ความคิดเห็นที่ 1 Search ดูละยังเอ่ย?? จากคุณ : zylinz - [ 28 เม.ย. 51 18:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากเงินทุนของท่าน ธนาคารกรุงเทพช่วยให้ท่านลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุนได้ง่ายขึ้น ด้วยการลงทุนในกองทุนรวมผ่านธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมีกองทุนให้เลือกหลากหลายประเภทตามความต้องการของแต่ละท่าน ท่านสามารถสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนได้โดยสะดวกที่สาขาของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมี เจ้าหน้าที่ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน พร้อมให้บริการอยู่ที่สาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาไมโคร) ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อท่านสั่งขายคืนหน่วยลงทุน ท่านก็จะได้รับเงินค่าขายคืนโอนเข้าบัญชีเงินฝากของท่านในวันทำการถัดไป (เฉพาะบัญชีของธนาคารกรุงเทพ) การลงทุนในกองทุนรวมเป็นทางเลือกหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ท่านได้รับผลตอบแทนมากขึ้น เมื่อท่านลงทุนกับกองทุนรวม บริษัทจัดการจะนำเงินของท่าน ไปลงทุนในตลาดเงิน ตลาดหลักทรัพย์ และตลาดตราสารหนี้ ตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวนของกองทุนนั้นๆ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว จุดเด่นของกองทุนรวม เงินลงทุนของท่านที่รวมอยู่กับของนักลงทุนอื่นๆ ในกองทุนรวมจะมีศักยภาพเหนือกว่าการลงทุนด้วยตนเอง เพราะเงินส่วนนี้จะได้รับการบริหารโดยมืออาชีพจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจะมีการบริหารความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุน ไปยังตราสารการเงินหลากหลายประเภท และที่สำคัญผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนของกองทุนก็ไม่ต้องเสียภาษี - เพิ่มโอกาส และทางเลือกในการลงทุน นอกเหนือจากการฝากเงิน การเล่นหุ้นเอง การซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้ - กระจายความเสี่ยงของการลงทุนไปในหลักทรัพย์หลายประเภท ด้วยเงินลงทุนจำนวนไม่มาก เช่น สามารถเป็นเจ้าของหุ้นมากกว่า 10 ตัว (ที่กองทุนถือครองอยู่) ด้วยเงินเพียง 2,000 บาท - สามารถเป็นเจ้าของหลักทรัพย์หลากหลายประเภทได้ โดยไม่ต้องติดต่อหลายหน่วยงาน - เพิ่มอำนาจต่อรองของเงินลงทุน กองทุนรวมนับเป็นนักลงทุนประเภทสถาบัน ที่มีเงินลงทุนก้อนใหญ่ ทำให้มีอำนาจต่อรองทั้งในเรื่องอัตราดอกเบี้ยและราคาตราสาร ได้มากกว่านักลงทุนรายย่อย - บริหารเงินลงทุนโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ - มีสภาพคล่องสูง เนื่องจากกองทุนส่วนใหญ่สามารถทำรายการซื้อขายหน่วยลงทุน ได้ทุกวันทำการ และสามารถทำรายการได้ทั่วประเทศ - มีกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนหลากหลายประเภทให้เลือก ทำให้สามารถกระจายเงินลงทุนได้อย่างหลากหลาย ตามลักษณะการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล (mix and match) เช่น ผู้ลงทุนอาจลงทุนในกองทุนบัวแก้ว 20% กองทุนบีเฟล็กซ์ 60% กองทุนบีแอ็คทีฟ 20% - ประหยัดเวลาในการติดตามข้อมูลในตลาดและภาวะเศรษฐกิจ - ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยกำไรจากการลงทุนไม่ต้องนำไปคำนวณภาษี นอกจากนี้เงินที่ลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ เมื่อมีผู้ถือหน่วยปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน - สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เป็นผู้กำกับดูแลการจัดการและบริหารกองทุน กองทุนเปิดตราสารทุน ของ บลจ.บัวหลวง คือ กองทุนที่มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในหุ้น เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับกองทุนเปิดตราสารทุนทุกกองทุนที่บริหารโดย บลจ. บัวหลวง นั้น เน้นการลงทุนระยะปานกลางถึงระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีความมั่นคง หรือมีอัตราการเติบโตสูง มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีต่อการลงทุน ความเสี่ยงของกองทุนตราสารทุน - ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคา และกลไกตลาด - ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร - ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่มีผลทำให้ราคาหุ้นผันผวน - ความเสี่ยงจากสภาพคล่องที่ไม่สามารถแปรสภาพตราสารที่ถืออยู่ให้เป็นตัวเงินได้เมื่อต้องการ กองทุนเปิดบัวแก้ว เน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง หรือมีปัจจัยพื้นฐานดี โดยจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก หรือหลักทรัพย์ หรือ ทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่ ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ   กองทุนเปิดบัวแก้ว 2 เน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง หรือมีปัจจัยพื้นฐานดี โดยจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก หรือ การหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่ ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ กองทุนเปิดบัวแก้วปันผล เน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง หรือมีปัจจัยพื้นฐานดี โดยจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก หรือ การหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง ในอัตราร้อยละ 95 ของสินทรัพย์สุทธิที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานประจำแต่ละงวด (หากกำไรสุทธิต่ำกว่า 0.20 บาท ต่อหน่วยลงทุน กองทุนจะไม่จ่ายเงินปันผล แต่จะนำไปรวมกับรอบบัญชีถัดไป) อนึ่ง การจ่ายเงินปันผลดังกล่าว จะต้องไม่ทำให้กองทุนมีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นในงวดบัญชีที่พิจารณาจ่ายเงินปันผลนั้น กองทุนเปิดทรัพย์บัวหลวง เน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีผลประกอบการดีสม่ำเสมอหรือมีราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ทั้งนี้ จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่ ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ     กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล เน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งผู้จัดการกองทุนคาดหมายว่าจะให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก โดยจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉลี่ยในรอบปีต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่ ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ     กองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน เน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุนเฉพาะในบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย เช่น บริษัทในกลุ่มวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง กลุ่มพลังงาน กลุ่มสื่อสาร กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มขนส่ง โดยจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่ ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ   กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม เน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุนเฉพาะ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ และกลุ่มสื่อสาร โดยจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่นเป็นไปตามประกาศของ ก.ล.ต. หรือที่ ก.ล.ต. กำหนด ทั้งนี้ การลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่ ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ     * การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล และคู่มือภาษีก่อนการตัดสินใจลงทุน ท่านสามารถเริ่มลงทุนกับกองทุนรวมผ่านธนาคารกรุงเทพได้อย่างง่ายดายสะดวกสบาย ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ * เปิดบัญชีกองทุน ท่านสามารถติดต่อได้ที่สาขาของธนาคารกรุงเทพ เพื่อกรอกใบคำขอเปิดบัญชีกองทุน และยื่นพร้อมเอกสารสำคัญดังต่อไปนี้ - สำเนาบัตรประชาชน - สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ เพื่อรับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน - บัตรบัวหลวงเอทีเอ็ม บัตรบัวหลวงพรีเมียร์ หรือ บัตรบีเฟิสต์ ในกรณีทำรายการซื้อขายกองทุนผ่านเครื่องเอทีเอ็ม หรือบริการบัวหลวงโฟนด้วยตนเอง เมื่อเปิดบัญชีกองทุนเปิดแล้ว ท่านจะได้รับสมุดบัญชีที่มีเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นเอกสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน * ซื้อหน่วยลงทุน ท่านสามารถสั่งซื้อกองทุนเปิดได้ที่สาขาของธนาคารกรุงเทพ และเลือกชำระเงินได้หลายวิธี คือ - เงินสด หรือหักจากบัญชีเงินฝากของท่านที่มีอยู่กับธนาคารกรุงเทพ - เช็คสั่งจ่ายบัญชีจองซื้อหน่วยลงทุน * ขายคืนหน่วยลงทุน ท่านสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ที่สาขาของธนาคารกรุงเทพ โดยเลือกรับเงินค่าขายคืนได้ 2 วิธี คือ - โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากที่ท่านมีอยู่กับธนาคารกรุงเทพ โดย ท่านจะได้รับเงินค่าขายคืนในวันทำการถัดจากวันที่มีคำสั่งขายคืน - เช็คสั่งจ่ายระบุชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน ช่องทางบริการการลงทุน ท่านสามารถลงทุนในกองทุนเปิดที่ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนการขาย ได้ที่ธนาคารกรุงเทพสาขาที่ท่านสะดวก นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ขยายช่องทางการลงทุน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถส่งคำสั่งซื้อ ขาย หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน รวมทั้งสอบถามยอดหน่วยลงทุนได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ - เครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ - บริการบัวหลวงโฟน โทร. 1333 - บริการบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง * ลงทุนผ่านเครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ หรือบริการบัวหลวงโฟน เพียงกรอกแบบฟอร์ม - "คำขอใช้บริการกองทุนเปิดผ่านเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ และบริการธนาคารทางโทรศัพท์" ณ ธนาคารกรุงเทพสาขาที่ท่านทำบัตรบัวหลวงเอทีเอ็ม บัตรบัวหลวงพรีเมียร์ หรือบัตรบีเฟิสต์ * ลงทุนผ่านบริการบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง เพียงกรอกแบบฟอร์ม - "คำขอใช้บริการบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง"(สำหรับท่านที่ยังไม่เคยสมัครใช้บริการบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง) หรือแบบฟอร์ม - "คำขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลบริการบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง" (สำหรับท่านที่เป็นผู้ใช้บริการบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง) ที่ธนาคารกรุงเทพสาขาที่ท่านสะดวก หมายเหตุ การใช้บริการลงทุนผ่านเครื่องบัวหลวงเอทีเอ็มบริการบัวหลวงโฟน และบริการบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง สำหรับกองทุนเปิดที่มีเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุนขึ้นต้นด้วย 888-xxx-xxxx เท่านั้น http://www.bangkokbank.com/Bangkok+Bank+Thai/Personal+Banking/Investments+and+Fixed/Mutual+Funds/Default.htm จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 28 เม.ย. 51 19:54:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กองทุน active ของบัวหลวงน่าสนใจครับ จากคุณ : i_sarut - [ 28 เม.ย. 51 21:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กองทุนบัวแก้ว บัวแก้ว2 บัวแก้วปันผล ทรัพย์บัวหลวง - เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงและความผันผวนได้ในระดับ ค่อนข้างสูง - ผู้เริ่มต้นลงทุนในกองทุนหุ้นที่บริหารแบบ Active เริ่มที่ระดับนี้ดีกว่านะครับ กองทุนบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน - เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงและความผันผวนได้ในระดับ สูง - คนที่ไม่ชอบหุ้นแบงก์ ไม่ชอบหุ้นไฟแนนซ์ เชิญที่กองนี้เลยครับ กองทุนบัวหลวงทศพล - เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงและความผันผวนได้ในระดับ สูงมาก - คนที่ชอบวัดดวงกับหุ้นสิบตัวระดับเทพ (จากหุ้นสี่ร้อยกว่าตัว) ห้ามพลาดกองนี้นะครับ กองทุนบัวหลวงธนคม - เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงและความผันผวนได้ในระดับ  สูงสุด - คนที่รักหุ้นแบงก์ ชอบหุ้นไฟแนนซ์ มีกิ๊กเป็นหุ้นสื่อสาร แต่เกลียดหุ้นพลังงาน เบื่อหน่ายหุ้นอสังหาฯ และไม่ชอบหน้าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ เลย เชิญมาที่กองนี้เลยครับ จัดให้ จากคุณ : หมีพูหมูพี - [ 28 เม.ย. 51 22:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 1.คืออยากทราบการลงทุนในกองทุนทองคำของ TMB จำเป็นต้องมีโบรกเกอร์มั๊ยคะ? ถ้าเป็นกองทุนรวม ไม่มี โบรกเกอร์ ครับ ลงได้เลย ถ้าของ TMB Gold ก็เงินลงทุนเริ่มต้น 2,000 บาท ครับ จากนั้นก็ ซื้อขั้นต่ำ 1 บาท 2.เงินเก็บต่ำแต่อยากลงทุนพี่ๆพอจะมีหุ้นหรือกองทุนอะไรที่น่าสนใจมาแนะนำมั๊ยคะ? ก็อยู่ที่ รับระดับความเสี่ยงได้แค่ไหนนะครับ ยิ่งเสี่ยงมากเวลาได้ผลตอบแทนก็ยิ่งมาก และก็มีโอกาสเสียมาก มากเช่นเดียวกันครับ ถ้าชอบเสี่ยงน้อยเงินต้นอยู่ครบได้ดอกเบี้่ยประมาณฝากประจำ ก็ ตราสารหนี้ แบบขายคืนได้ของ T-CASH ของ ธนชาต , TMBMF (ธนบดี) ของ ทหารไทย เสี่ยงขึ้นมาหน่อยก็ กองทุนรวมผสมแบบสมดุล แนะนำ RKBC (รวงข้าวดุลทรัพย์) ของ กสิกร กองทุนรวมผลมแบบ ยืดหยุ่น แนะนำ TCM-FLEX (ทีซีเอ็ม พลทรัพย์) ของ ทิสโก้ ครับ กองทุนตราสารทุน เสี่ยงๆ แบบเร้าใจ ถ้าเป็นแบบ Active ผมขอส่ง ของ บลจ. บัวหลวง เข้าประกวดครับ ขอแนะนำ BTP (ทศพล), B-Infra (โครงสร้างพื้นฐาน), BKA (บัวแก้ว) ครับ ถ้าแบบ Passive ผมขอแนะนำ ของ ทหารไทย ครับ ตัวที่น่าเล่นก็ TMB JUMBO25, TMB SET 50 ที่ผมเลือกมาให้นี่คือ เลือกจาก ผลงานที่ผ่านมา ให้ ผลตอบแทนสม่ำเสมอ กับ ให้ผลตอบแทน ติดอันดับต้นๆ ในตลาดนะครับ ส่วนในอนาคต จะดีเช่น ในอดีต มั้ย มิทราบได้ครับ การลงทุนมีความเสี่ยงครับ ลอง ศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุนแต่ละแบบดูครับว่า ตรงใจเรามั้ย เรารับความเสี่ยงได้แค่ไหนครับ ปล.ข้อแนะนำ เพิ่มเติมคือ ถ้า มีเงินเย็นเจี๊ยบ แบบว่า คงไม่ได้ใช้อีกนาน ขอเชียร์ กองทุนตราสารทุน เลยครับ ถ้าลงทุนวันนี้ อีก 3-5 ปี ผมว่าโอกาสได้กำไร มีมากกว่าเสีย ครับ แต่ถ้า เงินน้อย และ อาจจะต้องใช้ในอนาคต แนะนำ พวก ตราสารหนี้ระยะสั้น หรือ กองทุนแบบผสม ครับ จากคุณ : ปกร - [ 29 เม.ย. 51 10:02:32 ]