ความคิดเห็นที่ 1 ต้องถามก่อนว่า เข้าใจว่า " ความเสี่ยง"คืออะไร หลายคนเข้าใจว่า ความเสี่ยงคือการที่ เงินต้น หดหาย แต่จริง ๆ แล้วความเสี่ยงหมายถึง การที่เรามีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง เช่น เราหวังว่า ผลตอบแทนของการลงทุน จะเป็น 3% ต่อปี แต่พอเราลงทุนไป 1 ปี ปรากฏว่า การลงทุนนั้น ให้ผลตอบแทน 2.8% แค่นี้ก็ถือว่า การลงทุนนี้มีความเสี่ยงแล้ว ส่วนความเสี่ยงจะมากจะน้อย ก็จะมีวิธีการคำนวณ ซึ่งก็คงไม่ต้องลงไปในรายละเอียด ลองดูตัวอย่างนี้นะครับ การลงทุน A เอาเงินฝากประจำ 1 ปี ดอกเบี้ย 3% เมื่อครบกำหนด โอกาสที่จะได้ผลตอบแทนเป็นดังนี้ 99.999999% มีโอกาสได้ผลตอบแทน  3%  0.000001% มีโอกาสที่ไม่ได้เงินต้นและดอกเบี้ยคืนเลย เพราะแบงค์เจ๊ง หรือคิดเป็นว่าได้ผลตอบแทน         -100% การลงทุนแบบ B ซื้อกองทุน 50% มีโอกาสได้ผลตอบแทน  3% 25% มีโอกาสได้ผลตอบแทน   2.75% 25% มีโอกาสได้ผลตอบแทน  3.25% ถ้าเปรียบเทียบการลงทุนทั้ง 2 แบบ จะได้ว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยจะเท่ากัน (จริง ๆ แล้ว แบบ A ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำกว่าเล็กน้อย แต่คงไม่มีนัยสำคัญ) แต่ การลงทุนแบบ A มีความเสี่ยงน้อยกว่าแบบ B อย่างมาก ------------------------------------------------------------------- ถ้าทำความเข้าใจกับข้างบนได้ ก็จะเข้าใจเรื่องความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้นครับ ปัญหาก็คือ ในความเป็นจริง การลงทุนแบบ A ให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า ในตัวอย่าง จึงทำให้สิ่งที่เราพบในความเป็นจริง คือ สิ่งที่ความเสี่ยงต่ำ ก็จะให้ผลตอบแทนที่ต่ำ และสิ่งที่ ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนก็จะสูงขึ้น การจะวัดว่า ผลตอบแทนที่สูงขึ้น มันคุ้มกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ มีวิธีคิด (แต่ในทางปฏิบัติ คงไม่ค่อยมีใครคิดกันจริง ๆ เท่าไร ส่วนใหญ่ก็ใช้ common sense) คำถามที่ท่านเจ้าของกระทู้ ต้องถามใหม่ก็คือ ความเสี่ยงของการที่อาจได้ผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน คุ้มกับ ผลตอบแทนเฉลี่ยที่คาดหวังหรือไม่ มากกว่าครับ จากคุณ : krit587 - [ วันฉัตรมงคล 14:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความเสี่ยงของ SCBSFF ในช่วงเวลานี้ และน่าจะต่อๆ ไป คงมีเพียงแค่ การเพิ่มขึ้นได้ไม่แน่นอน จะมากบ้าง น้อยบ้างอยู่ที่ภาพรวมภาวะอัตรา ดอกเบี้ยของตราสารหนี้ ที่มีการซื้อ-ขาย กันอยู่ครับ และจากการที่ SCBSFF สามารถซื้อ-ขาย ได้ทุกวันทำการ และเมื่อขายคืน เงินจะกลับคืนเข้าบัญชีได้ในวันทำการถัดไป ในเวลาประมาณ 12:00 น. หรือถ้าเป็นการสับเปลี่ยนเงินลงทุนจาก SCBSFF ขยับขยายไปลงทุนใน กองทุนอื่นๆ ต่อไป ก็จะสามารถทำให้เกิดผลการลงทุนได้ในวัน เช่นเดียว กับการทำรายการซื้อตรงกับกองทุนที่ต้องการได้ ดังนั้นเมื่อ SCBSFF สามารถสร้างโอกาสให้เกิดผลตอบแทน ได้ด้วยระยะ เวลาที่เพิ่มขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยจังหวะในการลงทุน จึงสามารถลงทุน ได้ทันที (ทั้งหมด) เมื่อมีเงิน และสามารถเตรียมการขายคืนเพื่อนำเงินกลับ มาใช้จ่ายได้อย่างอิสระ โดยไม่มีการเสียประโยชน์ไป ซึ่งต่างจากเงินฝากประจำ อย่างมากครับ จากคุณ : pjuk - [ วันฉัตรมงคล 14:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณครับ ไขข้อกระจ่างได้อีก 1 อย่าง ถ้าอย่างนั้น ผมคงมีความมั่นใจในการใช้ใช้ เจ้า SCBSFF ในการออมเงินดีกว่าการฝากธนาคารแล้วหละครับ และคงหาข้อมูลไปจนกระทั่งแน่ใจว่ามีความรู้พอ จึงค่อยขยับขยายครับ จากคุณ : suprainter - [ วันฉัตรมงคล 15:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^_^ จากคุณ : pjuk - [ วันฉัตรมงคล 16:07:29 ]