PANTIP.COM : I6462031 Technical concept []

Technical concept

Technical concept (1)
มีหลายคนสนใจในเรื่องเทคนิคมากและถามมาว่าเทคนิคที่ผมเรียนรู้เป็นอย่างไร ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนนะครับ เช่นเคยอย่าไปคิดเรื่องถูกเรื่องผิด เพราะความคิดแต่ล่ะคนย่อมแตกต่างเป็นธรรมดา วันนี้เราลืมเรื่องในหนังสือที่นักเทคนิคสถิติสอนกันไว้ก่อนชั่วคราวแล้วกันนะครับ

ก่อนจะเริ่มเรียนรู้เทคนิคสิ่งสำคัญคือความเข้าใจเรื่องกราฟ กราฟนั้นเป็นได้ทั้งตัวแทนทางสถิติ หรือตัวแทนทางด้านจิตวิทยาในตลาด และข้อมูลเหล่านี้บอกถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นบางคนที่เรียนสถิติจึงพยามเอาเรื่องที่เรียนมาประยุกต์เพื่อที่จะทำนายอนาคต แต่หัวใจที่สำคัญของกราฟนั้นก็คือการบ่งบอกถึงความเชื่อของผู้คนที่มีต่อบางสิ่งบางอย่างในตลาดนั่นเอง เพราะในตลาดเป็นศูนย์กลางความเชื่อของผู้คน คนที่เชื่อในเทคนิคจะตัดสินใจตาม Indicator หรือ ระบบที่ตัวเองทำขึ้นมา คนที่เชื่อในพื้นฐานก็ตัดสินใจตามมูลค่าที่ตัวเองคิด คนที่เชื่อในข่าวก็นำข่าวมาตัดสินใจ ออกมาเป็นภาพรวมกราฟในตลาดให้เราเห็น
การอ่านกราฟคือการอ่านความเชื่อที่ผู้คนให้น้ำหนักต่อสิ่งต่างๆ ถ้าข่าวมีผลต่อการให้ราคาของผู้คนในตลาด ก็แสดงว่า ณ ขณะนั้นความเชื่อที่มีน้ำหนักของผู้คนในตลาดคือข่าว ดังนั้นตลาดจึง Sensitive ต่อข่าวมากกว่าปัจจัยอื่น Indicator ตัวอื่นๆจึงมีน้ำหนักลดน้อยลงไปตามลำดับ ถ้าตลาดไม่ตอบรับในข่าวแสดงว่าจิตวิทยาไม่มีผลต่อตลาด ณ.ขณะนั้นๆแสดงว่ากลุ่มคนที่มีกลยุทธ์ที่แน่นอน หรือแม้แต่มีความสามารถในด้านกำหนดราคา หรือต่อสู้ราคา ได้เข้าเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาด เนื่องจากตลาดสลับเปลี่ยนปัจจัยไปเรื่อยๆแบบนี้จึงมีการจับทิศทางลำบากดังนั้นเราจึงนำ Indicator ทางเทคนิคบางตัวมาช่วย
Indicator ตัวแรก People Index
ตัวที่สอง Moving Average วันนี้เรามาดูกันแค่สองตัวนี้ก่อน
People index คือการประมวลความคิดของผู้คนในตลาด วิธีการอ่านที่ดีที่สุดคือ เว็บบอร์ด เพราะผู้คนมักจะแสดงจุดยืนความเชื่อของตนเองออกมาทางเว็บบอร์ด ระหว่างการขึ้นลง ของราคาสินทรัพย์ เราจะเห็นผู้คนที่มีความเชื่อออกมาแสดงความเห็นในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่นการแสดงออกทางอารมณ์ การแสดงออกโดยการนำสิ่งที่เกิดขึ้นมา support กับความเชื่อด้าน ปัจจัยทาง Economic ตามที่ตนคิด สิ่งที่สำคัญคือความเชื่อในทิศทางใดๆต้องแผ่ขยายไปจนครอบคลุมทั้งบอร์ด เช่นความกลัวทางด้านการถดถอยของเศรษฐกิจ หรืออื่นๆ เราจึงเริ่มเข้าดู Indicator ทางเทคนิคเพื่อหาจังหวะได้เปรียบ แต่ถ้าความคิดเห็นยังคงขัดแย้ง หรือแตกต่างกันมาก เราจะหาความได้เปรียบยาก เป็นต้น

Moving Average
คือค่าเฉลี่ยทางราคาของผู้คนต่างความคิดในตลาด พลังของ Moving average นั้นถือได้ว่าเป็นตัวช่วยที่ดีได้ตัวหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจาก moving average เป็นการเคลื่อนที่เชิงเส้น ส่วนราคาเป็นการเคลื่อนที่แบบ Random indicate (สุ่มแบบมีการชี้นำ) ดังนั้นเราจึงจับเอาการเคลื่อนที่เชิงเส้นมาจับ Random ได้เพราะมันไม่มีทางไปเคลื่อนที่เชิงเส้นได้นั่นเอง ถึงได้ก็ยากมาก แค่อธิบายที่มาเฉยๆว่าทำไม moving ถึงใช้ได้ดีเฉยๆนะครับ ไม่ต้องคิดมาก  ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างราคา กับ Moving Average จึงกลายเป็นความสัมพันธ์แบบ Classic ทางเทคนิคไปโดยปริยาย

การที่ ราคาอยู่เหนือ Moving average นั้นแสดงว่ามีคนคิดบางกลุ่มคิดต่างไปในด้านดีของราคาสินทรัพย์นั้น ย้ำนะครับว่าบางกลุ่ม ซึ่งการที่ราคาวกกลับไปขึ้นอยู่เหนือ moving average ได้ง่ายในช่วงแรกนั้นเพราะคนส่วนมากยังคิดในด้านไม่ดีอยู่ หากเกิดแรงซื้อเข้ามาก็จะมีการวกกลับของราคาได้ง่าย (แรงซื้อที่ทำให้การการวกกลับของราคาขึ้นไปอยู่เหนือค่าเฉลี่ยนั้น ต่างจากแรงซื้อแบบตั้งรับ ) แต่ถ้าความต้องการและความเชื่อในด้านดีเหล่านี้ไม่สามารถแผ่ขยายไปจนผู้คนส่วนใหญ่ของตลาดได้ก็จะเกิดแรงขายออกมาภายทำให้หลุดเส้นค่าเฉลี่ยอีกครั้ง ในทางเทคนิคบางคนอาจเรียกว่า Error กล่าวคือคนกลุ่มก่อนหน้านั้นไม่สามารถขยายความเชื่อทางด้านดีไปยังคนส่วนมากในตลาดได้นั่นเอง เทรดเดอร์หลายคนจึงสามารถออกจากตลาดได้ทันเนื่องจากเข้าใจ concept นี้เป็นต้น
ส่วนกรณีราคาอยู่ต่ำกว่า Moving Average นั้นก็เช่นเดียวกันแต่เป็นกรณีตรงกันข้าม

ดังนั้นหัวใจสำคัญของเทรดเดอร์เทคนิคเลยก็คือ เข้ากระทำ --> คนส่วนใหญ่ต้องคิดสอดคล้องกับทิศทางของเรา เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินทรัพย์ของเรา ถ้าความเชื่อไม่แผ่ขยายแสดงว่าเราเองที่พลาดเพราะตลาดจะยังดำเนินไปในทิศทางความเชื่อเดิมอยุ่นั่นเอง-->เก็บกำไรออกจากตลาด รอหาจังหวะคิดต่างอีกครั้ง --> เข้ากระทำ

จากคุณ : MudleyGroup - [ 27 มี.ค. 51 12:04:18 ]