ความคิดเห็นที่ 1 เลือกได้ครับ...... ว่าจะใส่ที่ ภงด.91 มาตรา 40(1) http://download.rd.go.th/fileadmin/tax_pdf/pit/PIT9150_020151.pdf หรือจะใช้ใบแนบ http://download.rd.go.th/fileadmin/tax_pdf/pit/atth909150_090151.pdf ข้อ ก. แยกคำนวณภาษี น่าจะจ่ายภาษีได้น้อบกว่าครับ จากคุณ : pjuk - [ 28 มี.ค. 51 08:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ pjuk แน่ใจหรือเปล่าครับว่าต้องเสียภาษี เพราะเท่าที่ผมตรวจสอบกับผู้รู้ทางภาษียืนยันว่า ไม่ต้องนำไปรวมกับรายได้ เพราะได้รับการยกเว้น ผมสับสนเหมือนกัน จากคุณ : Sam - [ 28 มี.ค. 51 08:13:53 A:172.16.112.23 X:203.170.231.232 TicketID:004490 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมก็ไม่ได้เอายอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ได้รับจากการลาออกจากงานเมื่อปี 2550 ยื่นรวมเป็นรายได้ของปี 2550 อ่ะครับ      งี๊ผมจะโดนภาษีย้อนหลังไหมอ่ะครับ      แต่เมื่อ 2 ปีก่อนที่ผมลาออกจากงานก็ไม่ได้ยื่นรวมก็ไม่โดนภาษีย้อนหลังนะครับ จากคุณ : เทป - [ 28 มี.ค. 51 08:26:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพราะเป็นเงินได้ที่เหมือนว่านายจ้างจ่ายให้นอกเหนือจากเงินเดือนครับ จากคุณ : pjuk - [ 28 มี.ค. 51 08:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่แน่ใจนะ แต่ตาม common sense เวลาเราคำนวณภาษีเราใช้ยอดเงินเดือน (ยอดก่อนหักเงินจ่ายสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) เป็นฐานภาษี เพราะฉะนั้นมันก็น่าจะโดนภาษีไปแล้ว เวลาออกจากงานเราได้คืนส่วนที่เราจ่ายสมทบเองก็ไม่น่าจะต้องมาเสียภาษีอีกรอบ แต่ถ้าเป็นส่วนที่ได้จากบริษัทนั่นก็อีกเรื่องนึง น่าจะขึ้นกับอายุงานด้วยมั้ง จากคุณ : เดา (รอคนอื่นมาต่อ) - [ 28 มี.ค. 51 08:47:14 A:58.64.54.154 X: TicketID:000386 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องขออภัยด้วยครับ...... อ่านคำถามไม่รอบคอบ ..... เมื่อไม่มีส่วนสมทบจากนายจ้าง ก็ไม่มีส่วนที่ต้องเสียภาษีครับ จากคำถาม ได้สำรองเลื้ยงชีพส่วนที่ตัวเองส่ง 87,xxx บาท ผลประโยชน์ 5,xxx บาท เมื่อเป็นส่วนของตัวเอง สะสมไว้ จากทุกๆ ปีที่นำกรอกไว้ใน ภงด.91 อยู่แล้ว ก็ถือว่าได้ผ่านขั้นตอนภาษีมาอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องนำมาแสดงรวมกับรายได้ของปีปัจจุบันครับ จะคงเหลือแค่เป็นค่าลดหย่อน ของปีที่ลาออก บางเดือน ที่ยังมีการจ่ายสะสมเข้ากองทุนฯ มาใช้เป็นค่าลดหย่อนของปีนั้นได้อีกด้วยครับ --------------------- แต่ตามที่ คุณ TicketID:000386 บอกครับ ถ้ามีส่วนที่ได้สมทบจากนายจ้าง ด้วย จะถือเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่ง ที่ต้องมาคำนวณภาษีด้วยครับ จากคุณ : pjuk - [ 28 มี.ค. 51 08:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สำรองเลื้ยงชีพส่วนที่ตัวเองส่ง 87,xxx บาท ไม่ต้องนำไปเสียภาษี มันเปรียบเสมือนเงินออมของเรา  แต่ผลประโยชน์ 5,xxx บาท ต้องนำไปเสียภาษี   แต่ถ้าหากคุณได้ส่วนของบริษัทมาด้วย  ต้องนำไปรวมเสียภาษีเช่นกัน จากคุณ : scatterbrain - [ 28 มี.ค. 51 09:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คอนเฟิมตามคห.7 ค่ะ เงินสมทบ(ส่วนของนายจ้าง) จะได้รับการยกเว้นภาษีกรณีเดียวคือเกษียณอายุ จากที่เคยถามบลจ. เนื่องจากแต่ละแห่งอาจจะเกษียณไม่เท่ากัน ก็ประมาณอายุไว้ที่ 55 ขึ้นไปค่ะ จากคุณ : areewan - [ 28 มี.ค. 51 09:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ จากคุณ : LTD - [ 28 มี.ค. 51 09:36:33 A:58.137.119.10 X: TicketID:007103 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีหลายประเด็นนะ 1. เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องเสียภาษี  ยกเว้นส่วนที่เป็นเงินสะสมของตัวเองได้รับยกเว้น (ตามจขกท เงิน 87,xxx ไม่ต้องเสียภาษี แต่ผลประโยชน์ 5,XXX ต้องเสียภาษี) 2. เราไม่ควรนำไปรวมกับช่องรายได้ในภงด91  ให้ใช้ใบแนบตามข้างบน 3. รายได้ตามใบแนบ 3.1 จะหักค่าใช้จ่ายได้ปีละ 7000 บาท ก่อน 3.2 จากนั้นจะหักได้อีก 50% 3.3 เหลือสุทธิจึงจะนำไปคำนวนภาษีรายได้ โดย     0-100000 บาทแรก เสีย 5%     100001-500000 เสีย 10% 4. ภาษีตัวนี้จะน้อยมาก  อย่างกรณีของจขกท  คิดว่ายื่นใบแนบเพิ่มไป  แต่เงินสุทธิที่จะต้องไปคำนวนภาษีรายได้เป็น 0 5. ผมเพิ่งยื่นภาษีเมื่อต้นเดือนนี้เอง เพราะเพิ่งย้ายเงินเหมือนกัน ใช้ใบแนบตามข้างบนครับ (ยื่นผ่าน internet แค่คลิกตรงช่องใบแนบ ฟอร์มก็จะขึ้นมาอัตโนมัติครับ) จากคุณ : ps3 - [ 28 มี.ค. 51 09:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คอนเฟิร์ม คห 7 เดี๋ยว ผมถ่ายรูปตัวอย่างของผมให้ดู นะครับ เพิ่งลาออกเหมือนกัน... จากคุณ : oxidation - [ 28 มี.ค. 51 11:21:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมคิดว่า เงินสำรองเลี้ยงชีพ ที่หักจากเงินเดือนเรา มันยังไม่เสียภาษีนะครับ เพราะทุกปี มันจะยกเว้นคำนวณภาษี   (อยู่ในหัวข้อ "รายการที่ได้รับการยกเว้น" ข้อ  ข และ ค) ฉะนั้น ถ้าออกก่อน เกษียณ  ต้องเอาไปคำนวณ เป็นรายได้ นะครับ ตาม  คห 10  นั้น OK เลย   ผมทำประจำ เพราะเปลี่ยนงานบ่อย  โดยไม่ค่อยคิดถึงการขาดทุนในเรื่อง เงินสะสม มั่วแต่โลภ กับตัวเลขเงินเดือนใหม่ จากคุณ : เปลี่ยนมา 5 บริษัทแล้ว- (PeterMc) - [ 28 มี.ค. 51 11:33:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วถ้ายื่นรวมกับภงด91 ไปแล้วจะแก้ไขยังไงคะ จากคุณ : COCO@VANILLA - [ 28 มี.ค. 51 11:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนที่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีคือ 5,000 บาทครับ ถือเป็น 40(1) แต่ในกรณีที่คุณเคยทำงานที่เก่ามาเกิน 5 ปี คุณสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะนำไปรวมคำนวณภาษีสิ้นปี หรือ คุณจะไม่นำไปรวมคำนวณก็ได้ ถ้าในกรณีไม่นำไปรวม ก็ถือว่าเราเสียภาษีตอนโดนหัก ณ ที่จ่ายเมื่อได้รับเงินสำรองคืนไปแล้ว เหมือนกรณี ดอกเบี้ย และเงินปันผล ที่จะเลือกนำไปรวมคำนวณภาษีตอนสิ้นปีหรือไม่ก็ได้ จากคุณ : iamfine_thanks - [ 28 มี.ค. 51 14:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมส่งไฟล์ตัวอย่าง ที่ผมมีมาให้ล่ะครับ... เคสนี้ คือ ให้นำเงินทั้งหมดที่ได้รับ ลบด้วย จำนวนเงินเฉพาะของเราที่ได้จ่ายไปจริง  ผลต่างคือ กำไร หรือรายได้ที่ต้องนำไปคำนวณภาษีครับ.. สำหรับเคสของผม ขอเพิ่มคำถามนิดหน่อยนะครับ ว่า ค่าใช้จ่ายที่อยู่ในตารางหมายเลข 4  นี่ มาได้งัย  และนำไปใช้เมื่อไรครับ เพราะว่าจำนวนที่ต้องนำไปคิดเป็นรายได้  ก็ไม่ได้เกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายในช่อง 4 ของไฟล์ของผมเลยครับ  ขอคำอธิบายด้วย.. จากคุณ : oxidation - [ 28 มี.ค. 51 14:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่มเติมจากความเห็น 10 3.  เงินที่สมาชิกได้รับจากกองทุนเมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส่วนที่เป็นเงินสะสมได้รับยกเว้นภาษี สำหรับเงินสมทบ ผลประโยชน์เงินสะสม และผลประโยชน์เงินสมทบ ได้รับประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขดังนี้              3.1   กรณีลาออกจากงานก่อนเกษียณอายุ         ก.  หากสมาชิกมีระยะเวลาการทำงานน้อยกว่า 5 ปี ต้องนำไปคำนวณเพื่อเสียภาษีทั้งจำนวน         ข.  หากสมาชิกมีระยะเวลาการทำงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป  สามารถเลือกเสียภาษีแยกต่างหากจากเงินได้ประเภทอื่น  โดยมีสิทธิหักค่าใช้จ่ายได้ 7,000                บาท คูณด้วยจำนวนปีที่ทำงาน เหลือเท่าใดหักได้อีกครึ่งหนึ่ง แล้วคำนวณภาษีตามอัตราภาษีทั่วไป ทั้งนี้ จำนวนวันทำงานตั้งแต่ 183 วันขึ้นไป                นับเป็น 1 ปี น้อยกว่า 183 ให้ปัดทิ้ง อ้างอิงจาก กองทุนสำรองเลี้ยงชีพไทย (www.thaipvd.com) จากคุณ : ps3 - [ 28 มี.ค. 51 15:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบความเห็นที่ 15 ค่าใช้จ่ายในช่อง 4 ของคุณ  เป็น 40% ของเงินรายได้ (ช่อง 3) แต่ผมไม่แน่ใจว่ามันจะหักเป็นค่าใช้จ่ายได้หรือไม่  เพราะในเว๊บด้านบนบอกว่าต้องนำไปคำนวณเพื่อเสียภาษีทั้งจำนวน จากคุณ : ps3 - [ 28 มี.ค. 51 15:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขออนุญาตเห็นแย้งกับความเห็นที่ 14 แต่ในกรณีที่คุณเคยทำงานที่เก่ามาเกิน 5 ปี คุณสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะนำไปรวมคำนวณภาษีสิ้นปี หรือ คุณจะไม่นำไปรวมคำนวณก็ได้ ถ้าในกรณีไม่นำไปรวม ก็ถือว่าเราเสียภาษีตอนโดนหัก ณ ที่จ่ายเมื่อได้รับเงินสำรองคืนไปแล้ว ตามความเห็นผม ผมขอแย้ง 2 ประเด็นดังนี้ 1.เราไม่มีสิทธิ์เลือกว่าจะนำเงินสำรองเลี้ยงชีพนี้ไปรวมคำนวนกับภาษีสิ้นปีหรือไม่ ที่เราเลือกได้คือเลือกว่าจะนำไปรวมกับรายได้ใน ภงด 91 หรือจะแยกยี่นในใบแนบ ซึ่งแยกยื่นจะเสียภาษีน้อยกว่า 2. เรื่องโดนหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว  ถ้าหักไปเท่ากับจำนวนที่เราต้องจ่ายก็ยื่นว่าไม่มีภาษีต้องจ่ายเพิ่มเติม  แต่ถ้าภาษี ณ ที่จ่ายไม่ได้หักเลย (ขออนุญาตยกตัวอย่างความเห็นที่ 15)  เราก็ต้องจ่ายเพิ่มเติม  แต่ในกรณีหุ้นบางครั้งเราขอเครดิตภาษีคืนได้  ทางการจึงให้สิทธิว่าจะยื่นรวมเป็นรายได้หรือไม่ก็ได้ จากคุณ : ps3 - [ 28 มี.ค. 51 16:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สรุปแล้วทำงานไม่เกิน 5 ปียื่นแยกไม่ได้ใช่ไหมครับ ผมพยายามยื่นแยกแต่ไม่ได้ จากคุณ : ชีวิตคือชีวิต - [ 29 มี.ค. 51 11:16:21 ]