ความคิดเห็นที่ 7
เราขอแชร์ข้อมูลที่พ่อเราเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรอำเภอแห่งนึง เป็นสมาชิกมา 15 ปีแล้วล่ะ
- ดอกเบี้ยเงินกู้ 9% ต่อปี ลดต้นลดดอก ชำระคืนเป็นรายปี - ถ้าเป็นเงินฝาก ราคาหุ้นละ 10 บาท ปันผลเงินฝาก 6% ต่อปี ไม่เสียภาษี เมื่อตอนก่อนฟองสบู่แตกปี 2540 ปันผลร้อยละ 10% ต่อปี
วิธีการกู้
- ถ้ากู้ไม่เกิน 60,000 บาท ให้สมาชิกสหกรณ์ด้วยการค้ำประกันอย่างน้อย 2 คน โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ระยะเวลาชำระภายใน 1 ปี แต่ในกรณีนี้จะได้รับเงินสดไม่เกิน 30,000 บาท ที่เหลือต้องรับเป็นของเช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง เครื่องจักร ที่ใช้ในการเกษตร
- ถ้ากู้มากกว่า 50,000 บาท จะให้ยอดวงเงินกู้ 50% ของราคาหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกัน โดยไม่เกินรายละ 700,000 บาทและระยะเวลาผ่อนชำระประมาณ 5 ปี
- ทุกครั้งมีการกู้เงินไม่กรณีใดก็ตาม ทางสหกรณ์จะหักเงิน 5% ของวงเงินกู้ และให้เป็นหุ้นของสหกรณ์แทน
เช่น นาย ก. กู้เงินจำนวน 100,000 บาท ก็จะได้รับเงินสด 95,000 บาท และ หุ้นสหกรณ์จำนวน 500 หุ้น เมื่อสิ้นปีก็มีสิทธิ์รับปันผลตามปกติ
วิธีการฝากเงิน - ก็ไปซื้อหุ้นสหกรณ์มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ได้ปันผล 6% ต่อปี คนที่ไม่ได้เป็นเกษตรกร ก็สมัครสมาชิกสมทบได้ แต่วงเงินฝากได้ไม่เกินคนละ 2,000,000 บาท - สภาพคล่องสามารถขายคืนหุ้นได้ตลอดเวลาที่ต้องการ แต่ต้องขายครั้งเดียวทั้งหมด และถ้าต้องการสมัครใหม่ต้องรอ 6 เดือนก่อน ถึงจะสมัครสมาชิกใหม่ได้ - คิดปันผลทุก 6 เดือน
โดยส่วนตัวเราคิดว่า สหกรณ์ยั่งยืนเพราะ 1. ไม่ต้องเสียค่าดำเนินการ ไม่ต้องลงทุนเครื่องมือเครื่องจักร 2. ผลต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก ก็มีมูลค่าที่พอเลี้ยงตัวเองและปันผลได้ 3. การรับเงินฝากจากสมาชิกสมทบ ทำให้สหกรณ์มีวงเงินมากพอที่จะให้สมาชิกที่เป็นเกษตรกรกู้ 4. เมื่อเกษตรกรที่กู้เงินมีปัญหา เค้าสามารถเข้าไปคุยกับสหกรณ์ได้โดยตรง สหกรณ์อาจช่วยเหลือได้หลายทาง เช่น ให้เอาอุปกรณ์การเกษตรไปเพิ่ม ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง รวมทั้งเพิ่มระยะเวลาผ่อนชำระคืน เป็นกรณี ๆ ไป
เราสัมผัสแค่สหกรณ์การเกษตรอย่างเดียว เราก็ไม่แน่ใจว่าสหกรณ์อื่นเค้ามีวิธีการอย่างไร แต่สำหรับเรา สหกรณ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนได้อย่างแท้จริง สร้างวินัยในการจ่ายเงิน สร้างแรงจูงใจในการฝากเงิน แม้กระทั่งคุณไม่มีเงินจำเป็นต้องไปกู้สหกรณ์ แต่สิ้นปีคุณก็ยังได้ปันผลเล็ก ๆ น้อย ๆ สหกรณ์ฯ ให้ความช่วยเหลือเรื่องเครื่องจักร ขั้นตอนและการบริการเป็นกันเอง ไม่ยุ่งยากเหมือนเราไปกู้เงินจากธนาคารพานิชย์ และมันก็ดีกว่ากองทุนหมู่บ้าน ที่แจกมาให้แล้วคนรับคิดว่าเงินได้มาง่าย ๆ เอาไปใช้จ่ายในทางที่ผิด ซื้อมอร์เตอร์ไซต์ ใช้เล่นหวย (อันนี้เห็นจากหมู่บ้านเรา)
สำหรับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส) บ้านเราเคยใช้บริการแล้ว ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร เงื่อนไขมันก็ไม่ค่อยต่างจากธนาคารพานิชย์ทั่วไป เคยถามชาวบ้านแถวบ้าน เค้าบอกว่า ถ้าเค้าจะไปกู้เงินที่สหกรณ์ เค้าเตรียมเอกสารไปอย่างเดียว แต่งชุดทำนา แบบชาวไร่ชาวนาไปก็ได้ ไม่ต้องคิดมาก เพราะมีแต่ชาวนาทั้งนั้นที่ไปติดต่อ แต่ถ้าเค้าจะไป ธกส อย่างน้อยเค้าต้องแต่งตัวสะอาดหน่อย เพราะไม่งั้นพนักงานจะมองเค้าแบบดูถูกมาก ๆ อันนี้เรื่องจริง
สำหรับบ้านเราตอนนี้ เป็นทั้งสมาชิกเงินกู้และสมาชิกเงินฝาก ซื้อหุ้นสหกรณ์ทิ้งไว้ไม่กี่ปี ลืม ๆ ได้ปันผลมาหลายอยู่ค่ะ
ข้อมูลอาจจะเยอะไป แค่อยากแชร์ให้ฟังค่ะ
จากคุณ :
ป้ายดอกลั่นทม
- [
23 มิ.ย. 51 12:53:59
]
|
|
|