ความคิดเห็นที่ 1 1. มันมีราคาสมควรขายด้วยเหรอครับ? เห็นมีแต่ราคาเริ่มต้นซึ่งเป็น 80% หรือ 50% ของราคาประเมิน 2. ไม่ทราบเหมือนกันครับ เคยเห็นแต่ปลอดจำนองกับขายโดนติดจำนอง 3. ขายไม่ออกครับ ถ้ามีคนมาประมูลบางทีธนาคารเจ้าของคดีจะประมูลสู้เพื่อเก็บทรัพย์สินนั้นไว้ขายเองถ้าเห็นว่าราคาประมูลต่ำเกินไป อันไหนที่ขายหลายๆครั้งนี่คือไม่มีคนมาประมูลเลยนั่นเอง 4. ต้องหาทางเข้าไปดูเอาเองครับ ถ้าเป็นบ้านร้างก็ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นคอนโดอาจต้องดูห้องอื่นในตึกเดียวกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ 5. อย่าซื้อทรัพย์สินที่มีผู้อยู่อาศัย + เตรียมเงินไว้ตกแต่งเยอะหน่อย + อย่าคิดว่าธนาคารจะหมูปล่อยของถูกๆ จากคุณ : Red Aegis - [ 31 พ.ค. 51 00:51:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณคุณ Red Aegis มากเลยครับ ได้รับคำตอบที่ดีมากเลย อยากรบกวนถามอีกว่าเราจะสามารถทราบได้อย่างไรว่าทรัพย์สินมีผู้อยู่อาศัยหรือไม่ครับ โดยส่วนใหญ่แล้วเวลาราคาที่ประมูลได้จริง กับราคาประเมินต่างกันมากหรือไม่ครับ และมีวิธีดูสินทรัพย์ดีๆอย่างไรบ้างครับ จากคุณ : จขกท (spmz) - [ 31 พ.ค. 51 08:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 1 หากเราต้องการซื้อเราต้องประมูลได้ในราคาที่สูงกว่าคนอื่นครับ 2 ไม่แน่ใจ  แต่น่าจะหมายถึงหากทรัพย์สินโดนบังคับดคดีเพราะการจำนองก็คงใช้คำว่าปลอดจำนอง  แต่หากไม่ใช่กรณีโดนยึดเพราะการจำนองอาจใช้คำว่าปลอดภาระผูกพัน... 3 ถ้าไม่มีผู้ใดประมูลเลยก็ต้องเลื่อนการประมูลไปเรื่อยๆ  แต่หากครั้งใดมีผู้ประมูล อย่างมากก็จะไม่เกินครั้งต่อไปอีกหนึ่งครั้ง  เช่น ประมูลครั้งที่ 1 มัผู้ประมูล 1 ราย แต่เจ้าหนี้หรือลูกหนี้คัดค้าน โดยอ้างว่าราคาต่ำเกินไป ก็จะเลื่อนไปได้อีก 1 ครั้ง ครั้งต่อไปใครประมูลสูงสุดคนนั้นจะได้ไป แต่หากไม่มีคนประมูลในราคาที่สูงกว่าครั้งแรก คนที่ประมูลครั้งแรกก็จได้ไป ถือว่าเป็นผู้ประมูลได้...ดังนั้น  หากมีผู้ประมูลเมื่อใด การขายทอดตลาดจะเสร็จสิ้นไม่เกินครั้งต่อไปอย่างแน่นอน  แต่หากไม่มีผู้เสนอราคาก็จะเลื่อนออกไปเรื่อยๆๆๆอาจเป็นสิบๆครั้งก็ได้ 4 ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรเหมือนกัน  ทุกครั้งก็จะดูแต่ภายนอกแล้วสันนิษฐานไว้ก่อนว่าข้างในคงเล๊ะแล้ว...เพราะคงไม่มีใครซ่อมแซมใดๆหากบ้านโดนยึดและไม่มีปัญญาประนอมหนี้  แต่หากเป็นบ้านเช่าอยู่ก็น่าจะดีขึ้นหน่อย เพราะคนเช่าคงปัดกวาดบ้างแหละครับ....ส่วนพวกคอนโดไม่มีความเห็นครับ...เพราะไม่เคยคิดไปยุ่งเกี่ยวกับการประมูลคอนโด. ..ไม่ชอบบ้านไร้ดินน่ะครับ... 5 การซื้อทรัพย์สินจากการประมูลของกรมบังคับคดี(สำหรับผู้ไม่เคยเลยนะ)      5.1 ให้จ้องไว้เลยว่าจะเอาบ้านหลังไหน ถึงเวลาก็ไป นั่งดูก่อนว่ามีผู้ประมูลหรือไม่ ถ้าไม่มีก็เฉยๆไว้ก่อน เค๊าก็จะเลื่อนไปครั้งหน้า เราก็ไปใหม่ หากไม่มีอีกก็เฉยอีก...เลื่อนอีก....หากเป็นเช่นนี้หลายๆครั้งเข้า ต้องเข้าไปสืบค้นรายละเอียดให้มากขึ้นแล้วล่ะครับ...บ้านมีปัญหาใดหรือเปล่า      5.2 รายการไหนที่เราต้องการและพวกประมูลอาชีพเขาเสนอราคาด้วย รายการนั้นแหละครับที่เราควรเข้าไปสู้ราคา...พวกประมูลอาชีพเขาตรวจสอบมาแล้ว อย่าลืมนะครับพวกเขาเชี่ยวชาญและซื้อเพื่อขาย....และเขามีกำหนดราคาในใจแล้วหากเกินเขาก็จะถอยไม่สู้เอามันส์  ดังนั้น เราเสนอราคาแพงกว่าเขาไป 1 ช่อง ถือว่าใช้ได้   ทั้งนี้ ภายใต้ข้อจำกัดของเราด้วยนะครับ       5.3 อย่าเลือกบ้านด้วยข้อพิจารณาว่าราคาถูกเท่านั้น ที่เขาประมูล ของที่ถูกคือของทื่มีปัญหาและมีข้อบกพร่องหรือตำหนิมากๆทั้งนั้นแหละ เราไม่ได้ไปประมูลเพื่อบอกใครว่าบ้านเราราคาถูก  แต่เราจะไปเอาของมีปัญหา ที่ดีที่สุดกลับบ้าน       5.4 อย่าสู้ราคาเพื่อชนะ...เกินที่กำหนดก็หยุด       5.5 หากซื้อเพื่ออยู่ก็ไปลองดูบ้านบริเวณใกล้เคียงว่าเขามีราคาตลาดปัจจุบันเท่าใดกัน  จะได้กำหนดราคาในใจให้สูงที่สุดเท่าที่พอใจ โอกาสได้ก็จะมากขึ้น  โดยลองดูสภาพภายนอกว่าหากต้องซ่อมแซมจะเป็นเท่าใด เอามารวมในราคาสูงสุดของเราด้วย...ถือเป็นราคาบ้าน...       5.6 หากเจ้าหนี้(แบงค์)สู้ราคาด้วย ราคาก็ต้องมากจนกว่าเขาจะพอใจโน่นแหละครับ  ซึ่งแบงค์ก็ไม่อยากประมูลได้เองหรอกครับ เขาจึงไม่โหดมากนัก...อยู่ในราคาที่พอรับกันได้เป็นส่วนใหญ่ จากคุณ : ข้างบูรพา - [ 31 พ.ค. 51 09:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 #2 - ก็ต้องไปดูเอาเองน่ะครับ อย่างที่บอกถ้าเป็นพวกบ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์ก็ไปเคาะๆประตูหรือด้อมๆมองๆเอา ถ้าเป็นคอนโดก็ไปถามนิติบุคคลดูก็ได้ - ราคาที่ผมเคยเจอมามันหลากหลายน่ะครับ ตั้งแต่ครึ่งหนึ่งของราคาประเมินจนไปถึงหลายเท่าของราคาประเมินก็มี สรุปว่าแล้วแต่ปัจจัยหลายๆอย่าง - ส่วนวิธีดูทรัพย์สินดีๆผมตอบไม่ได้ครับ ความรักความชอบมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล จากคุณ : Red Aegis - [ 31 พ.ค. 51 10:25:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทรัพย์สินจากกรมบังคับคดีเป็นทรัพย์ที่เสร็จสิ้นกระบวนการทางศาลแล้วและถูกอายัดนำออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินชำระหนี้ จะมีอะไรประมูลวันไหนบ้างดูรายละเอียดที่กรมบังคับคดีในพื้นที่ได้   -ในครั้งแรกของการประมูลจะเริ่มต้นที่ 80% ของราคาประเมิน ถ้าไม่มีผู้ป ระมูลหรือมีการคัดค้านก็จะมีการประมูลใหม่   -ตั้งแต่ครั้งที่สองจะเริ่มที่ 50% ของราคาประเมิน ราคาจะจบลงที่ผู้ให้ราคาสูงสุด  บางครั้งเราอาจจะได้ของดีราคาถูก ผู้ร่วมประมูลจะต้องวางเงินประกันในวันนั้นก่อนร่วมประมูล ถ้าประมูลได้ต้องชำระเงินสดภายในวันที่เขากำหนด  ถ้าไม่ได้ก็รับเงินคืน จากคุณ : ไม่ได้โม้ - [ 31 พ.ค. 51 15:59:30 ]