ความคิดเห็นที่ 1 ตอนคัดหุ้นคัดด้วยหลักวีไอ  ถ้าได้หุ้นมาด้วยหลัก  five  force  modle  ยิ่งแจ่ม แต่หุ้นแบบนั้นตอนนี้ไม่มีแล้วมั้งครับในตลาดไทย  หรือเป็นหุ้นที่ดี  แต่ไม่ใช่หุ้นที่น่าลงทุน เนื่องจากเป็นหุ้นที่ราคาแพงเกินไปซะแล้ว  ไม่มีมาร์จิ้นออฟเซพตี้ หรือเราไม่สามารถค้นพบก่อนใคร  มองเทรนด์ไม่ออก  หรืออดทนไม่พอ ซื้อหุ้นแบบวีไอ  แต่อยากได้ผลตอบแทนแบบเทคนิค   .................................................................. มีหุ้นที่ซื้อด้วยหลักวีไอแบบลอกเขาเอา  โดนหลอกไปปล่อยเกาะ  ไม่ได้สนใจดูกราฟ   คิดแต่ดีเอสเอ็มช่วยได้ในการลดต้นทุน  แต่ปอดเล็กลง ๆ  มันบีบหัวใจจริง ๆ หลักดีเอสเอ็มคือ  หุ้นคือทรัพย์สินให้เช่า  ตราบใดที่ไม่มีเจ๊งออกไปจากตลาด แต่เมื่อขาย  ซื้อคืน  ได้เพิ่มหุ้น  ได้เงินแฝง  แต่ราคาลดลง ๆ   มูลค่าพอร์ตจะลดลงเร็ว  เงินแฝงได้คืนมาน้อยเกินไป  ถ้าขายช้าหุ้นตกพรวด ๆ ระหว่างการกล้าขาย  กับการคัทลอสมันใกล้เคียงกันจริง ๆ .................................................................. ซื้อเมื่อคิดว่าใช่  แต่ถ้าไม่ใช่ต้องขาย ถ้าชอร์ตแพ้ต้องยอมซื้อคืนแพง แบบนี้จะใช้ได้กับดีเอสเอ็มมั้ยครับ ยังไม่เคยลอง  ช่วงนี้มันน่าจะโอเคกับตลาดแบบนี้ พี่หมากเขียวใช้สูตร  ขายยี่สิบ % เมื่อหลุดเส้น 10- 20  วันนี่แหละจำไม่ได้แล้ว ดีเอสเอ็มขายทุกสองช่อง  แบบนี้เวลานี้มันช้าเกินไปหรือไม่ ลองดูกราฟกลุ่มแบ็งค์นะครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 13:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 scb. จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 13:21:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 2.kbank จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 13:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 3.bbl จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 13:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเอาเส้น200  วันเป็นจุดขาย  ควรจะขายไม่ต่ำกว่า  20 %  เป็นไม้แรก และขายเรื่อย ๆ  จนถึงเส้นแนวรับจึงหยุดขาย  และซื้อคืนเมื่อเกิดแท่งเขียวตัน ๆ  ดีมั้ยครับ .............................................................................. ที่จริงเมื่อกราฟมันออกมาแล้วเราพูดได้ในตอนนี้ก้อจริงอยู่ แต่ถ้าเรากล้าขาย  หรือชอร์ตไปบางส่วน  หากผิดทางหรือชอร์ตแพ้  ยังรอได้ เหมือนที่หมากเขียวบอกว่าหลุดเส้น  10  วัน  ขาย  20%  ถ้าแพ้ยังเหลือหุ้นอยู่  80 %  ดีมั้ยครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 13:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 6 NNCL  จารย์ปลาบอกกราฟเสียขบวนไปแล้ว  แต่พื้นฐานยังดีอยู่ บางทีกราฟมันอาจจะบอกอะไรล่วงหน้าก้อได้ พื้นฐานเราจะรู้ก้อทีหลังเจ้าของหรือเจ้ามือ  ดีเอสเอ็มบอกว่า กอดหุ้นวิ่ง  ทิ้งหุ้นแดง  ที่จริงเมื่อวันก่อนโดนทิ้งแรง ๆ  ก้อไม่ควรรับ ทั้งเทคนิคและดีเอสเอ็ม  แต่บัญชีบอกว่า  เฮ้ย...............รับได้แล้วเงินแฝงเพียบเรยย์ ความโลภไม่เคยปรานีใคร  รับมาซะแยะแถมซื้อเพิ่มอีกเมื่อวาน จุดกลับตัวมันควรจะอยู่เท่าไหร่ครับ  นิวโลว์ในรอบสองปี  ขี้เหร่จริง ๆ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 13:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โชคดีที่มันเด้งเมื่อวาน  ไม่นิวโลว์อีก  ถ้ากลับตัวควรเป็นยืนได้ที่  1.8  หรือปล่าวครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 13:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามที่สังเกตุง่าย  ถ้ากราฟชัน ๆ  แล้วโดนทิ้งด้วยแท่งแดงยาว ๆ  หลุดทุกเส้น หน้าตาเหมือนปลายดาบที่ทิ่มแทงคนซื้อ  ขายยังไงก้อได้ซื้อคืน  ถึงจะขายช้าไปหน่อยตอนหลุดเส้น 200   กลุ่มพลังงาน.......โรงกลั่น  กราฟจะบอกก่อน ข่าวพื้นฐานรายย่อยอย่างเรารู้ทีหลัง  ลดค่าการกลั่น  กราฟหลุดเส้น  200  วันครั้งแรกตอนปีใหม่ พยายามปีนขึ้นไป  แต่ก้อโดนกดลงมาอีกสามครั้งในรอบปีนี้ ถ้าดีเอสเอ็มอยู่ควรเล่นอย่างไรดี  ยึดกราฟเป็นหลักหรือขายแบบดีเอสเอ็ม จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 13:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อีกตัวสุดฮอต  หุ้นอาตี๋  ขออภัยที่อ้างถึงแต่พี่ท่านเชียร์สุด ๆ  พอ ๆ  กับพี่นราเพทเชียร์ผงซักฟอก กราฟขี้เหร่  ราคาไอพีโอ 18  บาท  เมื่อปี 49  ตอนนี้เทียบได้  12.50  บาท ถ้าเราเชื่อในกราฟ  และเชื่อในดีเอสเอ็มด้วย  ไปพร้อม ๆ  กันจะดีมั้ยครับ พื้นฐานทางด้านวีไอ  ยิ่งค่าน้ำมันแพงต้นทุนอะไรเมติกส์ยิ่งแพง  ส่วนของโรงกลั่นถูกบีบด้วยรัฐบาล ดังนั้น......................จึงเป็นประเด็นของกระทู้นี้  คือ  ถ้าเราเชื่อกราฟด้วย  และเชื่อดีเอสเอ็มด้วย  จะดีกว่ามั้ยครับ อาจารย์เด่นศรีบอกไม่ให้เชื่อในกราฟ  แต่ที่ผ่าน ๆมา  เราไม่ได้คุยกับอาจารย์ว่า ตลาดหุ้นในภาวะอย่างนี้  เราควรรับมืออย่างไรดี  จึงจะได้ประโยชน์สูงสุดจากดีเอสเอ็ม ในภาวะกดดัน  บีบคั้นหัวใจ  ข่าวร้ายกดดันเต็มตลาด  เหมือนโดนบอมพ์ด้วยปืนใหญ่ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 14:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ฝรั่งขายทุกวันทั้งอาทิตย์  มีรายย่อยช่วยซื้อ  กองทุนช่วยต้าน แต่เมื่อวานพี่กองทุนช่วยซ้ำ  รายย่อยตายหยังเขียด จารย์ปลาครับ  มีจุดใครที่เราควรจะขายเผ่นพันลี้  หรือเข้าซื้อก่อนใคร ดีเอสเอ็มให้ขายหุ้นแดง  แต่ทำไมผมยังมีหุ้นแดงอยู่บานเรยย์ ถ้าอย่างนั้นก้อแสดงว่าผมไม่เชื่อกราฟ  และไม่เชื่อดีเอสเอ็มใช่มั้ยครับ ..................................................................... กลุ่มพลังงานที่ยังพอมีลุ้นคือพี่เทพ  กับ pttch  หรือปล่าวครับ แต่รูปกราฟ  พี่เทพยอดสองร้อยยี่สิบเหมือนปลายดาบ  เส้นสีม่วงเอาอยู่  คงไม่หลุดเส้น 200  ง่าย ๆ  หรือปล่าวครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 14:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กลุ่มอาหาร  ที่แข็งกว่าตลาด  นิวไฮเรื่อย ๆ   กราฟหน้าตาแบบนี้หรือปล่าวที่น่าเล่นแบบดีเอสเอ็ม จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 14:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 กลุ่มพลังงานทดแทน  ที่แข็งกว่าตลาด  ที่ดีเอสเอ็มไม่ค่อยได้เงินแฝง แต่ดูดีมีอนาคต  ทางเทคนิคไม่รู้ว่าเมื่อไรจึงจะมีสัญญาณซื้อ  ต้องรอนานมั้ยครับ กราฟหน้าตาแบบลานนา  และเคเอสแอล  เหมือนรออะไรอยู่  ทำไมคิดนานจัง   เหมือนม๊อบกับรัฐบาล  ยันกันไว้ตั้งนานไม่ลงมือทำรัยซักที  อิอิ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 14:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าดีเอสเอ็มแต่ไม่มั่นคงในหลักการ  ยังไงก้อไปไม่รอด.........ผมเอง  เอิ๊ก ๆ ถึงจุดขายต้องขาย  ถึงจุดซื้อต้องซื้อ  ดีเอสเอ็มกับเทคนิค  ไม่น่าจะแตกต่างกัน เพียงแต่ทามมิ่ง  การลงมือ  เทคนิคน่าจะเร็วกว่า  ดีเอสเอ็มช้าแต่ชัวร์ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 14:54:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มีหุ้นปั่นมาถามจารย์ปลาครับ น้องตั๊กโดนทิ้งลงเหว  หน้าผาสูงชันคงปีนไปที่เดิมไม่ได้  แต่น่าจะลุ้นแบบที่เคยเกิดขึ้นกับอาเปียว คือมีเด้งก่อนทิ้งยาว  นักเทคนิคเขามีจุดสังเกตุตรงไหน  ความลับเกินไปมั้ยครับ ถามกันโต้ง ๆ  แบบนี้แระ  ดีเอสเอ็มรู้ไว้  เผื่อบางคนแบบผม ไม่หลงกลลวงเขาง่าย ๆ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หวังว่าเซทเราคงไม่โดนทิ้งแบบน้องตั๊ก  แต่มีหุ้นตัวนึงที่ผมโดนทิ้งแบบน้องตั๊ก  อยากเล่าให้ฟัง ซื้อแบบวีไอ  ขายแบบดีเอสเอ็มอยู่พักนึง  จนราคาต่ำกว่าทุนทนไม่ไหวขายขาดทุน โดยปล่อยให้กำไรกลายเป็นขาดทุน  ซื้อ 8  บาท  9  บาท  ไม่ขาย ดีเอสเอ็มอยู่พักนึง  ทนไม่ไหว  ขายทิ้งช่วง  6 - 7 บาท  ถ้าเชื่อกราฟ  คงทำให้ทิ้งเร็วขึ้น ตอนซื้ออะไรก้อดีไปหมด  ปีนี้เพิ่มกำลังการผลิตอีก 70 %  ถูกจัดอันดับเป็นหุ้นโตเร็วที่สุดในเอเชีย  หนึ่งในห้าของหุ้นไทย ที่จริงดีเอสเอ็มไม่ให้พูดถึงกำไรขาดทุน  แต่ผมมันลูกผสมเป็นเป็ดก๊าบ ๆ โชคดีที่ทิ้งไปตอนยังไม่สายนัก  ถ้าทนทำดีเอสเอ็มป่านนี้คงทุกข์น่าดู หน้าตาเหมือนพี่ต้ายังไงก้อม่ายรู้ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เส้น  200  วัน  น่าจะเป็นเส้นศักดิ์สิทธิ์  ที่ชาวดีเอสเอ็มควรมีไว้หรือปล่าวครับ หุ้นทีมพรีซิชั่น  ถ้าซื้อคืนตอนนี้  ผมคงได้เงินแฝงหลายร้อย %  แต่เราหลอกตัวเองหรือปล่าว รอวันเธอกลับตัวกลับใจดีมั้ย  ทิ้งกันไปก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกิน   สามทหารเสือแห่งเว็บวีไอ  เมื่อปีที่แล้ว  ขายทิ้งไปมีกำไรนิดหน่อย  ไม่คิดว่าจะเห็นราคาต่ำแบบวันนี้ ยูอีซี  เคยเห็นจารย์ปลาเล่นเด้งช่วง  7  บาท  ไปเก้าบาทในสามวัน เส้น  200  วันยังทำงานได้ผลเช่นเคย  แต่เส้น  25  วันนี่น่าจะเหมาะสมกว่ามั้ยครับ หรือว่าเส้น  10  วันดีกว่า  ดีเอสเอ็มเล่นตามกราฟ  เพื่อน ๆ  ชาวคลับคิดว่างัยครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่น่าเชื่อว่าเส้น  200  ใช้ได้ดีแม้แต่กับหุ้นปั่น  ตอนนี้แข็งกว่าตลาด ถ้าเล่นดีเอสเอ็มก้อสวิงดี  แม้ว่าผมจะเคยโดนไปหลายรอบไม่ใช่น้อย แต่ยังติดใจลีลาเธออยู่  อิอิ  จารย์ปลาเคยเล่นมั้ยครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กลุ่มอสังหาฯ  เจอไปสามเขา  สามเหว  แบบตลาดหุ้นดอทคอม   วันศุกร์แอลพีเอ็น  มีเขียว  แต่เอพีโดนกดลงไปเรื่อย บ้านใหญ่เห็นเลข 6  นำหน้า  ไอทีดีก้อเช่นกัน บ้านเล็กกำลังถูกทดสอบที่แนวรับสองบาท   อาทิตย์หน้าจะได้ซื้อคืนกันมั้ยครับ  ไปรอที่เส้นสิบวันผ่านขึ้นมาค่อยซื้อกว่ามั้ยครับ หรือว่าเราควรจะซื้อก่อนเส้นแนวรับนิดหน่อย  กับที่แนวรับพอดี  อย่างไหนจะดีกว่ากัน จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แอลพีเอ็นรอคอนเฟิร์มอีกทีวันจันทร์  แต่ถ้าจะไปที่ดอยเดิม   เซทต้องไป  880  มันมีทางเป็นไปได้มั้ยครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หน้าตาคล้าย ๆ  กันเพราะอยู่กลุ่มเดียวกัน  พร็อพเพอร์ตี้ ตัดสินใจไม่ถูกซื้อตัวไหนดี  หน้าตาเหมือน ๆ  กัน  ลีลาเดียวกัน  ฮี่ ๆ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กลุ่มหลักทรัพย์ก้อดูไม่จืด  ตลาดแบบนี้ปอดเล็กลงเรื่อย ๆ  เห็นแล้วเพลียใจ   เมื่อรัยจะกลับตัวกลับใจซักทีน๊า......................หรือว่ามันตกมานานขนาดนี้เขาจะกดจนเราทนไม่ไหวขายทิ้งไปหมด เมื่อเราอยากขาย  แสดงว่าคนอื่นก้อต้องอยากขาย  นั่นเป็นสัญญาณซื้อหรือปล่าวครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เอสเอสพีมีนิวโลว์  หุ้นหลายตัวนิวโลว์  เป็นเวลาพักผ่อนเผ่นพันลี้หรือไม่ ไม่ว่าการเทรดใด ๆ  ก้อเล่นยากส์  หยุดออกมายืนดูก่อนดีกว่ามั้ย จานปลาทิ้งพอร์ตตอน  810  ไม่บอกกันมั่งเรยย์ มองภาพเล็ก  แล้วมองใหญ่  แล้วกลับมามองเล็ก  จำได้แค่นี้ แต่ปฏิบัติไม่ได้  ฮือ ๆ หรือจะไปเลี้ยงไก่อยู่นากับ  จีเอฟพีที  แต่ก้อไม่ถูกละเว้น จารย์ปลาส่งซิกให้ตั้งแต่  12 - 13  บาท  แต่ก้อมิได้นำพา..........เอิ๊ก ๆ ภูเขาลูกใหญ่ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน  ข่าวมาล่าบอกว่าลูกไก่ลดราคา  อาหารลูกเจี๊ยบแพง จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 15:47:39 ]

ความคิดเห็นที่ 23 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6694081/I6694081.html กระทู้นี้ของพี่แก๊นท์  กราฟสวยดี  แต่จ่ายหลายตังค์  เลยใช้ของฟรีดีกว่าตามงบ   เล่นหุ้นมาสองปี  มีหุ้นซื้อคืนหลายสิบ % ได้เกือบหมดเลย  มันบ่งบอกอะไรน้อ สเต๊ก  ซีฟโก้  ซีเค  บีร็อค  ทีม  เคจีไอ  เอเอสพี นวนคร ยูอีซี  เอสเอ็นซี  ยูเอมเอส  เอ๊กโก้  บางตัวเป็นหุ้นมันนี่เกมส์แต่ก้อไม่ใช่หุ้นปั่นสุด ๆ มียกเว้นพี่เทพ  พี่ปอ  กลุ่มพลังงาน  กับแบ๊งค์บางตัว  แล้วก้อทีทีเอ มีบีชิพเท่านั้นที่ยังไม่ต่ำกว่าสองปีก่อน  นอกนั้นเรียบร้อย  อ้อมียกเว้นเหล็กกับกลุ่มพลังงานทดแทน โรงพยาบาลที่ว่าแน่ ๆ  ทีเอนเอช  เอ็นทีวี  ก้อเรียบโร้ยยยยยยยยยยยยย เหมือนพี่ร็อคเคยบอกไว้  เซทไทยอยู่ได้ด้วยบีชิพสิบตัว  ถ้าไม่มีบีชิพค้ำไว้  ต่ำเจ็ดร้อยไปแล้วแหงม เราจึงควรต้องเรียนรู้และยึดกราฟไปด้วย  เห็นด้วยหรือไม่ครับชาวคลับดีเอสเอ็ม ............................................................. บางทีการเทรดไม่จริงจังในหลักการซักอย่างเหมือนไม้หลักปักเลน   ทำความเสียหายได้แยะเหมือนกัน  ทั้งดีเอสเอ็มและกราฟ   ส่วนวีไอ  งบการเงินพอดูเป็นบ้าง  แต่ใคร ๆ  ก้อดูเป็นไม่มีข้อได้เปรียบ ข้อมูลลึก ๆ  เราเข้าไปถึงยากส์เกิน  อย่างเอสเอ็นซี  ยูอีซี  ทีมพรีซิชั่น ผลออกมาแล้วเราถึงรู้  วีไอก้อต้องวิเคราะห์ให้แม่น  มองเทรนด์ให้ออก  ตีแตกให้ได้ บางตัวข้อมูลเชิงลึกเป็นภาษาปะกิต  เราก้อไม่กระดิกหู  เสียเปรียบเห็น ๆ  อย่าง  พีทีแอล จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 17:42:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ตัวนี้เล่นตอนปลายปี  ดีเอสเอ็มช่วงหกบาท  แต่ซับไพรม์ต้นปี ไม่ขายตามระบบบดีเอสเอ็มครับ  ซื้อสวน  พอซื้อมาก ๆ  ทนไม่ไหวขายทิ้งที่แนวรับ  5.5 ตอนเด้งคืนไม่เก็บกลับคืน  หันไปหาตัวใหม่เป็นแมงเม่าไปเรยย์ เส้น 200  วันทำงานอีกแล้วหลุดหกบาท  ต้องคัทสถานเดียว แล้วซื้อคืนที่แนวรับ  5.5  ไม่ใช่ขายที่แนวรับ  ซื้อที่แนวต้าน  เอิ๊ก ๆ การซื้อถ้าให้ชัวร์คือแท่งเขียวแท่งแรกที่  5.8  ก้อไม่เสียหายอะไร แต่อารมณ์อยากได้มาก ๆ  เลยคัท  มันช้าเกินไปที่จะคัทแล้ว ประสบการณ์นี้คือ  ชอร์ตแพ้ต้องซื้อคืน  ไม่เปลี่ยนตัวเล่น รอบนี้เส้น  200  วันที่หลุดลงมาตอน  6.95  แท่งแดงยาว ๆ  ตัน ๆ  ขายไม้หนัก ๆ มารอรับที่  6.50  ก้อไม่สายเกินไป  ได้เงินแฝงตามระบบดีเอสเอ็ม ต้องเล่นแบบนี้หรือปล่าวครับ  จารย์ปลา  หรือเพื่อน ๆ  ว่างัยครับ ตามที่เคยบอกครับ  กราฟออกมาแล้วถึงพูดได้  แต่ถ้ามีหลักยึดมันคงจะดีมิใช่น้อย ถ้ากลัวไม่เชื่อกราฟ  คิดช้าไปวันนึง  ก้อน่าจะยังพอโอเคหรือปล่าว ไปแระ  วันนี้สี่ทุ่มมาดูบอลใหม่ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 17:55:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุยเรื่องหุ้นมากแล้ว  สรุปประเด็นก้อคือเล่นดีเอสเอ็มตามกราฟจะดีมั้ยครับ ผิดหลักการของท่านเจ้าสำนักก้อจริงอยู่  แต่ตามที่ดูมามันก้อน่าเชื่อถือมากพอดู จำได้มีข้อความนึงของท่านเจ้าสำนักกล่าวไว้คือ  กิจการไม่ดีต้องลดการลงทุน  หรือขายทิ้งไป หุ้นใดที่ราคาต่ำลงมาถึงครึงนึง  ต้องขายทิ้งออกไป หุ้นตัวใดที่กิจการดีอยู่  ราคายังอยู่ในขาขึ้น  ต้องคอยบำรุงรักษาไว้  กอดหุ้นวิ่ง  ทิ้งหุ้นแดง หุ้นแย่ ๆ  การลงทุนที่ผลประกอบการไม่ดี  ต้องทะยอยลดการถือครอง  หากกิจการเริ่มฟื้นตัว  จึงเข้าไปลงทุนใหม่ ตอนนี้กิจการต่าง ๆ  หุ้นหลายตัวในเซทตกลงมาสี่สิบ %  แล้วก้อมี   จุดสำคัญที่ดีเอสเอ็มต้องมีคือกระแสเงินสด  ที่ขายลงมาเรื่อย ๆ  ไม่ใช่ซื้อสวนจดหมดเงิน แบบตัวอย่างพีทีแอลข้างบน  ยิ่งซื้อยิ่งหนัก  ทนไม่ไหวขายทิ้งไป มีบัญชีไว้คอยตรวจสอบสถานะ  หุ้นเริ่มกลับตัว  ดีเอสเอ็มจะสามารถซื้อคืนได้ "จุดกลับตัว"  นี่แหละสำคัญ  มันมาถึงหรือยัง  เราจะรู้ได้ยังไง   ถ้าดูตามกราฟจะดีมั้ย  หรือว่าเห็นเขียวก้อซื้อตามหลักการไปเลยไม่ต้องคิดมาก ................................................................. ถ้าในคลับคนที่ไม่สนกราฟคงเป็นพี่วสันต์กับพี่หล่อและพี่ดอกไม้ ทำตามหลักการอย่างเคร่งครัด  ซึ่งจริง ๆ  มันก้อดี  แต่ก้อยังมีปัญหาอยู่บ้าง คือหุ้นขึ้นแต่หุ้นเหลือน้อย  อย่างที่เราพากันทำกับเรือดำน้ำ   ที่สำคัญคนที่ยังมองกำไร-ขาดทุนอยู่มากแบบผม  แต่ก้อยังชอบดีเอสเอ็ม พยายามหาจุดที่ลงตัว  แต่ก้อยังไม่พบซักที  คงต้องรออาจารย์ปลามาเฉลยครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 22:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 บอลใกล้เตะแล้ว  ตะกี้ไปเจอกระทู้นึงกับสลาเวน  บิลิช  โคชที่เท่ห์ที่สุดในบอลยูโรหนนี้ เป็นมือกีตาร์  เล่นแนวฮาร์ดร็อคสาด้วย  ฟังมันส์ ๆ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S6701917/S6701917.html เมื่อคืนเชียร์อิตาลีคู่แรก  เกือบพลาดแล้ว  บุปฟ่อน ซูเปอร์เซฟ   ส่วนคู่สอง  อัศวินสีส้ม  อะไรจะเทพฟานนั้น  สองนัดเจ็ดประตู ชักหนาว ๆ  ว่า  มาพีครอบแรก ๆ  แล้วจะยืนระยะไม่อยู่  เชียร์มายี่สิบปีแล้ว  ปีนี้จะสมหวังมั้ยน้อ คืนนี้คู่แรกเชียร์สเปนครับ  ไปแระ จากคุณ : จอนฟอน - [ 14 มิ.ย. 51 22:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขออนุญาตนะครับ ผมก็อ่านกราฟอยู่(แต่ไม่เก่ง) พบความคล้ายกันอยู่บ้าง ใช้กราฟแต่ไม่กล้าคัต ก็เหมือน DSM ไม่กล้าขาย การเล่นกราฟให้ได้ผลผมว่า น่าจะเหมือน DSM คือ เราเล่นกันหลายรอบ เล่นขึ้นเป็น เล่นลงเป็น เหมือน DSM คงไม่มีใครเล่นดักซื้อหุ้นขึ้น แล้วได้ทุกรอบมั้งครับ(ยกเว้น 'จารย์ปลา) ถ้าหุ้นหักหัวลง ก็ต้องเล่นลงเป็น เหมือน DSM แล้วค่อยเอาคืนรอบถัดไป ในหุ้นตัวเดิม สาเหตุที่คุณเด่นศรีซื้อคืนเมื่อ หุ้นหักหัวขึ้น 4-5 ช่อง น่าจะเป็นว่า ถ้าดูในกราฟจะเห็นแท่งเทียนแทงเขียวขึ้นเป็นสัญญาณกลับตัว  DSM ก็จะซื้อกลับรวดเดียว ถ้ารอการฟก็ต้องรอแท่งถัดไป ให้สัญญาณคอร์นเฟิร์ม (ถ้าไม่เห็นสัญญาณคอร์นเฟิร์ม พวกกราฟก็จะไม่ค่อยกล้าเข้าซื้อครับ) ซึ่งจะช้ากว่า DSM ที่ตัดสินใจด้วยราคาครับ สัดส่วนการแบ่งไม้และความถี่การขาย คงต้องปรับใหม่ครับ ไอเดียแบบนี้ที่เวบของครูฒ่าก็ใช้ครับ ครูเฒ่าแบ่งเงินทั้งหมดเป็น 9 ส่วนย่อย 3 ส่วนใหญ่ ทะยอยเข้าซื้อ ทะยอยขายตามเส้นค่าเฉลี่ย แต่ขาลงเค้าจะรอจนสุดเป็นเหวสามแล้วค่อยเข้า คงเหมือนที่คุณเด่นศรีไม่รีบซื้อคืน ปล่อยขายจนหมดแล้วรอซื้อตอนหักหัวขึ้นน่ะครับ น่าจะตรงกับก้นเหว 1,2,3 ของครูเฒ่านะครับ แต่วิชากราฟของครูเฒ่าก็ต้องพลิกแพลงอ่านตามสถานะการณ์ตลอดเวลา ต่างกับ DSM ที่พลิกไปตามราคาตลอดเวลาอยู่แล้ว สิ่งต้องระวังคืออย่าซื้อแล้วหุ้นลง เพราะจะทำให้ก้อนเงินมีขนาดเล็กลง (ยอมให้ครั้งเดียวคือตอนขายลงครั้งแรก หลังจากนั้นจะไม่รีบซื้อคืน เพื่อรักษาขนาดของก้อนเงินไว้)   สรุป ผมคิดว่า อ่านกราฟ หรือไม่อ่าน ไม่สำคัญเท่ากลยุทธ์ครับ กลยุทธ์คือ หุ้นขึ้นจะทำอย่างไร หุ้นลงจะทำอย่างไร แบ่งเงินเป็นส่วนๆ ทะยอยเข้าออก แลกเปลี่ยนกันเฉยๆนะครับ เวบครูเฒ่าครับ http://www.taladhoon.com/taladhoon/smfboard/index.php?PHPSESSID=282090f025911f2c1ee30b7a8cf22d11&board=1.0 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 51 23:24:35 จากคุณ : tung+ (ksarot) - [ 14 มิ.ย. 51 23:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีคุณจอน กับคุณ tung+ ครับ เมื่อวานเข้ามานิดนึง ไม่ทันได้ทัก ก็ต้องไปทำธุระยาว มาวันนี้ได้อ่านเยอะเลย คืนวันศุกร์ คู่โรมาเนียกับอิตาลี ยกให้ประตูเป็นพระเอกเลยนะครับ รับดีมั่ก ๆ เกมตื่นเต้นตลอดจริง ๆ อัศวินสีม่วง เอ้ย สีส้ม ได้ดูแค่ครึ่งแรกหน่อยเดียว เสียดายจังยิงตั้งเยอะ กลัวเป็นแบบคุณจอนว่าเหมือนกันครับ ขอให้เล่นดีรอบหลัง ๆ ด้วย เมื่อคืนได้ดูคู่แรกเป็นช่วง ๆ ลูกสองที่บีญายิงฝีมือเลยครับ เกือบจะหมดเวลาแล้ว ฉกปุ๊บยิงฉีกมุมกว้างไปเลย ส่วนคู่สองมะได้ดู หลับอุตุแย้ว จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 10:26:56 A:125.27.163.108 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีครับ  เมื่อคืนเทพนิยายกลายเป็นตำนานไปแล้ว   กรีซตกรอบโดยที่ยิงประตูใครยังไม่ได้แม้จะเหลืออีก  1  นัด ส่วนสเปนตามเชียร์อยู่  ถ้าเจอกับอัศวินสีส้มคงจะมันส์น่าดู วันนี้ตุรกีกับเช็ค  คงได้ดูแค่คู่แรก   .................................................... สวัสดีครับพี่ดอกไม้  และพี่ตั๋ง  ที่จริงตั้งกระทู้นี้ก้อคิดอยู่นานว่ามันจะดีหรือปล่าว แต่มันเหมือนได้ปล่อยสิ่งที่ค้างคาใจมานานแระ  รอฟังเพื่อน ๆ ชาวคลับฯด้วยครับ กลยุทธ์การซื้อขาย  หุ้นขึ้นหุ้นลงทำยังไง  เห็นด้วยครับ  แต่ผมยังหากลยุทธ์ไม่เจอนี่แหละครับพี่  มันเลยสับสน สองปีผ่านไป  ความคิดยังไม่ตกผลึก  คลับเราเป็นที่รู้จักแพร่หลายมาก้อหลายปี คนดัง ๆ  เก่า ๆ  ในสินธร  ทุกคนก้อน่าจะรู้จัก  แล้วก้อห่างหายกันไป แสดงว่าเขาต้องมีกลยุทธ์ที่ดีกว่าที่เราทำ ๆ  กันอยู่นี้แน่ ๆ  เลย มันเป็นสูตรสำเร็จของใครของเราละมั้งครับ  คงไม่เปิดเผยกันง่าย ๆ เด๋วเอาบัญชีเรือดำน้ำ  กับกราฟมาเทียบให้ดูครับ  ว่ากลยุทธ์ที่ดีควรเป็นอย่างไร อยากให้วิจารณ์กันแยะ ๆ  เพื่อพัฒนาปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดีขึ้นในโอกาสต่อไป พี่  mudley  group  เคยเทรดดีเอสเอ็มด้วยแหละ  อยากไปเชิญมาอีกซักท่าน จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 11:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมมองว่าบางสิ่งที่คุณจอนอยากได้ ในระยะเวลาอันสั้น มันจะขัดกับแนวคิดพื้นฐาน สุดท้ายแม้เป้าหมายในระยะยาวอาจจะใกล้เคียงกัน แต่ในระยะสั้น มันทำให้เราทำใจลำบาก ........................................................................................... ลองดูสักจุดนึง อย่างกรณีหุ้นขึ้นไปสูง ๆ คุณจอนอยากมีหุ้นติดมือขึ้นไปตลอด คือที่ราคาสูงอยากมีหุ้นขาย ไม่อยากเสียหุ้นไปในระหว่างทาง คือไปขายที่ราคาต่ำ ๆ คราวนี้จะทำอย่างไรให้ที่ราคาสูงมีหุ้นในมือ คุณจอนมองว่าถ้าขายตามแผน เราจะเสียหุ้นไประหว่างทาง แต่ถ้าใช้เทคนิคมาช่วย ให้เราประมาณได้ว่าตรงไหนเป็นยอด ก็จะช่วยให้เราขายได้ที่ราคาสูง ขณะที่ในจุดราคาต่ำ ถ้าเราดูกราฟว่ามันยังขึ้นอยู่ เราก็จะไม่ขาย ในจุดที่พูดมานี้ผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจคุณจอนถูกไหม จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 12:18:48 A:125.27.164.186 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ลองขึ้นไปดูกราฟ PTL ข้างบน ถ้าเป็นไปได้ สมมติคุณจอนซื้อข้างล่างที่สัก 6 บาท คุณจอนคงอยากได้ขายที่สัก 7.40 ถ้ามีในมือสัก 10 ไม้ ก็ประมาณว่าอยากทยอยขายแถว 7.40 ทั้ง 10 ไม้ ราคาไล่ ๆ กันลงมา แต่ตรงจุด 6.70 , 6.95 ซึ่งถ้าเล่น DSM ปกติ แถวนั้นน่าจะมีการขายไปบางส่วน แต่คุณจอนคงไม่อยากขาย ถ้าดูกราฟมาช่วยได้ ว่าที่ 6.70, 6.95 มันแค่ปรับตัว แล้วยังขึ้นต่อ ก็น่าจะดีกว่า ถ้าถามผม ผมก็คงอยากขายแบบคุณจอน อยากขายที่ 7.40 เหมือนกัน สรุปว่าเอาเท่าที่พูด ผมเข้าใจตรงกับคุณจอนบ้างหรือเปล่า จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 12:24:37 A:125.27.164.186 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หรือถ้าดู PTL ช่วงก่อนหน้า ภูเขาสามลูกเล็ก ๆ ถ้าเราขายที่ยอดได้ทั้งสามลูก แถว 6.49 แล้วมาซื้อคืนที่ฐาน 5.58 ได้ทั้งสามครั้ง ก็เยี่ยมไปเรยย เราอยากมีตัวช่วยที่บอกเราได้แบบนี้ Technical หรือกราฟ เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่คุณจอนพูดถึง จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 12:36:31 A:125.27.164.186 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เวลาพูดถึงกราฟ หรือเทคนิค ก่อนจะพูดต่อไปว่าเข้ามาช่วย DSM ได้ดีไหม ผมอยากถามก่อนว่า เราพูดถึงความสามารถในระดับของการดูกราฟได้แม่นแค่ไหน เพราะถ้าแม่น ก็จะเป็นอีกเรื่องนึง แต่ถ้าไม่แม่น ตอนที่ PTL ไปที่ 6.72 ตอนเดือนกุมภาฯ เราจะอยู่ได้อย่างไรว่า ตรงนั้นไม่ใช่ยอด เหมือนยอดสามลูกที่ผ่านมาในปีก่อนหน้า เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะเป็นยอดเขาลูกใหม่ที่สูงกว่าเดิม ถ้าเกิดเราไม่ขายที่ 6.72 แล้วมันปรับตัวลงมาลักษณะเป็นภูเขาลูกที่สี่ เหมือนสามลูกแรก เราก็จะเสียโอกาส คราวนี้ถ้าเราไม่แม่น เราจะขายหรือไม่ขาย แล้ว DSM เบสิคทำอย่างไรตรงจุดนี้ ต้องย้อนไปถามข้างบนอีกทีว่า เราจะพูดถึงแม่นหรือไม่แม่น เพราะถ้าไม่แม่น ผลมันก็ไม่ต่างกัน ขณะที่ DSM เบสิค เราจะสามารถปรับแผนของให้รองรับลักษณะนี้ได้ไหม จุดที่ภูเขาลูกที่ 4 จะกลายเป็นเขาสูงกว่าเดิม หรือเป็นเขาสูงเท่าเดิม DSM เบสิค รองรับได้แค่ไหน จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 12:45:11 A:125.27.164.186 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ลองดูกราฟ PTL อีกทีนึง เอาแบบ Technical ล้วน ๆ ตรงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่ราคา 6.72 แท่งแดง แท่งที่สองที่ตัดลงมา อย่าเพิ่งดูกราฟในอนาคต ดูแค่แท่งแดงกับกราฟในอดีต ลองตอบว่าจะขายไหม ถ้าขาย ไม่ว่าจะขายเท่าไหร่ อันนี้ก็ไม่ต่างกับ DSM ปกติ ถ้าไม่ขาย เพราะมีเหตุผลทางเทคนิคว่าจะขึ้นต่อ และตัดสินใจไม่ขายเลยสักไม้ แสดงว่าน่าเข้ากรอบของการแม่น ถ้าเป็นแบบนี้ไปดูกราฟหลาย ๆ ตัว ถ้าแม่นส่วนใหญ่ เราต้องหันไปคุยกันกรณีของการแม่นแล้ว ผมอยากจะพูดตรงจุดนี้ว่า ถ้าเราเชี่ยว Technic ก็ลืม DSM ไปได้เลย แต่ถ้าเราใช้เทคนิค แล้วขาย โดยอาจให้เหตุผลว่าขายบางส่วนตามเทคนิค ตรงจุดนี้ 1. คุณจอนมีการขายแล้ว จะเสียหุ้นไปส่วนนึง แล้วจะไปเสียที่ 6.95 อีก ไม่สามารถรักษาหุ้นไปขายข้างบนได้ 2. ถ้ามีการทยอยขายบางส่วนโดยใช้เหตุผลเทคนิค ตรงนี้เราทุกคนที่ทำ DSM ก็ทยอยขายเหมือนกัน จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 12:53:29 A:125.27.164.186 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 35 โดยส่วนตัวผมเอง ผมมองว่า ระดับอาจารย์ปลานิลจิ๋ว พี่แมลงเม่าทนไฟ พี่กึ่งสำเร็จรูป หรือแม้แต่เพื่อน ๆ ที่สนใจเทคนิคแบบคุณ Eiji คุณ Tung+ ระดับนี้จริง ๆ แล้วไม่ต้องสนใจ DSM เลย อย่างอาจารย์ปลา ท่านเล่นของท่านได้ด้วยเทคนิค พี่แมลงเม่า พี่กึ่งฯ ก็น่าจะทำได้สบาย ๆ การเทคนิคก็มีการตัดขาย หรือทยอยขายเป็นส่วน ๆ การทยอยเข้าตามจังหวะ ซึ่งผมมองว่าแม้มันจะมีการแบ่งส่วน แต่ก็มีความเป็นตัวของตัวเอง พูดอีกอย่างก็คือ DSM ไม่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในเทคนิค เราอาศัยเทคนิคอย่างเดียว ถ้าเราเชี่ยวพอ เราก็อยู่ได้แล้ว แต่ถ้าเราไม่เชี่ยว ถ้าเราคิดว่าเราไม่เชี่ยว เทคนิคก็ไม่แม่น VI ก็เลือกหุ้นไม่ชัวร์ DSM ก็ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เราจะผสมผสานกันดีไหม แต่ใจผมว่าเอาให้เชี่ยวไปสักทางดีกว่า เราพยายามทุกวัน ถึงจะไม่มีโอกาสไปถึงระดับอาจารย์ปลา แต่ผมว่าเราอยู่รอดได้ในตลาด และประสบความสำเร็จได้ด้วย DSM จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 13:00:18 A:125.27.164.186 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 36 จุดนึงที่ผมอยากตั้งข้อสังเกต คือให้ลองดูความคิดของเรา เราสนใจ DSM ส่วนนึงเพราะสนใจวิธีการและแนวคิด ถามว่าวันนี้ใครที่เข้าใจ DSM มากที่สุด ที่เราพอจะรู้จัก คนนั้นคงเป็นคุณเด่นศรี ถามว่าเชื่อไหมว่าคุณเด่นศรีประสบความสำเร็จในระดับนึง ที่เราน่าจะเอาแบบอย่างได้ ถ้าเราตอบว่าเชื่อ และอยากทำได้แบบนั้น ผมอยากให้ลองมองความคิดเราอีกทีนึง สังเกตไหมว่า หลายครั้งที่เรามักจะคิดแย้ง เรามีต้นแบบ ที่อยากทำให้ได้ แต่เวลาทำ เรามักจะทำแย้ง หลายครั้งที่เราพูดว่า คุณเด่นศรีพูดแบบนี้ แต่เราคิดว่าทำแบบนี้จะดีกว่าไหม หลายครั้งที่เราทำแย้ง คิดแย้ง กับแนวคิดพื้นฐาน ถามว่าจำเป็นไหม ที่เราต้องทำในกรอบ ต้องเดินตามรอยคุณเด่นศรีทุกอย่าง ผมเชื่อว่าหลายท่านคงเห็นด้วยกับผมว่า .........ไม่จำเป็น ............... แต่ในวันที่ DSM เรายังไม่เข้าถึง วันที่เรายังเรียนรู้ วันที่ใจหนึ่ง เรายังพยายามเดินไปตามทาง แต่อีกใจหนึ่ง เราจะเดินออกข้างทางไปเรื่อย แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงเป้าหมาย ถ้าเราเชี่ยว DSM ในระดับนึงแล้ว ผมขอยกตัวอย่างพี่ขวัญชัย ผมว่าเราสามารถมีแนวทางเป็นของตัวเองได้ เพิ่มอะไรเข้าไปก็ได้ ตัดอะไรออกก็ได้ แต่วันนี้ เราผ่าน DSM มาถึงระดับไหนแล้ว เรายังแย้งคุณเด่นศรีอยู่เรื่อย ๆ หรือเปล่า เราจะเดินบนทางนี้จริง ๆ ไหม เราต้องตอบคำถามตัวเอง DSM จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 13:14:50 A:125.27.164.186 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สุดท้ายคือ ถึงวันนึง ซึ่งอาจเป็นวันนี้ เราอาจต้องจับบางประเด็นขึ้นมาตีให้แตก มูลค่าพอร์ต เงินแฝง ความเห็นของคุณเด่นศรี ที่คุณ wasansem ยกมา เมื่อวันก่อน ความเห็นที่ 40 กระทู้วันที่ 12 มิถุนายน ผมว่าเราต้องตีให้แตก ผมเทรดมาจนถึงวันนี้ สองปีกว่าแล้ว ผมพูดได้เต็มปากว่า มีหลายวัน หลายครั้ง ที่ผมไม่มั่นใจ เพียงแต่หากเราจะเทรด DSM ผมมองว่ามันมีความจำเป็น จำเป็นอย่างมาก ๆ ด้วย ที่เราต้องทำใจ ต้องเข้าถึง เราเลือกได้ว่าเราอยากจะทำไหม DSM ไม่ใช่ทางเลือกเดียวของการลงทุน แต่หากเลือกแล้ว ผมคิดว่า เราต้องเข้าถึงมัน หรือต้องพยายามให้มากที่จะเข้าถึง ไม่งั้นเราจะครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไปตลอด บางครั้งการครึ่ง ๆ กลาง ๆ ยิ่งสร้างปัญหาให้เรามากไปกว่า การที่จะพยายามเข้าถึงแนวทางใด แนวทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเทคนิค, DSM, VI ถ้าพูดคงซ้ำกับข้างบน เราอาจไม่ได้เป็น อาจารย์ปลา ดร.นิเวศน์ คุณโยโย่ คุณฉัตรชัย ไม่ได้เป็นคุณเอ็นโดรฟินส์ แต่เราสามารถเป็น คุณจอนฟอน หรือแม้กระทั่งเป็น ดอกไม้ DSM ที่ประสบความสำเร็จได้ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 13:32:55 A:125.27.164.186 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มูลค่าพอร์ต ตัวนี้เป็นปัญหามาก ๆ ............................................................................................... คุณเด่นศรีบอกว่า แนวนี้ เปรียบเหมือน การลงทุนที่นำเงินสดก้อนหนึ่ง ซื้อหุ้น จากนั้น เราก็มาเฝ้ามองดูว่า หุ้นก้อนนั้น มันกำลังทำงานของมันอย่างขยันขันแข็ง เราไม่เคยมองว่ามันเหลือค่าเท่าไหร่ แต่เรามองว่า มันกำลังสร้างเงินให้เราเท่าไหร่ จากที่เราซื้อมันมา เงินสดสุทธิ เหลือ = 0 บาท เมื่อซื้อตึกมาแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องสนใจราคาตัวตึก เพราะคุณได้ตัดสินใจแล้วว่า คุณจะหารายได้จากค่าเช่าของมัน ไม่ใช่กำไรที่จะขายมัน ดังนั้น ไม่ว่าราคามันจะมากขึ้นหรือน้อยลง คุณก็ไม่ได้ต้องการขายเพราะไม่ต้องการกำไร สิ่งที่ต้องการคือ ค่าเช่าของมัน ที่ได้มาทุกเดือน ทุกปี .............................................................................................. ถ้าตีกันตามคำพูด ผมขอแยกเป็นสองส่วน 1. เงินลงทุนเริ่มแรก ที่เราเอาไปซื้อหุ้น ซื้ออสังหาฯ ตัวนี้ตามเบสิค หรือตามคำพูด คือเราลืมมันไปได้เลย หรือเราจะไม่เป็นกังวลกับมูลค่าของทรัพย์สินที่เราซื้อ ณ วันใด ๆ เพราะเราจะอาศัยทรัพย์สินตัวนี้สร้างรายได้ ไม่ว่าราคาจะเหลือเท่าไร ตราบใดที่ยังสร้างรายได้ออกมา 2. เงินแฝง หรือค่าเช่า หรือรายได้ ตัวนี้เราสร้างขึ้นเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ จากสินทรัพย์ที่ได้มาจากเงินลงทุนในข้อ 1 .............................................................................................. แนวคิดเบสิค ขั้นแรก คือเราทำสองออกมาให้รวมกันแล้วเท่ากับ 1 สร้างเงินแฝงออกมาให้เท่ากับมูลค่าเงินลงทุนเดิม ถ้าเราจะ Test แบบง่าย ๆ เช่น สมมติเราซื้อ ASP 10000 หุ้น ที่ 3.50 รวมเงินลงทุน 350,000 เราสร้างเงินแฝงได้เท่าไหร่ ดึงแยกออกมา 100 % เลย แยกออกมาเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่สร้างเงินแฝงได้ จนกระทั่งแยกเงินแฝงออกมาได้ 350,000 ณ วันนั้นจะมีหุ้นเหลือในมือ จำนวนนึง และเงินสดอีกจำนวนนึง จากการขายหุ้นและยังไม่ได้ซื้อคืน และเงินสดแฝงที่แยกออกมาตลอด 350,000 อันนี้เป็นแนวคิดพื้นฐานเลย ผมเชื่อว่าทุกคนเข้าใจตรงนี้ แต่ปัญหาอยู่ตรงในระหว่างทาง ปกติเราจะแยกเงินสดแฝงออกจำนวนนึง สมมติว่า 25 % แล้วที่เหลือเอาซื้อหุ้นเพิ่มเข้าไป เพื่อเพิ่มสินทรัพย์ และนำไปสู่การเพิ่มรายได้ ในทางปฏิบัติจริง เรากันเงินออกมาแค่ 25 % ยิ่งใช้เวลามากกว่าจะได้ครบตามเป้า และยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเงินแฝงส่วนที่เหลือที่เอากลับไปซื้อหุ้นเพิ่ม อาจซื้อแล้วต้องขายถูกกว่าที่ซื้อ ยิ่งดูเหมือนลดมูลค่าลงไปอีก จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 14:18:20 A:125.27.165.102 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สมมติว่าเราสร้างเงินแฝงได้ปีละ 20 % ของวงเงินลงทุน สมมติว่าเราแยกเงินแฝงออกมาไปเก็บเป็นเงินสดเลยทั้งจำนวน ไม่มีการมาเพิ่มหุ้น ต้องใช้เวลา 5 ปี กว่าจะได้เท่าเงินทุนเริ่มแรก ในระหว่าง 5 ปีนี้ หุ้น 10000 หุ้นในมือของเรา มูลค่าจะขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับราคาตลาดในขณะนั้น ๆ ปัญหานึงคือ หุ้นเริ่มต้น 10000 หุ้น เราอาจเสียไปเป็นกองหลัง ล่างสุด 3000 หุ้น แล้วขายในระหว่างทางอีก 3000 หุ้น ทั้ง 6000 หุ้น นี้บางช่วงเราอาจซื้อคืนไม่ได้ เหลืออยู่แค่ 4000 หุ้น ที่อาจขายได้ในราคาสูงของแต่ละรอบ แล้วซื้อกลับคืนมาได้เป็นช่วง ๆ หากว่าหุ้นตัวนั้น ๆ มีราคาแนวโน้มสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จำนวนหุ้นที่เหลือน้อยในมือ บางทีก็ทำให้เรากังวล นาน ๆ อาจหลายเดือนกว่าหุ้นจะตกลงมาเป็นขาลง ลงมาราคาต่ำ ๆ ให้เราได้เก็บกองหลังคืนจนหมดหรือเกือบหมด เพราะเราต้องมีกองหลังใหม่เกิดขึ้นอีก ถ้าเราทดลองตรวจสอบแนวคิด โดยการกันเงินแฝงแยกออกไปทั้งหมด ไม่ซื้อหุ้นเพิ่มจริง ๆ จะช่วยในการทำความเข้าใจความคิดพื้นฐาน ของการสร้างรายได้จากหุ้น มาให้ครอบคลุมเงินลงทุน เมื่อครบแล้ว ที่เหลือในมือก็เป็นหุ้นฟรี มูลค่าแล้วแต่ราคาตลาดในขณะนั้น จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 14:28:05 A:125.27.165.102 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมมองว่าความเห็นข้างบนเป็นพื้นฐาน เป็นเบสิค แต่มันมีความสำคัญอย่างมาก ถ้าเราจับแนวคิดนี้ได้แน่น ๆ เราจะลดปัญหาระหว่างทางได้มากมาย 1. เอาเรื่องมูลค่าพอร์ตสักข้อ ถ้าเราทำเบสิคจริง ๆ แบบข้างต้น บนพื้นฐานของการเลือกหุ้นที่ดี และมั่นใจพอสมควรว่าจะอยู่คู่ตลาดในระยะยาว เงินแฝงที่เราทำได้จะ cover จำนวนเงินลงทุนแน่นอน ขณะที่มูลค่าของหุ้นในมือจะขึ้นลงไปเรื่อย ๆ ไม่แน่นอน แต่มันจะอยู่บนหลักที่ว่า ขึ้นแล้วก็ต้องลง ลงแล้วก็ต้องขึ้น จะขึ้นมาก หรือขึ้นน้อย เป็นอีกเรื่อง แต่จะไม่หยุดนิ่ง เมื่อไหร่ที่เงินแฝง cover เงินลงทุน หุ้นที่เหลือในมือนับจากนั้นก็เป็นของฟรี มีหุ้นฟรี เงินลงทุนได้คืนครบ ตามหลักการ มูลค่าหุ้นฟรีในมือ ณ วันนั้น จะเป็นเท่าไหร่ไม่แน่นอน แต่ที่แน่ ๆ มีมูลค่าจำนวนนึง 2. ทุกครั้งที่เราซื้อหุ้นคืน เราจะได้เงินแฝง แล้วกันออกไป เมื่อซื้อหุ้นคืนแล้ว ไม้นั้นจบกัน ถ้าราคาหุ้นต่อไปลง เราก็ขายลงไปใหม่ เมื่อหุ้นขึ้นก็ซื้อคืน ซื้อคืนได้กี่ไม้ ก็คิดเงินแฝง ที่เหลือซื้อคืนไม่ได้ก็เป็นกองหลัง พอถึงจุดนึง เราอาจต้องแปลงกองหลัง นั่นเป็นเรื่องต่อไป แต่โดยเบสิค ไม้ที่ซื้อคืนมาได้ เราถือไปขายข้างบน ไม้ที่ยังซื้อคืนไม่ได้ ก็รอจนกว่าราคาจะตกลงมา เนื่องจากเราไม่สนใจมูลค่าพอร์ต ซื้อมาแล้ว ถ้าหุ้นลง เราจะขาย ถ้าหุ้นขึ้น เราจะซื้อหุ้นคืน แล้วถือขึ้นไป หน้าที่ของเราคือขายหุ้น แล้วซื้อคืน เก็บเงินแฝงออกไป มีแค่นี้ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 14:39:02 A:125.27.165.102 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อย่างเวลาหุ้นที่เป็นขาลงขณะนี้ บางครั้งเราซื้อหุ้นคืน หุ้นกลับมาอยู่ในมือ เราขายไว้ที่ 4.00 บาท เราซื้อคืนที่ 3.70 ได้มา 15 ช่อง ได้เงินแฝง .30 วันถัดมาราคาตกลงไปอีก มูลค่าหุ้นในมือที่เราซื้อกลับคืนมา ถือไว้ในมือ ก็จะลดลงตามมูลค่าตลาด อันนี้เป็นธรรมชาติ เมื่อไหร่ที่เราซื้อคืน แล้วราคาตลาดตกลง ถ้าเราคำนวณมูลค่าพอร์ต ราคาก็จะตกลง แต่ หุ้นลงแล้วก็มีขึ้น เมื่อราคาหุ้นกลับตัวขึ้นไป มูลค่าหุ้นในมือก็จะกลับสูงขึ้นไปด้วย จริง ๆ ตรงนี้เราเข้าใจกันทุกคน แต่ความรู้สึก ถ้าเราจับแนวคิดข้างบนแน่นเท่าไหร่ เรื่องมูลค่าพอร์ตที่ลดลงก็ยิ่งมีผลกับเราน้อยเท่านั้น เพราะหน้าที่ของเราคือขายแล้วซื้อคืนตามจังหวะ มีเท่านั้นเอง อีกอย่างหนึ่งคือ เราต้องรู้เสมอว่า หุ้นมีขึ้นแล้วมีลง ลงแล้วต้องขึ้น คุณเด่นศรีเน้นเรื่องการเลือกหุ้น เราก็ต้องเน้นตาม เลือกหุ้นที่มั่นใจว่าเค้าเป็นปกติ มีขึ้นมีลง ไม่ใช่ขึ้นแล้วลงยาว ไม่เคยกลับมาอีก แต่จริง ๆ แล้วใน DSM หุ้นที่ตกลงมาก ๆ ถ้าเราใส่ใจอย่างเพียงพอ เราก็จะมีจุดของการไม่ซื้อเพิ่ม จุดของการที่ราคาลดลงต่ำกว่า 50 % เป็นจุดสังเกตให้ทำการปรับพอร์ต มันมีวิธีแก้ของมันอยู่ในตัว จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 14:46:17 A:125.27.165.102 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าเราทำใจเรื่องมูลค่าพอร์ต โดยการมองแบบเบสิคไปยาว ๆ ได้ ผมว่ามันแทบจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ทุกครั้งที่ขายแล้วขึ้น หรือซื้อแล้วลง เป็นธรรมชาติของหุ้น เราทำตามกระแสของตลาด โดยการซื้อแล้วขายเป็นส่วน ๆ ขายแล้วขึ้น เราก็ยังมีหุ้นเหลือขึ้นไปขาย หุ้นหมด ถ้ามีเงินแฝงเราซื้อเพิ่ม ถ้าไม่มีเงิน เรารอให้ลงมา หรือถ้าเชี่ยวชาญมากขึ้น เราก็มีวิธีการเข้ามาใช้ ซื้อแล้วลง เราก็ขายลงมาตามปกติ คอยซื้อตามจังหวะ พอหุ้นขึ้น อย่างมากเราก็มีกองหลัง 3 - 4 ไม้ ถ้าเราไม่มั่นใจเรื่องเวลาว่าจะดูแลหุ้นได้เต็มที่ เราอาจจัดสรรส่วนไม้กองหลังตามที่เราสบายใจ เพื่อไม่ให้เสียหุ้นมากไป แต่ถ้าเราเชี่ยวชาญ อีกนั่นแหละ เราก็ไม่ค่อยกลัวเรื่องการเสียกองหลัง ทุกไม้ก็ทำหน้าที่ของเค้าไป มากน้อย ต่างกัน จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 14:51:12 A:125.27.165.102 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อีกปัญหาหนึ่งคือ พอเราขายหุ้นไปแล้ว มีเงินสดในมือ บางทีเราอยากเล่นโน้ตดนตรี ตามทฤษฏี เราขายหุ้นแล้วโยกเงินไปซื้อหุ้นที่ราคาต่ำหรือกำลังจะขึ้น พอซื้อแล้วหุ้นขึ้น เราก็ขายได้ เราจับคู่เงินซื้อกับเงินขาย ถือเป็นเงินแฝงได้ พอทำบ่อย ๆ ได้หลายครั้ง เราก็ติดใจ มีโอกาสก็โยกเงินบ่อย บางครั้งหุ้นไม่ได้ไปตามที่เราคิด ซื้อแล้วถึงไม่ลง แต่ก็นิ่ง หรือบางทีก็หล่นลงมา ถ้าเราติดใจเรื่องซื้อแล้วไปขายสูงกว่าบ่อย ๆ ทำให้พอเข้าซื้อแล้วราคาหุ้นลง เราลังเลที่จะขาย ดูกราฟแล้วมันต่ำนะ ถือรอสักหน่อยดีไหม ถ้ามันเกิดลงไปเรื่อย ๆ เราก็เริ่มสับสน ถึงจุดนึงก็อาจต้องขาย เพราะทนไม่ไหว พอขายแล้วก็อาจบอกตัวเองว่า ขายตามหลัก DSM ถ้ามองในแง่นึง ผมว่ามันทำได้ ถ้าเราคิดเป็น DSM มันก็เป็นได้ แต่ปัญหาจริง ๆ คือ เราหวังกำไรในการกระทำ ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่มันอาจทำให้รวน ถ้าเราเข้าใจ ทำอย่างเหมาะสม เข้าผิดก็ขายข้างล่าง เข้าถูกก็ขายข้างบน ทำตามปกติ แบบนี้ไม่เป็นไร แต่เราทำได้แบบนั้นไหม อีกอย่างหนึ่งคือ เงินที่เราขายหุ้นตัวนึง แล้วไปซื้ออีกตัวนึง ถ้าตัวใหม่ราคาลดลง เราขายออก แล้วเอาเงินกลับไปซื้อหุ้นตัวแรกคืน ตรงนี้เราต้องดูให้ดีด้วย ว่าเงินแฝงจะไม่เท่ากับ ราคาขายหุ้นเดิมวันก่อนโน้นหักด้วยราคาซื้อหุ้นเดิมวันนี้ เพราะบางส่วนมันหายไป การที่เราขายหุ้นตัวนึง แล้วโยกเงินไปมา พอนาน ๆ จะกลับมาซื้อหุ้นตัวเดิม เราคงไม่สามารถคิดเงินแฝงได้อย่างปกติ ตรงนี้เป็นจุดต้องระวัง จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 14:59:17 A:125.27.165.102 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อีกอย่างนึงคือ จำนวนไม้ที่ขาย ผมเองเทรดแบบเบสิค เรียกว่า Old School ก็ว่าได้ คือขาย 10 % ตามแนวคิดเบสิคก็คือเราขายตามราคาที่เห็น เราไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง คราวนี้ถ้าเรามองอย่างอื่นประกอบ เช่น เทคนิค หรือตลาด บางทีเราอาจอยากขายน้อยหรือมาก % ส่วนตัวผมคิดว่าทำได้ คือไม่ได้คิดแย้งอะไร ผมมองว่าบางทีเราอยากจะคาดการณ์ตลาด ก็ทำได้ เพียงแต่ข้อสำคัญคือ เราต้องเข้าใจและรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ถ้าเราคาดการณ์ผิด ก็ยอมรับมัน และก็ค่อย ๆ ปรับการซื้อขาย เดี๋ยวมันก็กลับเข้ามาได้ แต่ถ้าเราคาดการณ์ถูก เราอาจได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าปกติ คงแล้วแต่ถนัด และความคิดเห็นของแต่ละท่าน ขอเพียงว่าทำแล้ว ไม่รวน ก็เป็นพอ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 15:05:16 A:125.27.165.102 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 45 บางทีว่าไปแล้ว เราต้องตรวจสอบความคิดของเราอีกที เราลงทุนแล้วอยากให้พอร์ตเป็นบวก เมื่อเราทำ DSM บางครั้งแนวคิดมันขัดกัน โดยเฉพาะในปีแรก ๆ ถ้าเราไม่ได้ซื้อหุ้นลงทุนจังหวะต่ำจริง ๆ ส่วนใหญ่พอร์ตมักมีโอกาสลบสูง เพราะโดยวิธีการ เราเล่นเอาส่วนต่างเข้ามาชดเชยเงินลงทุน เราขายเพื่อซื้อคืนตามจังหวะ โดยไม่กังวลมากนักว่าขายต่ำหรือขายสูง ยิ่งเบสิคแบบคุณเด่นศรี ที่ซื้อเพิ่มตอนหุ้นเหลือน้อย ลองนึกดูว่าส่วนใหญ่เป็นที่ราคาสูง หุ้นใหม่เราซื้อที่ราคาสูง สักพักก็ลง หลายครั้งเราต้องขายหุ้นใหม่นั้นที่ราคาต่ำลง แล้วมูลค่าพอร์ตของหุ้นใหม่จะเป็นอย่างไร แต่ทำไมคุณเด่นศรีถึงทำ เหตุผลเบสิคข้อนึงที่ชัดเจนคือ เราเอาสินทรัพย์มาสร้างรายได้ เราไม่ได้กังวลกับมูลค่าของทรัพย์สินนั้น เป็นหลักการเดิม ๆ อีกอย่างคือถ้าเราคำนวณดูดี ๆ บางอย่างอาจไม่เป็นแบบที่เราคิด แต่มูลค่าพอร์ตส่วนใหญ่มักจะเป็นลบ ที่สำคัญเราต้องตระหนักอย่างนึงว่า ถ้าเราเพิ่มหุ้นกันอย่างจริงจัง ในระยะเวลาข้างหน้า สำหรับหุ้นปกติที่วิ่งขึ้นลง หุ้นที่เพิ่มขึ้นจะสร้างรายได้ต่อวันอย่างมาก เราเริ่มต้นปี สมมติง่าย ๆ 10000 หุ้น กว่าจะเพิ่มได้สักพันหุ้น แทบกระอัก พอเพิ่มได้พันนึง สองพันชักเร็วขึ้นหน่อย ปีแรกอาจเพิ่มได้แค่สองพัน แต่ปีสองได้มากกว่าแน่ ๆ เรามีหุ้นหมื่นนึง ขายเป็นกองหลัง กองกลางอาจจะซื้อคืนไม่ได้ 5000 เหลือแค่ 5000 ข้างบน วิ่งไปวิ่งมา แต่พอเราเพิ่มหุ้นเป็นหมื่นห้า จะมี 10,000 นึงวิ่งอยู่ข้างบนแล้ว 5000 กองหลังชักจะไม่ต้องกังวล เรามีหมื่นหุ้น ทุนหมื่นบาท ทำเงินได้เดือนละ 200 พอมีสองหมื่น ทำเงินได้ 400 พอสามหมื่น ชักจะยุ่ง เพียงแต่ช่วงแรก ๆ มันต้องอาศัยเวลา มันเป็นการทบต้นไปในตัวด้วย พอหุ้นเยอะ อัตราต่าง ๆ ก็เร็วตาม แต่ในช่วงต้นเราต้องรักษาพอร์ตให้ดี ถ้าเราไม่หวังเรื่องกำไรมาก เล่นเอาเงินแฝงปกติ เราจะรักษาพอร์ตได้ง่ายกว่า แปลงร่างก็ในอัตราที่พอสมควร โน้ตดนตรีถ้าชอบ ก็ให้พอดี ๆ พอร์ตจะไม่ค่อยรวน อดทนสักหน่อย แล้วเราจะไปถึงจุดหมายด้วยกัน ขอให้โชคดีครับ DSM จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 15 มิ.ย. 51 15:19:49 A:125.27.165.102 X: TicketID:125129 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีครับพี่ดอกไม้  ..............ใช่ครับ  ความอยากที่เพิ่มเข้ามานอกเหนือจากดีเอสเอ็มคือกลยุทธ์ ไม่ถึงกับว่าต้องการผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น เทคนิคกราฟมันยังไม่ใช่ทาง  และไม่ถนัด  ผมเป็นคนคิดช้าทำช้าครับ จึงยังไม่เร่งรีบไปหากราฟสวย ๆ  แพง ๆ  ดี ๆ  มาใช้   เพียงแต่ชอบดู  ทีเฟ๊กซ์ก้อไปลองมาแล้ว  โดนครับ  อิอิ วันแรก ๆ  ก้อได้ตังค์ดี  วันต่อมาปวดหัวครับ  เดาทางไม่ถูก  โดนซะเละ มันยังไงละ  ผมประเภทครึ่ง ๆ  กลาง ๆ  เลยเอาดีไม่ได้   ชอบฟังธรรมมะ  แต่ยังชอบสุรานารีพาชีกีฬาบัตร  เที่ยวกลางคืนซึ่งมันไม่เข้ากันเลย แบบเดียวกับชอบดีเอสเอ็ม  ชอบแนวคิดพื้นฐาน  แต่ก้อชอบดูกราฟสวย ๆ ชอบดูเขาฟาดฟันกัน  คนรวยคนจน  ชอบดูคนติดดอย  คนตกเหว  มันสะใจดี ที่จริงเป้าหมายผลตอบแทนคือ  20 %  ต่อปีจากวงเงินลงทุน  แค่นั้นเอง   พอจะทำได้หลายรอบแล้วแต่มันก้อหายไปทู๊กที ............................................................................ จริง ๆ  แล้ว  พีทีแอลที่เอามาให้ดูเป็นตัวอย่างคือ  ผมทำเละเองครับ ตอนซื้อคิดแบบวีไอ  พื้นฐานกำไรน่าจะดี  ตามเขากล่าวอ้าง ดูงบการเงิน  ดูอะไร ๆ  มันน่าจะเข้าท่า  เป็นหุ้นปลอดภัยระดับนึง ลงทุนครั้งแรกที่หกบาท  ก่อนปีใหม่มั้ง  ถ้าไม่ซื้อไม่ขายเลย  ตอนนี้ยังมีกำไร แต่ระหว่างทางที่ราคาขึ้น ๆ  ลง ๆ  ผมลืมไปหมดทุกสิ่งอย่าง  ตอนซับไพรม์ ผมเอาข่าวมาแอ๊คชั่นลงไปในหุ้นเกินเหตุ  ลืมวีไอ  ลืมกราฟ  ลืมดีเอสเอ็ม ผมโยนตำราทุกชนิดทิ้งหมด  ตอนขึ้นไป  6.70  ครั้งแรก  ผมยังมีกำไร แล้วมันก้อค่อย ๆ ลง  ดีเอสเอ็ม  บอกว่ากอดหุ้นวิ่งทิ้งหุ้นแดง แต่ผมเปล่าเลย  ซื้อสวนที่  6.4  6.2  6.0  แบบว่าพื้นฐานมันดีลงแบบนี้ได้งัย อารมณ์เดียวกับคนซื้อพี่ต้าร์นั่นแหละครับ แต่มันก้อยังลงอีก  ไป  5.8  5.6  5.5  โยนทิ้งสิครับด้วยความโลภ ไม่ใช่กลัวแล้ว  แต่อยากไปรอรับที่ข้างล่างคือ  5  บาท  ซึ่งเป็นอีกแนวรับนึง แต่มันลงไปไม่ถึงแนวต้านแรกเอาอยู่กลับมีเด้งจาก  5.5  ไป  5.6 5.8  และ  6.0  ขึ้นไปเรื่อย ๆ ที่ราคา  5.5  ตามกราฟคือแนวรับ  แต่ผมทิ้งไปแล้วอ่ะ  ไปเล่นตัวอื่นแระ มันทำความเสียหายให้มากเลย  พี่พูดถูกครับ  เล่นหุ้นต้องให้เชี่ยวซักอย่าง จะดีเอสเอ็ม  จะวีไอ  จะกราฟ  ต้องเลือกซักทาง  แต่ผมมันหลายใจแก้ไม่หาย ที่ผ่านมาผมทำเละเอง  โลภมากลาภหายครับ  ผมกลายเป็นแมงเม่าไปโดยไม่รู้สึกตัว ทั้ง ๆ  ที่เข้าคลับดีเอสเอ็มเกือบทุกวัน ๆ  ละหลาย ๆ  รอบ ผมว่าหลังจากนี้อะไร ๆ  มันน่าจะดีขึ้นกับคนหลายใจอย่างผม ถ้าได้กลยุทธ์จากคนเก่ง ๆ แบบจารย์ปลามาแนะนำบ้างจึง เป็นที่มาของกระทู้นี่แหละครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 15:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ทำไมผมถึงลืมเบสิคทุกที  ที่มีข่าวแรง ๆ  มากระทบก้อไม่รู้ ทำอะไรใจไม่นิ่งพอ  ลนลาน  มักจะไม่ดี  ก้อรู้อยู่แต่ยังแก้ไม่หาย .................................................................... กระทู้หลังแก้วกาแฟ  เรามาคุยกันอีกดีมั้ยครับ  เคจีไอผมไม่มีแระ ซื้อคืนก้อได้เงินแฝงประมาณ  10 %  ได้เพิ่มหุ้นอีกต่างหากบัญชีก้อยังมีอยู่ เล่นจนพอจะรู้นิสัยแล้วซะด้วย  นี่ละน๊า  รักง่ายหน่ายเร็ว  อิอิ มาดูเรือดำน้ำของเรามั่ง  ปอดทดลองที่ผมผิดพลาดไม่รักษาวินัยไปเมื่อเดือนที่แล้ว ขายทิ้งไป  ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะกลับมาให้ซื้อคืนอีกโดยใช้เวลาไม่ถึงเดือน ผมลืมกราฟ  ลืมดีเอสเอ็ม  ลืมวีไอ  ไปอีกตัว จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 15:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 48 tta  แนวรับทางเทคนิคอยู่ที่ใด ต้านแรก  38  จันทร์นี้ไม่น่ารอด  รับถัดไปที่  35  มีลุ้น   รับสุดท้ายที่ 32  มั้ง จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 15:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 49 bdi  ที่เราชอบเอามาอ้างกันดูว่าราคาไปทางเดียวกันมั้ย จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 16:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 50 กราฟบีดีไอ  กับราคาหุ้น  ไม่คล้ายกันซะทีเดียว ราคาหุ้นจะออกแอ๊กชั่นตกเกินไปกว่าราคาบีดีไอครับ บีดีไอ  5500  ราคาหุ้น  32  บาท ราคาหุ้นระหว่างทางที่ลงมาเรื่อย ๆ  จากปีที่แล้วถึงเดือนมกราปีนี้  มีเด้งเป็นระยะ ๆ บีดีไอแปดพัน  ราคาถึง 51  บาท  แต่เป็นราคาหลังจากงบคิวหนึ่งออกแล้ว สี่บาทต่อหุ้น  (งบคิวแรกเรือฯคือ  ต.ค.-ธ.ค. 50  ) ไม่น่าเชื่อว่าบีดีไอตกต่อเนื่อง  แต่กำไรคิวหนึ่งดีกว่าปีก่อนครึ่งปี ส่วนกำไรคิวสองก้อยังดี  3  บาทกว่า  ๆ ตอนนี้บีดีไอตกเหลือเก้าพัน  แต่ราคาหุ้นดิ่งล่วงหน้าไปแล้วเหลือ  39  บาท เป็นหุ้นที่ไวต่อความรู้สึกจริง ๆ  ทีนี่มาดูบัญชีที่ผมไม่ได้อัพเดทนานแล้วต่อ จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 16:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 51 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6637252/I6637252.html โยนหมดที่ราคา  46.50  เมื่อวันที่  28  พ.ค.  51  ขายที่แนวรับเส้นสองร้อยวันอีกแล้ว  อิอิ มีเด้งกลับไปที่  49.50  บาท  วันที่ขายผิดวินัยอย่างแรง  แต่โลภ  อยากไปรับล่าง ๆ  แล้วมันก้อหายไปนาน จนมาหลุดเส้นสองร้อยวันอีกครั้ง  เมื่อวันอังคารที่แล้ว  ยาวลงมาเลย จริง ๆ  แล้วเราควรลับมีดรอที่ตรงไหนดี   ในกระทู้ที่ยกมาอ้าง  พี่วสันต์กับพี่ดอกไม้  เทรดได้ดีมากครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 16:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สมมุติว่าผมซื้อคืนที่แนวรับ  38  บาท  วันจันทร์ที่  16 แต่ตามรูปเป้นวันที่  14  มิ.ย.  51  สีแดง  เนื่องจากจำวันผิดอีกแล้ว  เอิ๊ก ๆ จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 17:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ทำไมผมได้เงินแฝงตั้ง  97,193.35  บาทแยะจัง  ต้องถามพี่ห่านคนคิดสูตร มีหุ้นในมือ  11,600  หุ้น  เงินสดในมือเหลืออีก  39,179.29  ราคาเฉลี่ย  35.47  บาท เงินแฝงทำไมมันมากกว่า  เงินสดในมือแยะจังครับ  มันน่าจะผิดพลาดหรือป่าวน้อ  วานพี่ห่านช่วยทีครับ จากคุณ : จอนฟอน - [ 15 มิ.ย. 51 17:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณจอนครับ เห็นคุณจอนยก PTL มาเป็น case study ก็เลยอยากมาเล่าอะไรให้ฟังบ้าง ผมเองถือ PTL มานานมากแล้วล่ะครับ ตั้งแต่ปี 48 ผมตั้งใจถือยาวนะครับ ซื้อไว้ตั้งแต่ 6 บาทกว่าๆ ด้วยหลักแบบ VI ซื้อปุ๊บลงทันตา ก็ถือครับ ไม่ขาย สุดท้ายขายไปครึ่งที่ราคา 5 บาทกว่าๆ พอราคาเริ่มปรับขึ้นปลายปี 49 หลังจากรู้จัก www.chaloke.com เริ่มสนใจเทคนิค รู้ว่าราคาเริ่มขยับอย่าเพิ่งขาย  รอครับ รอ หลังจากนั้นข่าวดีเริ่มออกมา ราคาขยับจาก 3 บาทไป 5 บาท 6 บาท ดีใจครับ ก็ได้ Pnt 1.1 ของคุณลุงโฉลก นะช่วยไว้ ประกอบกับถือมาได้ตั้งหลายปี คิดว่าถือต่อไปอีกหน่อยก็ไม่เสียหาย คิดอย่างนั้นก็ถือมาจนถึงปี 51 ราคากลับมามีกำไรแล้ว เทคนิคก็สามารถลงทุนได้ทั้งสั้นและยาวนะครับ อย่าง PTL ผมอยากถือยาว พอราคามีกำไรผมก็ใช้วิธีขยับ stop loss เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ (ตามเส้นสีชมพู) สุดท้ายเจอ คอนเวอร์เจ๊งกะไดเวอร์เจ๊ง (วงกลมเหลือง) ผมก็รอขายครับ เพราะคาดว่าราคาไปอีกไม่ไกลแล้ว พอราคาลงมาถึง stop loss (เส้นสีแดง) ก็ขายครับ  (ผมทำแบบนี้กะ QH เหมือนกัน) จริงๆ ถ้ายึด PnT 1.1 ควรจะขายตั้งนานแล้วครับ แต่ดื้อ และคิดว่าถือยาวผมเลยตั้ง stop loss ไว้ที่ราคาต่ำมากๆ เรียกว่าถ้าถึงต้องขายเท่านั้น เล่ามาซะยาว สรุปว่า  ไม่ว่าวิธีไหน หลักการ และกลยุทธที่กำหนดไว้ล่วงหน้าสำคัญที่สุดครับ ถึงเวลาต้องทำตามนั้น คือต้องมีวินัยอย่างแรง เท่านั้นเอง ง่ายๆ แต่ทำยากจริงๆ ครับ จากคุณ : Mr.Eiji - [ 16 มิ.ย. 51 07:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เทคนิดแบบงูๆ ปลาๆ เลยพอเอาตัวรอดได้ กราฟ QH ตัวอย่างอีกตัวนึง จากคุณ : Mr.Eiji - [ 16 มิ.ย. 51 07:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 56 โห ดูกร๊าฟ QH ของพี่อิจิแล้ว...จ๋อย... ผมแอบรับน้องบ้านเล็กมาตรงไฮน์ ตรงดอยพอดีเลยอ่ะ... ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 16 มิ.ย. 51 08:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ตอบคุณพี่จอนฟอนใน คห.53... เงินสดแฝงนั้น...ถูกต้องแล้วคร๊าบบบ..... ตรงช่องเงินสดแฝงเป็นเหมือนตัวเลขทางบัญชีทื่ แสดงสถานะ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง เหมือนเป็นการดูตัวเลขในประวัติศาสตร์ (ดูแล้วก็ปลื้มใจ ) แต่ ณ ปัจจุบันเงินจำนวนนั้น อาจจะถูกนำไปใช้แล้ว... ดังนั้น เงินในมือคือของจริงครับ ..................... ดูเฉพาะข้อมูลจากตาราง กสงฝ.ของคุณพี่จอนฟอน กสงฝ. ถูกนำไปซื้อรวมซื้อหุ้นเพิ่มแล้ว 1600 หุ้นไง... จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 16 มิ.ย. 51 08:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 58 คุณห่านครับ รับที่ high ไม่ผิดนะครับ เพราะผมจะซื้อที่ new high อยู่แล้ว แต่บังเอิญกราฟ กะ indicator มันแย้งกันเลยโดดออก เดาล้วนๆ ครับ เพราะเวลาลงก้ไม่รู้ว่าจะลงไปถึงราคาเท่าไหร่???? ซื้อที่ new high ได้ แต่ต้อง stop loss ที่ new low (แดงแท่งแรก) ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้สงสัยลงยาว ถ้าเป็นผมจะขายสัดส่วนที่มากก่อน เช่น 30-40% แต่จะกำหนดช่องที่จะขายอีกครั้ง ให้ห่างมากขึ้น เพราะถ้าหุ้นขึ้นจะได้ซื้อคืนทันครับ หลังจากนั้นก็จะทำตาม set ทุก 2 ช่องครับ จากคุณ : Mr.Eiji - [ 16 มิ.ย. 51 13:29:35 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณคุณพี่อิจิที่แนะนำครับ... จากคุณ : คนล่าห่าน - [ 16 มิ.ย. 51 14:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอค้างคำตอบไว้ก่อนนะครับ ถ้าจะให้สวย ควรชน 1.82 และ 1.02 ถอยลงมาทีนึง แล้วยิงผ่านราคาที่ว่าอีกครั้งครับ จากคุณ : ฟิชชี่ - [ 16 มิ.ย. 51 16:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมซื้อเป็นเพื่อน ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 51 16:17:54 จากคุณ : ฟิชชี่ - [ 16 มิ.ย. 51 16:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอโทษครับ ผิดรูป ปิด 214 ได้ดี ปิดหรือเล่นต่ำกว่า 2.1 ไม่ดีครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 51 16:20:22 จากคุณ : ฟิชชี่ - [ 16 มิ.ย. 51 16:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอโทษทครับ ผิดซ้ำผิดซ้อน จากคุณ : ฟิชชี่ - [ 16 มิ.ย. 51 16:23:53 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สวัสดีฯจารย์ปลาครับ ตัวนี้ ฯจารย์ปลาเข้าแล้ว จุดเผ่นนี่กำหนดไว้อยู่เท่าไรครับ ใช่ 172 หรือเปล่าสำหรับวันนี้ ผมไม่ได้ซื้อนะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเฝ้า กลัวโดนเทแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เลยขอเข้ามานั่งเป็น นักเรียนด้วยคนนะครับ ว่าแต่ฯจารย์ปลา โพสต์ชัดแบบนี้ จะไม่โดนผู้ปกครองเค้าดุเอาเหรอ จากคุณ : แมลงเม่าทนไฟ - [ 16 มิ.ย. 51 16:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ตอนที่ซื้อคือ 1.70 หลุดคัท แล้วค่อยๆ เลื่อนจุดคัทขึ้นมา ตอนปิดนี่ มั่นใจ ใส่ไปเลยครับ อยากซื้อให้ได้เท่านั้นเองครับพี่ จากคุณ : ฟิชชี่ - [ 16 มิ.ย. 51 16:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คุณพี่ดอกไม้เขียนได้ดีจริงๆครับ โดนใจทุกข้อ จากคุณ : tung+ (ksarot) - [ 17 มิ.ย. 51 12:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 67 แฮ่ แฮ่ ขอบคุณกั๊บ ถ้ามีตรงไหนผิดพลาด ไม่เหมาะสม ขออภัยด้วยกั๊บ จากคุณ : ดอกไม้ DSM - [ 17 มิ.ย. 51 13:03:37 A:125.27.165.211 X: TicketID:125129 ]