการปรับรายชื่อหลักทรัพย์ โดยนับจากวันทำการแรกของเดือนมีนาคมปีก่อนหน้าถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ปีปัจจุบันและวันทำการแรกของเดือนกันยายนปีก่อนหน้า ถึงวันทำการสุดท้ายเดือนสิงหาคมปีปัจจุบัน 3. เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มี Free Float ตามนิยามของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ไม่ต่ำกว่า 20% โดยใช้ข้อมูลที่แสดงใน Website ของสำนักงาน กลต. ในวันทำการปรับรายชื่อหลักทรัพย์เป็นเกณฑ์ (สามารถดูข้อมูล Free Float ได้จาก Website ของ สำนักงาน กลต. ที่ www.sec.or.th) 4. เป็นบริษัทที่ไม่อยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างแก้ไขการดำเนินงาน 5. หุ้นสามัญและ/หรือหุ้นบุริมสิทธิของบริษัทจดทะเบียน ที่ผ่านหลักเกณฑ์การคัดเลือกทั้ง 4 ข้อข้างต้นจะถูกจัดลำดับอีกครั้ง โดยเรียงลำดับตามหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุดก่อน จากนั้นจะทำการ พิจารณาหลักทรัพย์ตามกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector) โดยจะไม่คัดเลือกหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันเกิน 3 บริษัท ทั้งนี้หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนตั้งแต่ลำดับที่ 4 ของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ ในกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector) เดียวกันออกจะถูกคัดออกจากรายชื่อหลักทรัพย์ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการกระจายการลงทุน และป้องกันการกระจุกตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector) 6. กองทุนจะเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกข้างต้น 25 บริษัทแรก เรียงลำดับตามมูลค่าตามราคาตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ส่วนที่เหลือจะนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ในรายชื่อสำรอง ซึ่งเตรียมไว้ในกรณีที่อาจมีบริษัทจดทะเบียนใดๆ ใน 25 ลำดับแรก ขอเพิกถอนตัวเองหรือถูกเพิกถอนจากการเป็น หลักทรัพย์จดทะเบียนก่อนวันปรับรายชื่อหลักทรัพย์ 7. ทั้งนี้บริษัทจัดการสงวนสิทธิ ที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกหลักทรัพย์ และความถี่ในการปรับรายชื่อหลักทรัพย์โดยไม่ถือเป็นการแก้ไขโครงการ เช่น ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันทำให้หลักเกณฑ์ดังกล่าว ไม่เป็นหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมกับการลงทุนอีกต่อไป หรือเมื่อบริษัทจัดการพิจารณาแล้วเห็นว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวขาดคุณสมบัติของการลงทุนที่ดี มีการกระจายความเสี่ยงไม่เพียงพอ เช่น เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้บริษัทจัดการไม่สามารถคัดเลือกหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์ได้ครบ 25 บริษัท หรือมีหลักทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมีมูลค่าตลาดสูงจนเกิน สมควร (เช่น เกิน 50%) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทจัดการจะแจ้งรายละเอียดของการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้ผู้ถือหน่วยทราบล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 3 วันทำการ 8. ภายใน 10 วันทำการถัดจากวันทำการปรับรายการหลักทรัพย์ เพื่อให้เป็นไปตามรายชื่อหลักทรัพย์ใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกนั้น กองทุนอาจมีการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ในช่วงดังกล่าวได้มากกว่าหรือน้อยกว่า 25 บริษัทได้ การคำนวณสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ในการลงทุนนั้น บริษัทจัดการมีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุน โดยจะพยายามให้สัดส่วนการลงทุนในหุ้นสามัญ และ/หรือ หุ้นบุริมสิทธิของแต่ละบริษัทใกล้เคียงกับ สัดส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทนั้นๆ เมื่อเทียบกับผลรวมของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของทั้ง 25 บริษัท ณ วันที่ลงทุน อย่างไรก็ตามบริษัทจัดการจะลงทุนในหุ้นสามัญและ/หรือ หุ้นบุริมสิทธิ ของบริษัทใดบริษัทหนึ่งไม่เกินร้อยละ 25 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะคำนวณสัดส่วนการลงทุน โดยใช้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหุ้นสามัญ และ/หรือหุ้นบุริมสิทธิ ณ วันทำการก่อนหน้าวันที่ลงทุนเป็นเกณฑ์ในการคำนวณสัดส่วนการลงทุน และบริษัทจัดการอาจทำการปรับสัดส่วนการลงทุนเฉพาะในกรณีที่จำเป็น เช่น เพื่อการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เป็น Round Lot หรืออาจใช้วิธี Optimization ในกรณีที่หลักทรัพย์บางตัวมีสภาพคล่องต่ำ ในช่วงก่อนและหลังวันทำการปรับรายการหลักทรัพย์ เป็นต้น การปรับรายชื่อหลักทรัพย์ บริษัทจัดการจะทำการปรับรายชื่อหลักทรัพย์ที่ลงทุนทุก 6 เดือน โดยใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ตามที่ได้ กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยจะเริ่มลงทุนในรายชื่อหลักทรัพย์ใหม ่ในวันทำการแรกของเดือนมีนาคม และวันทำการแรกของเดือนกันยายน จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 10 มี.ค. 51 17:11:22 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอบคุณพี่แมวน้ำนะกั๊ํบ ซื้อ RMF & LTF ได้อย่างละไม่เกิน 15% ของ "รายได้ทั้งปี" รวมกันสองอย่างก็เท่ากับ 30% ต่อปี ไม่จำเป็นต้องซื้อเท่ากัน RMF ต้องซื้อทุกปีขั้นต่ำ 3% ของรายได้ทั้งปี หรือ 5,000 บาท (แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า) ส่วน LTF จะซื้อทุกปีหรือปีไหนอยากซื้อก็ซื้อได้ครับ ไม่กำหนดขั้นต่ำต่อปีครับ แต่สูงสุดไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปีอยู่แว้ววว ส่วนหุ้นไหนที่จ่ายปันผลแล้วเอาไปเครดิตภาษีไม่ได้เนี่ย ถ้าน้องหมีพูตอบแบบต้องโดนทุบหัวแน่ ๆ ก็คือ อย่าไปซื้อหุ้นที่เอาไปเครดิตภาษีไม่ได้สิกั๊บ เช่นหุ้นที่ได้สิทธิบีโอไอ รวมถึงเงินปันผลจากกองทุนรวม ไม่ว่ากองทุนนั้นจะลิสต์อยู่ในตลาดหุ้น หรือนอกตลาดก็ขอเครดิตภาษีคืนไม่ได้นะกั๊บ ฯลฯ (โอ้ย....ตุ๊บตั๊บๆๆๆๆ) (โถๆๆๆ มีหุ้นในตลาดตั้งหลายร้อยตัวที่เครดิตปันผลได้ ทำม้ายถึงไม่เลือก) จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 10 มี.ค. 51 17:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29  ไม่ทุบหละครับวันนี้  มือเคร็ดไปวันก่อน(เผลอไปทุบพี่หมีฯ มือเคร็ดเลย  แต่พี่หมีฯไม่เห็นให้ทิปน้องๆที่นวดไหล่ให้เลยนะเนี่ย)   เรื่องรายละเอียดปันผลของหุ้น คงค่อยๆปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมกับตัวเองหละครับ  แต่เนื่องจากยังไม่เคยมีวาสนาอยู่ในเกณท์ ต้องซื้อ LTF RMF กับเขาเลย ต้องขอบคุณพี่หมีฯมากๆนะครับ  ที่ให้คำแนะนำดีๆเยอะเลย จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 10 มี.ค. 51 17:34:40 ]