ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีใครมาต้านไว้หรอกครับ เรียกง่ายๆ ก็คือแนวจิตวิทยา เป็นแนวทางเทคนิคที่เค้าประเมินไว้ เชื่อกันว่า  เชื่อกันว่านะครับ แนวต้านคือแนวที่หุ้นผ่านไปได้ยาก หากผ่านไปได้ถือเป็นสัญญาณที่ดี นักลงทุกก็จะแห่กันซื้อ แต่ถ้าหากผ่านไปไม่ได้ นักลงทุนก็จะแห่กันขาย พูดง่ายๆ คือ เชื่อกันว่าจะผ่านแนวนั้นไปได้ยาก ถ้าผ่านไปได้จะดี ถ้าผ่านไม่ได้ให้เผ่นก่อน ไม่รู้จะยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับอะไรดี เอาเป็นว่าเปรียบเทียบกับเด็กสอบเอ็นท์แล้วกัน เด็กเชื่อกันว่า หากได้คะแนนแค่นี้แล้วต้องติดแพทย์แน่เลย ซึ่งการทำให้ได้คะแนนสูงๆเป็นเรื่องยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครรู้หรอกครับว่าคนได้คะแนนเอ็นท์แค่นี้แล้วจะติดแพทย์จริงๆ เป็นเพียงแนวที่เค้าประเมินกันเอาไว้ ว่าผ่านจุดนี้ได้ยากซักหน่อย แต่ถ้าผ่านแล้วก็มีโอกาสขึ้นต่อ เป็นต้น จากคุณ : xczar - [ 21 มิ.ย. 51 21:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามความเข้าใจของกระผมที่อ่านชาวบ้านเค้ามา ราคาแนวต้าน ราคามันสูงเลยไปกว่านั้นไม่ได้ เพราะ มีคนขายที่ราคานั้นเยอะกว่าคนซื้อ ราคาแนวรับ ราคามันไม่หลุดไป เพราะมีคนซื้อเยอะกว่าคนขาย ทะลุแนวต้านแรงซื้อมากว่าแรงขาย ณ ตอนนั้น ที่จุดนั้นคนไม่อยากขายเพราะเพิ่งซื้อกันมา พอราคาผ่านแนวต้าน ราคาแนวต้านก็เลยเป็นแนวรับ ส่วนแนวรับพอขายจนทะลุมันก็เลยเป็นแนวต้านไป เพราะณ ตอนนั้นที่ราคานั้นไม่มีใครอยากเอา จากคุณ : hehew - [ 21 มิ.ย. 51 21:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พี่ๆห้องนี้ใจดีจัง ผมเคยเห็นล็อกอินนี้ตั้งกระทู้ในห้องหว้ากอบ่อยๆไม่รู้ว่าอ่านคำแนะนำนี้จะเข้าใจป่าว เมื่อพูดถึงแนวต้านต้องพูดถึงแนวรับด้วย แนวแปลว่าเส้น ต้านคือต้านไม่ให้ขึ้น รับคือรับไว้ไม่ให้ลง แล้วมันคือเท่าไหร่.... อันนี้แล้วแต่สถานการณ์ ทำลายได้ไหม.... ได้ครับ แนวต้านพังทลายแล้วทางเทคนิกให้วิ่งเข้า แปลว่าเงินไหลเข้า ไหลเข้าจนดันราคาทะลุขึ้นไปได้ เข้าไปแล้วถือจนกว่าจะเจอแนวต้านใหม่ จากคุณ : ซื่อสัตย์ มั่นคง - [ 21 มิ.ย. 51 23:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เวลาเราพิจารณาหุ้นตัวนึงจะเห็นได้ว่าบริษัทนั้นๆ ก็ทำงานไปวันต่อวัน ไม่มีปัจจัยอะไรมากระทบหุ้นให้มันมากมาย แต่คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น บางกลุ่มก็ต้องการกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นด้วย คราวนี้เวลาวิ่งเข้ามาซื้อขายเนี่ย มันจะค่อนข้างลำบากว่าจะซื้อตอนไหน จะขายเมื่อไหร่ ก็เลยมีคนคิดเรื่องเทคนิคมา เพื่อให้เกิดจุดซื้อและจุดขายขึ้นมาครับ นอกจากนั้นเรื่องเทคนิคเนี่ย มันยังสามารถกำหนดแนวรับ (ราคาที่สามารถซื้อได้) และแนวต้าน (ราคาที่สามารถขายออก) เวลาราคาหุ้นเกิดขึ้นไปถึงแนวต้าน คนบางกลุ่มที่ศึกษาเทคนิคก็อาจจะขายหุ้นออกมาครับ เพื่อที่จะเปลี่ยนไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่ราคายังไม่สูงเท่าตัวนี้ (แนวรับก็เหมือนกัน แต่เปลี่ยนจากขายเป็นซื้อ) โดยส่วนมากถ้าตลาดไม่ขึ้นพร้อมๆกันทั้งหมด แนวต้านจะค่อนข้างแน่นและยากที่ราคาจะฝ่าขึ้นไปได้ครับ เพราะกองทุนส่วนมากก็เล่นโดยใช้เทคนิคเป็นเครื่องมือ แล้วเค้าเงินเยอะ พอราคาไปต่อไม่ได้ รายย่อยก็จะขายตามน้ำออกมาครับ แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 51 10:10:39 จากคุณ : Bomb308 - [ 22 มิ.ย. 51 08:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณฮะ จากคุณ : อย่ามาห้ามผม - [ 22 มิ.ย. 51 09:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ได้ความรู้จากพี่ๆมากครับ ขอบคุณพี่ๆที่มาตอบ ขอบคุณพี่ที่มาตั้งกระทู้ครับ จากคุณ : suprainter - [ 22 มิ.ย. 51 10:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอพูดจาภาษาง่ายๆตามเข้าใจ แนวต้านคืออะไร เอาอะไรมาเป็นสมมติฐานต้องเป็นแนวนั้นแนวนี้ เรามาช่วยกันทำความเข้าใจ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเส้น Moving Averages เป็นราคาเฉลี่ยหุ้นแต่ละตัว นั้นคือราคาต้นทุน(เฉลี่ย)ของผู้ซื้อในวันนั้นๆ เราได้ยินเสมอๆ MA5วัน, MA10วัน, MA25วัน, MA75วัน, MA200วัน ฯลฯ (แล้วแต่จะตั้ง) มันก็คือราคาต้นทุน(เฉลี่ย)ของผู้ซื้อหุ้นเมื่อ 5, 10, 25, 75, 200 วัน ฯลฯ ตามลำดับ ในอดีต จากหลักความจริงราคาหุ้นวันนี้สูงกว่าเมื่อวานก็คือหุ้นขึ้น ในทางตรงกันข้ามราคาวันนี้ต่ำกว่าเมื่อวานมันก็คือหุ้นลงเช่นกัน จากเส้นเหล่านี้บอกเราว่า (๑) เส้น MA5 วันตัด MA10 วันลงมา ยิ่งซึมลงนานวันมันจะตัดเส้น MA25, MA75, MA200 ฯลฯ ลงมาตามลำดับ ไม่เท่านั้นเส้น MA10 และเส้นอื่นๆ ตามเส้น MA5 ตัดเส้นอื่นๆลงมาแบบเดียวกัน จนกระทั่งลงมาสุดๆเส้น MA จะเรียงมากไปหาน้อยวัน นั้นหมายถึงว่าคนที่ซื้อหุ้นวันก่อนๆติดหุ้นกันทุกคน จะอยู่คอยสูงขนาดไหนขึ้นอยู่ว่าซื้อหุ้นในวันไหน ตลาดอยู่ในภาวะ "หมี" เริ่มเข้าตั้งแต่เส้น MA5วัน ตัดเส้น  MA25วันลงมา Dead Cross: จะเรียกตอนเส้น MA5วัน ต้ด MA10วัน ตัดสงมา ตามมาด้วย MA25วัน สถานะการณ์ไม่ดีมีโอกาสที่จะลงต่อ เรียาว่า dead corss ทุกครั้งไปเมื่อมีเส้นต่ำกว่าตัดเส้นสูงกว่าลงมา จนกระทั่งเส้นจะเรียง MA200วัน, MA75วัน, MA25วัน, MA10วัน, MA5วัน ลงมาตามลำดับ จะเรียกว่า dead cross สมบูรณ์แบบ ถึงเวลาที่หุ้นจะขึ้นจะใช้เวลานานอีกเท่าไรแล้วสถาระการณ์ ณ เวลานั้นๆ ทุกสิ่งทุกอย่างหนี้สัจธรรมความจริง ดำขาว มือสว่าง ลงขึ้นเป็นของคู่กัน หุ้นก็หนี้สัจธรรมนี้ไม่พ้น (๒) ในทางตรงกันข้าม ถ้าเส้นตัดขึ้นจากเส้นหนึ่งไปยังอีกเส้นหนึ่งที่สูงกว่า แสดงว่าราคาหุ้นวันนี้สูงกว่าวันก่อนๆในอดีต มันก็คือหุ้นขึ้น ตลาดกำลังเข้าภาวะ "กระทิง" Golden Cross: จะเรียกตอนเส้น MA5วัน ต้ดผ่าน MA10วัน ขื้น ตามด้วย MA25วัน ตลาดอยู่ในภาวะดีมีโอกาสที่จะขึ้นไปต่อ  Golden Corss จะเรียกเมื่อมีเส้นต่ำกว่าตัดผ่านเส้นสูงกว่าขึ้นไป จนกระทั่งเส้นจะเรียง MA5วัน, MA10วัน, MA25วัน, MA75วัน, MA200วัน ลงมาตามลำดับ จะเรียกว่า golden cross สมบูรณ์แบบ ต้องระวังหุ้นพร้อมที่จะลงเมื่อไรก็ได้ แนวรับแนวต้านมาจากเส้นเหล่านี้ เส้น MA ที่อยู่เหนือกว่าราคาก็เรียกว่าแนวต้าน นั้นหมายถึงว่าแรงขายจะมาจากคนที่มีต้นทุน(เฉลี่ย)ในอดีตอาจติดมาเป็นเวลานาน ก็จะดีใจได้ลงจากดอย ในทางตรงกันข้ามเส้น MA ที่อยู่ต่ำกว่าเรียกว่าแนวรับ คนที่มีราคาตามแนว MA เหล่านี้กำลังทำกำไรให้เป็นขาดทุน เพราะราคาไหลลงมาที่ต้นทุนถ้าไม่ถายก็อาจขาดทุน ฉะนั้นจะมีแรงขายจากผู้ถึอหุ้นที่มีต้นทุนที่ที่ยังไม่ขาดทุนหรือขาดทุนเล็กน้อยเป็นการ cut loss สิ่งสำคัญต้องสำนึกไว้เสมอ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน และ ความไม่แน่นอนใช่ว่าจะเป็นความแน่นอนเสมอไป ไม่มีของฟรีในตลาดหุ้น ไม่มีหุ้นความเสี่ยงไม่มี ซื้อมาไรความเสี่ยงก็ตามเข้ามาอยู่กับเราด้วย อ่านฟังทุกอย่างแต่ไม่เชื่อทุกอย่างที่อ่านและฟัง เชื่อมั่นตัวเองให้มากๆ ด้วยความปรารถนาดี แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 51 11:13:47 จากคุณ : luck me - [ 22 มิ.ย. 51 10:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นว่าอ่านง่ายขอโพสต์เพิ่มนะครับ จากคุณ : มะลิ บาน บาน - [ 22 มิ.ย. 51 14:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อครับ จากคุณ : มะลิ บาน บาน - [ 22 มิ.ย. 51 15:00:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าอยากรู้เรื่องอื่นเพิ่มเติมลองโหลดไปอ่านดูนะครับ เป็นประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้น http://inv2.asiaplus.co.th/abn/web/thai/pdf_investor/thai/technical.zip จากคุณ : มะลิ บาน บาน - [ 22 มิ.ย. 51 15:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ อ่านอยู่เลยครับ  เขียนได้เข้าใจค่อนข้างง่าย  เหมาะกับผู้เริ่มต้นจริงๆครับ แต่ว่าอ่านยังไงก้อไม่จบซะทีวนเวียนอยู่แถวๆ Chapter 8 มานานละคร้าบ แหะๆๆ จากคุณ : ettexo[R] - [ 23 มิ.ย. 51 10:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผ่านมาอ่าน... จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 30 มิ.ย. 51 19:37:50 ]