ความคิดเห็นที่ 2
เอาเต็มๆมาให้อ่านครับ
++++ PTTARลุ้นเหงื่อตก รายได้ไตรมาสฟื้น
PTTAR-IRPC ลุ้นผลงานไตรมาส 2 กระเตื้อง หวังค่าการกลั่นดีขึ้น-ปิโตรเคมีช่วย"เพิ่มศักดิ์"การันตีอะโรเมติกส์ยังดีพาราไซน์ลีน 1,370 เหรียญต่อตัน เบนซีน 1,250 เหรียญต่อตัน "ไออาร์พีซี"ลั่น Q2 ปรับราคาขาย นายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/51 น่าจะดีขึ้นเนื่องจากค่าการกลั่นน่าปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/51 จากที่ฤดูกาลท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาแล้ว ส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ยังอยู่ในระดับที่ดีจากราคาผลิตภัณฑ์ยังสูง โดยพาราไซน์ลีนอยู่ที่ 1,370เหรียญต่อตัน และเบนซีนราคาอยู่ 1,250 เหรียญต่อตัน จากไตรมาส 1/51 ราคาพาราไซน์ลีนอยู่ที่ 1,200 เหรียญต่อตัน ราคาเบนซีนอยู่ที่ 1,075 เหรียญต่อตัน ส่วนแนวโน้มธุรกิจทั้งปี ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ เนื่องจากราคาน้ำมันมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบเป็นวัตถุดิบหลักของบริษัท ซึ่งราคาน้ำมันสูงส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนสุงตามไปด้วย ซึ่งเมื่อปี 2550 ราคาน้ำมันอยู่ที่ 60-70 เหรียญบริษัทมีต้นทุนอยู่ที่ 560 เหรียญ และในปี 51 ราคาน้ำมันอยู่ที่ 120 เหรียญ บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็น 960 เหรียญโดยต้นทุนเพิ่มขึ้นมาอีก 400 เหรียญ เมื่อเทียบไตรมาส 1/50 บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า เชื่อว่ากำไรสุทธิที่ออกมาไม่ดีไตรมาส 1/51 ของ PTTARยังไม่ bottom ในไตรมาส 2/51 โรงกลั่นอาจดีขึ้นแต่เชื่อว่าอะโรเมติกส์อาจขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาส 1/51 อาจต้องปรับลดกำไรของ PTTAR ลงในเบื้องต้นเห็นว่าในปี 51จะมีกำไรไม่ถึงระดับ 10,000 ล้านบาทแล้ว นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานแผนและพัฒนาธุรกิจบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/51 บริษัทมีการปรับราคาขายสินค้าขึ้น ตามราคาตุนทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นมากจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 120 เหรียญ ส่ วนค่าการกลั่นในช่วงไตรมาส 2/51 แนวโน้มน่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/51 จากฤดูกาลท่องเที่ยวกลับมา ส่งผลให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้น ส่วนราคาปิโตรเคมีราคายังสูงอยู่ ซึ่งเมื่อไตรมาส 1/51 รายได้จากธุรกิจปิโตรเคมีช่วยให้ผลประกอดบการบริษัทออกมาดี ทั้งนี้ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1/51 ลดลงจากไตรมาส 1/50 เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนน้ำมันที่สูงมากถึง 120 เหรียญ หากเทียบกับไตรมาส 1/50 ที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ 60-70เหรียญ และไตรมาส 1/51 บริษัทไม่มีกำไรพิเศษเข้ามาเหมือนอย่างไตรมาส 1/50 ที่บริษัทมีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนในหุ้นบริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือPTTCH ออกไป ส่วนอัตราภาระดอกเบี้ยเงินกู้เป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก เพราะว่าดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าวเป้นดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นอัตราดอกเบี้ยจะถูก หากเทียบกับเงินกู้ระยะยาว บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในบทวิเคราะห์ ว่า ไตรมาส2/51 คาดกำไรสุทธิโดยรวมยังอ่อนตัว เนื่องจากว่าราคาวัตถุดิบแนฟทายังคงมีราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ปรับ ขึ้นได้ไม่มาก ทำให้ spread margin ยังชะลอตัวลงต่อ ยิ่งในครึ่งหลังของปีที่แนวโน้มค่าการกลั่นจะลดลง ยิ่งทำให้บริษัทจะพบกับภาวะยากลำบาก เนื่องจากโรงกลั่นของบริษัทเป็นแบบกลั่นลำดับส่วนธรรมดา (simple refinery)ซึ่งผลิตน้ำมันหนักประเภทน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล กำมะถันสูงออกมามาก ทำให้ค่าการกลั่นปกติจะแย่กว่าโรงกลั่นทั่วไปที่เป็นแบบ Hydro- cracking (มีหน่วยแตกโมเลกุลน้ำมันหนักให้เป็นน้ำมันเบาที่มี margin สูง
จากคุณ :
นายแมงเม่า
- [
14 พ.ค. 51 09:37:19
]
|
|
|