ความคิดเห็นที่ 1 กะว่าจะเปิดเป็นชื่อ คณะบุคคล(ชื่อร้าน) ไม่ใช่คณะบุคคลโดย นาย ก.   ครับ ... แล้วเรื่องบัญชีธนาคาร ตอนนี้มี บัญชี ออมทรัพย์ นาย ก. หรือ นาย ข. แล้วครับ ต้องไปเปลี่ยนเป็น บัญชี คณะบุคคล หรือไม่ครับ ... และหากว่าไม่ต้องจดทะเบียนเป็นคณะบุคคล แต่ไปจดทะเบียนพาณิชย์แทน รายได้ร้านจะเอามารวมกับรายได้ส่วนตัวหรือไม่ครับ ...ไม่อยากเอาเงินได้ทั้งที่ร้านและส่วนตัวมารวมกันครับ แค่นี้ก็ไม่มีปัญญาจ่ายภาษีแล้วครับ เพราะรายได้จากบริษัท มันมีแต่ตัวเลขครับ ที่ได้ใช้จริงๆ น้อยมาก ... บริษัทรวมทุกๆ อย่างมาเป็นรายได้พนักงานเพื่อให้เป็นผลดีต่อบัญชีของบริษัทเอง ส่วนผม ก็ได้แต่เศร้า ... จนปัญญากับเรื่องเหล่านี้จริงๆ ครับ ... ขอบคุณครับ จากคุณ : เล็บขบ ลงพุง - [ 24 มี.ค. 51 10:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทำอะไรก็แล้วแต่ถ้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับสรรพากรได้เป็นดีครับ คนที่แนะนำคุณเค้าพูดถูกแล้ว ร้านตัดผมแค่นี้เองจะเอาอะไรนักหนา ถ้ายุ่งยากนักก็อย่าทำมันเลยครับ จากคุณ : papa - [ 24 มี.ค. 51 10:57:09 A:172.19.12.50 X:203.153.181.99 TicketID:131710 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรหรอกครับ ... ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ ที่กรุณาให้คำตอบ ... จากคุณ : เล็บขบ ลงพุง - [ 24 มี.ค. 51 11:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อีกอย่างครับ ... ที่ต้องการทำเพราะว่า อยากได้เครื่องรูดบัตรเครดิต ครับ ... ติดต่อธนาคารส่วนใหญ่ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ 6 เดือนขึ้นไป แทบทั้งนั้นเลยครับ ... ยังไงแล้ว ถ้าหากว่าการตั้งกระทู้ของผม มันทำให้บางท่านขัดข้องหมองใจ หรือกินไม่ได้นอนไม่หลับ ก็อย่าได้ถือโทษโกรธเคืองกันเลยนะครับ ... บางคน เช่นผม อาจจะไม่ได้เกิดมาสบาย ต้องดิ้นรน หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ครับ การใด ที่ทำให้ตัวเอง และ คนรอบข้าง มีความสุขได้ ถ้ามันไม่ได้ผิดกฎหมาย ประเพณี บ้านเมือง ผมก็อยากทำ ครับ ... ลำพัง เปิดร้านตัดผม ก็ได้รับการดูถูกดูแคลน มามากพอแล้วครับ ... ขอกำลังใจ ให้คนอยากมีกิจการบ้างเถอะนะครับ ... ขอบคุณจากใจจริง มากๆ ครับ ... จากคุณ : เล็บขบ ลงพุง - [ 24 มี.ค. 51 11:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การจดเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลไม่ยุ่งยากอะไรหรอกครับ มีบริษัทรับจดเยอะแยะไป แต่สิ่งที่ตามมานี่มีอีกเพียบเลยครับ เอาที่เห็นง่ายๆเลยนะครับ        1.ธุรกรรมเรื่องลงบัญชี ลงเองและหรือจ้างบริษัททำ(มีค่าใช้จ่ายอย่างต่ำ 1500/เดือนถ้าต้องเซ็นรับรองงบปลายปีก็ต้องมีอย่างน้อยอีก 30,000)        2. การยื่นภาษี เงินเดือน-ค่าจ้าง(ทุกวันที่ 7),แวต(ทุกวันที่15),ภาษีราบได้กลางปี-สิ้นปี(รวม 2 ครั้ง)        3. ประกันสังคม นายจ้าง-ลูกจ้าง+เงินสมทบ(ทุกเดือน)และอัตตราเสี่ยงภัย(รายปี)        4. ภาษีโรงเรือน (ทุกสิ้นเดือนกุมพาพันธ์) ผมสนับสนุนให้คนทุกคนเป็นคนดี พยามทำดี ทำให้ถูกกฏหมายและธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ขอบอก "คนทำดีต้องมีฝีมือครับ" น้อยที่สุดคุณต้องอดทนให้ได้กับความยุ่งยากวุนวายที่ตามมา นอกจากเงินทองที่ต้องเสีย สำหรับอาชีพ อย่าได้คิดเช่นนั้นและเมื่อมีลูกหลานก็ควรปลูกฝังให้เขารักและเคารพในอาชีพทุกๆอาชีพที่เขารู้เขาสัมผัสและที่เขาทำ หรือที่เราทำ การสืบทอดก็เป็นก้าวกระโดดของการพัฒนาครับ จากคุณ : weeras - [ 24 มี.ค. 51 12:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อย่างที่ข้างบนบอก การจดทำได้ไม่ยาก  และมีบริษัทรับทำบัญชีปรึกษาอยู่แล้ว ข้อที่หลายคนหงุดหงิด คงเป็นความไม่คุ้นเคยของการทำบัญชี ที่ต้องมีเอกสารต่างๆมากมาย  แต่ถ้าคุยกับสำนักบัญชีให้วางระบบออกบิลให้ก่อน เสียภาษีตามบิลที่ออก  จะตัดปัญหาเรื่องการตีเหมาภาษีได้ครับ เพราะจ่ายตามหน้าบิล การเหมาภาษี เป็นการสะดวกกับสรรพากร  และอาจสะดวกกับคนเสียภาษี แต่บ่อยครั้งการเหมารวมภาษี ทำให้เกิดการต่อรองในรูปแบบต่างๆ  อยู่ที่ว่าคุณชอบแบบไหน งานบริการ เสียภาษี7% เป็นหลัก  ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าน้ำ ค่ายาสระผม หักVatได้หมด  เรียกว่า Vat ซื้อ Vat ขาย ค่าเช่าห้องลงเป็นค่าใช้จ่ายได้อีกต่างหาก ส่วนเรื่องเพื่อนจะให้จดเป็นชื่อเขา  อยู่ที่คุณไว้ใจเขาแค่ไหนหละ เพื่อนรักหักเลี่ยมโหดนะเจอเยอะกว่า เพื่อนกรูรักมรึงอ่ะ เรื่องภาษี โรงเรือน คุณเป็นเช่าร้าน ไม่ต้องเสีย  คนให้เช่าเป็นคนเสีย  ถ้าเขาผลักภาษีมาให้คุณเสีย คุณก็ไปลงเป็นค่าใช้จ่ายได้  ส่วนเจ้าของที่ให้เช่าต้องลงเป็นรายรับ(ภาษีที่คุณเสีย ถือเป็นรายได้คนให้เช่า ส่วนจะเสียภาษีป่าว ต้องไปดูรายได้รวมว่าเสียเท่าไร) ฟังแล้วคง งง บ้าง เอาง่ายๆนะ  คนมีรายได้ ต้องเสียภาษีตามทีรัฐกำหนด รายได้ต่ำกว่าเกณท์ ก็ไม่ต้องเสีย  และอาจได้คืนด้วยตอนยื่นขอคืนภาษี นิติบุคคล คณะบุคคล หรือบุคคลตามกฎหมายอื่นๆ ต้องเสียภาษี  แจ่ว่าหักค่าใช้จ่ายได้หมด ไม่ว่าจะค่าน้ำ ค่าเช่า  หักจนเป็นกำไรสุทธิ แล้วค่อยนำมาเสียเป็น %  เพราะงั้นเรื่องรีดเลือดจากปู จริงๆคงไม่มี  ส่วนมากที่โดนคือโดนย้อนหลัง เพราะทำผิดมาตลอด เช่น แจ้งเท็จ   ผลคือพอตรวจแล้วโดนย้อนหลัง  ก็จะโวยก้น มีกรณีกลั่นแกล้ง เพื่อให้ต่อรองบ้างเหมือนกัน  แต่ธุระกิจเล็กๆอย่างคุณคงไม่โดนหลอก  สรรพากรรายย่อยที่เจอมา พูดจาดี และให้คำปรึกษาและแนะนำที่ดีทุกคน   แต่เคยเจอพวกเขี้ยวๆ เหมือนกัน จะตัวใหญ่ๆหน่อย จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ 24 มี.ค. 51 13:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอแสดงความเห็น ... ความรู้ผมอาจจะไม่ถูกต้อง กรุณาตรวจสอบทางเวบสรรพากรดูอีกทีครับ อะไรก็ไม่ชัวร์เท่าสรรพากรครับ กรณของคุณ ต้องการกู้เงินจากแบงค์ ด้วยการมีหลักฐานธุรกรรมต่างๆ ไช่ไหมครับ ... ผมแนะนำให้ปรึกษาธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารเพื่อรายย่อยต่างๆ เช่น ธนาคารเล็กๆ ดีกว่า ... ก่อนจะคิดจดทะเบียนคณะบุคคล .............. กรณีคณะบุคคล จุดมุ่งหมายคือ ใช้เป็นหน่วยเสียภาษีเหมือน "บุคคลธรรมดา" แต่ไม่ได้เป็นรายได้ประจำ เช่น ขายที่ดิน รับจ้างทำของ หรือ เป็นแพทย์เปิดคลีนิค ไม่ต้องลงบัญชี เซ็นบัญชีใดๆ ทั้งสิ้น ... ทุกอย่างยื่นเหมือน บุคคลธรรมดา มี ใบหัก ณ ที่จ่ายตอนรับเงินเท่านั้นเอง กรณีต้องลงบัญชี คือ หจก. กับ บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด .... เรื่องนี้ ยาวครับ ต้องลองหาหนังสือ หมอภาษีมาอ่าน ... กรณีกู้เงินเพื่อรายย่อย ต้องลองธนาคารออมสิน SMEs พวกนี้ดูครับ อาจจะไม่ยุ่งยากขนาดถึงสรรพากรก็ได้ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : KENG76 - [ 24 มี.ค. 51 13:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณเล็บขบอย่าใจน้อยครับ เพราะแค่เล็บขบ ลงพุง ไม่ได้หัวล้าน 5 55 ล้อเล่นนะครับ ผมจะสรุปให้ครับ ยืนยันครับว่า คณะบุคคล ไม่ใช่การจดทะเบียน ครับ แต่เป้นการยื่นกับสรรพากร เพื่อสร้างหน่วยภาษีขึ้นมาใหม่ โดยใช้เป้นอีกช่องของการเสียภาษี โดยไม่ต้องปะปนกับบุคคล ตามปกติ หรือ อาจเรียกได้ว่า คณะบุคคล เป็น นอมินี ของบุคคล ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ดังนั้น จึงใช้ยื่นภาษี เมื่อมีรายรับเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กาหักเหมา การรับจ้างทำงาน โดยเฉพาะเมื่อมีหลักฐานการรับเงิน เช่น รับเงินจากบริษัท หรือหน่วยงาน และมีใบหัก ณ. ที่จ่ายเป็นหลักฐาน ส่วนการทำมาค้าขายนั้นต้องจดทะเบียนพาณิชย์ครับ ว่าจดในนามบุคคล บุคคลทำกิจการ มีเยอะแยะครับ ร้านอาหาร ร้านตัดผม ตัดเสื้อ ต้องจดหมด แต่มักในนามบุคคล แล้วสรรพากรจะมาประเมินภาษี มักเป้นกิจการที่ไม่มีใบเสร็จ ทั้งรับ และจ่าย นอกจากโดนประเมินภาษีเหมาแล้ว ถ้ารายได้มากๆ มากกว่า 1 ล้าน แปดแสน ต่อปี ยังโดน เข้า VAT ด้วย ลองเหลือบมอง มีร้านอาหารหลายร้าน ที่ขายดีๆ เช่นร้านข้าวต้ม จับเกี๊ยม บางร้านก้ขายกันในครอบครัว กินเสร็จก็ไม่ได้ออกบิล แต่ฝาบ้าน จะมี ใบทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่มเฉยเลย โดนจด VAT ครับ เพราะท่านสรรพากรจะคูณให้เสร็จ เช่น ขายได้วันละ 2 หมื่น จะได้ปีละ 7 ล้าน สามแสน โดน VAT แน่ๆ ในขณะที่ถ้าท่านทำธุรกิจ ที่ต้อง ซื้อของ ขายของ แบบมีบิล นั่นท่านควรจดเป็นนิติบุคคล ดีกว่าเหมา เพราะหักค่าใช้จ่ายตามจริง มักน้อยกว่า ท่านจึงต้องไปเปิด หจก. บริษัท ...แต่ถ้าอยากจดเดี่ยวนี้เรียนได้ด้วยตัวเองง่ายมาก ดูที่ www.thairegistration.com ดูดี มีทุกอย่างที่อยากรู้ ที่ท่าน คคห. 2 พูดคงไม่ได้ดูแคลนท่าน แต่มันคงเกี่ยวกับเรื่อง เอกสาร และใบเสร้จแบบที่ผมบอก เพราะร้านตัดผม ถ้าไม่ได้เปิดเป็น salon ใหญ่โต คงไม่โดนเพ่งเล้งมาก ผมเคยผ่านตรงนี้มาก่อนจาก ลูกจ้างมาเป็นเถ้าแก่ เลยมีส่วนพอรู้กะเขาบ้าง หวังว่าที่เสียเวลาพิมพ์คุณคงยอมจะเสียเวลาอ่านนะครับ จากคุณ : ขอให้โชคดี และ ประสบความสำเร็จ (:::GANTZ:::) - [ 24 มี.ค. 51 13:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อ1. คนละเรื่องครับ เพราะการร่วมหุ้นที่ดีไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวไม่ว่าฝ่ายใด จะเกิดปัญหาได้ ข้อ2.ดังนั้นอาจจดห้างหุ้นส่วนสามัญ,บุคคลธรรมดา,คณะบุคคล เปิดบัญชีธนาคารในนามร้านสามารถแสดงรายได้ หรือไม่จดก็สามารถเดินบัญชีส่วนตัวได้ ข้อ3.ไม่ถูกทั้งหมดการทำอะไรที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นเรื่องดี ยิ่งถ้ารูปแบบการเป็นหุ้นส่วนยิ่งจำเป็น ควบคุมได้ง่าย ถ้าเหมาจ่ายคุณจะเหมาเป็นชื่อใคร กระทบรายได้ที่ต้องเสียภาษีเดิมหรือเปล่า ข้อ4.สรรพากรจัดเก็บภาษีจากกำไร ถ้าไม่กำไรธุรกิจคงอยู่ไม่ได้สรรพากรก็ไม่รู้จะเก็บจากใคร คุ้มไหมต้องถามตัวเองแล้วหละว่า ยอดขายเท่าไหร่,กำไร,ค่าใช้จ่าย ข้อ5.ข้อนี้คงถูกแล้ว ทำหนังสือขึ้นมาว่าร่วมกับใคร,ใครเป็นผู้จัดการ(ลงนาม) ต้องการทำเรื่องอะไรบ้าง1,2,3,4 ลงนามร่วมกัน แล้วไปยื่นขอเลขแต่ เหมือนพี่ๆข้างบนบอกเป็นแค่หน่วยภาษี โทรถามสรรพากรดูก็ได้ว่าจดคณะเพื่อเปิดร้านทำผมได้เปล่า ข้อ6.ไม่ขอฟันธง แต่หากเป็นแค่เริ่มต้นกิจการถ้าคนเดียวก็ -เปิดร้านรายได้เหมา(จดไม่จดเรื่องนึงเพราะบุคคลธรรมดาจ่ายภาษีเมื่อมีรายได้) -ถ้ากลัวกระทบภาษีเดิมก็จดแต่จดอะไรต้องดูรายได้ใหม่ ตกลงจะทำเพื่ออะไรระหว่างกำไรในกิจการกับการเดินบัญชีถ้าแค่การเดินบัญชีก็เป็นเรื่องเล็กกว่ามาก แล้วจะเอาเครื่องรูดบัตรมาทำอะไร แล้วทำไมต้องเข้าหุ้นกับเพื่อนเหล่านี้เป็นคำถามที่ต้องรู้ ถ้าจะปรึกษาเพื่อนๆในนี้ คห.หลายๆคนข้างบนเขาตอบกันดีแล้วนะลองอ่านทวนดู ถ้าไม่เข้าใจรอคนอื่นอีก นะ จากคุณ : เอาใจช่วยด้วยคนครับ (kopo) - [ 24 มี.ค. 51 14:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขออาศัยกระทู้นี้ถามด้วยคนสิคะ แล้วอย่างถ้าเราคิดจะเปิดร้านอาหารกับหุ้นส่วนร่วมกัน 2 คน เราจำเป็นต้องไปจดทะเบียนอะไรไหมคะ หรือแค่จดทะเบียนพาณิชย์เปิดร้านอาหารอย่างเดียวก็พอ เห็นคนเค้าบอกมาเหมือนกัน ว่าทำจดทะเบียนตั้งเป็นบริษัท ต้องทำบัญชี ยื่นภาษี อะไรยุ่งยากอยู่ เราสามารถทำสัญญาหุ้นส่วนกันเอง แล้วก็ไม่ต้องไปทำอะไรให้มัน formal มากจะได้ไหม จากคุณ : หนูขิง - [ 24 มี.ค. 51 16:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่มเติมจาก คห.8 ถ้าสรรพากรมาตรวจพบว่ามีรายรับมากก่ว่าเดือนละ 1 ล้านจะต้องจด vat แต่ส่วนใหญ่ก็คุยกันได้ แต่ขอบอก จขกท. นะครับว่าผมก็ทำธุรกิจประเภทความสวยความงามเหมือนกัน แต่กว่าจะจด คณะบุคคล เปิดร้านไปตั้งปี ไม่มีเอกสารที่จดจากหน่วยงานใดสักใบ ไม่ว่าทะเบียนการค้า หรือใบจัดตั้งคณะบุคคล ขอบอกว่าไม่มีอะไรยากหรอกครับ ทำไปทีละอย่าง เปิดร้านก่อน เอาเงินเข้าร้าน สักพักค่อยไปจด เดี๋ยวก็รู้เยอะเอง แต่ข้อเสียของการจดคณะบุคคล คือ ต้องไว้ใจหุ้นส่วน หรือหุ้นส่วนต้องไว้ใจได้ เพราะมันเหมือนธุรกิจครอบครัว ไม่มีงบดุล ไม่มีใบเสร็จ จดมือเองเกือบทั้งหมด หรือถ้ามีระบบคอมมาคุมได้ก็ดี จากคุณ : เต้าหยินไม้แห้ง - [ 24 มี.ค. 51 22:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห้นด้วยกับ 11 ตรงที่ว่าลองทำไปก่อน แล้วตามจดให้ถูกต้องก็ได้ เพราะมัวแต่จดนั่นจดนี่ เอาเข้าจริงเกิด ไม่อยากทำ ทำต่อไม่ไหวก็ไปตามจดเลิกอีก เหนื่อย ทำไปก่อนแล้ว ค่อยคิดจดทะเบียนควบคู่กันไปอ่ะครับ โดยเฉพาะถ้าไม่ใช่ กิจการที่จำเป็นต้องทำในรูปบริษัท จากคุณ : :::GANTZ::: - [ 24 มี.ค. 51 22:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 1.จดทะเบียน คณะบุคคล แยกรายได้ ออกต่างหาก เพื่อไม่ให้ไปรวมกับยอดรายได้เงินเดือนที่สูงๆ และเสียภาษี อัตราสูง     2.ได้รับค่าลดหน่อน จากคณะบุคคล สูงสุด 2 คน 60,000 บาท ต่างหาก จากการยื่นภาษีของตนเอง เช่น เราหักลดหย่อน ตัวเราจาก รายได้ ตัวเรา ได้ 30,000 บาท แล้วเรายังไปหักจากคณะบุคคล กับเพื่อนได้อีก 30000 บาทรวมกับเพื่อนเป็น 60,000 บาท ลดภาระภาษี ได้      3. รายได้ค่าดอกเบี้ย ธนาคาร ถูกหัก ภาษี ณ.ที่จ่ายไป ขอคืนได้      4.คณะบุคคล เป็นบุคคลธรรมดา ไม่ต้องมีผู้สอบบัญชี      5. ยื่นขอจดทะเบียน ที่เขต ไปให้เขา แนะนำและขอแบบฟอร์ม หลักฐาน มี -บัตรประจำตัว ของตัวเองและหุ้นส่วน -ทะเบียนบ้าน ตนเองและหุ้นส่วน -ทะเบียนบ้านที่ตั้ง คณะบุคคล ที่เจ้าบ้านยินยอมให้ใช้สถานที่ ( อันเดียวกับบ้านตนเองหรือหุ้นส่วนหรือบ้านอื่นก็ได้ -กรอกแบบฟอรืม หนังสือจัดตั้ง ฯติดอากร 100 บาท แบบฟอร์มต้องให้หุ้นส่วนเซ็นต์วย -รับบัตรประจำตัว ผู้เสียภาษี -นำหนังสือจัดตั้งไปเปิดบัญชีเงินฝาก ตามชื่อคณะบุคคล... แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 51 07:02:29 จากคุณ : Ped381 - [ 25 มี.ค. 51 07:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โอ้ว อ่านแล้วมึนตึ๊บครับ เป็นเรื่องที่ผมเข้าใจได้ยากจริงๆ ครับ จะพยายามแกะไปทีละอย่างครับ ... จริงๆ แล้วกิจการตอนนี้ก็เพิ่งเปิดเองครับ ผมรับหน้าที่ในการจัดการธุรกรรมในร้านทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ของร้าน ยกเว้นเรื่อง ตัดแต่งผมครับ ...เรื่องนั้นเพื่อนรับผิดชอบไปครับ และเรียนตามตรงว่า เรา 2 คน ต่างก็เรียนมากันชนิดที่ว่า คนละขั้วกับสิ่งที่ทำอยู่เลยครับ ผมจบสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อนจบมาสายวิศวกรรม ดังนั้นแล้ว ผมเลยต้องศึกษาเรื่องพวกนี้ไว้ครับ ถ้าหากว่า ต้องทำขึ้นมาจริงๆ จะได้ทำได้เลย ตอนนี้ผมก็พยายามเก็บข้อมูลอะไรไว้ให้มากที่สุด เพื่อที่ว่า อนาคต หากกิจการมันไปได้ดี ก็อาจจะขยาย และทำให้มันเป็นรูปแบบ ที่เป็นแบรนด์ของตัวเองครับ (คิดการไกล ฮ่าๆๆ) และที่ผมอยากได้ที่รูดบัตรเพราะว่า ส่วนใหญ่จะมีบัตรเครดิตกัน และจะใช้จ่ายผ่านบัตรกันเป็นเรื่องปกติ อันนี้ผมเอาตัวเองเป็นหลักเลย ขนาดซื้อของตามห้าง ไม่ถึงร้อย ถ้าเค้าให้รูดผมก็รูด (งกแต้ม แต่จ่ายตรง จ่ายหมดครับ 555) แล้วการทำสี ทำเคมีต่างๆ ราคามันก็ค่อนข้างสูงพอสมควร เกิน 5 ร้อย บางครั้งคนที่จะจ่าย บางทีตอนนั้นอาจจะไม่ได้กดเงินมา แต่ในมือ มีบัตรเครดิต ก็น่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเร็วขึ้น และน่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของร้านไปด้วย ...ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือเปล่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะพิจารณาอีกทีครับ เปิดมาได้ 7 วัน วันที่มีลูกค้าสูงสุด ก็ 14 ราย เฉลี่ยก็ 7-8 รายต่อวัน ในสัปดาห์แรก ...และก็มีลูกค้าหลุดไปหลายรายเหมือนกันครับ เพราะว่ามีช่างหลักคนเดียวคือเพื่อนผม ต้นเดือนหน้าช่างที่ติดต่อไว้ ถึงจะมาเริ่มงานได้ครับ ... ตอนนี้ผมก็เร่งประชาสัมพันธ์ให้มากที่สุด แต่อืด มากครับ เพราะงานหลัก ก็ท่วมหัว ฮ่าๆๆ หัวหน้ามาอ่านเจอจะว่ายังไงมั้ยเนี่ย T_T ขอบคุณทุกท่านมากนะครับ จากใจจริงครับ ... ปล. กิจการนี้เป็นความตั้งใจของเพื่อนตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในไม่กี่ฝันของเค้าเลยก็ได้ครับ ผมเป็นเพียงหุ้นส่วนอันน้อยนิด แต่จะพยายามผลักดัน ให้ประสบความสำเร็จให้ได้ครับ ... ขอบคุณมากครับ ... แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 51 11:26:01 จากคุณ : เล็บขบ ลงพุง - [ 25 มี.ค. 51 11:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 25 มี.ค. 51 15:18:33 ]