PANTIP.COM : I6408225 ลาก่อนชั่วชีวิตกับการลงทุน []

ความคิดเห็นที่ 22

--> ผมเพิ่งสนใจด้านการลงทุนเมื่อปลายปีที่แล้ว และเป็นครั้งแรกที่ซื้อ ผมเลือกซื้อกองทุนกองทุนหนึ่ง กะว่าจะซื้อรอไว้ข้ามปี

(0^0) ก่อนที่จะลงทุนซื้อกองทุนนั้น ได้ถามตัวเองอย่างรอบคอบหรือยังครับ ได้อ่านหนังสือชี้ชวนของกองทุนนั้นหรือไม่ รู้อะไรเกี่ยวกับกองทุนนั้น ๆ มากน้อยแค่ไหน

--> ตั้งแต่ซื้อมา ไม่ค่อยได้ติดตามดูราคาเท่าไหร่ เพราะไม่ได้กะจะซื้อขายบ่อย และกะว่าราคาไม่น่าจะลดหรือเพิ่มหวือหวาภายในระยะเวลา 2-3 เดือน

(0^0) ซื้อกองทุนก็ต้องติดตามบ้างครับ แม้ว่าจะไม่อยากซื้อขายบ่อยก็ตาม เพราะเป็นเงินของเราเอง ส่วนการที่คุณคิดว่าราคาไม่น่าจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างหวือหวาในระยะเวลา 2-3 เดือนข้างหน้า นี่เป็นการคิดที่ไม่ถูกต้อง ผิดมากๆๆๆ เพราะแค่วันเดียวหรือสองวันข้างหน้า ราคาก็อาจจะลิบลับเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้ครับ ดังนั้นถ้าไม่มีเวลาติดตามการลงทุน แต่อยากลงทุนในกองทุนหุ้น เพราะรู้ดีว่าในระยะยาว หุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีมาก เราควรจะทยอยลงทุนเป็นงวด ๆ มากกว่าลงทุนครั้งเดียวแล้วเมินเฉยครับ เพื่อที่จะได้เฉลี่ยราคาตามภาวะตลาด ช่วงไหนราคาสูงก็ได้หน่วยน้อย ช่วงไหนราคาต่ำก็ได้หน่วยเยอะ ถัวไปถัวมาในระยะยาว ก็มักจะได้ราคาที่ต่ำกว่าตลาด คราวนี้แหละอยากถือยาว ก็ถือไปเลย

--> แต่ปรากฎว่าวันนี้พอมาติดตามราคานั้น ผลคือ ผมติดลบไปถึง 30% จากเงินก้อนเกือบทั้งหมดซึ่งผมซื้อกองทุนนี้สัดส่วนสูง (เป็นเงินเย็น) มันเป็นอะไรที่เกินคาดจริงๆ

(0^0) ควรติดตามการลงทุนอย่างน้อยเดือนละครั้งก็ยังดีครับ ใหม่ ๆ ก็เดือนละสองสามครั้ง นานๆไป ก็เดือนละครั้ง อาจจะแค่ดู ไม่ซื้อไม่ขายก็ได้ครับ ให้ได้ผ่านหูผ่้านตาเราบ้าง เผื่อเจออะไรไม่ปกติ จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที ส่วนการติดลบ 30% นั้น ไม่เป็นอะไรที่เกินคาดหรอกครับ คาดว่าคุณคงจะซื้อกองทุนที่ลงทุนในจีนแน่ๆ เพราะกราฟดัชนีที่เมืองนอก มันบอกไว้ตั้งนานแล้วว่า กองทุนนี้ราคามันโดดขึ้นไปสูงมาก ๆ และผันผวนติดต่อกันมาได้ระยะนึงแล้ว ตอนที่กองนี้ออกขายใหม่ ๆ ก็มีหลายคนมาเตือนแล้วว่าให้ระวังเป็นพิเศษ อย่าชะล่าใจ อย่าละเลยการติดตาม ถ้าทำกำไรได้ก็ขายออกมาก่อน ให้เล่นเป็นรอบ ๆ มาถึงวันนี้ก็ยังคงเตือนเหมือนเดิมอยู่ครับ

--> ความรู้สึกผมคือว่าหนทางที่ผมเลือก ทำให้ผมไม่สบายใจเลย ผมไม่มีเวลาพอที่จะติดตาม ดังนั้น ผมตัดสินใจแล้วว่าจะขอลาขาดไม่ยุ่งเกี่ยวการลงทุนแบบนี้อีกเลย

(0^0) แน่นอนที่คุณต้องไม่สบายใจ ใครกันที่เห็นเงินหายไป 30% แล้วยังยิ้มอยู่ได้ (ถ้าจะบ้า) แต่การที่คุณไม่มีเวลาในการติดตาม คุณจึงควรเลือกลงทุนในกองทุนรวมนั่นแหละถูกต้องแล้ว แต่ให้เปลี่ยนนโยบายการลงทุนในกองทุนรวมซะ อย่าไปลงทุนในกองทุนที่มันมีความเสี่ยง และความผันผวนสูงเกินกว่าที่เราจะรับไหวครับ ต้องดูตัวเราเองเป็นสำคัญ อย่าไปสนใจเสียงอื่นๆ ว่ากองนั้นกองนี้ดีเลิศวิเศษวิโสอย่างนั้นอย่างนี้ มาลงทุนเป็นเพื่อนกันเถอะ ฯลฯ เพราะถ้าเรารับความเสี่ยงของกองทุนนั้น ๆ ไม่ได้ ต่อให้กองนั้นได้ผลตอบแทนดีมากๆๆ เราก็ต้องเพิกเฉยอย่าไปลงทุนในกองทุนนั้นครับ

--> ผมตัดสินใจถูกแล้วใช่มั้ย

(0^0) คิดผิดก็คิดใหม่ได้ครับ อะไรที่ผิดพลาดไป ก็ต้องหาทางแก้ไข เรียนรู้หาความรู้ให้มากเข้าไว้ครับ จะเป็นเกราะป้องกันตัวเองที่ดี

--> เงินที่ผมหายไปหลายหมื่นนั้น กว่าจะเก็บคืนมาได้ คงเกือบปี

(0^0) ถ้าคุณยังไม่ขายกองทุนนั้น ก็ถือว่าขาดทุนทางบัญชี ยังไม่ได้ขาดทุนเป็นเงินจริง ๆ ถ้ามีโอกาสดี ๆ กลับมา บางทีคุณอาจจะขาดทุนทางบัญชีน้อยลง หรืออาจจะได้กำไรกลับมาก็เป็นได้ครับ ตัวอย่างมีให้เห็นเมื่อ 19 ธันวาคม 2549 ตลาดหุ้นไทยร่วงร้อยกว่าจุดภายในวันเดียว แต่ละคนขาดทุนกันยี่สิบสามสิบเปอร์เซ็นต์ คนที่ขายทิ้งทันทีก็ขาดทุนเป็นเงินกว่ายี่สิบสามสิบเปอร์เซ็นต์ให้เห็นกันชัดเจน แต่คนที่มีวินัยในการลงทุน ถือครองระยะยาว ผ่านไปแค่ 6 เดือนเท่านั้น ราคาก็ดีดกลับมาที่เดิม ที่เคยขาดทุนทางบัญชี ก็ได้กลับคืนมาหมดแล้ว หลังจากนั้นตลาดหุ้นดีขึ้นเกือบถึง 900 จุด ก็ได้กำไรเพิ่มเิติมอีกเกือบเท่าตัวเชียวครับ (คงไม่ต้องให้ตอบนะครับควรขายทิ้งดีหรือไม่)

คุณคงยังไม่เคยผ่านวิกฤตกองทุนหุ้นไทย จากราคาหน่วยละ 10 บาท พุ่งพรวดขึ้นไป 15-16 บาทภายใน 3 เดือน หลังจากนั้นก็ร่วงมาเรื่อย ๆ จนถึง 3-4 บาทภายในสิบปี แล้วหลังจากนั้นก็ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 15-16 บาท ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในรอบสิบห้าปีเท่านั้นเองครับ ฉะนั้นแค่สามเดือนที่คุณขาดทุนนั้น เบเบ้ เบบี้ ขอให้อดทนและตั้งสติกับการลงทุนให้รอบคอบมากขึ้นครับ แม้กองทุนที่คุณขาดทุนอยู่ ก็มีทางแก้ไขให้กลับคืนมาเป็นกำไร หรือให้ขาดทุนน้อยที่สุดได้ครับ ขอให้กำลังใจ

จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 10 มี.ค. 51 12:17:11 ]