ความคิดเห็นที่ 2
สามารถใช้บัตรเครดิตรกรุงศรี สั่งซื้อกองทุนของ บลจ.กรุงศรี ได้ทุกกองเลยครับ โดยไม่มีการชาร์ตค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่ต้องโดนค่าธรรมเนียมซื้อขายปกติของกองทุนอยู่ดีครับผม
ขั้นแรกก็สมัครใช้ AYF@ccess ของ บลจ. และยืนเอกสารขออนุมัติสั่งตัดบัญชีบัตรเครดิตไป ภายใน 2 สัปดาห์ ก็สามารถเข้าลงทุนผ่าน Internet ได้ตามปกติครับผม
-----------------------
กองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.อยุธยา ที่แนะนำก็มีตามนี้ครับ
AYFCASH, AYFCASHPLUS ทั้ง 2 กองทุน ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ต่างกันที่ AYFCASHPLUS จะไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศบางส่วน จึงทำให้ผลตอบแทนดีกว่า AYFCASH ที่ลงทุนเฉพาะตั๋วเงินคลังล้วนๆเพียงอย่างเดียว สำหรับคนที่ Conservative สุดๆ ก็อาจเลือก AYFCASH แทน แต่สำหรับผมแล้ว ผลตอบแทนดีกว่า ในขณะที่ความเสี่ยงไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอะไร ผมแนะนำ AYFCASHPLUS ครับ
AYFMTFI เรียกเป็นไทยว่า กองทุนรวมอยุธยาตราสารหนี้ระยะกลาง เหมาะสำหรับ Trend ดอกเบี้ยในตลาดขาลง เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่า 2 กองแรก ในระยะ 6 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นไป แต่หากดอกเบี้ยในตลาดทรงตัว หรือเป็นขาขึ้น กองทุนประเภทนี้จะลดความน่าสนใจไปในทันที ปัจจุบัน ไม่แนะนำให้มีสัดส่วนการลงทุน AYFMTFI ครับเพราะแนวโน้มดอกเบี้ยในตลาดลดนั้นมีน้อยเหลือเกิน
AYFFLEX เป็นกองทุนผสมระหว่างตราสารหนี้กับหุ้น ที่เน้น Defensive Stock จ่ายปันผลดี ผลประกอบการสวย ในระยะยาวเกิน 1 ปีขึ้นไป 1 ปีที่ผ่านมา ทำผลการดำเนินงานได้เกิน 10% ครับ
AYFSEQ เป็นกอง Active Fund เชิงรุกที่เสี่ยงเกือบสูงสุดของ บลจ. และให้โอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด (แต่ก็ยังแพ้กองทุนหุ้นของค่ายอื่นๆ) ปัจจุบันพอร์ตหนักไปที่หุ้นกลุ่มพลังงาน และ ธนาคาร ถือหุ้นคล้าย บลจ.อเบอร์ดีน แต่มี PTT เป็น TOP Holding ของพอร์ตเหมือนกองทุนในตลาดทั่วไป
AYFSDIV เป็นกองทุนหุ้นเน้นคุณภาพ ราคา NAV ไม่หวือหวาตาม SET Index ลงทุนใน Defensive Stock เน้นหุ้นที่จ่ายปันผลงามๆ จ่ายปันผลมาแล้ว 3 ครั้ง 29 มิ.ย. 50 0.40 บาท/หน่วย 24 ต.ค. 50 0.40 บาท/หน่วย 20 ก.พ. 51 0.40 บาท/หน่วย หากนับจากวันจดทะเบียนกองทุนตอนเดือน ก.พ. ก็เท่ากับให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลไปแล้ว 12% (ยังไม่รวมราคา NAV ณ ปัจจุบันที่เกิน PAR 10 บาทอยู่) ส่วนตัวแล้ว ผมถือว่าเป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนแบบ Conservative Portfolio และต้องการ Cash Flow เข้าบัญชีตลอดอายุการลงทุนเพื่อลดความผันผวนของผลตอบแทน และเป้นการส่งเสริมให้นักลงทุนได้ลงทุนในระยะยาวอย่างแท้จริง
สุดท้าย AYFCAVAM เป็นกองทุนหุ้นต่างประเทศที่ บลจ.อยุธยา รวมกับ CitiGold ของ ธนาคารซิตี้แบงก์ ในการไปลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย ยกเว้นอินเดีย และณี่ปุ่น โดยคัดเลือกเฉพาะหุ้น 60 ตัวที่มี Momentum และ ปัจจัยพื้นฐานที่ดีที่สุดในเอเชีย ถือเป็นกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย ที่มีผลการดำเนินงาน 3 ปี และ 5 ปีย้อนหลัง ที่ดีที่สุดที่มีเสนอขายให้กับนักลงทุนในไทย แต่ข้อเสียของกองทุนนี้ก็คือ ขายืนได้อาทิตย์ละครั้ง จึงเหมาะกับนักลงทุนระยะยาว (อีกแล้ว) ที่คาดหวังผลตอบแทนเกินกว่า 1-2 ปีขึ้นไปครับ
เลือกเอาครับ ชอบกองทุนแบบไหน http://www.ayfunds.com/th/
------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ
จากคุณ :
Mr.Messenger
- [
วันฉัตรมงคล 11:10:02
]
|
|
|