PANTIP.COM : I6528579 ทำมั๊ยถึงติดหุ้น [หุ้น]

ทำมั๊ยถึงติดหุ้น

1. สิ่งที่เรามีอยู่ปัจจุบันเกิดได้จากการกระทำของตัวเราเอง รวมถึงติดหุ้นบนยอดดอยมันก็เป็นฝึมือตัวเองหาใช่ผู้อื่นไม่ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเรามานั่งช่วยกันทบทวนย้อนรอยหาความจริงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

2. สมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อร่วมๆ 10 ปีก่อน สมัยนั้นในตลาดหุ้นเต็มไปด้วยนักลงทุนถือหุ้นระยะกลางยาววังทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ซื้อเช้าขายบ่ายหากินไปวันๆมีแต่น้อยมากแทบไม่มีอิทธิพลทำให้ราคาหุ้นย้ำอยู่กับที่ เวลาขึ้นๆที่เป็นบาทๆ ผลต่างราคาต่ำสุดและสูงสุดของหุ้นบางตัวสามารถให้ได้ 100% มาถึงสมัยนี้แตกต่างราวฟ้ากับดิน ตลาดเต็มไปด้วยนักเก็งกำไรวันต่อวัน ไม่ว่าจะเป็น (๑) ต่างชาติ (๒) กองทุน (๓) รายย่อย ต่างก็ผันตัวเองมาเป็นนักพนันกันหมด ขึ้นสตางค์สองสตางค์ก็ถูกเทขายหนีเอาตัวรอดไปวันๆ แน่นอนผลตอบแทนที่เห็นอดีตไม่มี การที่จะหวัง 100% ในแต่ละรอบที่เคยได้หรือเห็นในอดีตเลิกคิดได้ เพื่อความอยู่รอดต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสภาวะตลาด นิสัยเดิมที่เคยใช้ต้องเลิกมิฉะนั้นไม่พ้นติดหุ้นบนยอดดอย

3. ได้ยินผู้รู้เคยพูดว่า

3.1 ไม่เล่นหุ้นตอนขาลงเพราะไม่รู้ว่าจะลงถึงไหน ทีว่าราคาติดดินก็ยังมีราคาใต้ดินให้เห็น ไม่เท่านั้นยังได้เห็นราคาก้นเหวก้นอเวจี

3.2 ให้เล่นขาขึ้นหรือตอนหุ้นกำลังขึ้น ปล่อยให้กำไรทำไปเรื่อย หักหัวลงหาจังวะขาย อย่าทำให้กำไรเป็นขาดทุน ไม่เท่านั้นกว่าจะรู้ตัวอีกก็ติดหุ้นเสียแล้ว เผลอยอดดอยดีๆ

4. หุ้นแต่ละตัวต้องมีเจ้ามือมาทำราคา จ้าวเหล่านี้ไม่ใช่นักบุญมาแจกเงินให้รายย่อย มีจุดประสงค์เดียวกับเราๆท่านๆทำอย่างไรถึงจะได้เงิน ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องด้วยโกง ฉะนั้นหุ้นแต่ละตัวจะมีเป้าราคาสูงเป็นที่รู้กันในหมู่จ้าว เรารายย่อยไม่มีทางรู้ว่ามันจะเป็นจุดไหน หลงเข้าเป้าของเขาก็คือยอดดอย

5. เราต้องหาทางแก้เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยจากการติดหุ้น ซื้อหุ้นตอนขาขึ้นแล้วปล่อยให้ทำกำไรขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดการหักหัวลงเมื่อไรให้ขายทิ้งทันที่ จะต้องมีจุด cut loss จะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ก็แล้วแต่ความต้องการแต่ละท่าน ต้องย้ำต้องมีวินัยอย่างเคร่งครัดไม่ลังเลที่จะขายทิ้งทันที่

6. จุด cut loss ทุกคนรู้ดี ถึงแม้จะมีความตั้งใจที่จะทำแต่ก็ไม่กล้าทำเพราะคิดว่าเดียวหุ้นมันก็ขึ้นมาให้ขายได้ กว่าจะตัดสินใจก็สายมากๆเมื่อราคาหุ้นตกลงต่ำสุดๆ หรือไม่กล้าขายเพราะขาดทุนมโหฬารมหาศาลจนต้องปล่อยเลยตามเลย

7. ขอให้เวลาแก่ตัวเราเองสักสองสามนาทีประเมินถึงสาเหตุพฤติกรรมตัวเราทำให้ติดหุ้น เราจะพบได้ว่าราคาหุ้นที่ติดบนดอยนั้น ซื้อตอน

7.1 ราคาหุ้นขึ้นมาได้หลายๆวันและสูง เหตุที่เข้าซื้อเพราะนักวิเคราะห์หรือแรงเชียร์จากมาร์ออกมาย้ำหุ้นจะไปเท่าโน้นเท่านี้ ด้วยความโลภกลัวตกรถซื้อตามกระแส

7.2 ขายหุ้นมีกำไรไป ด้วยกลัวตัวเองเป็นสัตว์ประลาดไม่ตามกระส รีบเข้าซื้อหุ้นทันที่ บ่อยๆครั้งซื้อคืนตัวที่เราขายไปที่ราคาสูงกว่า ขาดทุนก็ยอม เราไม่รู้เลยว่าการกระทำเข่นนี้ไม่ถูกต้องเพราะหุ้นตัวอื่นๆราคาก็ขึ้นตามดัชนี ราคาที่ซื้อก็เป็นราคาแพงอยู่ในระดับเดียวกับหุ้นที่เราขายไป ฉะนั้นเราไม่ได้อะไรจากกระกระทำนี้

8. เราได้อะไรจากการย้อนรอยอดีตบ้าง ถ้าไม่ปรับปรุงสันดานการเล่นหุ้นเดิมๆผลก็ย่อมซ้ำรอยเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเหล่า ถึงแวลาแล้วหรือยังมาเริ่มต้นกันใหม่ มิฉะนั้นเวลาที่เสียไปวันนี้ไร้ประโยชน์

9. ตลาดหุ้นไม่ต่างไปกับบ่อน ถ้าเราเข้าบ่อนทำกำไรได้จะมากมายเท่าไรก็ตามยังเข้าบ่อนเล่นทุกวันๆตั้งแต่เปิดบ่อนจำกระทั่งปิดบ่อน ไม่ช้าเงินที่ได้มาคืนหมดไม่เท่านั้นเงินตัวเองก็ให้เขาไปด้วย

10. คิดว่าจะชนะได้เงินจากบ่อนก็ต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ได้กำไรและต้องรู้จักพอต้องหยุดออกจากบ่อน จะเข้าบ่อนเมื่อไรอีกที่ไม่รู้ได้เพราะไม่รู้เมื่อไรดวงถึงจะดี แต่ในหุ้นเราพอที่จะรู้ได้ดูจากวัฐจักรวงจรภาวะตลาด "กระทิงและหมี" ขายได้กำไรเก็บเงินเก็บทองฝากธนาคาร หยุดไม่ซื้ออย่างเด็ดขาย รอจั่งซื้อรอบใหม่

11. ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เพื่อนๆเลิกนิสัยเดิม จะได้พ้นห่วงวงจรอุบาทย์ติดหุ้นบนยอดดอย

12. บทความและความเห็นอ่านมากๆ อย่าเชื่อในสิ่งที่เขาว่า สิ่งสำคัญอ่านแล้วใช้วิจารณญานตัวเองมองทุกด้าน(บวกและลบ)ถึงความเป็นไปได้ ไม่มีใครรักหวงเงินเราเท่าตัวเราเอง จงเชื่อตัวเองเท่านั้น

ด้วยความปรารถนาดี

จากคุณ : luck me - [ 19 เม.ย. 51 06:26:27 ]