ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าคนไหนมีความคิดเห็นอะไรก็รบกวนด้วยนะครับ ถือว่าส่งเสียผมเรียนต่อละกัน จากคุณ : galadinner - [ 8 เม.ย. 51 13:34:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อยากช่วยครับแต่ไม่เก่งพอครับรอพี่ๆที่สันทัดดีกว่าครับ เอาเป็นว่ามาให้กำลังใจครับ จากคุณ : ~~ทิดโช~~ - [ 8 เม.ย. 51 13:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามารออ่าน ... ระหว่างรอ ขอแชร์ด้วย แต่ไม่รู้จะเป็นประโยชน์หรือเปล่า ผมว่าก่อนจะเข้าถึงมวลชน ต้องอ่านความจริงออกก่อนนะครับ เช่น ราคาข้าวตอนนี้ ผมได้ยินผู้มีประสบการณ์ท่านนึง ออกมาบอกว่าราคาข้าวจะแพงมาประมาณหนึ่งปีแล้ว หรือแม้แต่คุณพิชัย จาวลา ยังทำนายว่าราคาน้ำมันจะแพงและหุ้นจะมา 900 จุดตั้งแต่ปี 46 ผมว่า ท่านเหล่านี้ต้องมองเห็นความจริงบางอย่าง ... จากนั้น ค่อยเข้ากระทำในจังหวะของดึงใจมวลชน เช่น สร้างสัญญาณซื้อ สร้างสัญญาณขาย ระบายของออก แน่นอนการเก็งกำไรต้องคำนึงถึงโวลุ่มรับด้วย ถามว่าจะหาทีมงานทำได้ไหม ... น่าจะทำได้ครับ (ถ้าทีมงานนั้นไม่เล่น อินไซด์กันเองก่อนนะครับ ) เล่นเก็งกำไรนี่ ยากกว่าขุดน้ำมันอีกนะผมว่า ... น้ำมัน สำรวจว่าเจอ ยังไงความน่าจะเป็นที่เจอก็มากกว่าไม่เจอ เพราะมันอยู่ในกระเปาะอยู่แล้ว แต่คนนี่สิ ... เดาใจยากจริงๆ ..... .... รอฟังความเห็นต่อครับ จากคุณ : KENG76 - [ 8 เม.ย. 51 14:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับน้อง galadinner สิ่งที่น้องเขียนมานั้นเป็นโครงสร้างของเฮดจ์ฟันโดยปกติครับ น่าสนใจดีตรงที่มี phychologist เพราะโดยมากเฮดจ์ฟันจะใช้พวกนักวิทยาศาสตร์เสียส่วนใหญ่ หรือไม่ก็พวกที่จบ Phd   โดยมากกลยุทธ์ของเฮดจ์ฟันนั้นหลากหลายมากมาย แต่แบบที่น้องร่างมาก็จะเข้าข่ายกลยุทธ์ Global macro กับ Event driven ของเฮดจ์ฟันนั่นเอง  กลยุทธ์ที่น่าสนใจของเฮดจ์มีมากมายเดี๋ยวพี่จะค่อยทยอยมาเขียนแล้วกันดีมั้ยครับ ? หลักๆที่น่าสนใจเลยก็พวก Event Driven คือเลือกเล่นกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในโลกเรานั่นเอง เช่นปัญหาซัพพราม Global Macro นี่เทคติกเยอะมาก กองทุนโซรอสก็เป็นพวก Global Macro เหมือนกัน  พวกกลยุทธ์ Long Volatility, Short Volatility ก็มี ส่วนของน้อง galadinner ถ้าจะตั้ง Funds ที่เน้นจิตวิทยามวลชนก็ต้องวางระบบที่ว่าจะเราจะหากำไรจากวิทยามวลชนได้อย่างไร อาจต้องมีการนำ Game theory มาช่วย หาดูจากโนเบลปีที่แล้วก็ได้ครับ  จริงๆแล้วถ้าเรามีระบบที่สามารถสร้างภาพให้เห็นว่ามวลชนกำลังคิดอะไรอยู่โดยมาก รับรองทำกำไรได้ไม่ยากแน่นอนครับ  รู้ว่าเค้าจะซื้อ-ขายด้วยเหตุผลอะไรบ้าง เท่านี้ก็ปิดประตูแพ้แล้วครับ ส่วนโมเดลปกติในปัจจุบันนี้ที่เฮดจ์ฟันใช้กันอยู่เราจะรู้ว่านักเทคนิค และ นักลงทุนปัจจัยพื้นฐานจะเริ่มซื้อขายเมื่อไร อย่างไร แล้วก็มีหลายที่จะพยามจับอารมณ์ของผู้คนมาดู แนวคิดของน้องไม่ต้องห่วงครับพี่สนับสนุนเลย ได้ไอเดียอย่างไร นำกลับมาบอกด้วยนะครับ เดี๋ยวดึกๆพี่คค่อยมาเขียนต่อแล้วกัน :) จากคุณ : MudleyGroup - [ 8 เม.ย. 51 17:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โอย....ต้องขอโทษด้วยครับ งานเข้าอีกแล้ว น้องศึกษาหนังสือเล่มนี้ Lhabitant, François-Serge. Hedge Funds: Quantitative Insights. John Wiley & Sons, ก่อนนะครับ เผื่อจะเป็นไอเดียวเวลาอยากเข้ามาทำ ในฟิวเฮดจ์ฟันจริงๆ หรือดูภาพรวมของเฮดจ์ฟันทั้งหมดเลย และเล่มนี้เป็นหนังสือบังคับเวลาจะสอบ ไรเซ้นด้วยครับ ทุกคนต้องอ่านก่อนสอบ :) ในเน็ตน่าจะมีให้โหลดฟรีนะครับ ถ้าค้นดีๆ P.s. เดี๋ยวไว้พี่เคลียร์งานหมดเมื่อไรจะมาแชร์กันอีกครับ หรือ Add msn ไว้คุยก็ได้ Mudleygroup@hotmail.com ถ้าพี่ว่างจะพยามออนครับ ถ้าออนแต่ไม่ตอบแสดงว่าอาจจะเทรดอยู่ หรือ ไม่ได้อยุ่หน้าจอครับ :)ยินดีช่วยน้องใหม่ไฟแรงครับ อิอิ จากคุณ : MudleyGroup - [ 8 เม.ย. 51 21:03:24 ]